กูเกิลประกาศอัพเดตโมเดลภาษา Gemini ทั้งรุ่น Flash และรุ่น Pro กลายเป็นเวอร์ชั่น Gemini-1.5-Pro-002 และ Gemini-1.5-Flash-002 ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือทั้งสองโมเดลทำคะแนนทดสอบได้ดีขึ้นแทบทุกชุดทดสอบ โดย Gemini-1.5-Flash-002 นั้นทำคะแนนได้ดีขึ้นจนแซง Gemini-1.5-Pro-001 ไปหลายชุดทดสอบ
การอัพเดตรอบนี้ยังลดราคา Gemini Pro ลงทั้งอินพุตและเอาท์พุตลง พร้อมกับเพิ่มเพดานการใช้งานเป็น 2,000 RPM สำหรับ
กูเกิลยังรายงานการให้บริการว่าที่ผ่านมาอัตราการตอบของ Gemini Flash ดีขึ้นเรื่อยๆ จนแตะ 300 token/s แล้ว ขณะที่ latency ก็ค่อยๆ ลดลงจนเหลือ 300ms เท่านั้น
โมเดลเวอร์ชั่น 002 มีให้บริการแล้วใน AI Studio และ Vertex AI
กูเกิลประกาศขยายความสามารถปัญญาประดิษฐ์ Gemini ให้กับผู้ใช้งานที่มากขึ้น โดยลูกค้า Workspace Business, Enterprise และ Frontline จะสามารถใช้งาน Gemini ได้ทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จากเดิมที่บัญชีองค์กรต้องซื้อแพ็คเกจใช้ Gemini เพิ่มต่างหาก แต่ตอนนี้กูเกิลเพิ่มให้ลูกค้าเลยโดยไม่คิดเงินเพิ่ม
ลูกค้า Workspace สามารถใช้งาน Gemini ได้โดยยังอยู่ในระบบป้องกันความปลอดภัยข้อมูลขององค์กร ตลอดจนเงื่อนไขกฎระเบียบที่องค์กรกำหนดไว้ ไม่มีการนำข้อมูลองค์กรมาใช้เทรนเพื่อปรับปรุง Gemini เพิ่มเติม
กูเกิลออกอัพเดตให้ระบบปฏิบัติการ Google TV เนื่องในโอกาสวางขาย Google TV Streamer วันนี้ (24 กันยายน) โดยปรับฟีเจอร์ของ Google TV บนสมาร์ททีวีรุ่นต่างๆ ให้มาเท่ากับ Google TV Streamer
กูเกิลเปิดตัว DataGemma โมเดล LLM ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหลอน (hallucination) ที่มักพบในโมเดล LLM จากการมั่นใจแล้วให้ข้อมูลที่ผิดพลาด ซึ่งกูเกิลแก้ปัญหานี้ด้วยการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลปัจจุบันในการอ้างอิง
แพลตฟอร์มที่กูเกิลใช้เรียกว่า Data Commons เป็น Knowledge Graph ที่มีชุดข้อมูลมากกว่า 240 พันล้านจุด ใช้แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือทั้งจาก United Nations (UN), World Health Organization (WHO), Centers for Disease Control and Prevention (CDC) และ Census Bureaus ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็น AI ที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
กูเกิลเริ่มทยอยปล่อย Gemini Live บริการแชทบอทโต้ตอบด้วยเสียงแบบเรียลไทม์ ให้กับผู้ใช้ Android ทั่วไป หลังปล่อยให้ผู้สมัครแพ็กเกจเสียเงิน Gemini Advanced ตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ประกาศของกูเกิลระบุแค่ว่ายังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ และต้องใช้ผ่านแแอพ Gemini บน Android เท่านั้น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าผู้ใช้แบบฟรีได้จะใช้งานโมเดล Gemini 1.5 Pro ที่เก่งกว่าเวอร์ชันฟรีด้วยหรือไม่
ที่มา - 9to5google
กูเกิลประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ให้ NotebookLM แอปจดบันทึกที่ทำงานด้วย Gemini 1.5 ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้งานในไทยได้ด้วย โดยฟีเจอร์ใหม่มีชื่อว่า Audio Overview
ถ้าอธิบายแบบให้เห็นภาพง่ายที่สุด Audio Overview จะทำการแปลงเนื้อหาในเอกสารของผู้ใช้งาน ให้เป็นรายการพอดคาสต์ที่มีผู้ดำเนินรายการสองคน ... โดยจะสร้างเสียงขึ้นเป็นสองผู้ดำเนินรายการด้วย AI แล้วทั้งคู่จะสนทนาบนเนื้อหาต้นฉบับ สรุป และเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ในนั้น ผู้ใช้งานยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์เสียงนี้ออกมาได้ด้วย
การใช้งานทำได้โดยเปิด Notebook แล้วเลือก Generate เพื่อสร้างเสียง Audio Overview
กูเกิลประกาศว่าฟีเจอร์ Ask Photos ใน Google Photos ที่เปิดตัวในงาน I/O เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผู้ใช้งานสามารถค้นหารูปภาพด้วยคำถามภาษาธรรมชาติ (natural language) ซึ่งใช้ Gemini AI ช่วยค้นหา ตอนนี้เปิดให้ใช้งานแบบ Early Access แล้วสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มหนึ่งในอเมริกา
ใน Ask Photos ผู้ใช้งานสามารถถามคำถาม ซึ่ง Gemini สามารถเข้าใจรายละเอียดจากภาพและค้นหาคำตอบให้เช่น "Where did we camp last time we went to Yosemite?" หรือ "What did we eat at the hotel in Stanley?"
กูเกิลยังเดินหน้าผนวก Gemini เข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตัวเองต่อไป เหยื่อรายล่าสุดที่โดน Gemini กลืนกินคือ Google Forms ที่เพิ่มฟีเจอร์ Help me create a form ให้ช่วยสร้างคำถามและตัวเลือกในฟอร์มอัตโนมัติ จาก prompt ที่เรากำหนดไว้ เช่น ช่วยสร้างฟอร์มแบบสอบถามงานเอาติ้งของบริษัทให้หน่อย
ตัวอย่างการใช้งานที่กูเกิลนำมาโชว์ ได้แก่
Android Talkback ฟีเจอร์อ่านหน้าจอสำหรับคนพิการทางสายตาของ Android เริ่มนำ Gemini เข้ามาช่วยบรรยายภาพบนหน้าจอ ด้วยความสามารถของโมเดล Gemini ที่เป็น multimodal เข้าใจรูปภาพด้วย ทำให้บรรยายภาพได้ละเอียดขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพในเครื่อง ภาพในข้อความแชท หรือภาพบนอินเทอร์เน็ตทั่วไปก็ตาม
เมื่อต้นปีนี้ กูเกิลเคยออกฟีเจอร์ AI บรรยายภาพในลักษณะเดียวกัน แต่ยังจำกัดเฉพาะแอพ Android Lookout ที่เป็นแอพแยกต่างหากสำหรับการบรรยายภาพ ข่าวนี้คือการผนวกเข้ามาที่ตัว Talkback เลย และใช้โมเดล Gemini ที่มีความสามารถมากขึ้น
กูเกิลปล่อยฟีเจอร์ Gmail Q&A ให้แอพ Gmail บน Android สามารถใช้ Gemini ช่วยค้นหาข้อมูลในอีเมลเก่าๆ ของเราแล้วมาตอบคำถามเราได้เลย (เช่น "What was the PO number for my agency?")
ฟีเจอร์นี้เปิดใช้มาก่อนแล้วใน Gmail เวอร์ชันเว็บ โดยแสดงเป็นแถบ sidebar ด้านข้าง ส่วนเวอร์ชัน iOS จะตามมาในระยะถัดไป
การใช้งานฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องจ่ายแพ็กเกจ Google One AI Premium หรือฝั่งธุรกิจจำเป็นต้องมี Gemini Business/Enterprise ด้วย
ที่มา - Google Workspace
กูเกิลประกาศความร่วมมือกับ OpenStax โครงการหนังสือเรียนฟรีของมหาวิทยาลัย Rice ทำให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามต่างๆ จาก Gemini โดยระบุว่าต้องการข้อมูลจาก OpenStax ได้
ตอนนี้ OpenStax มีหนังสือเรียนกว่า 70 วิชา ตั้งแต่มัธยมไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
กูเกิลเปิดประกาศความร่วมมือนี้โดยพยายามแสดงว่า Gemini ใช้สำหรับการเรียนได้ เช่น การสร้าง Gems สำหรับสอนบทเรียน หรือการสรุปเนื้อหาด้วยการอัพโหลดเอกสารทั้งเล่มลงไปใน Gemini
OpenStax ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้ Gemini ในสหรัฐฯ ที่อายุเกิน 18 ปี และต้องเมนชั่น @OpenStax โดยตรง อย่างไรก็ดี การถาม OpenStax ก็ยังได้คำตอบจากแหล่งอื่นๆ เข้ามาด้วย ไม่ได้จำกัดตายตัว
นอกจากประกาศอัปเดตเครื่องมือสร้างแชทบอตคัสตอม Gems แล้ว กูเกิลยังประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ Imagen 3 เครื่องมือสร้างรูปภาพจากข้อความ (Text-to-Image) รุ่นใหม่ ที่มีรายงานว่าเริ่มเปิดให้ใช้งานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โดยนอกจาก Imagen 3 จะรองรับการสร้างรูปที่มีคุณภาพสูงขึ้น ละเอียดมากขึ้น และสมจริงมากขึ้น รวมทั้งรองรับระบบลายน้ำ SynthID เหมือนใน Imagen 2 แล้ว Imagen 3 จะกลับมาให้ผู้ใช้งานสร้างรูปภาพบุคคลได้อีกครั้ง หลังจากกูเกิลปิดการทำงานส่วนนี้ไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพราะพบปัญหาการสร้างรูปภาพที่ไม่ถูกต้อง
กูเกิลประกาศว่า Gems เครื่องมือสร้างแชทบอต AI แบบคัสตอม สามารถกำหนดรูปแบบที่ต้องการได้เองเหมือนกับ GPTs ของ OpenAI เริ่มอัปเดตให้กับลูกค้า Gemini Advanced, Business และ Enterprise รองรับมากกว่า 150 ประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
กูเกิลเปิดตัว Gems ในงาน Google I/O เมื่อเดือนพฤษภาคม โดย Gems สามารถกำหนดค่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง หรือมีความสามารถเจาะจงเฉพาะสิ่งที่ต้องการ กูเกิลยังเพิ่มค่าตั้งต้นของ Gems ให้การเริ่มใช้งานทำได้ง่ายขึ้น เช่น เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะหัวข้อ, เป็นคนตรวจสอบไวยากรณ์, เป็นผู้ตรวจสอบโค้ด เป็นต้น
กูเกิลประกาศปล่อยฟีเจอร์ “take notes for me” ที่ให้ Gemini ช่วยสรุปการประชุมใน Google Meet อัตโนมัติ ประชุมเสร็จแล้วสามารถแปลงไฟล์สรุปประชุมไปลง Google Docs ได้ด้วย
ฟีเจอร์แนวนี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะปี 2023 กูเกิลเคยทำฟีเจอร์ Duet AI สรุปประชุม Meet มาก่อน เพียงแต่รอบนี้อัพเกรดตัวโมเดลเป็น Gemini ที่มีความสามารถมากขึ้น วิธีการใช้งานคือมีปุ่ม Gemini โผล่มาตรงมุมขวาบน กดแล้วสั่งให้ Gemini ช่วยฟังการประชุมพร้อมจดโน้ตได้เลย
ฟีเจอร์นี้ยังใช้งานได้เฉพาะบนคอมพิวเตอร์ รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น และจำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจพรีเมียม Gemini Enterprise หรือซื้อส่วนขยาย AI Meetings & Messaging จากแพ็กเกจปกติ
กูเกิลเปิดตัว Gemini Flash 8B โมเดลแบบปิดที่ภายในเป็นโมเดลขนาดเล็กมากเพียง 8B เท่านั้น แต่ยังได้ความสามารถหลักคล้ายกับโมเดลเต็ม เช่น multimodal รองรับทั้งเสียงและภาพ, รองรับอินพุตถึง 1 ล้านโทเค็น
ที่จริงแล้ว Flash-8B ถูกเปิดเผยในรายงานของ Gemini 1.5 ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา แต่ระบุเพียงว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยคะแนนที่เปิดเผยออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าคะแนนทดสอบลดลงจาก Gemini 1.5 Flash ค่อนข้างชัดเจน หากเทียบกับ Llama 3.1 8B ก็ยังถือว่าคะแนนแย่กว่าในการทดสอบส่วนใหญ่ แต่ฟีเจอร์ multimodal และ context window ก็ทำให้มีแนวทางการใช้งานที่หลากหลาย ผมทดลองแปลงเสียงภาษาไทยเป็นข้อความด้วย Gemini Flash-8B ก็ใช้งานได้ค่อนข้างแม่นยำ
กูเกิลเริ่มปล่อยฟีเจอร์ใหม่ "Help me create a list" ของ Google Keep ที่ให้ Gemini ช่วยสร้างลิสต์สิ่งที่ต้องทำให้เราได้
ตัวอย่างการใช้งานคือ เราสามารถสั่ง Gemini ให้สร้างรายการซื้อของสดสำหรับครอบครัว 4 คน ใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่ง Gemini จะร่างรายการซื้อผักสด ผลไม้สด เนื้อ ปลา นม ขนมปัง ฯลฯ มาให้เราอัตโนมัติ หากโอเคแล้วก็กดปุ่มเพื่อสร้างเป็นรายการ list ใน Google Keep ได้ทันที
9to5google รายงานว่าฟีเจอร์นี้ทยอยปล่อยให้มือถือหลายรุ่นใช้งานแล้ว โดยใช้ฟรีบนมือถือกลุ่ม Pixel แบบจำกัดจำนวนครั้ง แต่ถ้าเป็นมือถือ Android รุ่นอื่นๆ หรืออยากใช้แบบไม่จำกัดบน Pixel จำเป็นต้องสมัครแพ็กเกจ Google One AI Premium
กูเกิลปรับปรุงความสามารถของฟีเจอร์ "Help me write" ที่ใช้ Gemini AI ช่วยเขียนอีเมลใน Gmail โดยมีของใหม่ดังนี้
เดิม Help me write มีตัวเลือกในการปรับแก้ไขอีเมลที่เขียนไว้ได้แก่ Formalize (ทางการ), Elaborate (ขยายความ) และ Shorten (ย่อความ) ในอัปเดตนี้กูเกิลเพิ่มตัวเลือกใหม่คือ Polish ที่เป็นการปรับแต่งข้อความที่ใช้ให้สวยงามขึ้น
นอกจากนี้กูเกิลยังเพิ่มทางลัดในการเรียกใช้ Help me write สำหรับ Gmail บน iOS และ Android โดยมีปุ่มให้เลือกในหน้าร่างจดหมาย และเมื่อเริ่มพิมพ์ร่างจดหมายไปอย่างน้อย 12 คำ จะปรากฏแท็บ Refine my draft เพื่อเรียกใช้คำสั่งปรับแก้ไขอีเมลในรูปแบบต่าง ๆ ที่ต้องการ
ในงานเปิดตัว Pixel 9 ของใหม่ที่กูเกิลไม่ได้พูดลงรายะเอียดมากนักคือชิป Tensor G4 ที่เป็นชิปคัสตอมเองรุ่นที่ 4 แล้ว สิ่งที่กูเกิลพูดในงานคือ Tensor G4 เป็นครั้งแรกที่ทีม DeepMind มาทำงานร่วมกับทีม Google Silicon โดยตรง เพื่อให้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ทำงานได้ดีที่สุด
เว็บไซต์ Tom's Hardware มีโอกาสสัมภาษณ์ตัวแทนจาก DeepMind และ Google Silicon เพื่อขยายความเรื่องนี้
ของใหม่ที่เปิดตัวพร้อม Pixel 9 เมื่อคืนนี้คือ Gemini Live หรือปัญญาประดิษฐ์ Gemini เวอร์ชันคุยโต้ตอบเสียงได้ตลอดเวลา แถมผู้ใช้ยังพูดแทรกได้เลย ไม่ต้องรอ Gemini พูดจบก่อนเหมือนกับ Google Assistant ในอดีต
ตอนนี้ Gemini Live ยังใช้ได้เฉพาะบน Pixel 9 แต่จริงๆ แล้วมันจะเปิดให้ผู้ที่ซื้อแพ็กเกจ Gemini Advanced ใช้งานได้ด้วย
เว็บไซต์ The Verge มีโอกาสทดสอบ Gemini Live ในงานเปิดตัว Pixel 9 และพบว่าใช้งานได้ดี ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับเด็กวัยสักประมาณ 9 ขวบที่พูดอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ The Verge ยังได้คำยืนยันจากกูเกิลว่า Gemini Live เวอร์ชัน iOS จะตามมาในอีกไม่ช้า
นอกจากสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel 9 และสมาร์ทวอทช์ Pixel Watch 3 แล้ว กูเกิลก็เปิดตัวหูฟัง Pixel Buds Pro 2 รุ่นถัดจากรุ่นแรกที่ออกมาเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ปรับปรุงการออกแบบ เพิ่มคุณภาพเสียง และเป็นหูฟังตระกูล Buds ตัวแรกที่สร้างมาเพื่อทำงานกับ Gemini
กูเกิลบอกว่า Pixel Buds Pro 2 มีขนาดเล็กลง 27% จากรุ่นก่อนหน้า และเบาลง 24% ในการออกแบบนั้นได้ศึกษารูปแบบใบหูถึง 45 ล้านรูปแบบ ออกมาเป็นหูฟังที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งแบบเน้นความสบายใส่ได้ทั้งวัน และแบบแน่นกระชับเวลาออกกำลังกาย โดยมีตัวปรับแบบบิดเพื่อเลือกรูปแบบที่ต้องการ
ในงาน Made by Google วันนี้กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Pixel 9 หลายรายการ โดยอาศัยฟีเจอร์ด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ Gemini Live, Pixel Studio, Pixel Screenshots, และ Call Notes
Gemini Live เปิดตัวตั้งแต่งาน Google I/O ที่ผ่านมา เป็นแอป Gemini เวอร์ชั่นเสียงที่สามารถตอบโต้ได้คล้ายการพูดคุยกับคนจริงๆ ฟีเจอร์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Pixel แต่ให้ทุกคนที่สมัครแพ็กเกจ Gemini Advanced ดังนั้นผู้ซื้อ Pixel 9 ทั้งหมดก็จะได้ใช้งานด้วย
Pixel Studio เป็นแอปสร้างภาพจากข้อความโดยอาศัยโมเดลในโทรศัพท์เอง และ Imagen 3 บนคลาวด์ สามารถใช้สร้างสติกเกอร์เฉพาะไว้คุยแชตได้
กูเกิลอัปเดตความสามารถของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั้ง Nest Camera และฟังก์ชันใน Google Home ด้วยพลังของ Gemini AI เพื่อให้รองรับการทำงานที่ฉลาดมากขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
ความสามารถแรก เป็นการแยกแยะข้อมูลในวิดีโอ โดย Nest Camera สามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจวัตถุที่เห็นในภาพดีขึ้น ไม่ใช่แค่จับว่ามีการเคลื่อนไหว ผู้ใช้งานสามารถค้นหาด้วยคำถามเช่น "Did the kids leave their bikes in the driveway?" แล้ว Google Home สามารถค้นวิดีโอย้อนหลังที่ตรงกับเงื่อนไขที่ถามออกมา
กูเกิลประกาศลดราคา Gemini 1.5 Flash ที่เพิ่งเปิดตัวมาเพียงสามเดือนลง 80% (อินพุต) ด้วยราคาระดับนี้ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น เช่น การใช้ถอดข้อความจากเสียงนั้นหลายครั้ง Gemini ทำได้ดีกว่าโมเดลแแปลงเสียงเป็นข้อความแล้ว
Gemini 1.5 Flash รองรับทั้งข้อความ, วิดีโอ, เสียง, และภาพ ราคาใหม่ อยู่ที่ 0.01875 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านตัวอักษร หากนับเป็นโทเค็นจะอยู่ที่ประมาณ 0.075 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเค็น ประมาณครึ่งหนึ่งของ GPT-4o mini ที่ราคาถูกที่สุดตอนนี้ ราคาฝั่งเอาท์พุตของ Gemini 1.5 Flash อยู่ที่ 0.15 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเค็น เทียบกับ GPT-4o mini อยู่ที่ 0.60 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเค็น
กูเกิลเพิ่มความสามารถให้ Chrome บนเดสก์ท็อป โดยนำเทคโนโลยี Google AI และ Gemini มาช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานมากขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
จากก่อนหน้านี้ Google Lens มีให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน ความสามารถนี้จะมีให้ใช้ในลักษณะคล้ายกันกับ Chrome บนเดสก์ท็อปแล้ว โดยเลือกไอคอน Google Lens บนกล่องที่อยู่ แล้วเลือกพื้นที่บนหน้าจอเพื่อค้นหาข้อมูล ซึ่งเป็นได้ทั้งรูปภาพ หรือข้อความที่อยู่ในรูป-วิดีโอ (เช่น สมการคณิตศาสตร์) แล้วปรับแต่งการค้นหาให้เจาะจงมากขึ้นผ่าน Multisearch ได้อีกด้วย
Google Lens บน Chrome เดสก์ท็อป จะเริ่มอัปเดตให้ผู้ใช้งานทั่วโลกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ไม่ได้มีแต่แอปเปิลเท่านั้นที่มีประเด็นเรื่องหนังโฆษณา ล่าสุดกูเกิลประกาศถอดโฆษณาที่ฉายเกาะกระแสโอลิมปิก เนื้อหาเป็นพ่อแนะนำให้ลูกใช้ Gemini ช่วยเขียนจดหมายถึงนักวิ่งที่ชื่นชอบ
โฆษณาชิ้นนี้เป็นกูเกิลร่วมกับทีมนักกีฬาสหรัฐ (Team USA) เนื้อหาเป็นพ่อที่สอนลูกสาวซึ่งสนใจกีฬาวิ่ง และเป็นแฟนของ Sydney McLaughlin-Levrone นักกรีฑาทีมชาติสหรัฐ จึงอยากเขียนจดหมายไปหา Sydney เพื่อแสดงความชื่นชม และบอกว่าในอนาคตอยากจะทำลายสถิติของ Sydney ให้ได้
ประเด็นที่เป็นปัญหาของโฆษณาชิ้นนี้คือการใช้ Gemini ช่วยแต่งจดหมายให้ แทนการให้ลูกสาวเขียนเอง ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่สะท้อนความตั้งใจของตัวลูกสาว และเรื่องแบบนี้ควรเขียนเองมากกว่าใช้ AI เข้ามาช่วย