Call of Duty: Modern Warfare ขึ้นชื่อเรื่องความต้องการพื้นที่ฮาร์ดดิสก์มากถึง 175GB แต่อัพเดตล่าสุดของเกม ก็ขยับตัวเลขนี้ขึ้นไปอีกจนเกือบถึงระดับ 200GB แล้ว

ตอนนี้ Modern Warfare เวอร์ชันพีซีต้องการพื้นที่ประมาณ 180GB ส่วนเวอร์ชันคอนโซล PS4/Xbox One ต้องการ 185GB โดยอัพเดตล่าสุดมีขนาดใหญ่ถึง 32GB แบ่งเป็นอัพเดตตัวเกมหลัก 12GB และอัพเดต DLC อีก 18GB

เมื่อต้นปีนี้ Infinity Ward ต้องออกมาขอโทษแฟนๆ ที่อัพเดตเกมมีขนาดใหญ่ถึง 100GB และบอกว่าจะไม่มีอัพเดตใหญ่ระดับนั้นอีกแล้ว

Call of Duty: Warzone โหมด Battle Royale เล่นฟรีของ Modern Warfare ประสบความสำเร็จอย่างสูงในแง่จำนวนผู้เล่น ที่แตะ 30 ล้านคนใน 10 วันแรก

ล่าสุด Activision อัพเดตข้อมูลจำนวนผู้เล่น Warzone ว่าเพิ่มเป็น 50 ล้านคนเรียบร้อยแล้ว

เว็บไซต์ VentureBeat วิเคราะห์ว่าความสำเร็จของ Warzone เกิดจากตัวเกมทำมาดี, เชื่อมโยงกับเลเวลในเกม Modern Warfare ที่มีฐานผู้เล่นเยอะอยู่แล้ว รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้นด้วย

มีข่าวหลุดออกมาเรื่อยๆ ในที่สุดข่าวเป็นทางการก็มา Activision เปิดตัว Call of Duty: Modern Warfare 2 Campaign Remastered เป็นการนำเกม Call of Duty: Modern Warfare 2 เวอร์ชันปี 2009 มารีมาสเตอร์ใหม่ (เฉพาะโหมดแคมเปญแบบเล่นคนเดียว)

Activision นำเกม Call of Duty: Modern Warfare ภาคแรกมารีมาสเตอร์ในปี 2016 (ตอนนั้นขายพร้อมภาค Infinite Warfare แล้วนำมาขายแยกภาคในปี 2017) ดังนั้นการรีมาสเตอร์ภาค Modern Warfare 2 จึงไม่น่าแปลกใจมากนัก

เกมยังคงมิชชันดั้งเดิมทั้งหมด (เช่น No Russian ที่โด่งดัง) และตัวละครเดิมๆ อย่าง Soap, Captain Price หรือ Ghost ด้วย

จากที่มีข่าวหลุดออกมาไม่นาน Activision ก็เปิดตัว Call of Duty: Warzone อย่างเป็นทางการ ในฐานะเกมใหม่แบบ free-to-play โดยไม่จำเป็นต้องซื้อภาค Modern Warfare ก่อน

Warzone มีให้เล่น 2 โหมดคือ Battle Royale ที่หนึ่งแผนที่รองรับผู้เล่นสูงสุด 150 คน หาผู้ชนะคนสุดท้าย และโหมดปล้น Plunder เน้นเก็บเงินในแผนที่ หรือขโมยเงินจากศัตรู เพื่อหาผู้ที่สะสมเงินได้เยอะที่สุด

แผนที่ของ Warzone ใช้ชื่อว่า Verdansk เป็นแผนที่ขนาดใหญ่ที่มีหลากหลายโซน เช่น เมือง ป่า เขื่อน มียานพาหนะให้เลือกหลายอย่าง ตั้งแต่รถบรรทุก, ATV, SUV, Rover ไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์

วันนี้มีคลิปหลุดของ Call of Duty: Modern Warfare โหมดใหม่ "Warzone" ที่เป็นแนว Battle Royale ตามสมัยนิยม สิ่งที่น่าสนใจคือ Activision จะเปิดให้ทุกคนเล่นฟรีแบบ free-to-play โดยไม่จำเป็นต้องซื้อ Modern Warfare ก่อนด้วย

รูปแบบเกมเพลย์ของ Warzone เหมือนเกมแนว Battle Royale อื่นๆ คือกระโดดร่มลงมา แต่แผนที่ของ Warzone มีขนาดใหญ่ รองรับผู้เล่น 150-200 คนพร้อมกัน สามารถจับกลุ่มเป็นทีม 1-2-3 คนได้ และมี "วงแหวน" ที่ค่อยๆ บีบแผนที่ให้เล็กลง

ข้อมูลที่น่าสนใจคือ Warzone จะเป็นเกมแบบ cross-play เล่นข้ามแพลตฟอร์มกันได้ด้วย ส่วนคนที่ซื้อเกม Modern Warfare ไปแล้วจะได้สกินและอาวุธพิเศษเพิ่มเข้ามาจากผู้เล่นแบบฟรี

Call of Duty: Modern Warfare เคยมีประเด็นเรื่องขนาดไฟล์ ที่ต้องการพื้นที่ติดตั้งถึง 175GB ล่าสุดมีประเด็นเดียวกันเกิดขึ้นอีกกับตัวอัพเดต Season 2 ที่เพิ่มเนื้อหาและแผนที่ใหม่ๆ แลกกับขนาดไฟล์ที่ใหญ่ถึง 100GB รอดาวน์โหลดกันจนเหนื่อย

แน่นอนว่าแฟนๆ Modern Warfare ย่อมไม่พอใจและออกมาถล่ม Infinity Ward กันตามคาด จน Paul Haile ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตของเกมต้องออกมาขอโทษแฟนๆ ผ่านทวิตเตอร์ โดยอธิบายว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นครั้งเดียว เพราะ Infinity Ward ตัดสินใจอัพเดตตัวไฟล์กราฟิก (asset packs) ใหม่เพื่อให้ขนาดของเกมโดยรวมลดลงเล็กน้อย และอัพเดตในอนาคตจะไม่มีขนาดไฟล์ใหญ่ระดับนี้อีกแล้ว

Activision Blizzard ยืนยันว่าปีนี้จะออก Call of Duty ภาคใหม่ ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ออกภาคใหม่ทุกปี แต่ยังไม่ให้ข้อมูลอื่นใดของเกม รวมถึงสตูดิโอที่รับผิดชอบการพัฒนาด้วย (ตามคิวแล้วควรเป็น Sledgehammer Games ที่ทำภาค WWII)

ประเด็นที่น่าสนใจคือ Activision Blizzard ประเมินว่า Call of Duty ภาคปี 2020 จะขายไม่ดีเท่ากับ Modern Warfare ของปี 2019 ที่ขายดีมาก (ยอดขายทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์) และขายดีกว่า Black Ops 4 ของปี 2018 ในระดับเปอร์เซนต์เป็นเลขสองหลัก (double-digit growth)

Activision เปิดตัว Call of Duty League มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 โดยใช้รูปแบบการแข่งขันเหมือนลีกพี่น้อง Overwatch League ที่มีทีมประจำเมือง

ทีมใน Call of Duty League มีทั้งหมด 12 ทีม แบ่งเป็นสหรัฐอเมริกา 9 ทีม, แคนาดา 1 ทีม, สหราชอาณาจักร 1 ทีม, ฝรั่งเศส 1 ทีม (น่าสนใจว่ารอบนี้ไม่มีทีมจากจีนหรือเกาหลีใต้เหมือนกับตอน Overwatch League ฤดูกาลแรก)

Infinity Ward ประกาศปรับแพ็คไอเทมเสริม Outback ของเกม Call of Duty: Modern Warfare ภาคล่าสุด เปลี่ยนชื่อเป็น Outback Relief Pack และรายได้ทั้งหมด 100% จะบริจาคเพื่อช่วยเหลือไฟป่าในประเทศออสเตรเลีย

แพ็คไอเทม Outback Relief ประกอบด้วยสกิน อาวุธ ป้าย (charm) รูปหมีโคอาลา และไอเทมตกแต่งอื่นๆ โดยรายได้ทั้งหมดนับจนถึง 31 มกราคม 2020 จะบริจาคให้กับหน่วยงานในออสเตรเลีย

ที่มา - Gamespot

Activision Blizzard ประกาศความสำเร็จของ Call of Duty: Modern Warfare เวอร์ชันรีบูตใหม่ปี 2019 ว่าทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ภายใน 50 วันแรกที่วางขาย (เริ่มขาย 25 ต.ค. 2019) และเป็นเกมขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาประจำปีนี้ด้วย

สถิติอื่นที่เปิดเผยคือมีการเล่นมัลติเพลเยอร์รวมกัน 500 ล้านชั่วโมง, 300 ล้านแมตช์ ถือเป็นสถิติสูงสุดของซีรีส์ Call of Duty สำหรับคอนโซลยุคปัจจุบัน (เริ่มนับจาก Call of Duty: Ghosts ในปี 2013 ซึ่งเป็นภาคแรกที่ลง PS4, Xbox One)

Activision Blizzard ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2019 ออกมาดีกว่าที่คาด เป็นผลจากรายได้ในเกมตระกูล Call of Duty และ World of Warcraft Classic มาช่วยผลักดัน

ประเด็นน่าสนใจอยู่ที่ Call of Duty: Modern Warfare เกมเด่นของปีนี้ที่เพิ่งเปิดขายเมื่อปลายเดือน ต.ค. (นับเป็นรายได้ของไตรมาส 4) ซึ่ง Activision ให้ข้อมูลยอดขายในสัปดาห์แรกว่า ดีกว่าเกมของปีก่อน Call of Duty: Black Ops 4 เป็นหลัก "สิบกว่าเปอร์เซ็นต์" (high-teen percentage) เลยทีเดียว

Activision Blizzard ประกาศว่า Call of Duty: Modern Warfare ภาครีบูตที่ทีม Infinity Wards พัฒนาทำยอดขายได้ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว เอาชนะภาค Black Ops 3 ที่เคยทำได้สูงสุด 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2015

ภายในสามวันแรกของ Call of Duty: Modern Warfare มีจำนวนผู้เล่นและชั่วโมงเล่นรวมเยอะกว่า Call of Duty ทุกภาคที่เปิดตัวในช่วงหกปีที่ผ่านมารวมกันอีกด้วย

TechSpot เห็นว่าสาเหตุการขายดีของ Call of Duty: Modern Warfare ภาครีบูต เพราะกลับมามีโหมดเนื้อเรื่องและนำตัวละครที่หลายคนรักอย่าง Captain Price กลับมา และใช้ระบบ Battle Pass แทน Loot Box ใน Black Ops 4

หลังจาก Blizzard ประสบความสำเร็จกับ Overwatch League เพื่อนร่วมชายคาอย่าง Activision ก็ไม่รอช้า เตรียมเปิดตัว Call of Duty League โดยเดินตามรอยความสำเร็จของ Overawatch League อย่างการสร้างทีมประจำเมือง พร้อมเพิ่มความตื่นเต้นให้มากขึ้น อย่างการเปิดโอกาสให้แฟนๆ ของแต่ละทีมได้มาประลองฝีมือกัน โดยจะเริ่มเปิดลีกการแข่งขันในช่วงต้นปี 2020

กระแสต่อต้าน Loot Box ในวงการเกมมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากฝั่งของผู้เล่น และฝั่งหน่วยงานภาครัฐที่เริ่มหันมาสนใจกำกับดูแลเรื่องนี้

ล่าสุดค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Activision ก็ออกมาประกาศแล้วว่า Call of Duty: Modern Warfare ภาคใหม่ของปี 2019 จะไม่มีระบบ Loot Box อย่างสิ้นเชิง โดยบริษัทจะเปลี่ยนมาทำเงินด้วยระบบ Battle Pass ที่ตรงไปตรงมากว่าแทน

ระบบ Battle Pass ของ Call of Duty จะเหมือนกับของเกมอื่นๆ (เช่น Dota 2 หรือ Fortnite) ที่ผู้เล่นรู้ได้ล่วงหน้าว่าจ่ายเงินแล้วจะได้อะไรบ้าง โดยระบบ Battle Pass จะเริ่มเปิดบริการหลังเกมวางขายวันที่ 25 ตุลาคมนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง แต่ก็ไม่เกินสิ้นปีนี้

Activision เพิ่งประกาศสเปกขั้นต่ำของ Call of Duty: Modern Warfare เวอร์ชันที่จะวางขายวันที่ 25 ตุลาคมนี้ จุดที่น่าสนใจคือต้องการพื้นที่ฮาร์ดดิสก์เยอะถึง 175GB ทำให้ถูกวิจารณ์ไม่น้อยว่า เกมยุคนี้ทำไมถึงต้องใช้เนื้อที่เยอะขนาดนี้

Activision เองก็ชี้แจงว่า 175GB เป็นพื้นที่ทั้งหมดที่ "แนะนำ" เพื่อใช้ดาวน์โหลดเนื้อหาทั้งหมดของเกมหลังวางขายด้วย โดยตัวเกมหลักช่วงเปิดตัวจะใช้เนื้อที่น้อยกว่านี้ แต่ก็ไม่บอกว่าเท่าไรกันแน่

ส่วน Call of Duty: Modern Warfare เวอร์ชันคอนโซล PS4/Xbox One ที่วางขายพร้อมกัน ยังไม่ประกาศว่าจะใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์เท่าไร

Sensor Tower บริษัทเก็บสถิติแอพมือถือ เปิดเผยยอดการดาวน์โหลดเกม Call of Duty: Mobile ว่าสามารถแตะ 100 ล้านครั้งได้ภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว

ถ้าเทียบกับเกมอื่นๆ แล้ว Call of Duty: Mobile เอาชนะ Mario Kart Tour ที่ทำยอดดาวน์โหลดได้ 90 ล้านครั้งใน 7 วันแรก และถ้าเทียบกับเกมแนวเดียวกันคือ PUBG Mobile ก็ทำยอดดาวน์โหลด 28 ล้านครั้งใน 7 วันแรกแบบไม่เห็นฝุ่น

Sensor Tower ยังให้ข้อมูลว่าผู้เล่น Call of Duty: Mobile มาจาก iOS คิดเป็น 55.7% และ Android 44.3% โดยประเทศที่มีผู้เล่นสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา 16.9% ตามด้วยอินเดีย 13.4% และบราซิล 7%

ในที่สุด Activision ก็เปิดบริการ Call of Duty: Mobile ซึ่งเป็นเกมที่พัฒนาร่วมกับ Tencent โดยรูปแบบคือเป็นเกม free-to-play ที่เล่นได้ทั้งบน Android และ iOS

เกมภาคนี้เป็นการรวมเอาตัวละครดังๆ จาก Call of Duty ซีรีส์ต่างๆ ทั้งภาค Modern Warfare และ Black Ops โดยมีโหมดให้เล่นหลากหลาย รวมถึงโหมด Battle Royale ขนาด 100 คนตามสมัยนิยมด้วย

สำหรับ Call of Duty: Mobile ในไทยเป็นสิทธิ์ของ Garena ซึ่งก็เปิดให้เล่นแบบ Open Beta ในวันนี้ (1 ตุลาคม) แล้วเช่นกัน โดยใช้ชื่อเกมว่า Call of Duty: Mobile - Garena

สงครามการแย่งเกมเอ็กซ์คลูซีฟยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เราเคยเห็นกรณี Rise of Tomb Raider เป็น time exclusive บนแพลตฟอร์ม Xbox เป็นเวลานาน 1 ปี ก่อนออกเวอร์ชันพีซีและ PS4 จนโดนวิจารณ์อย่างหนัก

กรณีล่าสุดคล้ายๆ กันคือ Call of Duty: Modern Warfare ฉบับรีบูทปี 2019 โดย Infinity Ward ที่ตัวเกมหลักจะวางขายพร้อมกันบนพีซี, PS4, Xbox One ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

ทีมงาน Call of Duty: Modern Warfare ภาครีบูต เปิดเผยรายละเอียดที่น่าสนใจของเกม (กำหนดออก 25 ต.ค.) ในบล็อกของ PlayStation ดังนี้

เมื่อต้นปี Activision เปิดตัว Call of Duty: Mobile เวอร์ชันมือถือ ซึ่งเป็นเกมที่ Activision ร่วมกับ Tencent พัฒนาเพื่อทำตลาดภายในประเทศจีนมาก่อน

ล่าสุด Call of Duty: Mobile เปิดตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว โดย Garena เป็นผู้นำเข้ามาทำตลาดใน 6 ประเทศย่านนี้คือ ไทย ไต้หวัน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Call of Duty Mobile – Garena

นายกฤตย์ พัฒนเตชะ Head of Garena Online (Thailand) ระบุว่าตั้งเป้ายอดดาวน์โหลดเกม Call of Duty: Mobile ที่จำนวน 1 ล้านครั้งภายใน 1 เดือน โดยจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการช่วงปลายไตรมาส 3 ของปี 2019

ข้อมูลเพิ่มเติมของเกม Call of Duty: Modern Warfare ภาครีบูตประจำปี 2019 อย่างแรกคือเกมเวอร์ชันพีซีรองรับกราฟิกแบบ ray tracing ผ่าน DirectX Raytracing (DXR) ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักสำหรับเกมยุคนี้

สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ Stephen Miller ผู้อำนวยการฝ่ายเสียง (Audio Director) ของเกม ให้สัมภาษณ์ว่าการทำ ray tracing ยังมีส่วนช่วยเรื่องระบบเสียงของอาวุธในเกมด้วย (ray traced audio) โดยเกมจะใช้ ray tracing ช่วยคำนวณสภาพแวดล้อม (ทิศทางของรังสีแสง และเส้นการสะท้อนของเสียง) แล้วเล่นเสียงที่แตกต่างกัน 3 แบบ นั่นแปลว่าในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป เราจะได้ยินเสียงของอาวุธแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมด้วย

ที่มา - PC Gamer

ในที่สุด Activision ก็เปิดตัว Call of Duty ประจำปี 2019 อย่างเป็นทางการ เกมภาคนี้ใช้ชื่อว่า Call of Duty: Modern Warfare

ชื่อภาคอาจซ้ำกับเกม Call of Duty 4: Modern Warfare ที่ออกในปี 2007 ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะมันเป็นการ "รีบูท" เกมภาคเดิมที่สร้างชื่อให้สตูดิโอ Infinity Ward เป็นอย่างมากนั่นเอง

Infinity Ward ระบุว่าเกมนี้เป็นการรีบูท (หรือ imagine) ไม่ใช่การรีเมค โดยเนื้อเรื่องของเกมจะไม่ได้อยู่ในจักรวาลของไตรภาค Modern Warfare เดิม แต่ยังมีตัวละครเดิมอย่าง Captain Price ที่เปลี่ยนตัวนักพากย์เสียงเป็นคนใหม่ด้วย

แฟนๆ เกมซีรีส์ Call of Duty คงทราบกันดีว่า นับจากปี 2011 เป็นต้นมา Activision ใช้ระบบ 3 สตูดิโอผลัดกันออกเกมใหม่ทุกปีวนกันไป นับจาก Infinity Ward, Treyarch และ Sledgehammer

เกมภาคล่าสุดของปี 2018 คือ Call of Duty: Black Ops 4 ของ Treyarch และปี 2019 จะเป็นคิวของ Infinity Ward ที่ยังไม่ประกาศชื่อภาค (แต่คาดกันว่าน่าจะเป็น Modern Warfare ภาคใหม่)

อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือล่าสุดจากเว็บไซต์ Kotaku ว่าเกม Call of Duty ของปีหน้า 2020 จะไม่ได้เป็นคิวของ Sledgehammer แต่จะกลับมาเป็น Treyarch อีกครั้ง และน่าจะเป็นภาค Black Ops 5

ของใหม่ในเกม Call of Duty: Black Ops 4 คือโหมด "Blackout" Battle Royale ตามกระแสที่กำลังนิยมในช่วงนี้ โดยแผนที่ตัวแรกที่เปิดให้เล่นกันไปแล้วคือ "Blackout" ชื่อเดียวกับโหมดของเกม เป็นแผนที่ขนาดใหญ่ที่รวมเอาแผนที่ย่อยๆ ของโลก Call of Duty มาไว้ที่เดียวกัน

ล่าสุดโหมด Blackout กำลังจะมีแผนที่ใหม่ชื่อ Alcatraz ซึ่งสร้างจากเกาะชื่อเดียวกันนอกชายฝั่งเมืองซานฟรานซิสโก จุดเด่นของแผนที่นี้คือมีขนาดเล็ก (close quarters) ทำให้การต่อสู้ถูกจำกัดวงขึ้นมาก ถือเป็นการปรับเกมเพลย์ของการเล่นแบบ Battle Royale ให้ต่างไปจากเดิม

แผนที่ Alcatraz จะเปิดให้เล่นบน PS4 เป็นแพลตฟอร์มแรก ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ ต้องรอต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

Activision มีความร่วมมือกับ Tencent พัฒนาเกม Call of Duty เป็นเกมออนไลน์แบบ free-to-play ในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2013 โดยใช้ชื่อว่า Call of Duty: Online ซึ่งภายหลังพัฒนามาเป็น Call of Duty: Mobile สำหรับเล่นบนมือถือด้วย แต่ยังจำกัดเฉพาะในตลาดจีนเท่านั้น

ล่าสุด Activision ประกาศนำ Call of Duty: Mobile ออกมาทำตลาดนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก