ตกเป็นประเด็นร้อนของวงการซีเคียวริตี้ในช่วงสัปดาห์นี้กับเหตุการณ์ที่ Christy Philip Mathew นักวิจัยจากแล็บของ The Hacker News พบช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถนำเข้าคุกกี้ของเหยื่อที่จะออกจากระบบไปแล้ว มาใช้ในการสวมรอยเพื่อเข้าสู่ระบบใหม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้โจมตีสามารถอ่านอีเมลรวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ภายในบัญชีของเหยื่อได้
จากปกติเมื่อเราทำการออกจากระบบนั้นเซสชันปัจจุบันก็จะถูกปิดไปด้วย แต่ในกรณีนี้นั้นเมื่อเราทำการส่งออกคุกกี้ตอนที่อยู่ในระบบ แล้วนำเข้าคุกกี้นี้อีกครั้งแม้จะออกจากระบบไปแล้ว ก็ยังสามารถใช้คุกกี้นั้นเข้าระบบได้ตลอดเวลา (ดูวีดีโอเพิ่มเติม)
จากข่าวก่อนหน้านี้ที่มีผู้พบว่าโนเกียได้อัพโหลดเฟิร์มแวร์ที่มากับ Windows Phone 7.8 ขึ้นเซิร์ฟเวอร์แล้ว ทำเอาผู้ใช้งาน Lumia รุ่นเก่ารอคอยเฟิร์มแวร์ตัวสมบูรณ์กันอย่างใจจดใจจ่อ และแล้วในที่สุดก็เริ่มมีผู้ได้รับอัพเดต WP7.8 จากไมโครซอฟท์แล้ว
เมื่อสัปดาห์ก่อน ไมโครซอฟท์ออกมายืนยันว่า แอปเปิลยังไม่อนุมัติแอพ SkyDrive for iOS เวอร์ชันล่าสุดขึ้น App Store และกำลังพูดคุยเพื่อหาทางออกกันอยู่
The Next Web รายงานว่าทั้งสองบริษัทกำลังมีปัญหากันเรื่องส่วนแบ่งรายได้ระหว่างเจ้าของแอพและแอพสโตร์ ซึ่งปัจจุบันแอปเปิลกำหนดไว้ที่ 70:30 ตามลำดับ รายได้นี้ก็มาจากการที่ผู้ใช้ซื้อพื้นที่บน SkyDrive เพิ่มเติม ซึ่งแอพสำหรับ iOS เวอร์ชันล่าสุดมีตัวเลือกให้ผู้ใช้ซื้อพื้นที่บนกลุ่มเมฆเพิ่มเติมได้จากในแอพเลย ดูเหมือนไมโครซอฟท์จะปฏิเสธการแบ่งส่วนนี้เนื่องจากบริษัทต้องมาแบ่งรายได้นี้ให้แอปเปิลตลอดถึงแม้ผู้ใช้จะย้ายไปใช้อุปกรณ์บนแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Android หรือ Windows Phone ก็ตาม ดังนั้นการที่แอปเปิลจะหักรายได้แบบนี้คงไม่เป็นธรรมนัก
เว็บไซต์ MIT Technology Review มีบทสัมภาษณ์ Julie Larson-Green หัวหน้าฝ่ายพัฒนาวินโดวส์คนใหม่ ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาแทน Stephen Sinofsky หัวหน้าฝ่ายวินโดวส์คนเดิมที่ลาออกจากบริษัทไป (คนที่ดูวิดีโองานแถลงข่าว Windows 8 คงคุ้นหน้าเธออยู่บ้างเพราะมาทุกงาน) ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
หลังจากที่ Google ประกาศจะเลิกให้บริการ Exchange ActiveSync สำหรับลูกค้าทั่วไป ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดผลกระทบกับผู้ใช้อุปกรณ์ iOS สักเท่าไหร่นัก เพราะใน iOS นั้นสามารถใช้แอพ Gmail หรือตั้งค่า IMAP สำหรับใช้งาน Gmail, ตั้งค่า CalDAV สำหรับใช้งานข้อมูลปฏิทิน และตั้งค่า CardDAV สำหรับใช้งานข้อมูลผู้ติดต่อได้
ไมโครซอฟท์ร่วมกับ Core77 Design Network จัดแข่งขันออกแบบแอพบน Windows Phone 8 ภายใต้หัวข้อ "App To The Future" โดยเปิดโอกาสให้ผู้แข่งขันจากทั่วโลกสามารถส่งผลงานการออกแบบแอพเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันตามที่นักออกแบบต้องการจะให้มี
ผู้ชนะจะได้รับแท็บเล็ต Surface พร้อมคีย์บอร์ด Touch Cover สีดำและวินโดวส์โฟนอย่างละเครื่อง สมาชิกนักพัฒนาแอพ 1 ปี (เข้าใจว่าเป็น Surface with Windows RT รุ่นความจุ 32 กิกะไบต์ เนื่องจากมูลค่าของรางวัลนั้นอยู่ที่ 599 ดอลลาร์) และได้รับการช่วยเหลือเพื่อให้นักออกแบบสามารถนำแอพขึ้น Windows Phone Store ได้สำเร็จ อาทิ หานักพัฒนาแอพที่สนใจต้องการร่วมเขียนแอพที่คุณออกแบบขึ้น ช่วยด้านการตลาด เป็นต้น
หนึ่งในฟีเจอร์ของ Windows Phone 8 อย่างการลงแอพจากเมมโมรีการ์ด ตอนนี้สามารถใช้ได้แล้ว หลังจาก Windows Phone Store อัพเดตในวันนี้
การลงแอพผ่านเมมโมรีการ์ดไม่สามารถทำได้ตรงๆ เหมือนกับ Android แต่ต้องไปดาวน์โหลดตัวแอพจาก www.windowsphone.com ในหมวด Apps + Games โดยเลือกไปที่แอพ แล้วกด Download and install manually (อยู่ฝั่งซ้าย ล่างสุด) แล้วจะได้ไฟล์ .XAP มา
หลังจากนั้นเอาไฟล์ .XAP ไปใส่ไว้ในเมมโมรี่การ์ด แล้วเปิด Store หลังจากนั้นเสริชชื่อไฟล์ที่ใส่ไว้ แล้วกด install โดยแอพที่ลงจะมีสถานะแตกต่างกันดังนี้
ตั้งแต่ไมโครซอฟท์ปรับโครงสร้างบริการขึ้นกลุ่มเมฆ ก็มีแนวทางลดความซับซ้อนของบริการที่ชัดเจนขึ้นมาก และวันนี้ก็ประกาศปิดบริการซ้ำซ้อนกันอย่าง Windows Live Mesh เข้าไปรวมกับ SkyDrive เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Windows Live Mesh เป็นบริการสำหรับซิงก์ไฟล์ และรีโมตเข้าไปจัดการได้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2008 จนถึงวันนี้ไมโครซอฟต์บอกว่าฟีเจอร์ของ Windows Live Mesh เกือบทั้งหมดได้ถูกรวมเข้ากับ SkyDrive เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บทความชุดนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลเริ่มต้นสำหรับผู้ที่สนใจพัฒนาแอพบน Windows 8 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่สู่ตลาดพร้อมกับ Windows 8 และยังขาดเอกสารหรือคู่มือภาษาไทยอีกมาก
บทความชุดนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด แต่เนื้อหาทั้งหมดเขียนโดยทีมงาน Blognone
แอพบน Windows 8 (เดิมทีเรียก Metro app แต่ภายหลังไมโครซอฟท์เปลี่ยนคำเรียกเป็น Windows Store app) ต่างไปจากแอพบนวินโดวส์แบบเดิมๆ มาก โดยมีลักษณะคล้ายกับแอพบนอุปกรณ์พกพามากกว่า
เทคโนโลยีเบื้องหลังของแอพเหล่านี้คือ WinRT ซึ่งเป็น API ชุดใหม่ที่เพิ่งมีใน Windows 8 และเทียบได้ใกล้เคียงกับ Win32 API ในวินโดวส์รุ่นก่อนๆ
หลังจากมีข่าวลือว่า Microsoft จะวางขาย Surface ผ่านช่องทางอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัท ล่าสุดบริษัทก็ได้ยืนยันข่าวดังกล่าว โดยประกาศว่าในกลางเดือนนี้เป็นต้นไป ผู้ต้องการซื้อ Surface with Windows RT ในสหรัฐฯ และออสเตรเลียสามารถหาซื้อแท็บเล็ตนี้ได้แล้วตามร้านค้าอื่นนอกจากร้านของ Microsoft ส่วนประเทศอื่นนั้นบริษัทจะทยอยวางขาย Surface RT ผ่านร้านค้าอื่นในอีกราวหนึ่งถึงสองเดือนข้างหน้า Microsoft ยังกล่าวว่าได้เพิ่มกำลังการผลิตแท็บเล็ตบนแพลตฟอร์ม ARM นี้อีกด้วย
หลังจาก Microsoft ประกาศได้เพียงวันเดียว ร้าน Best Buy และ Staples ในสหรัฐฯ และร้าน Harvey Norman และ JB Hi-Fi ในออสเตรเลียก็ขึ้นหน้าเว็บว่าวางขาย Surface RT แล้ว
เป็นประจำสำหรับ Patch Tuesday ซึ่งจะเป็นการอัพเดตแพตซ์ด้านความปลอดภัยของค่ายไมโครซอฟท์ครับ สำหรับวันอังคารนี้ค่อนข้างพิเศษเพราะมีแพตซ์จากอโดบี และจากกูเกิลด้วย ผู้ใช้ควรจะรีบอัพเดตทันทีเพื่อความปลอดภัยนะครับ
วันนี้ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัพเดต Windows Phone 8 ให้ HTC 8X ผ่าน OTA แล้ว โดยเลข build เมื่ออัพเดตแล้วจะเป็น 8.0.10211 ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะไม่ได้เปิดเผยรายการของสิ่งที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง (change log) ออกมา แต่เท่าที่มีคนสำรวจดูก็พบฟีเจอร์ที่ได้รับการเพิ่มเติมหรือปรับปรุง มีดังนี้
ไมโครซอฟท์ยังคงพยายามดัน SkyDrive ให้กลายเป็นพื้นทึ่บนกลุ่มเมฆมาตรฐานของทุกผลิตภัณฑ์ในเครืออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปล่อยแอพรุ่นใหม่บน Xbox 360 ออกมาแล้ว
SkyDrive for Xbox 360 นั้นไมโครซอฟท์บอกว่าออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์หน้าจอใหญ่อย่างทีวีโดยเฉพาะ และยังคงแนวทางอินเทอร์เฟซแบบเมโทรเหมือนเคย
ฟีเจอร์ที่มีมาพร้อมกับแอพคือสามารถดู และแชร์ภาพ วิดีโอจาก SkyDrive ไปยังอุปกรณ์อื่นได้ รวมถึงรองรับ Kinect Voice และ Gesture อีกด้วย
นอกจาก SkyDrive for Xbox 360 แล้ว ในปี 2013 จะมีแอพใหม่ๆ ลงบน Xbox 360 อีกกว่า 40 แอพ (ส่วนมากเป็นแอพบันเทิง) ดูรายชื่อได้[ที่นี่](http://majornelson.com/2012/12/11/over-40-new-apps-coming-to-xbox-new-apps-launch-on-xbox-live-this-week/)ครับ
ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นชื่อของ Vic Gundotra ผู้บริหารของกูเกิลคนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเขาคุมฝ่าย Google+ และออกมาให้ข่าวอยู่เรื่อยๆ
Paul Thurrott แห่งเว็บไซต์ Supersite for Windows เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์จะเริ่มวางขาย Surface with Windows RT ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายอื่นนอกเหนือจากช่องทางของไมโครซอฟท์เอง โดยรอบแรกนั้นไมโครซอฟท์จะวางจำหน่ายในบางประเทศที่ไม่มี Microsoft Store อยู่ "ในเร็ววันนี้" ซึ่งก็หมายถึงก็ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยกเว้นสหรัฐฯ แคนาดา และเปอร์โตริโก ส่วนรอบที่สองที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้านั้น ไมโครซอฟท์จะวางจำหน่าย Surface ทั้งรุ่นแพลตฟอร์ม ARM และ x86 ในร้านค้ารายใหญ่ อย่าง Best Buy และ Staples
เช่นเคย ไมโครซอฟท์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้
ขอมาขายในไทยบ้างนะ
Windows Phone 8 ออกมาได้สักระยะแล้ว แต่ไมโครซอฟท์เพิ่งออกมาอธิบายเบื้องหลังการทำงานของคีย์บอร์ดตัวใหม่ที่มีฟีเจอร์ Word Flow (หรือ Quick Correct เดิมใน WP7.5) ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมมากมาย
ไมโครซอฟท์บอกว่าต้องการช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์ข้อความได้รวดเร็วขึ้น จึงรวบรวมฐานข้อมูลคำศัพท์ภาษาอังกฤษกว่า 2.5 พันล้านคำจากแหล่งต่างๆ มาวิเคราะห์ จากนั้นตัดเหลือ 600,000 คำด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ ทำให้ Word Flow สามารถพยากรณ์คำที่ผู้ใช้จะพิมพ์ต่อไปได้แม่น โดยมีอัตราความถูกต้อง 94% นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน (ยังไม่รวมการเรียนคำที่ผู้ใช้พิมพ์บ่อยหลังจากใช้งานไประยะหนึ่งด้วย)
Word Flow ใช้เทคนิคหลายอย่างช่วยเพิ่มความแม่นยำของการเดาคำ เช่น
The Verge ได้เผยบทความจากบรรณาธิการ "Microsoft's battle for consumers: it's time to drop the Windows name" และได้กล่าวถึงอัพเกรด Windows "Blue" ที่มีข่าวลือว่าจะออกสู่ตลาดในกลางปีหน้าว่า จะเพิ่มการสนับสนุนอุปกรณ์ที่มีจอภาพขนาด 7 และ 8 นิ้วด้วย
David Law ผู้บริหารฝ่าย Outlook.com ของไมโครซอฟท์ ให้ข้อมูลกับ The Verge ว่าจะเริ่มโปรโมทให้ผู้ใช้ Hotmail ในปัจจุบัน "อัพเกรด" ไปใช้ระบบของ Outlook.com ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
Law บอกว่าก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ยังไม่ผลักดันให้คนย้ายไปใช้ Outlook.com มากนัก เพราะต้องการทดสอบว่าระบบเสถียรพอที่จะรองรับผู้ใช้จำนวนมากได้เสียก่อน
เขาตอบคำถามเรื่องการรองรับ IMAP ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับเสียงเรียกร้องมาเป็นอันดับแรก แต่ก็ยังไม่ยอมให้ข้อมูลว่าจะเปิด IMAP ให้ใช้งานเมื่อไร นอกจากนี้เขายังบอกใบ้ว่าจะมีข่าวของ Outlook.com บนแมคประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ด้วย
China Unicom โอเปอเรเตอร์อันดับสองของประเทศจีน ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ตั้ง "พันธมิตร" ร่วมผลักดัน Windows Phone ในประเทศจีน
นอกจากสองบริษัทใหญ่นี้แล้ว ยังมีผู้ผลิตฮาร์ดแวร์มือถืออีก 7 ราย (ที่ระบุชื่อคือ Nokia, HTC, Samsung) และผู้ผลิตชิปอีกสองรายคือ Qualcomm กับ Intel ร่วมเป็นพันธมิตรก่อตั้งด้วย
ภายใต้ความร่วมมือนี้ ไมโครซอฟท์จะให้ความสนับสนุนทั้งด้านเทคนิคและการตลาด โดยอาศัยช่องทางการขายของ China Unicom ที่มีฐานลูกค้า 3G กว่า 70 ล้านราย ผลักดัน Windows Phone ให้มีที่ยืนในตลาดจีนมากขึ้น
ปัจจุบัน Windows Phone มีส่วนแบ่งตลาดในจีนประมาณ 3% ในขณะที่ Android ครองตลาดจีนด้วยส่วนแบ่ง 72%
อนาคตของ Silverlight ในโลกของไมโครซอฟท์ดูจะถดถอยลงเรื่อยๆ ถึงแม้จะยังไม่ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ปิดเว็บ Silverlight.net ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลักของผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้ว
ผู้ที่เข้า Silverlight.net จะถูกส่งไปยังหน้าเว็บ Silverlight บน MSDN แทน ส่วนไฟล์และเอกสารยังเปิดให้ดาวน์โหลดอยู่ แต่คนที่เคยอ้างอิงลิงก์ไปที่ Silverlight.net ก็คงต้องแก้ลิงก์กันใหม่หมด
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าต้องการปรับระบบเอกสารของ Silverlight ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเอกสารอื่นๆ บน MSDN เท่านั้น ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยังไม่เคยบอกว่าจะออก Silverlight 6 หรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะสนับสนุน Silverlight 5 ในปัจจุบันไปจนถึงปี 2021
ไมโครซอฟท์ประกาศลดราคาพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆ Windows Azure Storage อีกรอบ หลังจากที่ลดราคามาแล้ว 12% เมื่อเดือนมีนาคม 2012
การลดราคาครั้งนี้ แพกเกจที่ลดมากที่สุดลดถึง 28% โดยเริ่มต้นที่ 0.07 ดอลลาร์ต่อ GB ต่อเดือน สำหรับการใช้งานน้อยกว่า 1TB (ถ้าใช้มากกว่านั้นก็มีส่วนลดมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกสุดคือ 0.037 ดอลลาร์ต่อ GB ต่อเดือน)
Windows Azure Storage ยังมีตัวเลือกว่าจะสำรองข้อมูลแบบไหน ระหว่างการสำรองข้อมูลข้ามภูมิภาค (geographically redundant) ที่ประกันความปลอดภัยของข้อมูลดีกว่า และการสำรองข้อมูลเฉพาะในศูนย์ข้อมูลเดียวกัน (locally redundant) ที่ราคาถูกกว่า โดยทั้งสองแบบจะสำรองข้อมูลให้ 3 ชุดเพียงแต่กระจายตัวต่างกัน
AllThingsD รายงานว่า เฟซบุ๊กกำลังพิจารณาซื้อแพลตฟอร์มให้บริการโฆษณาออนไลน์ชื่อ Atlas Solutions จากไมโครซอฟท์ เพื่อสร้างเครือข่ายโฆษณาแข่งกับกูเกิล DoubleClick
แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากเฟซบุ๊กจะสนใจซื้อ Atlas Solutions แล้ว ก็มีบริษัทอื่นซึ่งรวมถึงอโดบีที่สนใจซื้อเช่นกัน และถึงแม้เฟซบุ๊กจะเจอปัญหาในทางเทคนิคหลายประการ แต่ก็ยังดีกว่าที่บริษัทจะพัฒนาแพลตฟอร์มเองตั้งแต่ต้น
บริษัทวิจัยตลาด DFG ออกมาประเมินว่าไมโครซอฟท์ขาย Surface RT ได้เพียง 500,000-600,000 เครื่องเท่านั้น จากที่เคยมีข่าวว่าสั่งผลิต 3-5 ล้านเครื่องแล้วลดจำนวนในภายหลัง
DFG ให้เหตุผลว่าปัญหาหลักของ Surface คือช่องทางการขายของไมโครซอฟท์เองที่จำกัดมากๆ เพราะวางขายเฉพาะในร้าน Microsoft Store ที่มีสาขาไม่เยอะนักในสหรัฐ (31 สาขา) แถมยังไม่วางขายในร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อย่าง Best Buy ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสลองจับก่อนซื้อน้อยลง
นอกจากนี้ DFG ยังบอกว่าราคาตั้งต้นของ Surface นั้นแพงไปมากจนไม่จูงใจ ไมโครซอฟท์ควรตัดราคาแล้วขายที่ 399 ดอลลาร์แบบมีคีย์บอร์ด (เดิมขาย 599 ดอลลาร์)
ถ้ายังจำกันได้ ไมโครซอฟท์เคยทดสอบ So.cl (ข่าวเก่า) เครือข่ายสังคมสำหรับภาคการศึกษา ให้นักเรียนนักศึกษาเข้ามาแชร์ความรู้กันบนเว็บแห่งนี้
ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศปรับปรุงดีไซน์ของ So.cl ให้เข้ากับดีไซน์ชุดใหม่ของไมโครซอฟท์เอง และเพิ่มฟีเจอร์อีกหลายอย่าง เช่น ปรับปรุงความเร็วของการโหลดเว็บ, เลือกแสดง 2 หรือ 3 คอลัมน์, ปรับปรุงหน้า profile ของผู้ใช้ เป็นต้น
ไมโครซอฟท์ยังให้ข้อมูลว่าสร้าง So.cl ด้วยภาษา TypeScript ที่เป็นภาษาคู่แฝดของ JavaScript อีกด้วย
ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามข่าวสารแท็บเล็ต Windows 8 มาพอสมควร นอกจากนี้ยังเคยคิดมองข้ามระบบปฏิบัติการ Windows RT ที่ถูกออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์พวกแท็บเล็ต เพราะคิดว่ามันคงไม่แตกต่างกับระบบปฏิบัติการของคู่แข่งรายอื่นๆ
ทว่าในขณะที่มีข่าวการวางจำหน่าย Surface RT(ขอเรียกชื่อย่อนะครับ) ให้เห็นเต็มไปหมด ด้วยแรงยั่วยุต่างๆ ทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่จะรอแท็บเล็ตอื่นๆ ในสาย Windows 8 เต็มตัวได้อีกต่อไป ผมจึงได้สั่งซื้อตามรายการนี้ครับ
โดยของที่ผมจะรีวิวหลักๆ นั้นจะเป็นแค่ชิ้นแรก เพราะชิ้นที่ 2 เป็นแค่กันรอยธรรมดา
แกะกล่อง