รวมข่าว X (ชื่อเดิม Twitter) มีอะไรอัปเดตใหม่บ้าง

X หรือชื่อเดิม Twitter ปิดการใช้งานฟีเจอร์ Circles ที่ให้ผู้ใช้งานโพสต์แบบจำกัดกลุ่มที่มองเห็นแล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้คล้ายกับ Close Friends ในสตอรี่ของ Instagram หลังจากประกาศการเปลี่ยนแปลงนี้เมื่อเดือนกันยายน

บัญชี X Support ออกมาเตือนผู้ใช้งานถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ พร้อมบอกว่าโพสต์เดิมที่ตั้งค่าให้เห็นเฉพาะใน Circles จะยังคงมีผลดูได้เฉพาะคนที่อยู่ใน Circles ต่อไป ไม่มีการเผยแพร่ออกมานอกวง แต่จากนี้จะไม่สามารถโพสต์เฉพาะ Circles ได้อีกแล้ว

Fortune ได้เอกสารภายในของ Twitter/X ที่เป็นเอกสารแจกหุ้นให้พนักงาน การแจกหุ้นลักษณะนี้ต้องระบุมูลค่าหุ้นที่แจกหุ้นละ 45 ดอลลาร์ ซึ่งคำนวณตามมูลค่าบริษัท ทำให้เราทราบว่า Twitter/X ตีมูลค่าบริษัทตัวเองไว้ที่ 19 พันล้านดอลลาร์

ตัวเลขนี้ถือว่าลดลงจากมูลค่าบริษัท 44 พันล้านดอลลาร์ที่ Elon Musk และคณะร่วมกันซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิมในปี 2022 หรือลดลง 56% ในช่วงเวลา 1 ปี

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า Elon ตีมูลค่าบริษัทตัวเองที่ 20 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าใกล้เคียงกัน แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีเอกสารยืนยันตัวเลขจริงๆ

X ประกาศออกแพ็คเกจสมาชิกรายเดือนเพิ่มเติมจากแพ็คเกจปัจจุบัน X Premium หรือชื่อเดิม Twitter Blue ตามที่ Elon Musk เคยประกาศก่อนหน้านี้ โดยมีทั้งแพ็คเกจที่ราคาแพงขึ้น แต่ได้สิทธิประโยชน์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแพ็คเกจราคาถูกลงที่มาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติมมากกว่าผู้ใช้แบบไม่จ่ายเงิน

X Premium+ ได้ฟีเจอร์เหมือน X Premium แต่ที่เพิ่มมาได้แก่ ไม่มีการแสดงโฆษณาในฟีด, โพสต์ตอบ (Reply) จะถูกบูสท์แสดงผลมากที่สุดเทียบกับบัญชีประเภทอื่น และเข้าถึงเครื่องมือสำหรับครีเอเตอร์แบบครบทุกฟังก์ชัน

Elon Musk ผู้บริหารของ X (ชื่อเดิม Twitter) กล่าวว่าเขามอง YouTube และ LinkedIn เป็นคู่แข่งในอนาคต ในขณะเดียวกันก็แสวงหาธุรกิจใหม่ในธุรกิจวิดีโอ และเพิ่มการจ้างงาน

จากการประชุมที่ตรงกับ Elon Musk ซื้อ X/Twitter ครบ 1 ปีพอดี ซึ่งทั้ง Elon Musk และ Linda Yaccarino ซีอีโอของ X ยังคงกล่าวถึงความทะเยอทะยานที่จะสร้างสำนักข่าวที่เรียกว่า XWire ซึ่งจะแข่งขันกับ PR Newswire โดยมองว่าจะแข่งกับ YouTube และ LinkedIn ด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าบริการดังกล่าวจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะผู้บริหารทั้ง 2 ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย

X หรือชื่อเดิม Twitter ได้จัดการประชุมรวมทั้งบริษัท (All-hand) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีทั้งซีอีโอ Linda Yaccarino และเจ้าของ Elon Musk โดยการประชุมนี้จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโก แต่สองผู้บริหารวิดีโอคอลมาจากเมืองนิวยอร์กและออสติน ซึ่งเลือกวันครบรอบ 1 ปี ที่เขาซื้อกิจการ Twitter ในเวลานั้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากจำกันได้ ตอนนั้น Musk ก็ถือซิงก์ล้างมือไปที่สำนักงานใหญ่ด้วย

Musk บอกว่าจากนี้การประชุมพนักงานจะจัดขึ้นทุกไตรมาส โดยไตรมาสถัดไปจะใช้แพลตฟอร์มวิดีโอคอลที่ X พัฒนาขึ้นเอง รวมถึงจะถ่ายทอดสดออกสู่สาธารณะกับผู้ใช้ X ด้วย

ปลายปี 2022 Musk เคยเปิดเผยแผนการณ์เปลี่ยน Twitter (ณ ตอนนั้น) ให้กลายเป็นธนาคาร เพื่อหาเงินเพิ่มเติม ล่าสุด The Verge รายงานอ้างอิงจากคลิปเสียงประชุมภายในว่า Musk กำหนดไทม์ไลน์ว่าฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านั้นต้องปล่อยออกมาภายในปลายปีหน้า

Elon Musk เคยมีโร้ดแม็พสำหรับฟีเจอร์ด้านการเงินต่างๆ ในสมัยที่เขายังดูแล PayPal เมื่อช่วงปี 2000 หลังรวมกับ X.com เดิม ก่อนที่โร้ดแม็พของเขาละถูกมองข้าม หรือแม้แต่ฟีเจอร์ที่ออกไปแล้วก็ถูกโรลแบ็คด้วยซ้ำ หลังจากที่ eBay ซื้อ PayPal เข้าไป และดูเหมือนเขาจะหยิบเอาความฝันเก่าๆ กลับมาปัดฝุ่นกับ X.com ร่างใหม่ในท้ายที่สุด

Slack ประกาศปิดฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ X หรือ Twitter เดิม ด้วยเหตุผลการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข API ของ X ทำให้มีข้อจำกัดในการเรียกใช้งาน

การเปลี่ยนแปลงนี้สำหรับผู้ใช้ Slack มีผลมาตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2023 ทำให้ผู้ใช้ Slack ไม่สามารถเปิดรับการแจ้งเตือนโพสต์จาก X ได้อีกต่อไป

ประกาศนี้ของ Slack ต่อเนื่องจากประกาศก่อนหน้านี้ ที่ Slack ปิดการใช้งานบัญชี @SlackStatus ซึ่งใช้รายงานสถานะระบบว่าเป็นปกติหรือไม่ โดยให้ผู้ใช้งานดูจาก status.slack.com เป็นหลักแทน

X เริ่มทยอยอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้งานสามารถโทรเสียงและวิดีโอคอลได้ โดย X จะแสดงข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดแอปสำหรับผู้ใช้งานที่ได้รับอัพเดตนี้

ฟีเจอร์โทรเสียง-วิดีโอคอล เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ Elon Musk พูดถึงมาระยะหนึ่งแล้วว่าจะเพิ่มเข้ามาใน X

การเปิดใช้งานฟีเจอร์โทรเสียงและวิดีโอคอลนี้ (หากได้อัพเดตแล้ว) ให้ไปที่ Settings > Privacy & Safety > Direct Messages > Enable Audio & Video Calling และเลือกเงื่อนไขว่าเปิดให้ใครสามารถโทรเสียงและวิดีโอคอลหาได้ เช่น เฉพาะคนที่อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ, ใครที่ติดตาม หรือบัญชีที่ยืนยันตัวตน (ติ๊กถูกสีฟ้า) ส่วนการโทรหาสามารถทำได้จากหน้า DM ของผู้ใช้งานคนนั้น ๆ

Elon Musk เจ้าของ X ประกาศว่าบริการ Subscription จ่ายเงินรายเดือนยืนยันตัวตนได้ติ๊กถูกสีฟ้า X Premium หรือชื่อเดิม Twitter Blue จะเพิ่ม 2 แพ็คเกจสมัครใช้งานใหม่ ได้แก่

• แพ็คเกจราคาถูกลงกว่าเดิม ได้ฟีเจอร์แบบ X Premium ครบ ยกเว้นแสดงโฆษณาเต็มจำนวน
• แพ็คเกจราคาแพงขึ้น โดยไม่มีการแสดงโฆษณา

ปัจจุบัน X Premium มีแพ็คเกจเดียวคิดราคา 275 บาทต่อเดือน และได้ส่วนลดหากจ่ายรายปี ซึ่งได้ใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ส่วนโฆษณานั้นระบุว่าจะแสดงผลน้อยลง 50% จากปกติ หลังจากนี้ผู้ใช้งานจึงมี 3 ตัวเลือกราคา ขึ้นอยู่กับว่าต้องการเห็นโฆษณาแทรกมาแค่ไหน

Similarweb รายงานสถิติคนเข้าเว็บไซต์ Twitter.com ในโอกาสครบ 1 ปีที่ Elon Musk ซื้อกิจการ พบว่าทราฟฟิกของเดือนกันยายน 2023 ลดลง 14% จากเดือนกันยายน 2022

ถ้าประเมินแยกเป็นรายประเทศ ทราฟฟิกจากสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 1/4 ของทราฟฟิกทั้งหมด ลดลง 19% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนทราฟฟิกในประเทศตะวันตกอื่นๆ ก็ไปในทางเดียวกัน เช่น สหราชอาณาจักร (-11.6%) ฝรั่งเศส (-13.4%) เยอรมนี (-17.9%) ออสเตรเลีย (-17.5%)

X หรือ Twitter ประกาศเริ่มทดสอบโปรแกรมใหม่ชื่อว่า Not A Bot ซึ่งทำให้เข้าถึงสิทธิการใช้งานบนแพลตฟอร์มระดับเขียน (Write-Level) ได้แก่ โพสต์เนื้อหา (ทวีต), รีพลาย, รีโพสต์ (รีทวีต), โควทข้อความ, บุ๊คมาร์ก โดยผู้ใช้งานต้องจ่ายเงินแบบ subscription 1 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้เข้าถึงสิทธิดังกล่าว

X บอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับ บัญชีสมัครใช้งานใหม่ที่ไม่ยืนยันตัวตน (ไม่ได้สมัคร X Premium หรือ Twitter Blue ชื่อเดิม) เฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ ไม่มีผลกับบัญชีปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ก่อนหน้า บัญชีสมัครใหม่ยังสามารถอ่านโพสต์ กดติดตาม หรือดูภาพ-วิดีโอได้ และ X ย้ำว่าโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่มีสถานะทดสอบเบต้า ซึ่งหมายความว่า X จะดูผลลัพธ์เพื่อพิจารณาว่าจะทำหรือไม่ทำต่อไป

eSafety หน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยออนไลน์ของออสเตรเลีย สั่งปรับ X เป็นจำนวนเงิน 386,000 ดอลลาร์ ฐานไม่ตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับการจัดการเนื้อหาการล่วงละเมิดเด็กในแพลตฟอร์ม

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ eSafety ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง Google, TikTok, Twitch, Discord และ X (ที่ยังเป็น Twitter อยู่) ให้บริษัทเหล่านี้ ตอบคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดการสื่อที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (CSAM) ซึ่ง eSafety เผยว่า X ตอบคำถามบางข้อด้วยความว่างเปล่า และบางส่วนก็ไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง ในภาพรวมคือ X ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการตรวจจับเนื้อหาที่มีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กบนไลฟ์สตรีม รวมถึงไม่มีเทคโนโลยีที่ตรวจจับเนื้อหาล่อลวงเด็ก

มีรายงานจากผู้ใช้งาน X หรือ Twitter ในชื่อเดิม จำนวนมากจากทั่วโลก พบปัญหาทุกโพสต์หรือทุกทวีตที่แสดง ขึ้นว่าเป็นข้อความที่ส่งมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 1970 (1 Jan 70) และข้อความไม่สามารถโหลดดูได้ตามปกติ

ข้อมูลจาก Downdetector พบว่ามีรายงานปัญหามาตั้งแต่เวลาประมาณ 20:45น. ตามเวลาในประเทศไทย

ขณะที่เขียนข่าวนี้แฮชแท็ก #ทวิตล่ม ขึ้นเป็นอันดับ 1 เทรนด์ของประเทศไทย

อัพเดต: ข้อมูลจาก Downdetector พบว่า X ใช้งานได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 21:30น.

ภาพประกอบ X/@talkthematter

X อัปเดตเพิ่มตัวเลือกคนที่สามารถตอบกลับทวีต ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะให้บัญชีที่มีเครื่องหมาย Verified เท่านั้นที่สามารถตอบกลับทวีตได้ โดยตัวเลือกนี้เปิดให้ใช้ทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและผู้ที่สมัครสมาชิก X Premium สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้

Elon Musk ทวีตหลังจากเปิดตัวฟีเจอร์นี้ว่า การควบคุมใหม่นี้จะช่วยในการจัดการกับ spam bots

Elon Musk เจ้าของ X หรือ Twitter เดิม โพสต์ข้อความที่จำกัดการเห็นเฉพาะคนที่จ่ายเงินสมัครติดตาม บอกว่าหลังจาก X ไม่โชว์พาดหัวข่าวของลิงก์ที่แนบมา ถัดไป X เตรียมเอาปุ่มแอคชันต่าง ๆ สำหรับแต่ละโพสต์ ออกจากหน้าไทม์ไลน์ ทั้งปุ่ม Repost (Retweet), Reply, Like

ปุ่มฟังก์ชันต่าง ๆ เหล่านี้ยังคงอยู่ แต่ผู้ใช้งานต้องกดแตะที่โพสต์ทวีตนั้น ๆ เพื่อเข้าไปดำเนินการต่อทีละอันตามต้องการ เหตุผลที่ทำเช่นนี้ Musk บอกว่า เป็นการปรับปรุงการอ่านหน้าไทม์ไลน์ให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

คณะกรรมการหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ยื่นฟ้อง Elon Musk เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เพื่อบังคับให้ Musk เป็นพยานในการสอบสวนกรณีซื้อหุ้นของ Twitter ที่ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อเป็น X

SEC บอกว่าเป็นการสอบสวนเพื่อหาว่ามีใครเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย ในกระบวนการที่ Musk ซื้อหุ้นTwitter ที่มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ หรือไม่

SEC ได้ส่งเอกสารยื่นฟ้องโดยระบุใจความว่า ก่อนหน้านี้ Musk ปฏิเสธที่ปฎิบัติตามหมายเรียกจาก SEC ทำให้เกิดความล่าช้าในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาว่ามีการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์เกิดขึ้นหรือไม่ จึงขอให้ศาลบังคับให้ Musk ปรากฏตัวเพื่อเป็นพยานในการสอบสวน

ปัจจุบันผู้ใช้ที่สมัครสมาชิก X Premium (ชื่อเดิม Twitter Blue) จะเห็นโฆษณาบนหน้าฟีดน้อยลงเมื่อเทียบกับผู้ใช้งานที่ไม่ได้สมัครสมาชิก จากรายงานของ 9to5Mac บอกว่า Elon Musk ต้องการที่จะขยายแพกเกจสมาชิก X Premium เป็นหลายระดับ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้และไม่เห็นโฆษณาเลยในราคาที่สูงขึ้น

ผู้ใช้งาน X ชื่อแอคเคาท์ Aaron ทวีตว่า X เวอร์ชันล่าสุดมีโค้ด X Premium 3 ระดับได้แก่ Basic, Standard และ Plus โดยเมื่อใช้ระดับ Basic จะแสดงโฆษณาปกติ, ระดับ Standard จะแสดงโฆษณาน้อยลง ส่วนชั้น Plus จะลบโฆษณาออกไปทั้งหมด

Reuters รายงานว่ารายได้จากโฆษณาบนแพลตฟอร์ม X ในสหรัฐฯ ลดลงอย่างน้อย 55% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในแต่ละเดือน ตั้งแต่ Elon Musk เข้าซื้อบริษัท X เมื่อเดือนตุลาคม 2022

รายได้จากโฆษณาในสหรัฐฯ ลดลง 78% ในธันวาคม 2022 เมื่อเทียบปีก่อนหน้าในเดือนเดียวกัน ซึ่งถือเป็นสถิติรายได้ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่ Musk เข้าซื้อกิจการ ตามที่ Guideline บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลโฆษณาได้ติดตามข้อมูลการใช้จ่ายโฆษณา จากเอเจนซี่โฆษณารายใหญ่

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือจาก Fortune ว่า X จะไม่โชว์หัวข้อข่าวเมื่อโพสต์ลิงก์จากเว็บนอกแพลตฟอร์ม เหลือเพียงแค่รูปภาพนำบทความและโดเมนที่เชื่อมไปลิงก์นอกเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ X อัปเดตตัดพาดหัวข่าวเว็บนอกออกจริงบนระบบ iOS โดยเป็นคำสั่งจาก Elon Musk เพราะอยากปรับปรุงให้แพลตฟอร์มดูดีขึ้น

MrBeast ยูทูปเบอร์ที่มีผู้ติดตามมาก 188M subscribers ทวีตบน X พบว่ามีโฆษณาที่สร้างจาก AI Deepfake ด้วยหน้าของเขาปรากฏขึ้นบน TikTok บอกว่าจะให้ iPhone 15 Pro จำนวน 10,000 เครื่อง เพียงจ่ายเงินให้เขา 2 ดอลลาร์สหรัฐ

แนวทางคอนเทนต์วิดีโอของ MrBeast เป็นแนวเล่นเกมแจกบ้านและรถอยู่แล้ว ซึ่งคนที่ได้ดูโฆษณาอาจจะหลงเชื่อได้ง่าย เขาได้ทวีตวิดีโอพร้อมข้อความว่า มีคนจำนวนมากได้รับโฆษณาลวงโดยใช้ Deepfake พร้อมจี้ไปยังแพลตฟอร์มว่าพร้อมที่รับมือปัญหา AI Deepfakes แล้วหรือยัง เพราะปัญหานี้ร้ายแรง

ทาง TikTok บอกกับ TechCrunch ได้นำโฆษณาออกแล้วเนื่องจากละเมิดนโยบายโฆษณา ซึ่ง TikTok ไม่ได้ห้ามการสร้างวิดีโอจาก AI แต่ผู้ลงโฆษณาต้องเปิดเผยว่าใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างวิดีโอ

X Corp. (ชื่อเดิม Twitter) ถูกฟ้องจากบริษัทเอเจนซี่ X Social Media ที่ศาลในฟลอริดา ข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้าที่มีตัวอักษร X ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนกับลูกค้า

X เป็นเครื่องหมายการค้าที่มีอยู่ในบริษัทหลายร้อยแห่ง รวมไปถึง Xbox ของ Microsoft และ Meta Platforms เมื่อเดือนที่แล้ว X Corp. ได้ยื่นขอเครื่องหมายการค้าในสหรัฐอเมริกา

Linda Yaccarino ซีอีโอ X ประกาศว่าบริษัทได้ทำข้อตกลงร่วมกับ Paris Hilton เพื่อเปิดตัวบริการใหม่เกี่ยวกับวิดีโอบนแพลตฟอร์ม ซึ่งรวมทั้งไลฟ์สตรีม, ไลฟ์ขายสินค้า และอื่น ๆ

Variety รายงานว่าข้อตกลงนี้ Paris Hilton จะทำคอนเทนต์วิดีโอลงแพลตฟอร์ม 4 ตัว เน้นโปรโมตฟีเจอร์ใหม่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า โดยมีการแบ่งผลตอบแทนระหว่างสองฝ่าย ด้าน Paris Hilton ก็โพสต์ถึงความร่วมมือนี้พร้อมแฮชแท็ก #Sliving ที่มาจากสองคำคือ Slay และ Live

ประกาศนี้อาจทำให้เห็นแนวทางถัดไปของแพลตฟอร์ม X ว่าต้องการเพิ่มระบบไลฟ์มากขึ้น โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Elon Musk เจ้าของ X ก็ทดสอบระบบไลฟ์สตรีมเกม ผ่านบัญชีเฉพาะ ที่คาดว่าจะเป็นบริการใหม่เร็ว ๆ นี้

ยังมีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมจาก Linda Yaccarino ซีอีโอ X ที่ให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนา Code Conference นอกเหนือจากที่บอกว่า X จะทำกำไรได้ในปี 2024

Yaccarino ให้ตัวเลขผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม X เป็นประจำทุกวัน (Daily Active Users - DAUs) หลังจาก Julia Boorstin ผู้สื่อข่าว CNBC ที่เป็นพิธีกรบนเวทีพยายามสอบถาม บอกว่าอยู่ที่ 225 ล้านบัญชี ซึ่งต่อมาหลังจบการสัมภาษณ์ X ให้ข้อมูลใหม่ว่าคือ 245 ล้านบัญชี อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นจำนวนที่ลดลง โดยอ้างอิงจากตัวเลขที่ Elon Musk เคยเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน หลังซื้อกิจการมาไม่นาน จำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 259.4 ล้านบัญชี

Linda Yaccarino ซีอีโอ X หรือ Twitter เดิม โพสต์ข้อความว่าถึงตอนนี้แพลตฟอร์มได้จ่ายเงินให้ครีเอเตอร์ไปแล้วเกือบ 20 ล้านดอลลาร์

X เริ่มโครงการจ่ายเงินส่วนแบ่งค่าโฆษณาให้กับครีเอเตอร์มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยสมาชิก X Premium สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้หากเข้าเงื่อนไขเช่น มีผู้ติดตามมากกว่า 500 บัญชี มีอิมเพรสชัน 5 ล้านครั้งภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ X ไม่ได้บอกรายละเอียดอัตราการให้ส่วนแบ่ง

นอกจากนี้ในโพสต์ของ Yaccarino เป็นการโควทข้อความของ Elon Musk ที่พูดถึงฟีเจอร์ใหม่สำหรับครีเอเตอร์ โดยสามารถกำหนดให้เฉพาะผู้สมัครติดตามบัญชีนั้น (Subscriber) ที่จะ DM หาครีเอเตอร์ได้

Linda Yaccarino ซีอีโอบริษัท X ให้สัมภาษณ์บนเวที Code Conference บอกว่า “ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับตัวเข้ากับบริษัทและดูเหมือนว่าในช่วงต้นปี 2024 X จะสามารถทำกำไรได้”

ถึงแม้ว่าก่อนหน้าบริษัท X ยังคงพยายามหาวิธีเพื่อทำกำไรให้ได้อย่างต่อเนื่อง จนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Yaccarino ได้บอกกับ CNBC ว่าตอนนี้ X เข้าใกล้จุดคุ้มทุนในแง่ของการดำเนินการและยังบอกอีกว่ามีการใช้งานสูงสุดเป็นประวัติการณ์