บิล เกตส์ เพิ่งประกาศขายหุ้นของไมโครซอฟท์ออกมา 4.6 ล้านหุ้น ผลคือตอนนี้เขามีหุ้นไมโครซอฟท์เหลือ 330.1 ล้านหุ้น กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของไมโครซอฟท์ น้อยกว่าอดีตซีอีโอสตีฟ บัลเมอร์ ที่มีอยู่ 333 ล้านหุ้น (ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บริษัทไมโครซอฟท์ที่บิล เกตส์ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง)
การขายหุ้นของบิล เกตส์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเขาค่อยๆ ทยอยขายหุ้นไมโครซอฟท์ทุกปีเพื่อนำเงินมาใช้กับมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ของเขาและภรรยา
ดูเหมือนยุทธศาสตร์ที่ HTC จะกลับมาเน้นสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม สำหรับตลาดกลาง-บน ด้วย HTC Desire 816 นั้น น่าจะได้ผลพอสมควรแล้ว เพราะล่าสุดมีรายงานว่าหุ้นของ HTC ดีดตัวขึ้นกะทันหันถึง 4% หลังเปิดจองในจีนเพียงแค่ไม่กี่วัน ก็สามารถทำยอดจองได้สูงถึง 450,000 เครื่องแล้ว
เมื่อวานนี้บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือกาแล็กซี่กรุ๊ป ได้จัดงานแถลงข่าวพิเศษถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับ SoftBank Ventures Korea ในเครือ SoftBank ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อินิทรี ดิจิตอลมีการเปลี่ยนแปลงถึงระดับบอร์ดผู้บริหารโดยสมบูรณ์
โดยการลงทุนดังกล่าว SoftBank Ventures Korea จะเข้าถือหุ้นในอินิทรี ดิจิตอล 23% ทำให้สัดส่วนผู้ถือจากเดิมที่เป็นกาแล็กซี่กรุ๊ป 100% เต็ม เหลืออยู่เพียง 77% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี อำนาจส่วนใหญ่ยังอยู่ในมืออินิทรี ดิจิตอล ซึ่งเป็นบริษัทคนไทยล้วนนั่นเองครับ และนอกจากนี้ทาง SoftBank Ventures Korea จะส่งผู้บริหารจำนวนหนึ่ง-สองคน (ยังไม่ยืนยัน) มานั่งประจำบอร์ดบริหารของอินิทรี ดิจิตอลด้วย
หลังจากจบดีลเลอโนโว-โมโตโรลาไปได้ไม่นาน ล่าสุดมีรายงานว่าขณะนี้กูเกิลได้หุ้นของเลอโนโวมาครอบครองไว้แล้ว 6% หรือคิดเป็นจำนวน 618.3 ล้านหุ้น โดยมูลค่าในการซื้อขายครั้งนี้อยู่ที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 24,000 ล้านบาท คิดแล้วจะตกอยู่หุ้นละ 1.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 39.38 บาท ต่อหุ้นครับ โดยมีมูลค่ารวมของหุ้นที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามเงื่อนไขการซื้อขายกิจการโมโตโรลาที่ทำไว้ครับ
ดูเหมือนว่าโอกาสกลับมาของ BlackBerry เริ่มหมดหนทางไปทีละน้อยเสียแล้ว เพราะล่าสุดมีรายงานว่า Michael Lazaridis ผู้ก่อตั้งร่วมของ BlackBerry ประกาศขายหุ้นที่มีอยู่ในมือเดิมทิ้งแล้ว 3.5 ล้านหุ้นทำให้สัดส่วนในการถือครองหุ้นในบริษัทลดลงจากเดิมที่ 5.7%
โดยสาเหตุของการเทขายหุ้นทิ้งก็เป็นเพราะว่า Lazaridis ไม่พอใจกับผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทขาดทุนไปกว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังคงขาดทุนต่อเนื่องอย่างไม่หยุด ทำให้ความคิดเดิมที่จะซื้อหุ้น BlackBerry กลับมานั้นต้องกลับตารปัตรทันที เพราะเขาให้ความเห็นแค่ว่าบริษัทคงไม่มีโอกาสในการเติบโตอีกแล้วครับ
เมื่อวานนี้ Twitter เริ่มเข้าขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่หุ้นละ 26 ดอลลาร์ การขายหุ้นวันแรกเป็นไปด้วยดี ราคาตอนปิดตลาดอยู่ที่หุ้นละ 45.10 ดอลลาร์ หรือสูงกว่าราคาเริ่มต้นถึง 73%
ถ้าเอาราคา 45.10 ดอลลาร์มาคูณกับหุ้นทั้งหมดของบริษัท จะได้ว่า Twitter มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นที่ 31.34 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.8 แสนล้านบาท
กระบวนการขายหุ้นของ Twitter ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งกลับกันกับการขายหุ้นของ Facebook เมื่อปีที่แล้ว ที่เต็มไปด้วยปัญหาและคดีฟ้องร้องในภายหลัง อย่างไรก็ตาม Twitter ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในระยะยาวว่าเป็นบริษัทที่ทำกำไรคืนให้ผู้ถือหุ้นได้ ซึ่งยังเป็นจุดอ่อนของ Twitter อยู่ในปัจจุบัน
Google ได้มีราคาหุ้นพุ่งทะลุ 1000 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท เมื่อวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่ง Google เป็นอีกหนึ่งในไม่กี่บริษัท ที่มีราคาหุ้นผ่านทะลุระดับ 1000 เหรียญสหรัฐ อาทิ Priceline, Seaboard และ Berkshire Hathaway ซึ่งราคาดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดของ Google เพิ่มขึ้นกว่า 25 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา
ไมโครซอฟท์ประกาศวันนี้ว่าบอร์ดบริหารมีมติให้เพิ่มเงินปันผลรายไตรมาส จากเดิม 0.23 ดอลลาร์ เป็น 0.28 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 22% โดยมีผลเดือนธันวาคมปีนี้ นอกจากนี้บอร์ดยังมีมติให้ขยายระยะเวลาซื้อหุ้นบริษัทคืน เป็นวงเงินรวมถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ โดยไม่มีกำหนดอายุโครงการ จากเดิมที่โครงการจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน 2013
ซีเอฟโอ Amy Hood บอกว่ามติของบอร์ดนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการคืนเงินให้กับผู้ถือหุ้นไมโครซอฟท์
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์เริ่มจ่ายเงินปันผลในปี 2003 ที่ 0.08 ดอลลาร์ต่อหุ้น และทยอยปรับเพิ่มเงินปันผลมาโดยตลอดทุกปีครับ
ที่มา: ไมโครซอฟท์
เมื่อคืนนี้ราคาหุ้นแอปเปิลยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 2.5% ซึ่งถ้านับจากวันเปิดตัว iPhone 5s/5c ก็ลดลงมากกว่า 10% แล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญคือแอปเปิลไม่มีการออกมาประกาศยอดจองล่วงหน้าของ iPhone 5c สัปดาห์แรกว่าเป็นอย่างไร
เมื่อคืนนี้ราคาหุ้นของ Facebook ปิดการซื้อขายที่ราคา 45.04 ดอลลาร์ต่อหุ้น เป็นราคาสูงที่สุดนับตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหุ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยราคา IPO ตอนนั้นอยู่ที่ 38 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีราคาลดลงเรื่อยๆ จนต่ำกว่าราคา IPO และมูลค่าลดลงต่ำที่สุดมากกว่าครึ่ง
ข่าวการเปิดตัว iPhone 5S และ 5C เมื่อคืนนี้มีทั้งกระแสตอบรับเชิงบวกและเชิงลบ แต่ในสายตาของนักลงทุนในสหรัฐอาจดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะหุ้นแอปเปิลราคาตกลงจากวันก่อนหน้า 505 ดอลลาร์ ลดมาปิดตลาดที่ 494.64 ดอลลาร์ (ลดลง 2.28%) โดยตกไปต่ำสุดที่ 490.83 ดอลลาร์ก่อนดีดตัวกลับมาช่วงปิดตลาด
Yahoo! Finance วิเคราะห์ว่าปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนไม่ชอบใจคือราคาของ iPhone 5C ที่เปิดตัวแพงกว่าที่คาด และเมื่อแอปเปิลเผยราคาของ iPhone 5C ก็ทำให้ราคาหุ้นร่วงทันที
หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศข่าวใหญ่ซื้อกิจการโนเกียไปเมื่อวานนี้ หุ้นของโนเกียในตลาดหลักทรัพย์ฟินแลนด์ก็ดีดตัวต้อนรับข่าวดีทันที โดยราคาหุ้นวันก่อนประกาศข่าวอยู่ที่ 2.96 ยูโร พอเปิดตลาดเมื่อวานนี้ก็ขึ้นมาที่ 4.36 ยูโรทันที (เพิ่ม 47%) ก่อนจะปิดตลาดด้วยราคา 3.97 ยูโร (เพิ่มจากราคาปิดวันก่อนประมาณ 34%)
ส่วนราคาหุ้นโนเกียวันนี้ยังคงอยู่ที่ระดับ 4 ยูโร ไม่เปลี่ยนจากเมื่อวานมากนัก (ราคายังไม่ปิดตลาดนะครับ - กราฟหุ้นโนเกีย)