ธนาคารกรุงเทพ เป็นธนาคารไทยรายล่าสุดที่รองรับการถอนเงินไม่ใช้บัตรที่ตู้ ATM ของตัวเองแล้ว สามารถใช้กับตู้ ATM ของธนาคารกรุงเทพกว่า 10,000 เครื่องทั่วประเทศ
แอพมือถือ Bualuang mBanking อัพเดตล่าสุดยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มมาอีก 5 อย่างได้แก่
LINE BK บริการการเงินที่ร่วมทุนระหว่าง LINE และธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่ปลายปี 2018 เปิดตัวแล้ว
ชื่อ LINE BK มาจากคำว่า LINE Bank แต่เนื่องจากว่าไม่ได้เป็นธนาคารจริงๆ (บริการทั้งหมดอยู่บนไลเซนส์ธนาคารของธนาคารกสิกรไทย) จึงใช้คำว่า LINE BK
จุดเด่นของ LINE BK คือการผสานแพลตฟอร์มแชทของ LINE ที่มีผู้ใช้ 47 ล้านคน กับฐานลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยที่มี 16 ล้านคน ทำให้เราสามารถทำธุรกรรมการเงิน เช่น เปิดบัญชี โอนเงิน ได้จากหน้าแชทโดยตรง แต่ LINE BK ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดด้านการใช้งานออฟไลน์ เพราะสามารถถอนเงินได้ตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทย และใช้เครือข่ายสาขา-ตู้ ATM ของธนาคารกสิกรได้ด้วย
แอป Krungthai NEXT ของธนาคารกรุงไทย ออกอัปเดตใหม่, เปลี่ยนหน้าตาทั้ง UX/UI ให้ใช้งานสะดวกขึ้น ดีไซน์แอปใหม่ภายใต้คอนเซปต์ “Design for Scale” พัฒนาแอปให้เป็นแอป native สำหรับคลาวด์แบบเต็มตัว โดยระบุว่าแอปเวอร์ชั่นใหม่จะสเถียร ไวขึ้น ปลอดภัยขึ้น รองรับการขยายตัวของผู้ใช้ที่มากขึ้นในปัจจุบัน
ธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวแอปธนาคารรูปแบบใหม่ MAKE by KBank ที่เป็นแอปธนาคารทดสอบเพื่อให้ตอบรับการใช้งานของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยจะเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานแอปธนาคาร 3 ฟีเจอร์หลักได้แก่
ธนาคารกสิกรไทยประกาศเพิ่มสกุลเงินที่รองรับในการโอนเงินต่างประเทศใน K PLUS เพิ่มอีก 6 สกุลเงินรวมเป็นทั้งหมด 12 สกุลเงิน ใช้งานได้ในกว่า 30 ประเทศ
นอกจากนี้ K PLUS ยังมาพร้อมกับโปรโมชันพิเศษ คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน 250 บาททุกรายการ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 ส่วนลูกค้าใหม่ที่โอนเงินไปยังต่างประเทศผ่าน K PLUS ครั้งแรก ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ จะได้รับ e-Gift Card Starbucks มูลค่า 150 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2563 อีกด้วย
กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทยเผยว่า ยอดผู้ใช้งาน K PLUS ทะลุ 13 ล้านรายแล้ว มียอดธุรกรรมโต 68% ปีต่อปี จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมี 165 ล้านธุรกรรม โตขึ้นเป็น 277 ล้านธุรกรรม
ด้านยอด paymentในด้านอีคอมเมิร์ซ โตขึ้น 128% ปีต่อปี, การเปิดบัญชีด้วยตัวเองผ่านการพิสูจน์ตัวตนบนแอป K PLUS หรือ eKYC โตขึ้น 16 เท่า จากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามี 6,000 บัญชี เดือนมีนาคมมี 30,000 บัญชี และในเดือนเมษายนมี 100,000 บัญชีที่เปิดบน K PLUS
หลังจากที่ธนาคารกรุงเทพเคยโปรยอาร์ตเวิร์คเรื่องแอปบัวหลวงใหม่ ก่อนจะเงียบหายไป ล่าสุดธนาคารเริ่มทยอยอัพเดต Bualuang mBanking เวอร์ชันใหม่แล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ธนาคารกรุงเทพไม่ได้ประกาศหรือโปรโมทใด ๆ อย่างเป็นทางการ แต่มีคลิปโปรโมทโมบายล์แบงก์กิ้งเวอร์ชันใหม่ของธนาคารกรุงเทพขึ้นอยู่บน YouTube แบบ unlisted พร้อมรายละเอียดฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างเช่น UI ที่ยกเครื่องใหม่, รองรับไบโอเมตริก (บนแอนดรอยด์), แสดงหน้าบัตรเครดิตชัดเจน, เพิ่ม ลดบัญชีผู้รับได้เองและการแสดงกราฟลงทุน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมแอปยังไม่ได้อัพเดตครับ
ที่มา - Bangkok Bank
Australian Communications and Media Authority (ACMA) หรือกสทช.ออสเตรเลียประกาศมาตรฐานการตรวจสอบผู้ใช้ก่อนออกซิมใหม่ หลังพบว่าประชาชนเป็นเหยื่อมากขึ้นและการถูกขโมยหมายเลขโทรศัพท์แต่ละครั้งทำให้เหยื่อเสียหายเฉลี่ยสูงกว่า 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือมากกว่าสองแสนบาท
ทาง ACMA ไม่ได้แยกย่อยว่าความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากอะไร แต่ก็ระบุความสำคัญของการใช้บริการธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ ที่หากคนร้ายควบคุมหมายเลขโทรศัพท์ได้ก็จะขโมยเงินได้
กฎใหม่นี้บังคับให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต้องยืนยันตัวตนลูกค้าที่มาขอเปลี่ยนซิมด้วยมาตรการ 2 ขั้นตอนเป็นอย่างน้อย (multi factor authentication) ผู้ให้บริการที่ไม่ทำตามข้อกำหนดนี้มีโทษปรับสูงสุด 250,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือ 5 ล้านบาท
TrueMoney Wallet ประกาศอย่างเป็นทางการทาง Facebook ให้ผู้ใช้งานอัพเดตเวอร์ชั่นระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดโดยจะต้องเป็นเวอร์ชั่น Android 5.0 และ iOS 10.0 ขึ้นไปเพื่อให้สามารถใช้งานแอพได้ต่อ และเครื่องที่มีการรูทหรือเจลเบรคจะไม่สามารถใช้งานได้ ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยผู้ใช้ TrueMoney Wallet ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการต่ำกว่า Android 5.0 และ iOS 10.0 จะทำให้การใช้งานไม่ได้ โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 9 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้แอป K PLUS ของธนาคารกสิกรไทยบนแอนดรอยด์จะขอสิทธิการเข้าถึง (permission) ที่ดูไม่เป็นจำเป็นอย่างสิทธิ Phone ที่จำเป็นต้องให้สิทธิไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเข้าใช้งานแอปได้ แม้กระทั่งให้สิทธิไปก่อนแล้วมาปิดในภายหลังก็ไม่ได้เช่นกัน
ล่าสุดผมค้นพบว่าเราสามารถปิดการเข้าถึงสิทธิของแอป K PLUS ทั้งหมดโดยที่ยังคงสามารถใช้งานตัวแอปได้ตามปกติแล้ว ขณะที่คู่แข่งอย่าง SCB สามารถทำได้มานานแล้ว
ทั้งนี้สิทธิ Phone บนแอนดรอยด์เป็นการอนุญาตให้แอปเข้าถึงความสามารถในการโทรเข้าโทรออก, เขียนและอ่านบันทึกการโทรเข้าออก (call log) ไปจนถึงเลข IMEI ของเครื่อง
ธนาคารกสิกรไทยออกมาเตือนผู้ใช้งาน KPLUS ให้อัพเดตระบบปฎิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุด เป็นระบบปฏิบัติการ iOS ตั้งแต่ 10.0 ขึ้นไป และ Android ตั้งแต่ 6.0 ขึ้นไป
ซึ่งผู้ใช้ KPLUS ที่ใช้อุปกรณ์ iOS ต่ำกว่า 10.0 ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2563 เป็นต้นไป จะยังสามารถใช้งานต่อไปได้ แต่จะไม่สามารถอัปเดตเวอร์ชัน K PLUS ใหม่ได้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ที่จะออกมาในอนาคตได้
ส่วนคนที่ใช้ K PLUS อุปกรณ์ Android ที่ต่ำกว่า 6.0 ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจะไม่สามารถใช้งาน K PLUS ได้เลย
หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ "แนวนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและขำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่" วันนี้ประกาศฉบับเต็มก็ออกมาแล้ว โดยประกาศมีมาตรการขั้นต่ำ 12 ประการ
วันนี้ (20 ธันวาคม 2562) นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศว่าทางหน่วยงานได้ออกแนวทางเรื่องความปลอดภัย mobile banking
แนวนโยบาย “การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและขำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่” จะกำหนดให้ธนาคารต้องวางมาตรการขั้นต่ำ เช่น การบล็อคไม่ให้อุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัย (ใช้ระบบปฎิบัติการเก่าเกินไป หรือ jailbreak) ไม่ให้ใช้งาน, มีการจำกัดการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์, เข้ารหัสข้อมูล นอกจากนี้ยังกำหนดมาตรการเพิ่มเติม เช่น ความซับซ้อนรหัสผ่าน, และการตรวจสอบแอปพลิเคชั่นปลอม สร้างความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีการเงินให้ประชาชน
K PLUS ปล่อยอัพเดตเวอร์ชันล่าสุด ทำให้รองรับการจ่ายเงินผ่าน QR Code ในสิงคโปร์และญี่ปุ่นแล้ว ผ่านเครือข่าย VIA และ Smart Code ตามลำดับ โดยจะแสดงอัตราแลกเปลี่ยน (น่าจะวันที่ทำรายการ) ให้เลยทันทีก่อนชำระเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีขั้นต่ำ และวงเงินสูงสุด 100,000 บาทต่อวัน
ร้านค้าที่รับชำระจะต้องมีสัญลักษณ์ K PLUS หรือ VIA เครือข่ายเดียวกับที่ AIS ไปเป็นพาร์ทเนอร์ ในสิงคโปร์ เช่นเดียวกับในญี่ปุ่นที่จะต้องมีสัญลักษณื Smart Code (เป็นตัว S สีน้ำตาลพิกเซลแตก ๆ)
ที่มา - Kasikorn Bank
ปีที่แล้วคนที่ใช้งาน Pixel น่าจะเจอปัญหาแอป K PLUS ใช้งานไม่ได้หลังอัพ Android Pie ต้องรออัพเดตสักระยะถึงกลับมาใช้งานได้ วันนี้ Android 10 ถูกปล่อยตัวเต็มให้กับผู้ใช้งาน Pixel แล้ว ซึ่งผมพบปัญหาเดิมคือแอป K PLUS ยังคงใช้งานไม่ได้เช่นเดิม
นอกจาก K PLUS แล้วแอปธนาคารอื่นที่ผมทดสอบก็มี TMB Touch และ CITI ที่ยังไม่สามารถใช้งานบน Android 10 ได้เช่นกัน ใครพบแอปธนาคารอื่นที่เจอแบบเดียวกันสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ในคอมเมนท์กรณีผมตกหล่นครับ ส่วนใครที่ใช้ 3 ธนาคารนี้เป็นธนาคารหลักและคิดจะอัพ Android 10 อาจต้องชะลอไปก่อนครับ
อัพเดต ธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า K PLUS จะได้อัพเดตกับ Android 10 ในวันที่ 6 กันยายน 2019
update ทาง CIMB แจ้งว่าระบบกับมาใช้ได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 9:15 ของวันนี้เป็นต้นมา
เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 1:00น. ผู้ใช้งาน myCIMB บน iOS ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ โดยแอพพลิเคชั่นขึ้นแจ้งเตือนว่า ไม่สามารถทำรายการได้ขณะนี้ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง และในเวลา 12:52น. ทางธนาคารส่ง SMS มาแจ้งผู้ใช้ว่าขัดข้องชั่วคราว และกำลังดำเนินแก้ไข โดยไม่มีการแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์อื่น ไม่ว่าจะเป็น Twitter หรือ Facebook
ธนาคารกสิกรไทย ประกาศแผนเตรียมให้บริการ "บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล" (K-eSavings) ผ่านแอพ K PLUS ที่สามารถเปิดบัญชีโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาธนาคาร
กระบวนการเปิดบัญชีเงินฝาก สามารถเริ่มเปิดผ่าน K PLUS แล้วต้องเดินทางไปยัง "จุดยืนยันตัวตน" (เบื้องต้นคือ ธนาคารกสิกรไทย 380 สาขา, บิ๊กซี 200 สาขา และที่ทำการไปรษณีย์ 20 สาขา) เพื่อเสียบบัตรประชาชนกับอุปกรณ์ยืนยันตัวตน และถ่ายภาพตัวเองด้วยสมาร์ทโฟนเพื่อยืนยันความถูกต้องอีกทีหนึ่ง
บัญชีเงินฝากแบบ K-eSavings ไม่มีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ และได้ดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5% ต่อปี สำหรับยอดเงินฝาก 100,000 บาทแรก ส่วนกำหนดเปิดบริการจริงยังระบุกว้างๆ ว่า "ในเร็วๆ นี้" เพราะอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ขณะนี้แอพ NEXT ของธนาคารกรุงไทยเข้าใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ โดยทางเพจของธนาคารระบุว่ามีผู้ทำธุรกรรมจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ใช้งานบางส่วนเข้าใช้งานแอพไม่ได้
ผมทดสอบดูแล้ว แอพขึ้นข้อความว่า "พบข้อผิดพลาดในการติดต่อระบบงาน" หลังสแกนนิ้วเข้าใช้งาน
แอพ K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย เพิ่มฟีเจอร์โอนเงินไปต่างประเทศจากตัวแอพได้เลย โดยชูจุดเด่นเรื่องการรับเงินเต็มจำนวน ไม่ถูกหักค่าธรรมเนียมจากธนาคารตัวกลางระหว่างทาง/ธนาคารของประเทศปลายทาง และสามารถโอนจากตัวแอพได้เลย ไม่ต้องไปธนาคาร และไม่ต้องมีเอกสารใดๆ
ฟีเจอร์นี้จะอยู่ในหมวด "โอนเงิน" โดยมีตัวเลือกเป็น "โอนเงินต่างประเทศ" เพิ่มเข้ามาอีก 1 ช่องทาง สกุลเงินที่รองรับมี 6 สกุลคือ USD, GBP, HKD, SGD, AUD, EUR โดยจำกัดการโอนสูงสุดที่ 49,999 ดอลลาร์/ครั้ง/วัน
ฝั่งผู้รับจะได้เงินภายใน 3 วันทำการ (ขึ้นกับประเทศปลายทางด้วย บางประเทศก็เรียลไทม์ รับเงินได้เลย) สามารถระบุชื่อธนาคารเป็น SWIFT Code หรือเลือกธนาคารตามชื่อประเทศที่รองรับก็ได้
ช่วง 20.30 น. กลับมาใช้ได้แล้ว
ธนาคารกรุงไทยล่มอีกครั้ง หลังจากเดือนที่แล้วล่มไปในช่วงวันที่ 26 เดือนนี้แอป NEXT ของธนาคารก็กลับมาล่ม โดยแอปขึ้นข้อความ "ขออภัย! พบข้อผิดพลาดในการติดต่อระบบงาน กรุณาทำรายการในภายหลัง (UNEXPECTED_ERROR)" เช่นเดือนก่อนๆ
โพสล่าสุดของธนาคารกรุงไทยบนเฟซบุ๊กคือเมื่อ 8 ชั่วโมงที่แล้ว โดยตอนนี้ยังไม่พบการโพสตอบรับปัญหานี้แต่อย่างใด แต่มีผู้ใช้จำนวนมากไปแสดงความไม่พอใจที่ระบบใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา
ปัจจุบัน TMB Touch มีอายุครบ 4 ปี พัฒนามาแล้ว 24 เวอร์ชัน แต่ธนาคารทีเอ็มบี ก็ยังคงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเมนู เช็คยอดเงินทันใจ ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าเลือกเองได้ว่า จะให้เห็นยอดเงินของบัญชี หรือ ยอดบัตรเครดิต กี่บัญชี กี่บัตรก็ได้ โดยไม่ต้องล็อกอิน และการตั้งการโอนเงินล่วงหน้าได้สูงสุด 99 ปี เป็นต้น Blognone เคยรีวิวไว้ สามารถอ่านย้อนหลังได้ ที่นี่
ในบทความนี้ จะพาไปทำความรู้จักฟีเจอร์เด่นอีกหลายตัว ของ TMB Touch ให้มากขึ้น ว่าช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นได้อย่างไรบ้าง