ตลาดพลังงานทางเลือกกำลังคึกคักขึ้นเรื่อยๆ โดย BYD และ CATL ยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่จากจีนก็เล็งจะเข้ามาทำตลาดนี้ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว
สำหรับ BYD เราคงเคยได้ยินกันมาบ้าง เพราะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน โดย BYD วางแผนว่าจะเริ่มจำหน่ายแบตเตอรี่สำหรับโรงงานและโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นภายในปี 2021
ส่วน CATL หรือชื่อเต็มคือ Contemporary Amperex Technology Ltd. ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์อันดับต้นๆ ของโลก ได้จับมือกับ Next Energy & Resources บริษัทผลิตอุปกรณ์โซลาร์ของญี่ปุ่น วางแผนว่าจะขายแบตเตอรี่สำหรับที่อยู่อาศัยและสำนักงานภายในปีหน้า โดยมีเป้าว่าจะตั้งราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 50%
จากประเด็น ZAO แอพจีน สลับหน้าให้เราเป็นดาราในโปสเตอร์หนัง สร้างความกังวลให้ชาวเน็ตว่าอาจจะมีการเก็บข้อมูลส่วนตัวเยอะเกินความจำเป็น ล่าสุด WeChat ออกมาประกาศว่าปิดไม่ให้ดาวน์โหลดแอพ ZAO แล้ว
ตั้งแต่สงครามการค้าที่ลามไปจนถึงการถูกสั่งห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจกับ Huawei จนส่งผลให้ Huawei หมดสิทธิใช้ชิป ARM จนเป็นประเด็นว่า Huawei และจีนอาจต้องพัฒนาสถาปัตยกรรมด้านนี้เองและลดการพึ่งพาตะวันตก
Zhou Zhiping ศาสตราจารย์ด้านวงจรไฟฟ้าขนาดเล็กจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งให้สัมภาษณ์ South China Morning Post ระบุว่าจีนต้องใช้เวลาอีกราว 5-10 ปีเพื่อตามสหรัฐให้ทันในด้านการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ ไม่ใช่แค่ในแง่เทคโนโลยีแต่ในแง่ทั้งอีโคซิสเต็มและซัพพลายเชน ตัวอย่างง่าย ๆ ที่ Zhou ยกมาคือจีนเพิ่งผลิตได้ 14 นาโนเมตร ขณะที่สหรัฐหรือไต้หวันทำได้ถึง 7 และ 5 นาโนเมตรไปแล้ว
แอพพลิเคชั่นสลับหน้า หรือแอพที่ผู้ใช้งานสามารถถ่ายเซลฟี่แล้วเปลี่ยนตัวเองเป็นอีกคนเพื่อความสนุกสนานนั้นยังคงสร้างความนิยมในหมู่ชาวเน็ตอย่างต่อเนื่อง แต่แอพเหล่านี้ก็มีความเสี่ยงที่จะไม่ปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนตัว
แอพล่าสุดที่ตกเป็นประเด็นคือ ZAO แอพสลับหน้าที่ให้เราสามารถเข้าไปอยู่ในโปสเตอร์หนังดัง กลายเป็นดาราได้ด้วยการถ่ายเซลฟี่ ตัวแอพได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังเปิดตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ประเด็นที่สร้างความกังวลคือ ข้อตกลงในการใช้แอพระบุว่า ผู้ใช้จะต้องยินยอมให้ ZAO และเครือผู้ใช้งาน ZAO มีสิทธิ์ในการใช้งานภาพถ่ายและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กำลังขึ้นภาษีกัน ดูเหมือน Tesla ที่ไปลงทุนสร้าง Gigafactory 3 ในจีนจะไม่ได้รับผลกระทบแถมกำลังชื่นมื่นกับรัฐบาลจีน เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและไอทีเปิดเผยว่า Tesla ในจีนจะถูกยกเว้นภาษี (purchase tax) 10% ด้วย
เงื่อนไขดังกล่าวครอบคลุมทุกรุ่นที่ขายในจีน นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Tesla จากการมาลงทุนสร้าง Gigafactory ในจีน ขณะที่ Musk มีการเข้าพบผู้นำระดับสูงของจีนหลังไปขึ้นเวที World AI Conference ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย
สหรัฐได้เริ่มขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในหมวดสินค้าต่าง ๆ แล้ว เพิ่มขึ้น 15% โดยมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา มูลค่าสินค้าที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่ 112,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนเองก็ได้ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกันมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์
สินค้านำเข้าจากจีนที่ได้รับผลกระทบนั้นนอกจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ยังมีรายการสินค้าด้านเทคโนโลยี อาทิ สมาร์ทวอทช์, ลำโพงอัจฉริยะ ไปจนถึงหูฟัง ทำให้สินค้าแอปเปิลหลายรายการอย่าง Apple Watch, HomePod และ AirPods ที่ขายในสหรัฐได้รับผลกระทบ ส่วนรายการสินค้าที่จะขึ้นภาษีนำเข้ารอบถัดไปในวันที่ 15 ธันวาคม จะมีแล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน รวมอยู่ด้วย
Carrie Lam ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กล่าวถึงเรื่องการประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Regulations Ordinance) ว่าตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาประกาศใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าวเพื่อควบคุมสถานการณ์ชุมนุมประท้วง
กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินของฮ่องกง จะให้อำนาจรัฐบาลในการควบคุมต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเซนเซอร์หรือจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย โดยกฎหมายไม่ได้ถูกประกาศใช้มาราว 50 ปีแล้ว
จากประเด็นมีข้อสังเกตที่ว่า ทวิตเตอร์แสดงโฆษณาที่ได้รับการโปรโมทจากสื่อ Xinhua ของจีน มีเนื้อหาโจมตีผู้ประท้วงชาวฮ่องกง ทวิตเตอร์ก็ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการประกาศห้ามไม่ให้สื่อรัฐบาล (state-controlled news media) ซื้อโฆษณาเนื้อหาของตัวองได้อีกต่อไป
ทวิตเตอร์ยังบอกด้วยว่าทางแพลตฟอร์มได้ระงับ 936 บัญชีที่มีพฤติกรรมเผยแพร่ข่าวปลอมที่มีเนื้อหาบั่นทอนความชอบธรรมของการประท้วงในฮ่องกง และจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ทวิตเตอร์มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าบัญชีเหล่านั้นมีการสนับสนุนจากรัฐ
ทวิตเตอร์ประกาศนโยบายการรับโฆษณาใหม่ห้ามไม่ให้สื่อรัฐบาล (state-controlled news media) ซื้อโฆษณาเนื้อหาของตัวองได้อีกต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่าสำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีน ซื้อโฆษณาเพื่อเผยแพร่เนื้อหาโจมตีการประท้วงที่ฮ่องกง
ข้อกำหนดใหม่นี้ครอบคลุมทั้งสื่อที่รัฐบาลควบคุมทางการเงินโดยตรง และสื่อที่รัฐบาลควบคุมเฉพาะเนื้อหา โดยจะอาศัยรายงานภายนอก เช่น รายงานจาก Reporters Without Bordders, Freedom House, The Economist, ไปจนถึงรายงานของ UNESCO อย่างไรก็ตามกฎนี้ไม่รวมถึงสื่ออิสระที่ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งน่าจะหมายถึงองค์กรสื่อในหลายประเทศที่มีกฎหมายเฉพาะ อย่างเช่น BBC, PBS, หรือ ThaiPBS ในบ้านเรา
บัญชีทวิตเตอร์ Pinboard และผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งสังเกตว่า ทวิตเตอร์ แสดงโฆษณาจากสื่อ Xinhua ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนที่มีเนื้อหาโจมตีการประท้วงฮ่องกง
ในเนื้อหาของโฆษณา มีความพยายามแสดงให้เห็นถึงการประท้วงว่าเป็น "การเพิ่มความรุนแรง" (escalating violence) และมีการเรียกร้องให้ใช้คำสั่งเรียกคืนด้วย
ทวิตเตอร์ต้องตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วน เว็บไซต์ Engadget ติดต่อไปยังทวิตเตอร์เรื่องนี้แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด
มีรายงานว่า Alibaba ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการทั้งหมดของ Kaola อีคอมเมิร์ซจีนที่จำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NetEase บริษัทเกมเบอร์สองของจีน โดยมูลค่าที่ตกลงกันสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 6 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบัน Kaola มีส่วนแบ่งการตลาดของอีคอมเมิร์ซสินค้านำเข้าจากต่างประเทศในจีนสูงสุดที่ 27.7% ขณะที่ Alibaba อยู่ในอันดับสองที่ 25% ดีลซื้อกิจการนี้ของ Alibaba จึงสมเหตุสมผลทีเดียว
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หลังการรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีจีนในไตรมาสที่ผ่านมาครบทุกบริษัทใหญ่แล้ว มีประเด็นน่าสนใจคือมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นล่าสุดของ Baidu ได้หลุดจาก 5 อันดับแรกของบริษัทเทคโนโลยีจีน โดยมี NetEase บริษัทเกมรายใหญ่เบอร์สองของจีนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 แทน
ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นการเรียกตัวย่อรวม 3 บริษัทไอทีใหญ่ของจีนคือ BAT ย่อมาจาก Baidu, Alibaba และ Tencent สะท้อนความใหญ่ของทั้ง 3 บริษัท อย่างไรก็ตาม Baidu ถูกแซงในแง่มูลค่ากิจการจนหลุด Top 3 ก่อนหน้านี้ จากทั้ง JD.com อีคอมเมิร์ซเบอร์สองในจีน และ Meituan ผู้ให้บริการ O2O และส่งอาหารรายใหญ่ของจีน
จนถึงตอนนี้การประท้วงในฮ่องกงยังคงคุกรุ่น โดยมีชนวนต้นเหตุมาจากประเด็นการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจนถึงความต้องการประชาธิปไตย ล่าสุด South China Morning Post รายงานว่านักท่องเที่ยวเดินทางชาวฮ่องกงส่วนหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเขตจีนแผ่นดินใหญ่ตรวจโทรศัพท์ เพื่อดูว่ามีรูปภาพการประท้วงหรือไม่
ผู้กำกับดูแลกฎหมายด้านอินเทอร์เน็ตในจีน เริ่มส่งคำเตือนไปยังผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ว่าไม่ควรขอข้อมูลจากผู้ใช้งานมากเกินความจำเป็น ระบุด้วยว่ายังมีแอพจำนวนมากมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น ตรวจจับข้อมูลแอพอื่นๆ ในเครื่อง, อ่านข้อมูลในเครื่อง เป็นต้น
สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนสหรัฐยังคงตึงเครียดต่อไป โดยเฉพาะล่าสุดที่รัฐบาลจีนสั่งระงับการสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลทรัมป์อ้างว่าจีนผิดคำพูดที่สัญญาเอาไว้จากการประชุมทวิภาคีรอบล่าสุด
หนึ่งในมาตรการตอบโต้ นอกจากเรื่องกำแพงภาษีแล้วยังคงเกี่ยวข้องกับ Huawei ที่เป็นหนึ่งในหมากบนกระดานสงครามครั้งนี้ โดย Wilbur Ross รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ออกมาเปิดเผยว่าว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีบริษัทสหรัฐยื่นคำขอเข้ามาเพื่อดำเนินธุรกิจกับ Huawei กว่า 50 คำร้อง ทว่ากระบวนการตัดสินใจให้ใบอนุญาตตอนนี้ถูกระงับเอาไว้ก่อน จากความตึงเครียดที่กลับมาเพิ่มขึ้นครั้งนี้
นับวันธุรกิจการบินต้องรองรับคนเดินทางมากขึ้น เสียงบ่นก็มากขึ้นตามไปด้วย ล่าสุด China Eastern Airlines สายการบินของรัฐจีน ใช้ AI มาแก้ปัญหาประสบการณ์ลูกค้า ใช้ความสามารถของเทคโนโลยีในการจัดการข้อมูลจำนวนมากเพื่อปรับแต่งบริการสำหรับผู้โดยสารเป็นรายบุคคล
โดยตอนนี้ทางสายการบิน พัฒนาบริการนำร่องที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะที่ดีขึ้นเกี่ยวกับมื้ออาหารบนเครื่องบิน เป็นต้น
The Guardian รายงาน โรงงาน Foxconn ในจีนในเมืองเหยินหยาง ซึ่งเป็นหนึ่งซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าให้ Amazon และ Apple ใช้แรงงานเยาวชนเกินเวลาในการผลิตลำโพงอัจฉริยะ Amazon Alexa ล่าสุด Amazon กำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่
The Guardian สัมภาษณ์พนักงานใน Foxconn พร้อมอ้างอิงเอกสารจากองค์กรแรงงานในจีนหรือ China Labour Watch สรุปได้ว่า กลุ่มเยาวชนมีราว 1,000 คน และมีอายุตั้งแต่ 16-18 ปี จะถูกเรียกว่าเด็กฝึกงาน ครูที่พาเด็กๆ ไปทำงานจะได้ค่าตอบแทนจากโรงงานด้วย
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Tesla ประกาศเริ่มก่อสร้างโรงงาน Gigafactory 3 ที่เซี่ยงไฮ้ หลังบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลจีนเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยเริ่มจากพื้นดินเปล่าๆ มาถึงวันนี้ผ่านมาเพียง 7 เดือนพอดี Tesla ได้ปล่อยภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นโรงงานทั้งโรง ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้ว
สำนักไปรษณีย์ของจีน เผยว่าได้ร่วมกับบริษัทวิจัย พัฒนารหัสไปรษณีย์รูปแบบใหม่ หรือ Personal Address ID ที่คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้และจดจำได้ ส่งผลให้แม้แต่โดรนส่งของ, รถส่งของไร้คนขับ ก็สามารถหา Personal Address ID นี้เจอ
บริการแชร์จักรยานในประเทศจีนไม่รุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในเมืองปักกิ่งเฉพาะครึ่งปีแรกปีนี้ มีการนำจักรยานที่ไม่ได้ใช้ออกจากเมืองไปถึงราว 4 แสนคัน ข้อมูลจากคณะกรรมการขนส่งปักกิ่งระบุว่าในบรรดาจักรยานที่แชร์กันทั้งหมด มีการใช้งานเพียง 30%
ปัญหาของบริการแชร์จักรยานในจีนคือ มีเยอะเกินความต้องการ และจอดไม่เป็นที่เป็นทาง จากตอนแรกช่วงปี 2016-2017 ที่มีผู้ให้บริการไม่กี่เจ้าคือ Mobike, Ofo ตอนนี้มีจักรยานจากบริษัทราว 16 เจ้า ปริมาณจักรยานพุ่งสูงถึง 2.35 ล้านคัน
South China Morning Post รายงานความเคลื่อนไหวของวงการระบบจ่ายเงิน (Payment) ในจีน จากที่ผ่านมาเราพอทราบกันว่า QR Code เป็นเทคโนโลยีหลักในการจ่ายเงิน แต่ตอนนี้สองค่ายใหญ่ทั้ง Alipay ของ Alibaba และ WeChat Pay ของ Tencent พยายามผลักดันการจ่ายเงินแบบใหม่ โดยใช้การยืนยันด้วยใบหน้าบุคคลแทน
ปัจจุบัน Alipay มีจุดรับชำระเงินด้วยการใช้ใบหน้าอยู่มากกว่า 300 เมืองในจีน และติดตั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของปักกิ่ง ซึ่งระบบของ Alipay นั้นเรียกว่า Smile to Pay กล่าวคือ ลูกค้าต้องยิ้มให้กล้องก่อนเพื่อยืนยันการจ่ายเงิน
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ชัดเจนว่าบริษัทเทคโนโลยีจากจีนกำลังมาแรงในตลาดโลก พลังมังกรไซเบอร์ที่ผสมผสานกลยุทธ์ทั้งราคาที่ถูกกว่า และเทคโนโลยีที่เหนือกว่า (ในบางด้าน) จึงเข้ามาแข่งขันกับผู้เล่นเดิมๆ ได้อย่างสูสี และสามารถเอาชนะได้เรียบร้อยแล้วในหลายอุตสาหกรรม
บทความนี้จะพาไปดูสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทเทคโนโลยีจีน ว่าปัจจุบันอยู่ตรงไหนแล้วในตลาดโลก
Bloomberg รายงานว่า Bytedance บริษัทแม่ของแอปอย่าง TikTok เตรียมจะทำเสิร์ชเอนจินของตัวเองในจีน ซึ่งจะชนกับ Baidu ที่ครองธุรกิจนี้อยู่ในประเทศ
อย่างไรก็ตามเสิร์ชเอนจินของ Bytedance ไม่ได้จะเป็นแอปแยกออกมาต่างหากแบบ Google หรือ Baidu แต่จะเป็นฟังก์ชันเสิร์ชที่ฝังอยู่ในแอปต่างๆ บนแพลตฟอร์มของ Bytedance อย่าง Douyin ที่เป็น TikTok เวอร์ชันจีนและแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง ซึ่ง Bytedance ก็น่าจะมีรายได้จากค่าโฆษณาทางนี้เพิ่ม
ที่มา - Bloomberg
WeChat Pay ประกาศทดลองจ่ายเงินผ่าน QR แบบออฟไลน์เต็มรูปแบบ บนสายการบิน Spring Airlines ที่ทั้งผู้รับจ่าย (สายการบิน) และผู้จ่ายต่างก็ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การจ่ายแบบออฟไลน์นี้จะจำกัดวงเงินไว้ที่ 200 หยวน หรือประมาณ 900 บาท และผู้ใช้ต้องยื่นรับรองชื่อจริง และสมัครโครงการทดสอบโดยมีคะแนนเครดิตในระบบของ WeChat สูงกว่า 550 คะแนน