เอพีได้ทำโพลสำรวจคนอเมริกันทั่วไป (ที่เรียกว่า Average Joe) เกี่ยวกับการติดอุปกรณ์ไฮเทค หรือที่เราเรียกว่า Gadget ต่างๆ พบว่ามีคนถึง 28% ที่มี HDTV ไว้ในครอบครอง (แหล่งข่าวย้ำว่าอย่าเชื่อตัวเลขมาก ผมย้ำอีกทีด้วย) ค่าใช้จ่ายหลักๆ คงไปตกที่เคเบิลทีวี ค่ามือถือ อินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ๆ อย่างวิทยุผ่านดาวเทียม และของเล่น"ผู้ใหญ่"อีกสารพัด

ถึงบ้านเราจะไม่มี HDTV ไม่มีวิทยุผ่านดาวเทียม ไม่มี eBay ให้สั่งของแปลกๆ มาเล่น แต่ดูอัตราการซื้อขายมือถือและพีดีเอแล้ว แนวโน้มก็ไม่ต่างกันมากนัก มามองดูตัวเองก็อืม เราก็ใช้เงินกับของพวกนี้ไปเยอะเหมือนกันแฮะ

หลายข่าวรวบเป็นข่าวเดียวเลยนะครับ

ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องเล่น MP3 รายแรกๆ ของโลก แต่วันนี้ถึงคราวต้องปิดตัวเองลงไปแล้ว น่าเสียดายนะครับ

Rio เป็นยี่ห้อของเครื่องเล่น MP3 ที่เริ่มจากบริษัท Diamond Multimedia ซึ่งในตอนนั้นก็เป็นที่ฮือฮาพอสมควร แต่เหมือนจะเกิดผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย เพราะ Rio ต้องเจอกับการฟ้องร้องจากสมาคมบันทึกเสียงของอเมริกา หรือ RIAA เนื่องจาก RIAA ในตอนนั้นมองว่า MP3 เป็นภัยร้ายแรงต่อวงการเพลง

หลังจากมีข่าวจะทำ iTunes Phone มาข้ามปี ตอนนี้มีภาพหลุดของคู่มือออกมาแล้วครับ โทรศัพท์ของโมโตโรล่ารุ่นนี้ชื่อ E790 โดยจะเอาโครงของ E398 (ซึ่งวางขายตั้งนานแล้ว) มาเป็นฐาน โดยจะเพิ่มปุ่ม iTunes เข้าไปข้างๆ ปุ่มเมนูของโมโตโรล่าที่เป็นขีดๆ อินเทอร์เฟซการเล่นเพลงก็จะคล้ายๆ iPod คือมีปุ่ม 4 ทิศทาง ซึ่งจะควบคุมด้วยจอยสติ๊กแทน (น่าจะมี Clickwheel Phone เนาะคงเท่ดี ตอนโทรก็หมุนๆ เอาแบบโทรศัพท์เมื่อก่อน) การซื้อเพลงก็ย่อมต้องซื้อผ่าน iTunes บนพีซีหรือแมคแล้วค่อยย้ายลงมาบนโทรศัพท์ กำหนดออกสิ้นเดือนกันยายนนี้ครับ

Engadget มีตอนพิเศษ ย้อนอดีตไปยังปี 1985 แล้วก็แนะนำเทคโนโลยีใหม่สุดฮอตในช่วงนั้น ไม่ว่าจะเป็น Windows 1.0, Nokia Mobira, Macintosh XL, Nintendo Famicom, Laser Printer แค่ดูหัวข้อแต่ละอันที่ทำด้วย ASCII Art ก็ดูตั้งใจกันมากแล้ว ผมมาฮาแตกตรงหัวข้อ Tapecasts นี่แหละ

Engadget 1985

บริษัท mobiBLU เปิดตัว DAH-1500 เครื่องเล่น MP3 ที่ขนาดเล็กที่สุดในโลก

อ่านตัวเลขว่าขนาดกว้างยาวแค่ไหนมันนึกไม่ค่อยออก ดูภาพดีกว่าเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง (ภาพ)

เห็นเล็กๆ แบบนี้อย่าคิดว่ากระจอกนะครับ รุ่นท็อปสุดจุดได้ตั้ง 1GB แถมมี radio tuner ด้วยนะ (iPod ใหญ่กว่าตั้งเยอะยังไม่มีเลย) ตัว 1GB นี่ราคา 130 เหรียญ

DAH-1500

NTT DoCoMo ผู้้ให้บริการมือถืออันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มีชื่อดังจาก i-Mode ที่ประสบความสำเร็จท่วมท้น และเปิดเครือข่าย 3G ได้เป็นที่แรกในโลก กำลังเผชิญกับปัญหาอัตราการเติบโตลดลง (ก็เพราะว่าคนญี่ปุ่นเค้ามีมือถือกันหมดแล้ว) NTT จึงต้องหาหนทางใหม่ในการเติบโต

และสำหรับข่าวนี้ คือ จะใช้มือถือของ NTT เป็นบัตรเครดิตได้แล้วครับ ซึ่งในตอนนี้มือถือที่มีฟังก์ชัน FeliCa สามารถใช้เป็นบัตรเดบิตได้ และจ่ายแทนเงินได้จริงๆ แล้ว (บัตรเครดิตกับบัตรเดบิตไม่เหมือนกันนะ) ด้วยเทคโนโลยีเซนเซอร์ระหว่างโทรศัพท์กับเครื่องขายของ ทำให้กรณีคลาสสิคคือเอามือถือไปซื้อน้ำกระป๋องเกิดได้จริงแล้วในญี่ปุ่น