ผู้สื่อข่าวของ Gizmodo ได้สัมภาษณ์บิล เกตส์ ที่งาน CES ซึ่งมีหลายประเด็นทั้งความแตกต่างของแอปเปิลกับไมโครซอฟท์, ภาพลักษณ์ของเกตส์ที่เปลี่ยนไป และสิ่งที่เกตส์ "กังวล" ที่สุด
แต่คำถามสำคัญที่เป็นข่าวพาดหัวประจำวันนี้ (ตอนที่ผมเขียนถูก Digg ไปประมาณ 3,600 ครั้ง) คือคำถามว่า "ผลิตภัณฑ์อะไรในรอบห้าปีนี้ที่คุณอยากนำไปปรับปรุงใหม่" ซึ่งคำตอบของเกตส์ก็ตามนี้
Ask me after we ship the next version of Windows. Then I'll be more open to give you a blunt answer.
สำนักข่าวเมืองนอกเลยตีความว่าเกตส์ตอบว่า Vista ห่วยแบบอ้อมๆ นั่นเอง (พูดตรงๆ ลูกน้องเสียกำลังใจหมด) ดูคลิปทั้งหมดได้ตามลิงก์ข้างล่าง
จากที่ PC World ได้จัด MacBook Pro เป็น PC ที่ลง Vista แล้วเร็วที่สุด ตอนนี้ทาง PC World ได้ออกมาประกาศว่า Vista เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าผิดหวังที่สุดในปี 2007 ซึ่งเกิดจากระบบปฏิบัติการนี้ไม่ซัพพอร์ตกับโปรแกรมเก่าและคอมพิวเตอร์เก่า และยังช้าเมื่อเทียบกับ XP และมีราคาแพงเกินไปสำหรับ Windows Ultimate ซึ่งไม่สมกับราคาที่วางไว้
ในอันดับอื่นๆ อันดับ 2 ได้แก่สงคราม Hi-Def ระหว่าง Blu-ray และ HD DVD
อันดับ 3 Facebook Beacon
อันดับ 4 Yahoo!
อันดับ 5 iPhone
ส่วน Leopard 10.5 ที่ออกมาหลัง Vista ทาง PC World จัดให้อยู่ลำดับ 8
ที่มา - PC World
มีรายงานว่าในไมโครซอฟท์วินโดวส์วิสตาได้เพิ่มอัลกอริธึมที่ใช้ในการสร้างจำนวนสุ่ม (random number generator) ที่ชื่อว่า Dual_EC_DRBG ซึ่งกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะมี backdoor ของ
อันนี้เป็น changelog อย่างละเอียดของ Vista SP1 RC1 อย่างไรก็ตามในแง่ฟีเจอร์และการเปลี่ยนแปลง คงไม่ต่างจาก Vista SP1 ตัวจริงมากนัก
รายละเอียดมีเยอะมาก อ่านฉบับเต็มได้ตามลิงก์ ที่ผมคัดมาให้ดูนี้แค่นิดเดียวเท่านั้น
Paul Thurrot คอลัมนิสต์ชื่อดังเกี่ยวกับไมโครซอฟท์จากเว็บ WinSuperSite ได้รีวิว Vista SP1 เวอร์ชันเบต้า และสรุปรายการเปลี่ยนแปลงได้คร่าวๆ ดังนี้
หลังจากความกดดันจากผู้ใช้งานที่ยังไม่พร่้อมที่จะใช้วินโดวส์วิสต้า เหล่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์จึงได้พยายามต่อรองกับไมโครซอฟท์ให้สนับสนุนและขายวินโดวส์ XP ให้นานขึ้นจากเดิมถึงวันที่ 31 มกราคมปีหน้าเป็น 30 มิถุนายนแทน
นอกจากนี้แล้วผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หลายรายยังได้เริ่มโปรแกรมที่จะให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหลายสามารถดาวน์เกรดคอมพิวเตอร์ตัวเองจากวิสต้าเวอร์ชั่น Business กับ Ultimate ลงมาเป็น XP ได้ง่ายขึ้น
ที่มา - CNET News
ไมโครซอฟท์เริ่มออกโรง กันวิสตาเถื่อน
โดยทำการเปิด Reduced Functionality mode ทำให้หน้าจอของผู้ใช้งานวิสต้าแบบไม่มีลิขสิทธิ์ทั้งหมด แสดงสีดำสนิททั้งหน้าจอ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ผู้ใช้ไม่สามารถกดอะไรได้เลยแม้กระทั่งตัว desktop เอง (หรือกดได้แต่มองไม่เห็น)
คนที่ใช้วิสต้าอยู่คงร้อนๆ หนาวๆ กันนิดหน่อยละครับ
ปล. รอดูตัวแก้อีกเหมือนเดิม
ที่มา : Slashdot,,
หลังจากที่ Apple ได้ออก Boot Camp ออกมาทำให้ทุกคนที่ใช้ Intel Mac ก็ได้รู้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac ก็เป็นเครื่องที่ลงวินโดว์ได้เป็นอย่างดี และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Apple ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ new iMac ซึ่ง Walt Mossberg หัวหน้าบรรณาธิการนักข่าวเทคโนโลยีของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ก็ได้เป็นผู้หนึ่งที่ไปซื้อ iMac มาใช้
ไมโครซอฟท์ต้องจ๊ากอีกครั้งเมื่อรู้ว่า XP นั้นยังแรงไม่เลิก ทาง Lenovo ผู้ให้การสนับสนุนหลักของกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศจีนนั้นได้ตัดสินใจจะใช้วินโดวส์ XP บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
นาย Yang Yuanqing ตัวแทนจาก Lenovo กล่าวว่า "งานใหญ่ ๆ อย่างกีฬาโอลิมปิกนั้นต้องการระบบและเทคโนโลยีที่เสถียรและปลอดภัย งานระดับนี้ไม่ใช่ที่ที่จะมาทดสอบระบบใหม่ ๆ เพราะว่าเราต้องการให้ทุกอย่างนั้นทำงานได้อย่างราบรื่น"
Lenovo นั้นได้ทำการติดตั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะกว่า 12,000 เครื่อง (รุ่น ThinkCentre M55) และแล็ปท็อปกว่า 800 เครื่อง (Thinkpad T60 และ Zhaoyang 680) และเซิร์ฟเวอร์กว่า 700 ตัว (SureServer รุ่น T350, R630 และ R520)
เพื่อเป็นการตอบโต้การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศจีน ไมโครซอฟท์จึงประกาศลดราคา Windows Vista ทุกรุ่น ซึ่ง Home Basic ลดมากสุด 67%
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าการลดราคาครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ในจีนสามารถซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ได้สะดวกมากขึ้น
ที่มา - Ars Technica
ไมโครซอฟท์ล่าสุดได้ออกมาแถลงการณ์หลังจากการประชุมของบริษัทในออร์แลนโดว่าในขณะนี้จะขอเรียกวินโดวส์ตัวนี้ว่า Windows 7
ก่อนหน้านี้วินโดวส์ตัวนี้มีโค้ดเนมว่า Vienna แต่ตัวแทนจากไมโครซอฟท์ได้ออกมายืนยันแน่นอนว่าต่อไปนี้จะใช้โค้ดเนม 7 แทน โดยคาดว่าวินโดวส์ตัวต่อไปน่าจะออกวางขายได้ในช่วงเวลาประมาณ 3 ปีหลังจากนี้ โดยเจ้า "เจ็ด" นี้จะมีออกมาหลายเวอร์ชั่นทั้งสำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนบุคคลและสำหรับองค์กร และแน่นอนจะมีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่น 32 และ 64 บิต
ไมโครซอฟท์ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มลูกค้าองค์กรจากการล่าช้าในการออกวิสต้า เนื่องจากหลาย ๆ บริษัทเป็นลูกค้าที่ต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทตามระยะเวลาการใช้งานซอฟต์แวร์ภายใต้ License Agreement ที่เรียกว่า Software Assurance
หลังจากไมโครซอฟท์วางจำหน่าย Vista แบบ Volume Licensing พร้อมกับ Office 2007 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และในเดือนต้นปีที่ผ่านมากไมโครซอฟท์ก็วางจำหน่ายแบบ Retail โดยไมโครซอฟท์คาดหวังว่าจะมีจำนวนผู้ใช้ 1 ใน 2 ผลิตภัณฑ์รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ล้านคน ผ่านมาเพียงไม่ถึงปี ไมโครซอฟท์ก็เตรียมปล่อย SP1 Beta ออกสู่ตลาดในวันที่ 16 กรกฏาคมนี้ ซึ่งเป็น Service Pack ที่หลายคนตั้งตารอคอย โดยสิ่งที่คาดว่าจะพบใน SP1 ก็คือ
เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ได้ตกลงยอมความในการที่จะเปิดระบบ Desktop Search บนวิสต้าให้สามารถใช้งานได้กับซอฟต์แวร์ Desktop Search จากค่ายอื่น ๆ เช่น Google หลังจากที่โดนข้อกฏหมายเกี่ยวกับการผูกขาดเข้าเล่นงานอีกครั้ง
ไมโครซอฟท์กล่าวว่าบริษํัทจะทำการเปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกระบบ Desktop Search ที่ต้องการได้โดยการปรับปรุงระบบในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ Service Pack ตัวแรกของวินโดวส์วิสต้าที่เราจะเห็นตัวเบต้าออกมาในช่วงปลายปีนี้
ในข้อตกลงครั้งนี้ก็คล้าย ๆ กับสมัย Service Pack 1 ของวินโดวส์ XP ก็คือผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Default Desktop Search Program ได้คล้าย ๆ กับกรณี Default Browser และ Media Player
ในงาน WinHEC 2007 ปีนี้ บิล เกตต์คงหน้าบานไม่น้อยเมื่อเขาได้ประกาศถึงยอดขายของวิสต้าตลอดหนึ่งร้อยวันแรกของการขายว่าสูงถึงเกือบ 40 ล้านชุด นับว่าสูงเป็นประวัติการนับแต่มีการขายระบบปฏิบัติการใดๆ
แน่นอนว่ายอดขายที่สูงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนคาดเดาได้ก่อนแล้วเนื่องจากวิสต้านั้นทิ้งข่วงจาก XP ถึงกว่าห้าปี การออกมาของวิสต้าจึงเป็นจังหวะอันดีสำหรับหลายๆ คนที่จะได้เวลาอัพเกรดคอมพิวเตอร์ขนานใหญ่
ในงานเดียวกันเกตต์ ยังเกตต์ยังได้ประกาศชื่อเป็นทางการของ Longhorn ว่าจะใช้ชื่อ Windows Server 2008
ที่น่าสนใจคือ IDC ระบุว่าการวางตลาดของระบบปฏิบัติการทั้งสองจะมีผลต่อเศรษกิจโดยรวมเป็นมูลค่ากว่า แสนสองหมื่นล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์เปิดให้ผู้ใช้วิสต้าที่กำลังใช้ไอพ็อดได้ดาวน์โหลดอัพเดทที่กำจัดปัญหาต่าง ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อไอพ็อดเข้ากับวิสต้า
อัพเดทตัวนี้จะกำจัดปัญหาเวลาผู้ใช้ได้เลือกคำสั่ง Safely Remove Hardware แล้วข้อมูลบนไอพ็อดบางส่วนเสียหาย ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ iTunes ตัวล่าสุด (เวอร์ชั่น 7.1.1) ยังคงแจ้งผู้ใช้ว่าวินโดวส์วิสต้ายังคงมีปัญหากับตัวโปรแกรม รวมไปถึงปัญหาที่ผู้ใช้ไม่สามารถที่จะ Sync ข้อมูล Contact List ได้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้สัญญากับผู้ใช้ไอพ็อดที่ใช้วินโดวส์วิสต้าว่าจะออกอัพเดทที่แก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดในเร็ววัน แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีข่าวอะไรเลยจากแอปเปิล
คุณ Nik Cubrilovic เพิ่งย้ายจาก OS X ที่ใช้มาปีกว่าๆ ไปใช้ Vista แล้วเกิดติดใจไม่อยากย้ายกลับซะงั้น โดยเขียนไว้ที่ Blog ของเขา ครับ
เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะจู่ๆ OS X ของเขาดันพังบูทไม่ขึ้นซะงั้น เค้าเลยลง Vista ใน Bootcamp ซะแล้วลองเล่นดู ปรากฏว่าประทับใจสุดๆ จนไม่อยากกลับไปใช้ OS X โดยเค้าประทับใจในเรื่อง การทำงานที่รวดเร็วกว่าของ Vista, ระบบ Media Center ที่ฉลาดมองเห็นอุปกรณ์ทุกตัวบนเครือข่ายของเขาแม้กระทั่ง Xbox 360!!, ระบบ Explorer ที่ฉลาด เ่ก่งใช้ง่าย ระบบค้นหาก็ทำได้ดีมาก เร็ว และที่สำคัญคือทุกสิ่งที่เค้าชอบบน OS X บน Vista ก็มีเหมือนกัน และยังทำงานไ้ด้ดีด้วย
ถ้าใครได้ใช้งานวิสต้ามาสักพัก คงจะพบกับความน่ารำคาญของระบบ User Account Control (UAC) ที่จะคอยถามคุณตลอดเวลาว่าคุณแน่ใจรึเปล่าที่จะทำนั่นทำนี่ และบังคับให้เราต้องกดปุ่ม Allow อย่างไม่รู้จบ
Peter Watson ผู้ให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ออสเตรเลีย ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ว่าแท้จริงแล้วสถาปัตยกรรมภายใต้ระบบ UAC นั้นจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบโดยรวมได้เป็นอย่างมาก แต่ความน่ารำคาญของ UAC นั้นเกิดจากความไม่เข้าใจของนักพัฒนาที่สร้างโปรแกรมที่ทำให้เกิดการเรียก UAC ซ้ำซ้อนหลายต่อหลายครั้งจนผู้ใช้ไม่พอใจ และปัญหาหลายๆ อย่างสามารถแก้ไขได้หากนักพัฒนาทำตามคำแนะนำของทางไมโครซอฟท์
โดย John Sullivan -- แก้ไขครั้งล่าสุด 2007-04-16 18:53
'''ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของ microsoft ที่ชื่อว่า windows vista เป็นตัวที่ทำให้เสรีภาพของคุณต้องถดถอยอีกครั้งหนึ่ง, แต่คราวนี้เรียกได้ว่าถอยหลังลงคลองเลยทีเดียว.'''
โดยปกติแล้ว, ซอฟต์แวร์ตัวใหม่ๆ มักจะเพิ่มความสามารถให้คุณทำอะไรๆ บนคอมพิวเตอร์ของคุณได้มากขึ้น. อย่างไรก็ตาม, vista ได้รับการออกแบบมาเพื่อจำกัดสิ่งที่คุณควรจะสามารถทำได้เหล่านั้น.
ทุกคนคงคุ้นเคยกับสติกเกอร์ข้างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีข้อความว่า Windows Vista Capable ซึ่งแสดงว่าฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์สนับสนุนระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดว์วิสต้า และสติกเกอร์นี้มีก่อนที่ระบบปฏิบัติการตัวนี้จะออกจำหน่ายจริงเสียอีก สติกเกอร์ตัวดีนี้ละครับที่เป็นเหตุให้ไมโครซอฟต์โดนฟ้องร้องในครั้งล่าสุดนี้ เนื่องจากเครื่องที่ติดสติกเกอร์นี้บางเครื่องลงได้แค่ Vista ขั้นพื้นฐานที่ไม่มีคุณสมบัติ Aero และการหมุนหน้าต่าง ซึ่งจะเกิดกับเครื่องที่ขายไปเมื่อปีที่แล้วซึ่งในขณะนั้นระบบปฏิบัติการตัวนี้ยังไม่ออกจำหน่าย เลยติดสติกเกอร์บอกไว้ก่อนว่าใช้กับวิสต้าที่จะออกตามมาได้ แต่ก็มีบางเครื่องที่ติดสติกเกอร์นี้แล้วใช้คุณสมบัติได้ไม่หมด ไมโครซอฟต์ก็เลยโดนฟ้องครับ
ลอง ๆ ไปอ่านกันดูได้
เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของระบบรักษาความปลอดภัยของวิสต้าคือโค้ดที่จะรันแบบ privileges ได้จะต้องเป็นโค้ดที่ได้รับการรับรองจากทางไมโครซอฟท์เท่านั้น แต่ในงาน Black Hat Conference ที่ผ่านมาได้มีการสาธิตถึงโปรแกรม VBootkit ที่ไปดักขั้นตอนการบูตของวิสต้าทำให้สามารถรันโค้ดที่ไม่ได้รับการรับรองได้ ทีมงาน NV Labs ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคนิคนี้ยังสามารถสาธิตการใช้งานด้วยการเพิ่มความสามารถของ CMD Shell ให้สามารถส่งคำสั่งที่ปรกติไม่สามารถทำได้อีกด้วย
Dianne Kelley ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ได้ยื่นฟ้องต่อไมโครซอฟท์ในฐานที่พยายามโฆษณาวิสต้าผ่านทางโลโก้ Windows Vista Capable บนโน้ตบุ๊กจำนวนมากในปีที่ผ่านมา แต่เมื่อใช้งานจริง โน้ตบุ๊กเหล่านั้นกลับไม่สามารถทำงานได้ครบถ้วนทุกฟีเจอร์ของวิสต้า เช่น Aero ที่ไม่สามารถใช้งานได้ในเครื่องที่การ์ดจอไม่แรงพอ
ขณะที่ไมโครซอฟท์ระบุสเปคเครื่องและความสามารถที่ทำงานได้ในวิสต้ารุ่นต่างๆ ไว้ชัดเจนแต่บนโลโก้ Vista Capable นั้นกลับไม่มีการระบุว่าการรองรับของเครื่องเหล่านั้นเป็นการรองรับที่ระดับใด คำฟ้องจึงพยายามชี้ประเด็นที่ว่าไมโครซอฟท์ผู้ใช้ที่ซื้อเครื่องเหล่านั้นกลับไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ซึ่งเป็นวิสต้า "ที่แท้จริง" บนเครื่องของเขาได้
Cafe Press ร้านกาแฟชื่อดังของอินเดียที่มีสาขาทั่วประเทศ ได้จัดโปรโมชั่นกาแฟร่วมกับ Microsoft ภายใต้ผลิตภัณฑ์กาแฟที่ชื่อว่า Microsoft Vista WOWffee ในราคา RS40 หรือ 0.93 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในเมนูก็ยังมีโลโก้ Vista ให้ดูเห็นๆว่าไม่ได้โม้นะเอ้า
ไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะได้ชิมกาแฟยี่ห้ออื่นๆในแวดวงไอทีบ้างหรือเปล่านะ
ที่มา - The Inquirer
หากนำไฟล์นามสกุลaniซึ่งเป็นไฟล์ตัวชี้เมาส์แบบเคลื่อนไหว(animated cursor)เอาไปวางไว้บนเดสก์ทอปของวิสต้า จะทำให้วิสต้าแครชไปเลย ไมโครซอฟท์โฆษณาเอาไว้เยอะว่าแจกจ่ายเบต้าให้ผู้ทดสอบเยอะมาก่อนออกเวอร์ชั่นจริง เจอบั๊กแบบนี้อีตาบิลเกตส์คงหงายท้องไปเลยมั้งเนี่ย
ที่มา - blogของคุณโก๋, techeblog
แอปเปิลเปิดให้ดาวน์โหลด Boot Camp 1.2 ซึ่งมีการอัพเดทอะไรใหม่ ๆ และรวมไปถึงการสนับสนุนวิสต้าอย่างเป็นทางการ
ความสามารถใหม่
ที่มา - Apple Boot Camp
ไมโครซอฟท์ระบุถึงยอดขายในเดือนแรกของวิสต้าว่ามีจำนวนสูงถึง 20 ล้านชุดในเดือนแรก เทียบกับ XP ที่มียอดขาย 17 ล้านชุดในเวลาสองเดือน แน่นอนว่าการโอ่ตัวเลขเช่นนี้แม้จะดูดี แต่ค่อนข้างไม่น่าแปลกใจ เพราะการเปิดตัว XP นั้นทำในปี 2001 ซึ่งตลาดคอมพิวเตอร์เล็กกว่าตลาดทุกวันนี้มาก
วินโดวส์ยังคงเป็นสินค้าที่ทำเงินของไมโครซอฟท์จนทุกวันนี้ ด้วยตัวเลขกำไรถึงร้อยละ 75 ของราคาขาย และการครองตลาดถึงร้อยละ 95
ผลการทดลองใช้งานมาสองวันของผม บอกได้แต่ว่าวิสต้านั้น ช้า ทำงานร่วมกับอุปกรณ์บางอย่างไม่ได้ และไม่เสถียร