Adobe อัปเดตแอปมือถือ Adobe Express ทั้งบน iOS และ Android เพิ่มฟีเจอร์ Adobe Firefly ที่เป็น Generative AI ช่วยในการแก้ไขภาพ-คลิป มีผลกับผู้ใช้งานทุกคนแล้ว หลังจากเริ่มทดสอบในสถานะเบต้าเมื่อเดือนที่แล้ว

แอป Adobe Express มีฟีเจอร์หลายอย่างรองรับการใช้งาน โดยเฉพาะการผลิตคอนเทนต์เพื่อโพสต์ลงโซเชียลให้สามารถจบได้ในแอปมือถือ เช่น เทมเพลตสร้างคลิปวิดีโอ, Text to Image สร้างรูปภาพจาก prompt, Generative Fill ปรับแต่งวัตถุตามต้องการ, Text Effects เพิ่มสไตล์ให้ข้อความ และอื่น ๆ

Adobe Express สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี แต่หากต้องการเข้าถึงฟีเจอร์ Firefly ทั้งหมด ต้องสมัครสมาชิกราคา 356 บาทต่อเดือน

Adobe สาธิตฟีเจอร์ด้าน AI หลายอย่างให้กับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Premiere Pro ซึ่ง Adobe บอกว่าเป็นการนำ Generative AI มาช่วยเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ ช่วยแก้ไขปัญหาเวิร์กโฟลว์ที่คนตัดต่อพบอยู่

Adobe บอกว่า AI สำหรับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอนั้นจะโฟกัสที่สามสิ่งได้แก่ นำ AI มาใช้ในเวิร์กโฟลว์ของโปรแกรมที่นักตัดต่อคุ้นเคย, Generative AI มีเป้าหมายช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น เช่นเพิ่ม-ลบวัตถุ หรือขยายเวลาคลิป และต้องมีโมเดล AI ให้เลือกหลากหลาย

ทั้งนี้เครื่องมือ AI สำหรับ Premiere Pro จะมีออกมาให้ใช้งานภายในปีนี้ โดย Adobe พรีวิวฟีเจอร์บางส่วนทั้งจากโมเดล AI ของ Adobe เองอย่าง Firefly Video และโมเดลจากพาร์ตเนอร์เช่น Sora ของ OpenAI, RunwayML และ Pika

Adobe ประกาศราคาแพ็คเกจเสริม Acrobat AI ผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับช่วยจัดการงานเอกสาร หลังจากออกเวอร์ชันทดสอบเบต้ามาก่อนหน้านี้ คิดราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน สามารถใช้งานได้ใน Adobe Reader บนเดสก์ท็อปและเว็บ

นอกจากนี้ผู้ช่วย Acrobat AI ยังเพิ่มการใช้งานผ่านมือถือโดยยังมีสถานะเป็นเบต้า

ความสามารถของ Acrobat AI มีทั้งเครื่องมือถาม-ตอบ จากเนื้อหาไฟล์ PDF ตลอดจนไฟล์เอกสารอื่น เช่น Word, PowerPoint, บันทึกการประชุม ฯลฯ, ตัวช่วยสรุปเนื้อหา, ไฮไลท์ส่วนที่สำคัญ และอื่น ๆ ตัว AI ทำงานบน Liquid Mode ที่ Adobe พัฒนาขึ้นจาก LLM ของนักพัฒนาภายนอก

Bloomberg รายงานข่าวว่า Adobe เริ่มส่งเมลเชิญชวนช่างภาพและศิลปินบางราย ส่งคลิปวิดีโอผู้คนทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ เพื่อนำไปเทรน AI โดยให้ค่าตอบแทน 120 ดอลลาร์

เป้าหมายของ Adobe คือต้องการนำคลิปวิดีโอเหล่านี้ไปใช้เป็นข้อมูลเทรนระบบ text-to-video ลักษณะเดียวกับ OpenAI Sora ซึ่งใช้วิธีร่วมมือกับศิลปิน นักแสดง และสตูดิโอฮอลลีวู้ด เช่นกัน แม้มีประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ของวิดีโอที่ใช้เทรนก็ตาม

Adobe เปิดตัวแพลตฟอร์ม Adobe GenStudio เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดการเวิร์กโฟลว์ของคอนเทนต์ สำหรับลูกค้าองค์กร เช่น Brand Kit, Copy Guidance คอลเลกชันของสินทรัพย์คอนเทนต์ที่อนุมัติให้ใช้งานได้ และยังมีเครื่องมือ Generative AI เพื่อให้สามารถนำโลโก้หรือคอนเทนต์ไปปรับแต่งส่วนต่าง ๆ โดยยังรักษาโทนสีและองค์ประกอบของแบรนด์ไว้ได้ ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างคอนเทนต์เพื่อใช้งานได้รวดเร็วมากขึ้น

เครื่องมือที่มีใน Adobe GenStudio ครอบคลุมขั้นตอนการผลิตคอนเทนต์ของแบรนด์ ตั้งแต่ การวางแผนแคมเปญ, การอนุมัติส่วนของงาน, เครื่องมือแต่งภาพทั้ง Express และ Firefly ที่รักษาโทนของแบรนด์ ไปจนถึงเครื่องมือ Analytics ประเมินผลของแคมเปญนั้น

Adobe เปิดตัวความสามารถใหม่ของ Adobe Firefly เครื่องมือพลัง AI ซึ่งบอกว่าทำให้ผู้ใช้งานได้ควบคุมออกแบบงานสร้างสรรค์ ยกระดับไปอีกขั้นหนึ่ง

ความสามารถใหม่มีชื่อเรียกว่า Structure Reference ผู้ใช้กำหนดรูปภาพที่เป็นเทมเพลตตั้งต้น เพื่อใช้อ้างอิงองค์ประกอบในภาพ จากนั้น AI สามารถสร้างรูปภาพหลากหลายแบบ ที่อิงการจัดวางและองค์ประกอบแบบเดียวกันกับภาพเทมเพลตนี้ ช่วยให้การสร้างรูปภาพด้วย prompt ไม่ต้องลองผิดลองถูกแบบที่ผ่านมา แล้วได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับกับสิ่งที่ต้องการมากขึ้น

Adobe บอกว่าเมื่อใช้งาน Structure Reference ร่วมกับ Style Reference เดิมของ Firefly จะทำให้ได้ผลงานสร้างสรรค์ที่ควบคุมได้อย่างใจ

Adobe รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 1 มีนาคม รายได้ยังคงเติบโตทำสถิติใหม่สูงสุดอีกครั้งที่ 5,182 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 620 ล้านดอลลาร์

Shantanu Narayen ซีอีโอ Adobe กล่าวว่ารายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งในไตรมาสที่ผ่านมา สะท้อนการเติบโตต่อเนื่องจากทั้ง Creative Cloud, Document Cloud และ Experience Cloud ซึ่งทั้งหมด Adobe ได้นำพลังของ Generative AI มาใส่ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท

Adobe เปิดตัว AI Assistant ที่ตอนนี้มีสถานะเบต้า โดยเป็น Generative AI สำหรับไฟล์ PDF ในสองโปรแกรมของ Adobe คือ Reader และ Acrobat รองรับการสรุปเนื้อหา, ตอบคำถาม และจัดฟอร์แมตสำหรับใช้ส่งอีเมล ทำรายงาน หรือการนำเสนอ

Adobe บอกว่าความสามารถของ AI Assistant จะช่วยปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลในเอกสาร PDF ที่มีประมาณ 3 ล้านล้านชุดในโลก

AI Assistant ทำงานบน AI และ Machine Learning บนพื้นฐานเดียวกับ Acrobat Liquid Mode ฟีเจอร์ที่ใช้ปรับปรุงการแสดงผลของเอกสาร PDF ให้เหมาะกับการอ่านบนหน้าจอมือถือ

หลัง Adobe ล้มดีลซื้อกิจการ Figma ก็มีคำถามตามมาว่าบริษัทจะเอายังไงต่อกับธุรกิจด้านเครื่องมือ interface design เพราะก่อนหน้านี้บริษัทยอมรับว่า Adobe XD ไม่สามารถต่อกรกับ Figma ได้อย่างสิ้นเชิง จึงต้องหันมาใช้วิธีซื้อกิจการคู่แข่งแทน

โฆษกของ Adobe ตอบคำถามนี้กับ Bloomberg ยืนยันว่าจะไม่นำ Adobe XD กลับมาพัฒนาต่อแล้ว ตอนนี้ Adobe XD ยังมีให้ใช้งานต่อไปแต่ไม่มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มแล้ว มีสถานะเป็น maintenance mode เท่านั้น

Adobe ประกาศฟีเจอร์ใหม่ในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Premiere Pro สำหรับจัดการเวิร์กโฟลว์ส่วนของเสียง (audio) เพื่อให้สามารถตัดต่อได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม

ฟีเจอร์ที่ประกาศได้แก่ เครื่องมือเฟดเสียงแบบคลิกลาก, AI แท็กป้ายกำกับประเภทเสียงให้อัตโนมัติ เพื่อให้เลือกเสียงตามหมวดได้ง่ายขึ้น, คลิปแบดจ์ใหม่ แยกคลิปได้ง่ายขึ้นว่าคลิปใดมีเสียงเอฟเฟกต์ และเครื่องมือจัดการ Waveform ที่ออกแบบใหม่ แยกสีให้ดูง่ายขึ้น

นอกจากฟีเจอร์ใหม่ที่ประกาศในสถานะเบต้า Premiere Pro จะมีฟีเจอร์ AI ที่เป็นเครื่องมือเช่น ระบบปรับปรุงคุณภาพเสียง สำหรับผู้ใช้งานทุกคนในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป

Dana Rao หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Adobe ให้สัมภาษณ์กับ The Verge หลังจาก Adobe ประกาศล้มดีลซื้อกิจการ Figma ซึ่งเขาบอกว่าเนื่องจาก Adobe พบปัญหาการแสดงข้อมูลกับหน่วยงานกำกับดูแลของคณะกรรมการยุโรปหรือ EU เพื่อพิสูจน์ว่าดีลนี้จะไม่กระทบการแข่งขันในอนาคต ที่ EU แสดงความกังวล มาตั้งแต่ต้น

Rao มองต่างในเรื่องนี้ เขาบอกว่าถ้าพูดถึงตลาดซอฟต์แวร์งานออกแบบ UI แล้ว Adobe กับ Figma ไม่ได้แข่งขันกันเลยด้วยซ้ำ แม้ Adobe จะมี Adobe XD ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงที่สุด แต่จำนวนผู้ใช้งานก็น้อยมาก และ Adobe ก็หยุดการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ไประยะหนึ่งแล้ว จึงไม่เห็นการทับซ้อนกันที่ชัดเจน ลูกค้าของ Figma และ Adobe ตลอดจนซอฟต์แวร์คู่แข่งก็ไม่ได้มีปัญหากับดีลดังกล่าว

Adobe และ Figma ออกแถลงร่วมยกเลิกการรวมบริษัทหลังจากพยายามควบรวมมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 รวมระยะเวลา 15 เดือนแล้ว

Adobe นั้นเดิมมีบริการ XD แข่งขันกับ Figma อยู่เดิม แต่กลับไม่สามารถแข่งขันได้ อย่างไรก็ดีเนื่องจาก Adobe นั้นครองตลาดออกแบบเป็นวงกว้าง ทำให้การควบรวมครั้งนี้ถูกสอบสวนจากทั้งสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, และสหภาพยุโรป

Adobe ประกาศว่า ตามที่บริษัทได้เสนอซื้อกิจการทั้งหมดของ Figma เมื่อเดือนกันยายน 2022 ที่มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดีลนี้ถูกสอบสวนจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั่วโลกทั้ง สหราชอาณาจักร, ยุโรป ซึ่งต่างคัดค้านดีลนี้ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ก็เริ่มการสอบสวนแล้วเช่นกัน

ผลจากกระบวนการดังกล่าวทำให้ดีลนี้ล่าช้าหลังจากประกาศมามากกว่า 1 ปีแล้ว ทั้ง Adobe และ Figma เห็นตรงกันว่าตอนนี้ยังมีความไม่ชัดเจนว่าดีลจะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงาน จึงตัดสินยกเลิกดีลซื้อ-ขายกิจการนี้

Adobe รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดวันที่ 1 ธันวาคม รายได้เติบโตทำสถิติใหม่อีกไตรมาสที่ 5,048 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,483 ล้านดอลลาร์

Shantanu Narayen ซีอีโอ Adobe ให้ความเห็นจากการปรับราคา subscription บางผลิตภัณฑ์ ที่อาจทำให้ลูกค้ามองหาช่องทางที่ราคาถูกลง โดยยืนยันในภาพรวมธุรกิจยังเติบโตได้ และนักวิเคราะห์มองผลกระทบของการปรับราคามากเกินไป

เขายังพูดถึงดีลซื้อกิจการ Figma ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจน แต่เชื่อว่าน่าจะมีข้อสรุปได้เร็ว ๆ นี้

Competition and Markets Authority (CMA) หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของสหราชอาณาจักร ออกรายงานประเมินความเสี่ยงจากดีล Adobe ซื้อ Figma มูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ว่าส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในธุรกิจซอฟต์แวร์ด้านออกแบบ

ประเด็นนี้ไม่เกินความคาดหมายนัก เพราะ CMA ประกาศเริ่มสอบสวนดีลนี้ในเฟส 2 ตั้งแต่กลางปี ส่วนผลการสอบสวนคือ Adobe XD และ Figma เป็นคู่แข่งกันโดยตรงในตลาดซอฟต์แวร์ออกแบบผลิตภัณฑ์ โดย CMA พบว่า 80% ของนักออกแบบผลิตภัณฑ์ใช้ซอฟต์แวร์ของ Figma ดังนั้นการซื้อกิจการย่อมกระทบต่อการแข่งขันและนวัตกรรม เพราะมีตัวเลือกในตลาดน้อยลง

Adobe Analytics รายงานข้อมูลตัวเลขการช้อปปิ้งออนไลน์ ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่อเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกรวมว่า Cyber Week ซึ่งเป็นระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้า, Black Friday และ Cyber Monday มีการจับจ่ายตลอด 5 วันมากกว่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน

Cyber Monday เป็นเทศกาลลดราคาออนไลน์ยอดนิยมของสัปดาห์การลดราคานี้ ยอดขายวันเดียว 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9.6% สินค้ายอดนิยมได้แก่ของเล่นทั้ง Hot Wheels, Mario Kart, Cars (Disney Pixar), Disney Junior Minnie Mouse และ LEGO ตลอดจนเกมคอนโซล วิดีโอเกม ส่วนสินค้าหมวดอื่นที่ขายดีได้แก่ สกินแคร์, เครื่องครัวขนาดเล็ก, ทีวี, สมาร์ทวอทช์ และเฮดโฟนบลูทูธ

เซสชั่น Sneaks ในงาน Adobe MAX ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงาน เพราะ Adobe จะนำเสนอโครงการที่สถานะยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยเริ่มต้น เพื่อนำมาพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่งทำให้เห็นไอเดียใหม่ ๆ ในงานสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง Sneaks ในปีนี้มีทั้งหมด 11 โครงการ ครอบคลุมทั้งงานรูปภาพ วิดีโอ และวัตถุ 3D ดังนี้

Project Stardust

Project Stardust นั้น Adobe ได้พรีวิวมาก่อนงาน Max จะเริ่มขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกวัตถุในภาพ แก้ไข ลบ ย้ายตำแหน่ง เปลี่ยนลักษณะวัตถุได้ตามต้องการในไม่กี่คลิก

Adobe และ Havas บริษัทด้านการตลาดและมีเดียประกาศขยายความร่วมมือ โดยสำนักงาน Havas ทุกแห่งจะนำ Adobe GenStudio มาใช้ทำงาน ซึ่งรวม Adobe Creative Cloud, Express และ Experience Cloud ช่วยให้เอเจนซี่สามารถทำงานได้เร็วขึ้นตั้งแต่คิดไอเดียไปจนถึงขั้นตอนส่งงาน และยังสามารถใช้ประโยชน์จาก Adobe Firefly ใช้ AI สร้างสรรค์ผลงานในเชิงพาณิชย์ได้

Havas สามารถใช้ประโยชน์จาก Adobe GenStudio เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงผลงานและเพิ่มความสะดวกช่วยให้ทุกคนในทีมมีส่วนร่วมในการสร้างหรือแก้ไขภาพได้

Tiktok ประกาศ API ตัวใหม่เกี่ยวกับลงคอนเทนท์วิดีโอบนแพลตฟอร์มของตน ใช้ชื่อว่า Direct Post โดยได้รับความร่วมมือจากหลายแพลตฟอร์ม และโปรแกรม จากที่ก่อนหน้านี้รองรับแค่ CapCut ที่เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอจากทาง Tiktok เอง ซึ่ง API ตัวนี้จะทำให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถอัปโหลดคลิปวิดีโอไปยัง Tiktok ได้โดยตรง

โดยโปรแกรมที่รองรับ Direct Post ของ Tiktok มีดังนี้

Adobe เปิดตัวฟีเจอร์ Text to Vector Graphic บน Adobe illustrator ที่ขับเคลื่อนด้วย Adobe Firefly ใช้ AI สร้างภาพเวกเตอร์เพียงพิมพ์ข้อความสั่งใช้งานเหมือน Generative fill บน Photoshop โดย AI จะออกแบบภาพเวกเตอร์ให้และสามารถแก้ไขภาพได้ ซึ่งภาพเวกเตอร์เป็นภาพที่เทรนจาก Adobe Stock

ภายในงาน Adobe Max เปิดตัวหลายฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Adobe Firefly Image 2 Model เวอร์ชันใหม่, Firefly Vector Model โมเดล AI รุ่นแรกสำหรับกราฟิกเวกเตอร์และ Firefly Design Model สำหรับการออกแบบเทมเพลต และฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใน Adobe Lightroom, Adobe Premiere Pro, Adobe After Effects และ Adobe Stock มีดังต่อไปนี้

Adobe เปิดตัว Adobe Firefly Image 2 Model โมเดลสร้างภาพ generative AI เวอร์ชันใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม สร้างภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้น

ตอนนี้ Firefly Image 2 Model เปิดใช้งานแล้วในเว็บแอพ Firefly ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ โดยผู้ใช้มีปุ่มกดสลับระหว่างโมเดลเวอร์ชัน 1 และ 2 ได้

ตัวอย่างภาพที่สร้างด้วยโมเดลเวอร์ชัน 2

Adobe เตรียมเปิดตัวเครื่องแก้ไขภาพในงาน Adobe Max มีชื่อว่า Project Stardust จุดเด่น AI จะศึกษาภาพถ่ายและแยกวัตถุในภาพ ทำให้สามารถแก้ไขภาพได้เร็วมากขึ้น

Adobe ปล่อยคลิปโปรโมต Stardust โชว์รายละเอียดการใช้งาน เพียงแค่คลิกไปที่วัตถุในภาพก็สามารถเคลื่อนย้าย, ลบ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบวัตถุได้

ถ้าใครที่ใช้ Photoshop จะทราบดีว่าการเลือกวัตถุบนรูปภาพต้องใช้เครื่องมือ Magic Lasso เป็นต้น ในการร่างภาพตรงวัตถุที่ต้องการเพื่อแก้ไข แต่ Stardust ไม่ต้องร่างรอบวัตถุเพียงแค่คลิกที่วัตถุ AI ก็สามารถแยกวัตถุในภาพกับส่วนอื่นๆ ได้ รวมถึงเพิ่มคุณสมบัติ AI Generative ของ Firefly สามารถเปลี่ยนวัตถุในภาพเป็นอย่างอื่นได้เพียงแค่พิมพ์ข้อความ

ก่อนหน้านี้ Adobe เปิดให้ใช้งาน Firefly โมเดล AI สร้างสรรค์ภาพแบบเบต้า ล่าสุดทาง Adobe ประกาศว่า Firefly เปิดให้ใช้งานทั่วไปและเชิงพาณิชย์ใน Creative Cloud, Adobe Express และ Adobe Experience Cloud ดังนั้นฟีเจอร์ของ Firefly เช่น Generative fill และ Generative expand ใน Photoshop ตอนนี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งเวอร์ชันเบต้าแล้ว

Adobe ยังประกาศว่าจะเรียกเก็บค่าใช้บริการ Firefly ในอนาคต โดยเรียกว่า “Generative Credits” หรือเครดิตสร้างสรรค์ เพื่อวัดความถี่ในการใช้งานโมเดลเหล่านี้ เมื่อกดใช้ Firefly สร้างภาพเท่ากับว่าใช้ไปหนึ่งเครดิต

สำหรับสมาชิก Adobe แบบชำระเงินอยู่แล้วสามารถใช้จำนวนเครดิตได้ตามรายการดังนี้

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้่นสุดวันที่ 1 กันยายน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 4,890 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,403 ล้านดอลลาร์

Shantanu Narayen ประธานและซีอีโอ Adobe กล่าวว่าเราเข้าสู่ยุคใหม่ของงานสร้างสรรค์ด้วย AI ที่มาพร้อมนวัตกรรมในทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัท ตอนนี้ความสามารถใหม่ใน Firefly, Express, Creative Cloud และ GenStudio ได้นำเวทมนตร์ของ Adobe สู่ผู้ใช้งานหลายล้านคน