เจ้าหน้าที่ของประเทศเบลเยียมได้ประกาศผลการพิจารณาออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า การขายไอเท็มแบบสุ่มหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Loot Box นั้นละเมิดกฎหมายการพนันของประเทศ หากผู้จัดจำหน่ายไม่นำระบบนี้ออกจากเกมจะถูกลงโทษทั้งจำคุกและเสียค่าปรับ โดยเกมที่เข้าข่ายนี้คือ FIFA 18, Overwatch และ Counter-Strike: Global Offensive

สามบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ถูกคณะกรรมการการค้ายุติธรรมของเกาหลีใต้ (Korea Fair Trade Commission หรือ KFTC) ปรับเป็นจำนวนเงินเกือบหนึ่งล้านดอลลาร์จากกรณีการหลอกลวงผู้บริโภคถึงอัตราสุ่มของสิ่งที่จะได้รับจากการซื้อ Loot Box

สามบริษัทดังกล่าวประกอบด้วย NextFloor (ถูกปรับ 4,600 ดอลลาร์) Netmarble (55,000 ดอลลาร์) และ Nexon ซึ่งถูกปรับเป็นจำนวนเงินสูงที่สุด (875,000 ดอลลาร์) โดยมาจากเกมดังของพวกเขาอย่าง Sudden Attack

คณะกรรมการจัดเรตสื่อซอฟต์แวร์บันเทิง หรือ ESRB (Entertainment Software Rating Board) ของสหรัฐอเมริกาประกาศเตรียมติดฉลากแจ้งเตือน “การจ่ายเงินเพื่อซื้อของเพิ่มเติมภายในเกม” หรือ in-game purchase บนกล่องเกมที่วางขายตามร้านทั่วไปที่มีระบบดังกล่าว

โดยฉลากนี้จะถูกติดอยู่ด้านข้องของเครื่องหมายเรทติ้งเกม แต่แยกออกมาจากคำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาอื่นๆ ภายในเกมที่มีอยู่เดิมอย่าง “มีความรุนแรง” “มีภาพเปลือย” หรือ “มีเนื้อหาเกี่ยวของกับเรื่องเพศอย่างรุนแรง”
ฉลากดังกล่าวนั้นจะถูกติดบนทุกเกมที่มีเนื้อหาเพิ่มเติมที่สามารถซื้อเพิ่มภายในเกมได้ ซึ่งครอบคลุมถึง ฉากพิเศษ, สกิน, ไอเท็มที่มีการสุ่ม (เช่น แพ็คไอเท็มพิเศษ loot box หรือ รางวัลพิเศษอื่นๆ), เพลงประกอบ, สกุลเงินภายในเกมและรูปแบบอื่นๆ ของค่าเงินภายในเกม, ระบบ subscription, season pass, และการอัพเกรดอื่นๆ (เช่น การจ่ายเงินเพื่อปิดโฆษณา)

เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 เรื่อง Loot Box หรือกล่องสุ่มไอเท็มภายในเกมนั้นเข้าข่ายการพนันหรือไม่ เคยเป็นประเด็นถกเถียงเผ็ดร้อนในประเทศเบลเยียม แต่ในขณะนี้ ประเด็นนี้กำลังถูกพูดถึงอีกครั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ 3 วุฒิสมาชิกจากของวอชิงตันได้ส่งร่างกฏหมายให้ทางรัฐพิจารณาว่า Loot Box นั้นเข้าข่ายการพนันหรือไม่ ซึ่งหากเข้าข่ายจริง จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อวงการเกมในสหรัฐอเมริกา

ร่างกฏหมายดังกล่าวได้ถูกเสนอในวันที่ 11 มกราคม 2018 และจะเปิดให้ฟังความคิดเห็นจากสาธารณะในวันที่ 31 มกราคม 2018 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา