วงการสมาร์ทโฟนปรับแต่งได้ตามใจเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเจ้าพ่อวงการเครื่องเสียงจากเยอรมนี Sennheiser เป็นบริษัทล่าสุดที่เข้ามามีเอี่ยว ด้วยการให้ความช่วยเหลือกับทีม Phonebloks ผู้อยู่เบื้องหลัง Project Ara ของกูเกิลแล้ว

การเข้ามาของ Sennheiser จะช่วยในแง่ของการทำโมดูลเกี่ยวกับเสียงโดยเฉพาะ อย่างเช่นการใส่ฟังก์ชันประมวลผลเสียงระดับสูงลงไปในการสั่งงานด้วยเสียง หรือการส่งสัญญาณเสียง เป็นต้น

จากการเข้ามาของ Sennheiser ก็พอบอกได้ว่าคนในวงการใกล้เคียงกันก็ให้ความสนใจกับแนวคิดสมาร์ทโฟนแบบใหม่นี้ไม่ใช่น้อย ช่วงต้นปีหน้า Project Ara คงมีผู้ผลิตวงการอื่นๆ เข้ามาร่วมวงอีกไม่น้อยครับ

ในงานสัมมนา Ara Developers' Conference นอกจากจะประกาศว่ามือถือจาก Project Ara รุ่นแรกอย่าง grey phone จะเริ่มวางขายอย่างเร็วเดือนมกราคมปีหน้าแล้ว กูเกิลจะยังจัดงานแข่งขันเกี่ยวกับ Project Ara เพื่อชิงเงินรางวัล 100,000 เหรียญอีกด้วย

การแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้นักพัฒนาแข่งกันออกแบบโมดูลสำหรับใช้ใน Project Ara โดยกฏเกณฑ์ที่ใช้ในการแข่งขันยังไม่ประกาศออกมา แต่มีรางวัลมาแล้ว โดยนอกจากจะได้รางวัลเป็นเงินแล้ว ผู้ชนะสองอันดับแรกจะได้ตั๋วบินฟรี พร้อมค่าใช้จ่ายไปงานสัมมนาของ Project Ara ในอนาคตอีกด้วย

ส่วนงานแข่งขันจริงๆ คาดว่าจะเริ่มประมาณเดือนกันยายนครับ

ที่มา - Android Authority

ก่อนหน้างานสัมมนาของ Project Ara ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า Google ก็ได้ปล่อยเอกสารข้อกำหนดพร้อมคำแนะนำในการออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนโมดูลสำหรับสมาร์ทโฟน Project Ara ให้นักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดไปศึกษากันได้แล้ว

ใกล้ถึงงานสัมมนาแรกของ Project Ara โครงการสมาร์ทโฟนถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ที่กำลังจะจัดในวันที่ 15-16 เมษายนนี้ ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้อย่าง Phonebloks ก็ออกมาปล่อยวิดีโอเบื้องหลังการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ว่าแล้ว

ในวิดีโอดังกล่าวเราจะได้เห็นตั้งแต่แนวคิดก่อนเริ่มทำ Project Ara ไปจนถึงวิธีการที่ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ถูกใส่เข้าไปในเฟรมได้อย่างไร ซึ่งก็ใส่ง่ายๆ ด้วยการสไลด์เข้าไปจนแม่เหล็กดูดติดเข้ากับบอร์ด ตัวโมดูลก็สามารถรับไฟได้แทบจะทันที

กูเกิลเพิ่งเปิดตัว Project Tango มือถือรุ่นต้นแบบที่สามารถสแกนสภาพแวดล้อมในห้องได้ โดยบอกสเปคคร่าวๆ มาว่ามีเซนเซอร์วัดระยะความลึก การหมุน และกล้อง ร่วมกับซอฟต์แวร์ที่เรนเดอร์โมเดลสามมิติรอบตัวอยู่ตลอดเวลา มีข้อมูลสเปคอย่างละเอียดของ Project Tango เผยออกมาใน Chromium ว่ามือถือรุ่นดังกล่าวจะรองรับ Chrome ด้วย

ในหัวข้อดังกล่าวระบุถึงกล้อง และเซนเซอร์วัดระยะรุ่นพิเศษที่ใช้ใน Project Tango ซึ่งมีทั้งหมดสี่ชนิด สำหรับทำหน้าที่ต่างกันไป ดังนี้

NASA เตรียมส่งเครื่องต้นแบบของ Project Tango ที่พัฒนาโดย Google ATAP (หน่วยงานวิจัยหน่วยหนึ่งของ Google) ขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติปลายเดือนพฤษภาคมนี้

สมาร์ทโฟนต้นแบบจำนวน 2 เครื่องจะถูกส่งขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ พร้อมกับอุปกรณ์และสัมภาระอื่น โดยตัวสมาร์ทโฟนของ Project Tango นี้จะถูกดัดแปลงติดตั้งเข้ากับ Sphere ซึ่งเป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติทรง 18 เหลี่ยมขนาดประมาณลูกฟุตบอล โดยแบตเตอรี่ Li-ion จะถูกถอดออกและใช้แบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 6 ก้อนแทน ส่วนชิปของระบบการโทรก็ถูกถอดออกเช่นกัน และมีการเพิ่มแผ่นปิดครอบหน้าจอเพื่อป้องกันการแตกเมื่อเกิดการกระแทกของ Sphere

ช่วงนี้ยังมีข้อมูลของ Project Ara โครงการพัฒนาสมาร์ทโฟนปรับสเปคได้เองจากกูเกิลออกมาอยู่เรื่อยๆ ในงาน LAUNCH ซึ่งจัดโดยผู้บุกเบิกยุคดอทคอมอย่าง Jason Calacanis (ผู้ก่อตั้ง Weblogs) มีพนักงานกูเกิลมาเปิดเผยข้อมูลของ Project Ara เพิ่มเติมในงานด้วย

ตัวคลิปที่ออกมายาวครึ่งชั่วโมง มีข้อมูลของ Project Ara อยู่หกนาที แต่วิดีโอถูกปรับให้กลายเป็นส่วนตัวไปแล้ว จึงขอยกประเด็นน่าสนใจมาเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

นอกจากจะเปิดงานสัมมนาสำหรับ Project Ara โครงการพัฒนาโทรศัพท์ปรับแต่งสเปคได้ ทีมงานเบื้องหลังโครงการนี้พูดถึงราคาของมือถือรุ่นแรกของ Project Ara (มีชื่อเล่นว่า Grayphone) ว่าตั้งเป้าไว้ที่ 50 เหรียญต่อเครื่อง

ในราคา 50 เหรียญ ผู้ซื้อจะได้โครงของตัวเครื่องที่มีกรอบ หน้าจอ และชิป Wi-Fi เท่านั้น ส่วนใครอยากเลือกสเปคในส่วนไหนก็จัดการซื้อมาต่อเติมเพิ่มกันเอง

สำหรับการประกอบตัวเครื่อง กูเกิลวางแผนจะสร้างร้านเล็กๆ ให้ผู้ใช้ที่ซื้ออุปกรณ์สามารถมาประกอบเครื่องได้ โดยจะมีเครื่องมือที่จำเป็นเตรียมไว้ให้

ถ้ายังจำกันได้ Project Ara โทรศัพท์ปรับสเปค-เปลี่ยนชิ้นส่วนเองได้ ถูกย้ายจากโมโตโรลามาอยู่กับกูเกิล (ในชื่อ Google ATAP)

ตอนนี้สถานะของโครงการนี้คือเดินหน้าเต็มตัว และกูเกิลก็ประกาศจัดงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนาในชื่อ Ara Developers' Conference แล้ว งานครั้งแรกจะจัดวันที่ 15-16 เมษายนที่แคลิฟอร์เนีย เปิดให้คนเข้าร่วมไม่เยอะแต่จะถ่ายทอดสดผ่านเว็บ และเปิดให้ถามตอบผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา

แผนการของกูเกิลคือจะออก Ara Module Developers’ Kit (MDK) รุ่นอัลฟ่าในช่วงต้นเดือนเมษายน

ถ้ายังจำกันได้ โมโตโรลามีหน่วยวิจัยพิเศษชื่อ Advanced Technology and Projects ที่เคยคิด Project Ara มือถือถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ หน่วยวิจัยนี้ไม่ถูกขายให้กับเลอโนโว และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิลในชื่อ ATAP

ล่าสุด ATAP ออกมาเผยข้อมูลของ Project Tango มือถือต้นแบบที่ฝังเซ็นเซอร์ที่บอกได้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนในห้องปิด

ถึงแม้กูเกิลจะขายกิจการโมโตโรลาให้เลอโนโว นอกจากที่กูเกิลจะยังคงความเป็นเจ้าของสิทธิบัตรส่วนใหญ่ของโมโตโรลาแล้ว เว็บไซต์ Engadget รายงานว่า แผนก Advanced Technology and Projects ก็ยังคงอยู่กับกูเกิลต่อไป โดยจะถูกยุบรวมเข้ากับทีมพัฒนา Android แทน

แผนกดังกล่าวรับผิดชอบหลากหลายโครงการ ทั้งการพัฒนาระบบตรวจสอบและจำแนกบุคคลโดยใช้รอยสักดิจิทัลหรือเม็ดยาอิเล็กทรอนิกส์ที่โมโตโรลาโชว์ในงาน D11 ปีที่ผ่านมา หรือโครงการ Ara โทรศัพท์ปรับสเปคเองได้ ก็ต้องตามกันต่อว่ากูเกิลจะผลักดันโครงการ Ara หรืองานในโครงการดังกล่าวให้ออกสู่ตลาดหรือไม่ครับ