ไมโครซอฟท์ประเทศไทยจัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี Microsoft Solutions Summit 2014 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

ต่อจาก Bing Code Search ช่วยให้นักพัฒนาหาโค้ดตัวอย่างบนอินเทอร์เน็ตได้จาก Visual Studio ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกส่วนเสริมใหม่ชื่อ Bing Developer Assistant for Visual Studio (ขอเรียกอย่างย่อว่า Bing Developer Assistant) โดยรวมความสามารถของ Bing Code Search กับ Sample Browser เข้าด้วยกัน ฟีเจอร์ของ Bing Developer Assistant มีดังนี้

นอกจาก Windows Phone SDK 8.1 Update และอีมูเลเตอร์ ไมโครซอฟท์ยังปล่อยอัพเดตของเครื่องมือพัฒนาแอพ Visual Studio 2013 Update 3, Multi-Device Hybrid Apps CTP 2.0, Azure SDK 2.4 และ IntelliTrace Standalone Collector รายละเอียดมีดังนี้

Visual Studio 2013 Update 3

Visual Studio 2013 Update 3 มีสิ่งใหม่และสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงมากมาย อาทิ

ไมโครซอฟท์ปล่อย Visual Studio 14 รุ่นทดสอบที่สอง Community Technology Preview (CTP2) แล้ว (CTP1 ออกไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา คาดว่ารุ่นตัวจริงจะได้ชื่อ Visual Studio 2015)

ไฮไลต์ของรุ่น CTP2 สำหรับคนที่ใช้ Visual Studio บนอุปกรณ์รองรับหน้าจอสัมผัส คือ editor รองรับการสัมผัสแล้ว ทั้งการเลื่อน (scroll) การซูม (pinch-to-zoom) การกดค้างเพื่อเรียกเมนูย่อย (context menu) การแตะสองครั้งเพื่อเลือกคำ และการแตะหนึ่งครั้งที่ขอบ (margin) เพื่อเลือกทั้งบรรทัด

ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio เวอร์ชัน 14 (ที่น่าจะใช้ชื่อจริงว่า Visual Studio 2015 เพราะยืนยันว่าจะออกรุ่นจริงในปี 2015) รุ่นทดสอบแรก Community Technology Preview (CTP1)

ของใหม่ในรุ่นนี้เน้นเทคโนโลยีด้านภาษาโปรแกรมและคอมไพเลอร์ ตามที่เคยประกาศไปแล้วในวิสัยทัศน์ของ .NET ยุคหน้า

ไมโครซอฟท์ประกาศของใหม่ของ Visual Studio หลายอย่าง อย่างแรกคือออกอัพเดตตัวที่สอง Visual Studio 2013 Update 2 ตัวจริงแล้ว (ลิงก์ดาวน์โหลด, รายการฟีเจอร์อ่านจากข่าวเก่า)

อย่างที่สองคือไมโครซอฟท์ออกตัวเชื่อมระหว่าง Visual Studio 2013 กับ Apache Cordova (หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อการค้า PhoneGap) ทำให้เราสามารถใช้ Visual Studio สร้างแอพมือถือข้ามแพลตฟอร์ม (ทั้ง iOS, Android, WP) ด้วยเทคโนโลยีเว็บ (HTML/JavaScript) ผ่าน Cordova ได้แล้ว

ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2013 Update 2 รุ่น RC (release candidate) ให้นักพัฒนาทดสอบแล้ว ก่อนจะออกรุ่นจริงในเร็วๆ นี้

ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่

เคยไหมที่เวลาพัฒนาแอพแล้วนึกไม่ออกว่าต้องเขียนโค้ดอย่างไร ก็ต้องไปเปิดหาตามเว็บไซต์ต่างๆ อย่าง StackOverflow หลังจากนี้หากใครพัฒนาแอพบน Visual Studio 2013 และติดตั้ง Bing Code Search ก็น่าจะพัฒนาแอพง่ายขึ้น

ไมโครซอฟท์ออกตัวอัพเดตแรกให้กับ Visual Studio 2013 โดยเรียกมันว่า Update 1 (หรือบางทีก็เรียก 2013.1)

Visual Studio 2013 Update 1 เปลี่ยนเพียงแค่จุดเดียวคือปรับให้ VS 2013 ใช้งานร่วมกับ IE รุ่นที่ต่ำกว่า IE10 ได้ดีขึ้น ผู้ที่ใช้ VS 2013 อยู่แล้วสามารถดาวน์โหลดอัพเดตจาก Microsoft Download Center

ไมโครซอฟท์ยังสัญญาว่าจะรีบออก Update 2 ในเร็วๆ นี้ โดยรอบนี้จะมีอัพเดตสำหรับ Team Foundation Server (TFS) ด้วย ส่วนฟีเจอร์ใหม่ของ Update 2 จะเปิดเผยในเร็วๆ นี้

ชุมชนผู้ใช้งานเฟรมเวิร์คจาวาสคริปต์ Node.js ร่วมกันดัดแปลง Python Tools for Visual Studio ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนา Python บน Visual Studio ของไมโครซอฟท์ ให้ใช้งานกับ Node.js ได้

ผลออกมาเป็น Node.js Tools for Visual Studio ที่ใช้ได้กับทั้ง Visual Studio 2012 และ 2013 ทำให้ Visual Studio เหมาะกับการเขียนโค้ด Node.js มากขึ้น ทั้งการแก้ไข, การช่วยคาดเดา Intellisense, การทำ profiling/debugging รวมถึงการเขียน Node.js เพื่อใช้กับ Azure หรือบริการกลุ่มเมฆอื่นๆ ด้วย

ข่าวนี้ต่อจาก ไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio Online บริการกลุ่มเมฆสำหรับการพัฒนาโปรแกรม ซึ่งไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว IDE สำหรับเขียนโปรแกรมผ่านเบราว์เซอร์ชื่อ "Monaco"

ZDNet มีเบื้องหลังการสร้าง Monaco ว่าเกิดจากฝีมือของ Erich Gamma อดีตพนักงานของ IBM และผู้นำฝ่ายเทคนิคของโครงการ Eclipse ที่ย้ายมาอยู่กับไมโครซอฟท์เมื่อปี 2011 โดยเขาตั้งศูนย์วิจัยสาขาในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีเพื่อนร่วมงานของเขาที่ IBM จำนวนหนึ่งย้ายมาร่วมทีมด้วย

ไมโครซอฟท์จัดงานเปิดตัว Visual Studio 2013, .NET 4.5.1, Team Foundation Server 2013 และอัพเดต Visual Studio 2012 Update 4 อย่างเป็นทางการ (รายละเอียดของ VS2013 ว่ามีอะไรใหม่ ย้อนดูในข่าวเก่า)

สิ่งที่เป็นของใหม่จริงๆ ในงานนี้กลับเป็นการเปิดตัว Visual Studio Online บริการกลุ่มเมฆสำหรับการพัฒนาโปรแกรม ถือเป็นส่วนขยายของ Visual Studio ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต (ลักษณะเดียวกับ Office.com ที่เป็นส่วนต่อขยายของ Microsoft Office มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว)

หลังการเปิดตัว Windows 8.1 ไมโครซอฟท์ก็อัพเดตชุดพัฒนาทันที เป็นชุดทั้ง Visual Studio 2013, .NET 4.5.1, และ Team Foundation Server 2013 ฟีเจอร์สำคัญมาจากฝั่ง IDE เช่น

S. Somasegar รองประธานบริษัทฝ่าย Developer Division เผยในบล็อกของเขาว่า ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Visual Studio 2013 Preview และ .NET Framework 4.5.1 Preview ให้ดาวน์โหลดแล้ว ดาวน์โหลดได้ที่นี่

ในการประกาศสิ่งใหม่ๆ ด้านการพัฒนาโปรแกรมที่งาน TechEd North America นอกจากไมโครซอฟท์เปลี่ยนวิธีคิดเงิน Windows Azure เป็นรายนาที และใช้สิทธิ์ลงโปรแกรมจาก MSDN ได้ วันนี้บริษัทได้เผย Visual Studio 2013 (VS 2013) และ Team Foundation Server 2013 (TFS 2013) เป็นทางการ และได้เผยการปรับปรุงเพิ่มเติมเกี่ยวกับด้าน Application Lifecycle Management (ALM) ดังนี้

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตตัวที่สองของ VS2012 หลังจากออกรุ่นอัพเดตแรกที่เป็นแค่แก้บั๊กเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

VS2012 Update 2 (VS2012.2) มีฟีเจอร์เพิ่มเข้ามาทั้งหมด 5 ด้าน

ไมโครซอฟท์เปิดตัว __Office Developer Tools for Visual Studio 2012__ ซึ่งเป็นส่วนเสริมให้ Visual Studio 2012 สามารถพัฒนา "แอพ" ให้กับ Office 2013 และ SharePoint 2013 ได้สะดวกยิ่งขึ้น

คำว่า "แอพ" ในที่นี้คือ Apps of Office และ Apps for SharePoint ซึ่งเป็นส่วนเสริมหรือส่วนขยายที่สร้างด้วยเทคโนโลยีเว็บ (HTML5/JavaScript) แสดงผลใน task pane หรือภายในเนื้อหาของเอกสารโดยตรง ([ข่าวเก่า](http://www.blognone.com/node/30773))

เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือต้องการผลักดันให้ภาคธุรกิจสร้างส่วนเสริมของ Office/SharePoint ผ่านแอพเหล่านี้ เพื่อต่อยอดเครื่องมือธุรกิจบนแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์นั่นเอง

Xamarin ทีมงานเดิมของโครงการ Mono ที่หันไปเน้นการเขียนแอพมือถือด้วย C# ประกาศข่าวใหม่ 4 เรื่อง ดังนี้

ไมโครซอฟท์ประกาศข่าวว่าเครื่องมือพัฒนาโปรแกรมของตัวเอง 2 ตัวคือ Visual Studio และ Team Foundation Server รองรับระบบการจัดการเวอร์ชันซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์ส Git แล้ว

Git เป็นระบบการจัดการเวอร์ชันซอฟต์แวร์แบบกระจายศูนย์ (distributed version control systems หรือ DVCS) ที่พัฒนาโดย Linus Torvalds เพื่อใช้กับเคอร์เนลของลินุกซ์แทนระบบ BitKeeper เดิม ปัจจุบัน Git ได้รับความนิยมสูงมากในโลกโอเพนซอร์ส และเริ่มขยายตัวเข้ามาสู่โลกซอฟต์แวร์แบบปิดโค้ดด้วยเช่นกัน

ไมโครซอฟท์อธิบายเหตุผลของการสนับสนุน Git เพราะเห็นว่า DVCS คืออนาคตของการจัดการเวอร์ชันซอฟต์แวร์ และจากการประเมินระบบที่มีในท้องตลาดแล้ว Git เหมาะสมที่สุด (เทียบกับตัวอื่นๆ อย่าง Mercurial หรือสร้างขึ้นมาใหม่เอง)

Visual Studio 2012 และ .NET 4.5 เข้าสถานะ RTM ไปเมื่อเดือนที่แล้ว วันนี้ไมโครซอฟท์จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (ตามคิวคือถัดจาก Windows Server 2012 แต่ก่อน Windows 8 ในเดือนตุลาคม)

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows 8 ได้พัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทีม Visual Studio ก็ออกมาประกาศว่าการ build ครั้งสุดท้ายของ Visual Studio 2012 เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างเตรียมการจัดจำหน่าย และขอแสดงความยินดีกับทีมงาน Windows ที่ได้พัฒนา Windows 8 เสร็จสมบูรณ์ในวันนี้เช่นเดียวกัน

Visual Studio 2012 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 12 กันยายน โดยการถ่ายทอดสดผ่านทาง www.visualstudiolaunch.com และจะเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านทาง MSDN ในวันที่ 15 กันยายน นี้

วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศข่าว RTM ชุดใหญ่ ถัดจาก Windows 8 และ Windows Server 2012 ก็ยังมี Visual Studio 2012 และ .NET Framework 4.5 ที่เข้าสถานะ RTM พร้อมกัน

ผู้ที่เป็นสมาชิก MSDN สามารถดาวน์โหลดรุ่นสมบูรณ์มาใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ (ผู้ที่ใช้รุ่น Professional, Premium, Test Professional, Ultimate จะได้ของแถมเป็นบัญชีนักพัฒนาบน Windows Store ฟรีหนึ่งปี) ส่วนงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นวันที่ 12 กันยายนทางเว็บไซต์ visualstudiolaunch.com

หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศหักดิบว่า Visual Studio Express 2012 จะรองรับการพัฒนาแอพแบบ Metro เท่านั้น ในที่สุดบริษัทก็ทนต่อข้อเรียกร้องจากนักพัฒนาไม่ไหว โดยได้ประกาศว่าจะเพิ่ม Visual Studio Express 2012 for Windows Desktop เข้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Express เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มาตามนัดเช่นเดียวกัน ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Visual Studio 2012 RC (Release Candidate) ออกมา สิ่งสำคัญที่ได้รับการปรับปรุง คือส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) นั้นมีสีสันแล้ว

ข่าวร้ายสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมสายไมโครซอฟท์ทุกท่านครับ เพราะไมโครซอฟท์เปลี่ยนนโยบายของ Visual Studio 11 Express รุ่นแจกฟรีแล้ว โดยจากนี้ไปมันจะสามารถใช้พัฒนาได้แค่แอพแบบ Metro เท่านั้น ไม่สามารถใช้พัฒนาแอพ Win32 หรือ .NET แบบเดิมได้

ดังนั้นถ้าอยากพัฒนาแอพแบบเดิมๆ ของวินโดวส์ นักพัฒนามีทางเลือกเหลือ 2 ทางคือ

• ยอมจ่ายเงิน 500 ดอลลาร์ ซื้อ Visual Studio 11 Professional
• กลับไปใช้ Visual Studio 2010 Express ที่ยังใช้ได้ฟรีเหมือนเดิม

เรียกว่างานนี้ไมโครซอฟท์ตัดสินใจหักดิบสุดๆ กะดัน Metro ให้เกิดแบบเต็มตัว คำถามคือนักพัฒนาจะคิดแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า?