หลายๆคนคงได้ลองใช้ eXeem กันไปพักใหญ่แล้ว ผมก็มีใช้เหมือนกันแต่ไม่ประสบความสำเร็จในการโหลดเอาเสียเลย ไม่รู้เป็นเพราะเนททุยรึเปล่า
ฟีเจอร์หลักของ eXeem ก็คือเรื่อง decentralised database ทำให้ไม่้ต้องพึ่ง tracker server เหมือนกับ Bittorrent ทั่วๆไป (อันจะช่วยให้ลับๆล่อๆได้ง่ายขึ้น :-P ) ตอนนี้ Azureus โปรแกรมเชิดหน้าชูตาของ Java ก็ได้ใส่ฟีเจอร์นี้เข้าไปด้วยแล้ว ใช้แล้วเป็นยังไงกันบ้าง ผมยังไม่ได้ลองเลย
หลังจากที่ทางฝั่งอเมริกานั้นมีการไล่จับผู้แชร์ไฟล์มีิลิขสิทธิ์บนเครือข่าย P2P กันขนานใหญ่มาหลายเดือนแล้ว ในตอนนี้ทางเอเชียก็เริ่มเอาเป็นแบบอย่างบ้าง โดย MPIA หรือ สมาคมอุตสาหกรรมภาพยนต์ของฮ่องกง ได้สั่งฟ้องนาย ฉาน อายุ 38 ปี ในข้อหาแชร์ภาพยนต์จำนวน 3 เรื่องได้แก่เรื่อง Dare Devil, Red Planet และ Miss Congeniality
นายฉานถูกจับกุมตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และกำลังไปขึ้นศาลในวันนี้ โดยหากนายฉานถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจติดคุกมากที่สุด 4 ปี และต้องเสียค่าปรับมากที่สุด 50,000 ดอลล่าห์ฮ่องกงต่อภาพยนต์หนึ่งเรื่อง
หวังว่าในไทยยังไม่มีนะ....
หลังจากหามาตรการสารพัดมาจัดการกับ P2P ล่าสุด ค่าย BMG ฟินแลนด์ก็ร่วมมือกับบริษัท Viralg เพื่อใช้เทคโนโลยี Virtual Algorithm ที่จะทำให้ไฟล์ที่ผู้ใช้ P2P ได้ขยะไปแทนที่จะเป็นเพลงหรือหนังที่จะโหลด
บริษัท Viralg นั้นยังไม่เป็นที่รู้จักในตอนนี้ แต่บริษัทก็พยายามจะหาลูกค้าจากบรรดาบริษัทนานาชาติทั้งหลาย
โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ใช้ช่องความหละหลวมของการป้องกันความผิดเพี้ยนของข้อมูล ในเครือข่าย P2P มาเป็นจุดแทรกข้อมูลเข้าไปในเครือข่าย ซึ่งถ้าทาง P2P พัฒนาการป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลให้ดีขึ้น ก็อาจจะชะงักได้เหมือนกัน
แต่คนโหลดก็อาจจะลำบากขึ้นหน่อย....
อีกก้าวที่สำคัญแห่งวงการลิขสิทธิ์เกิดขึ้นอีักแล้วครับ นั่นคือผู้ดำเนินการเว็บไฟล์แชร์ริ่งสองรายจากเครือข่ายที่ชื่อ Underground Network ถูกจับและแพ้คดี โดยบทลงโทษนั้นมีตั้งแต่ปรับสองแสนห้าหมื่นเหรียญไปจนจำคุกอีกห้าปี นับว่าหนักหนาสาหัสกันเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าจะเกิดขึันหลังจากนี้คือการปิดเว็บทั้งหลายที่แชร์ไฟล์กันอยู่ล่ะครับ น่าเศร้าเอาเหมือนกัน
ที่มา ABC13.com: Major step forward in the fight against piracy
จากข่าว Exeem เครื่องมือแชร์ไฟล์แบบใหม่ ที่จะมาแทน BitTorrent ตอนนี้เริ่มมีข่าวเพิ่มเข้ามาอีกแล้วครับ ส่วนมากข่าวมาจาก IRC ของกลุ่ม SuprNova เดิม ที่ SlashDot มีวิเคราะห์ข่าวลือค่อนข้างละเอียดพอสมควร Slashdot: Exeem "Successor" to Suprnova Announced
จาก thep2pweblog: ผู้สร้างเว็บ SuprNova ซึ่งเป็นข่าวไปไม่กี่วันนี้เนื่องจากการปิดตัวแบบทันทีทันใด กำลังร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่ดัดแปลงไปจาก BitTorrent ชื่อ exeem ซึ่งว่ากันว่าเป็น de-centralized bittorrent ซึ่งจะไม่อาศัย tracker เป็นตัวกลาง และสามารถ search หา torrent ได้เหมือน kazaa ก็ต้องคอยดูกันต่อไป เพราะตอนนี้ exeem ยังอยู่ในระยะ closed beta จึงมีแต่ข่าวที่เร็ดลอดออกมาบ้างนิด
กลายเป็นปัญหาใหญ่ซะแล้ว เมื่อเว็บไซท์ให้โหลด Torrent ชื่อดัง ทั้ง SuprNova.org และ TorrentBits.org เข้าไม่ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเกี่ยวข้องกับข่าวสมาคมภาพยนต์ของสหรัฐ (MPAA) กำลังจับตามอง BitTorrent เครื่องมือแชร์ไฟล์ที่ปัจจุบันกินแบนด์วิธ 1 ใน 3 ของอินเทอร์เน็ตอยู่ก็เป็นได้ จาก Slashdot
Shawn Fanning คนคิดค้น Napster บอกว่าจะเปิดบริการ service ที่เป็น file-sharing อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้ชื่อว่า Snocap ซึ่งจะเปิดเป็นบริษัทภายใต้ชื่อดังกล่าวด้วย ถึงแม้ Shawn Fanning ยังไม่ได้เปิดเผยอะไรมากนักเกี่ยวกับ Snocap แต่ P2P service ดังกล่าวมีข่าวประมาณว่าค่ายเทปและศิลปินสามารถลงทะเบียนและสงวนลิขสิทธิ์ข้อมูลต่างๆ และหลังจากนั้นก็สามารถจัดการกับระบบ online ผ่านการใช้ Snocap's management system ซึ่งจะมีการใช้เทคโนโลยี audio fingerprint
ปัญหาสแปมที่แสนจะหนักหน่วงในตอนนี้ มีคนคิดมาตรการตอบโต้มากมาย หนึ่งในมาตรการจาก Lycos คือสกรีนเซฟเวอร์ที่ชื่อ Make Love not Spam จะทำให้เครื่องของเราทำการติดต่อไปยังเว็บไซท์ของเหล่าสแปมเมอร์ อันที่เป็นที่รู้จักอย่างไม่ยั้ง ทำให้ค่าแบนด์วิธของบริษัทเหล่านี้กระฉูด และดีไม่ดีเซิร์ฟเวอร์อาจล่มไปเลย ตาต่อฟันกันสุดๆ เลยครับ จาก The Register
จากที่ blognone เคยรายงานข่าวว่า MPAA หรือสมาคมธุรกิจภาพยนต์ของสหรัฐได้วางแผนฟ้องนักดูดทั้งหลายเป็นรายตัว ตามอย่าง RIAA ที่ฟ้องนักดูดเพลงเป็นรายตัวเช่นกัน
โดยในการฟ้องครั้งแรกนี้มีกว่า 200 คดี คาดว่าค่าปรับในแต่ละคดีจะอยู่ที่ สามหมื่นดอลล่าห์ ถึงแสนหน้าหมื่นดอลล่าห์ หรือล้านสองแสนบาท ถึงหกล้านบาท!!!!
นอกจากนี้ทาง MPAA เตรียมการแจกจ่ายซอฟท์แวร์เพื่อตรวจสอบว่าในเครื่องใด มีภาพยนต์ผิดกฏหมายของ MPAA อยู่ในเครื่องบ้าง เพื่อให้ผู้ปกครองและเจ้าของเครื่องสามารถตรวจสอบเครื่องได้
MPAA หรือสมาคมผู้ผชิตภาพยนต์ในสหรัฐฯ เริ่มเข้ามาจับตามองบิตทอเรนต์ ซอฟท์แวร์แชร์ไฟล์ที่ในปัจจุบัน เกินแบนวิดท์ของอินเทอร์เน็ตไปถึงหนึ่งในสาม
เนื่องจากบิตทอเนรต์นั้น ไม่มีการแจกไฟล์ภาพยนต์อย่างเป็นทางการ แต่ใช้การแจกไฟล์ขนาดเล็กที่ตามด้วย .torrent ซึ่งจะระบุรายละเอียดของการหาแหล่งไฟล์นั้นๆ ทำให้การแจกไฟล์ทอเรนต์มีโดยทั่วไป ซึ่งทาง MPAA กำลังตรวจสอบทางกฏหมายว่าสามารถเอาผิดกับเว็บเหล่านี้ได้หรือไม่
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจภาพยนต์ของสหรัฐอเมริกา (MPAA) เริ่มไล่ฟ้องผู้ใช้ระบบไฟล์แชร์ริ่ง แชร์หนังแบบเดียวกับที่ธุรกิจเพลงฟ้องกลุ่มผู้โหลดเพลง
โดยการฟ้องครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สมาคม พบกับความล้มเหลวในการโจมตีซอฟท์แวร์แชร์ไฟล์ทั้งหลายในชั้นศาล โดยศาลตัดสินให้ซอฟท์แวร์แชร์ไฟล์เหล่านั้นไม่มีความผิด เพราะถือเป็นเพียงเครื่องมีอใช้งานเท่านั้น
ข่าวรายงานว่าการฟ้องครั้งแรกจะมีคดีกว่า 200 คดี โดยจะมาประกาศในภายหลัง
นับจากเริ่มใช้วิธีการนี้ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจดนตรีในสหรัฐ (RIAA) ไล่ฟ้องนักโหลดไปแล้วกว่า 6800 คดี