ในแถลงผลประกอบการของ Tesla ไตรมาสที่ผ่านมา Tesla ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ที่ซีอีโอ Elon Musk เคยบอกว่ากำหนดเปิดตัววันที่ 8 สิงหาคม

โดย Tesla นำเสนอภาพหน้าจอภายในแอป Tesla ซึ่งเป็นฟีเจอร์บริการเรียกรถไร้คนขับ ที่จะออกมาในอนาคต ภาพแรกเป็นปุ่มเรียกรถเขียนว่า "Summon", ภาพที่สอง เป็นภาพแผนที่เส้นทาง 3D บอกเส้นทางและเวลาไปรับรถตามตำแหน่ง, ภาพที่สาม ตั้งค่าอุณหภูมิภายในรถที่ต้องการ, ภาพที่สี่ รายละเอียดคำสั่งเรียกรถ และภาพสุดท้ายเป็นรายละเอียดขณะเดินทาง ซึ่งมีฟังก์ชันเล่นเพลงด้วย

Elon Musk ในฐานะซีอีโอ Tesla ตอบคำถามกับนักวิเคราะห์หลายประเด็น หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด มีรายได้ลดลงและกำไรลดลง จากจำนวนส่งมอบรถที่ลดลงครั้งแรกในรอบหลายปี

Musk ตอบคำถามที่นักวิเคราะห์มองว่าเขาเป็นซีอีโอหลายบริษัทเกินไป (Tesla, SpaceX, xAI และเป็นซีทีโอ X/Twitter) จนอาจไม่สามารถทุ่มเทเวลาให้ Tesla ในสถานการณ์นี้ได้ว่า เขาใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่กับ Tesla และแทบไม่มีวันหยุดเลย เพราะเขาเชื่อว่า Tesla ยังเติบโตได้มากกว่านี้

Musk ยังตอบคำถามอื่นของนักวิเคราะห์ มีประเด็นน่าสนใจดังนี้

Elon Musk ซีอีโอ Tesla ประกาศผ่านบัญชี X ของเขา ว่าตามที่ก่อนหน้านี้เขามีกำหนดเดินทางไปอินเดีย เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ซึ่งคาดว่าเป็นการหารือตั้งโรงงานในประเทศ แต่ล่าสุดเขาตัดสินใจเลื่อนการเดินทางนี้ โดยให้เหตุผลว่ามีภาระงานหนักมากที่ Tesla โดยจะหาวันเดินทางไปอินเดียอีกครั้งภายในปีนี้

Elon Musk โพสต์ข้อความผ่าน X ว่าบริษัท Tesla จะเปิดตัวรถยนต์สำหรับแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ในวันที่ 8 สิงหาคม 2024 โดยไม่มีรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง Reuters อ้างแหล่งข่าวหลายราย รายงานว่า Tesla ยกเลิกโครงการรถไฟฟ้าราคาถูก (ที่เราเรียกกันเล่นๆ ว่า Model 2) และเปลี่ยนทิศทางของโครงการรถยนต์รุ่นนี้ไปใช้กับ robotaxi แทน ซึ่ง Elon ก็มาตอบสั้นๆ แค่ว่า "Reuters is lying (again)"

Elon Musk ในฐานะซีอีโอ Tesla และ xAI ประกาศว่าบริษัทได้ปรับขึ้นเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ กับพนักงานในฝ่ายวิศวกรรรม AI ของ Tesla รวมทั้ง xAI บริษัทที่พัฒนาด้าน AI ของเขาด้วย

สาเหตุนั้น Musk บอกว่าเริ่มจาก Ethan Knight วิศวกรฝ่าย Computer Vision ของ Tesla มีแผนจะลาออกไปอยู่ OpenAI เขาจึงให้ข้อเสนอที่สูงกว่าและไปทำงานที่ xAI แทน เขายังบอกว่า OpenAI นั้นพยายามดึงตัววิศวกร AI จาก Tesla อยู่ตลอด โดยเสนอเงินเดือนที่สูง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสำเร็จ

xAI บริษัท AI ของ Elon Musk ได้เปิดตัวโมเดล Grok-1.5 โดยเพิ่มความสามารถรองรับข้อความขนาดยาวสูงสุด 128,000 โทเคน

นอกจากนี้ ผลการวัดประสิทธิภาพบนชุดทดสอบ (benchmark) ของโมเดล Grok-1.5 เช่น MATH ทำได้ถึง 50.6% (4-shot) และ GSM8K ทำได้ 90% (8-shot) สามารถเอาชนะโมเดล Mistral Large ของบริษัท Mistral รวมถึงโมเดล Grok-1 ที่เพิ่งแจกจ่ายโมเดลออกไป แต่ยังคงแพ้ Claude 3 Opus กับ GPT-4 ในหลายชุดทดสอบ

ทาง xAI ยังประกาศว่าโมเดล Grok-1.5 จะเปิดให้ใช้งานผ่าน 𝕏 เร็ว ๆ นี้และเปิดรับสมัครพนักงานดูแลงาน Infra อีกด้วย

X Premium บริการ Subscription จ่ายเงินรายเดือนสำหรับผู้ใช้ X ให้ได้เครื่องหมายยืนยันตัวตนติ๊กถูกสีฟ้า และฟีเจอร์เสริมเช่น โพสต์ข้อความได้ยาวขึ้น เพิ่มการถูกมองเห็น แสดงโฆษณาน้อยลง ฯลฯ เป็นช่องทางรายได้ที่ Elon Musk ให้ความสำคัญและผลักดันมาตลอดตั้งแต่มาเป็นเจ้าของ Twitter ที่ตอนนี้ชื่อ X ล่าสุด Musk มาพร้อมไอเดียใหม่อีกแล้ว

โดยเขาโพสต์ข้อความว่าบัญชีผู้ใช้งาน X ที่มีผู้ติดตามเป็นบัญชียืนยันตัวตน (มีเครื่องหมายติ๊กถูก) อย่างน้อย 2,500 บัญชี จะได้ใช้งาน X Premium และถ้ามีบัญชียืนยันตัวตนติดตามถึง 5,000 บัญชี ก็จะได้แพ็คเกจบน X Premium+ ไปเลย

xAI สตาร์ทอัพด้าน AI ของ Elon Musk โอเพนซอร์ส Grok-1 โมเดล LLM ของบริษัท ซึ่งในซอร์สมีทั้งค่าพื้นฐานจำเป็นคือ Weight และโครงสร้างเครือข่าย ตามที่ Musk เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้

Grok-1 เป็นโมเดลขนาด 314 พันล้านพารามิเตอร์ ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบ Mixture-of-Experts (MoE) ตัวโอเพนซอร์สนี้เป็นโมเดลในระยะก่อนการเทรน (Pre-training) สถานะ ณ เดือนตุลาคม 2023 จึงยังไม่ได้ถูกปรับแต่งเพื่อแอพพลิเคชันหรือลักษณะการนำไปใช้งานใดโดยเฉพาะ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ github.com/xai-org/grok

ที่มา: xAI

OpenAI ทำหนังสือชี้แจงต่อศาลอย่างเป็นทางการ จากประเด็นที่ Elon Musk ฟ้องร้องผู้บริหารและหน่วยงาน ในประเด็นนำ OpenAI ซึ่งมีสถานะเป็นมูลนิธิไปแสวงหากำไร ไม่เป็นไปตามข้อตกลงเมื่อตอนก่อตั้ง ซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และเมื่อ AI พัฒนาไปมากขึ้น OpenAI ก็ยังปิดข้อมูลมากขึ้น

OpenAI บอกว่าไม่มีสัญญาในตอนก่อตั้ง หรือข้อตกลงที่ทำกับ Musk แต่อย่างใด เรื่องราวเกี่ยวกับสัญญานั้นเป็นสิ่งที่ Musk อ้างขึ้นมา เพราะเขาต้องการมีส่วนร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้นจาก OpenAI ที่เขาเคยมีสถานะร่วมก่อตั้ง แต่เขาแยกตัวออกไปเอง แล้วได้แค่มองความสำเร็จที่เกิดขึ้นซึ่งไม่มี Musk อยู่ดี

ข่าวสั้นจาก Elon Musk ในฐานะเจ้าของ xAI สตาร์ทอัพด้าน AI ที่มีแชทบอตถามตอบ Grok ให้บริการ โดยเขาโพสต์ข้อความใน X ว่า xAI จะโอเพนซอร์ส Grok ภายในสัปดาห์นี้

Musk เปิดตัว Grok เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว และชูจุดเด่นว่า Grok เรียนรู้ข้อมูลจาก X แบบเรียลไทม์ โดยจะเปิดให้ใช้งานกับผู้สมัคร X Premium

Elon Musk เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียล X หรือชื่อเดิม Twitter เปิดเผยแผนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่แสดงในหน้าฟีดผู้ใช้งานแบบใหม่ โดยประเด็นสำคัญคือเขาจะตัดตัวเลขจำนวน Like, Repost (Retweet), Reply ออกไปให้หมด เหลือเพียงตัวเลขเดียวที่แสดงคือยอดวิว (View Count)

Musk ให้ข้อมูลนี้ผ่านการตอบหลายโพสต์ของผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถสรุปแนวทางที่น่าจะเกิดขึ้นดังนี้

OpenAI ออกคำแถลงตอบโต้ หลังจาก Elon Musk หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ยื่นฟ้อง OpenAI และผู้บริหาร รวมทั้ง Sam Altman ซีอีโอ ในหลายประเด็น ทั้งการละเมิดข้อสัญญานำบริษัทไปแสวงหากำไร, ไม่เปิดเผยเทคโนโลยีต่อสาธารณะ ตามแนวทางที่ระบุไว้เมื่อตอนก่อตั้ง

ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวเป็นการภายในกับพนักงาน ยืนยันว่าแนวทางทุกอย่างที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว

Jason Kwon หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของ OpenAI ออกอีเมลถึงพนักงานทุกคน หลังจาก Elon Musk หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ยื่นฟ้องซีอีโอ Sam Altman และ Gregory Brockman ประธานบอร์ด ข้อหาละเมิดสัญญา นำ GPT-4 ไปแสวงหากำไรโดยไม่เปิดเผยโครงสร้าง ซึ่งไปจากแนวทางตอนก่อตั้ง โดย Kwon บอกว่าสิ่งที่คนใน OpenAI มีเป้าหมายและกำลังทำอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ Musk พยายามกล่าวหา ทั้งการบอกว่า GPT-4 เป็น AGI (AI ใช้งานได้ทั่วไป) หรือการบอกว่าบริษัทเป็นบริษัทในเครือไมโครซอฟท์

ซีอีโอ Sam Altman ก็ส่งอีเมลอธิบายจากเหตุการณ์เดียวกัน บอกว่าปีนี้จะเป็นที่ยากลำบากปีหนึ่งของบริษัทแน่นอน เพราะมีคนคอยจ้องโจมตีเราอยู่ตลอดอยู่แล้ว

Elon Musk ยื่นฟ้อง Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Gregory Brockman ประธานบอร์ด OpenAI ข้อหาละเมิดสัญญา (breach of contract) จากการนำ GPT-4 ไปหากำไรโดยไม่เปิดข้อมูลโครงสร้างภายใน และรับเงินลงทุนจากไมโครซอฟท์จนไมโครซอฟท์กลายเป็นผู้ควบคุมองค์กร

คำฟ้องของ Elon Musk ระบุว่าเขาบริจาคเงินให้ OpenAI เพราะผู้ก่อตั้งสัญญาว่าจะสร้างเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ไม่ใช่การหากำไร และเทคโนโลยีจะเปิดต่อสาธารณะยกเว้นมีเหตุความปลอดภัยเท่านั้น

หลังจากแอปเปิลเริ่มขายเฮดเซต Vision Pro ให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกา ก็มีคอนเทนต์ใส่ Vision Pro ในสถานการณ์ต่าง ๆ มากมาย ที่ดูจะสุ่มเสี่ยงหน่อยและเป็นข่าวในหลายสื่อ ก็คือการใส่ขณะนั่งรถ Tesla ที่เปิดโหมดขับรถอัตโนมัติ ซึ่งอาศัยการมองภาพถนนผ่าน Vision Pro อีกที จึงไม่ปลอดภัยและมีคำเตือนออกมาแล้ว

เมื่อ Tesla รวมกับ Apple Vision Pro ดูเป็นสิ่งที่หลายคนอยากนำมาใช้งานร่วมกัน ก็เลยต้องไปถามความคิดเห็นของ Elon Musk ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Tesla ซึ่งได้ลองใช้ Vision Pro แล้วเช่นกัน

Neuralink บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีชิปเชื่อมต่อกับสมองมนุษย์ของ Elon Musk ประกาศว่าได้ทดลองฝังอุปกรณ์ในสมองมนุษย์คนแรกแล้ว ซึ่งตอนนี้ผู้ทดสอบคนแรกฟื้นดีแล้ว

ก่อนหน้านี้ Neuralink ประกาศรับสมัครอาสาสมัครทดสอบ หลังจากได้รับการอนุมัติจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ โดยต้องการคนที่เป็นอัมพาตครึ่งซีก เพื่อทดสอบความสามารถควบคุมหรือติดต่อสื่อสารได้ผ่านการคิดจากสมอง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายแรกของเทคโนโลยีนี้

Financial Times รายงานข่าวว่าบริษัท xAI ของ Elon Musk กำลังเดินสายระดมทุนก้อนใหญ่มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ ที่มูลค่าบริษัท 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อนำเงินทุนมาสู้ศึกกับบริษัท AI รายอื่นๆ อย่าง OpenAI, Microsoft, Google, Anthropic ที่มีทรัพยากรในมือจำนวนมาก

ตามข่าวบอกว่านักลงทุนที่ได้พูดคุยกับ xAI มาจากหลากหลายภูมิภาค เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง โดยมี Morgan Stanley เป็นธนาคารที่ช่วยประสานงานเจรจากับนักลงทุนให้ ก่อนหน้านี้ Morgan Stanley เคยร่วมลงทุนกับ Elon ในการซื้อ Twitter มาแล้ว

ที่มา - Financial Times

Elon Musk พูดถึงบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนว่ากำลังแข็งแกร่งอย่างมาก และบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ นอกจีนนั้นต้องอาศัยกำแพงทางการค้าเพื่อให้ต่อสู้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะหายไปแทบทุกบริษัท โดยเขาพูดระหว่างการรายงานผลประกอบการของ Tesla ประจำปีนี้

BYD เพิ่งทำยอดขายแซงหน้า Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่บริษัทอื่นๆ จากจีนก็ขยายตัวแข่งกันอย่างรุนแรงเช่นกัน

Musk ยังยืนยันข่าวลือที่ว่า Tesla กำลังเตรียมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไป และเริ่มเดินสายการผลิตจริงครึ่งหลังของปี 2025 โดยคาดกันว่ารถรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ราคาต่ำลง

MrBeast ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ได้อัปโหลดคลิปรายการของเขาลงใน X เป็นครั้งแรก โดยเลือกคลิป $1 Car vs $100,000,000 Car ที่เคยลง YouTube แล้วมาลงซ้ำ ซึ่งเขาบอกว่าเพื่อตอบคำถามว่าเขาสามารถทำเงินส่วนแบ่งโฆษณาจากการลงวิดีโอใน X ได้มากแค่ไหน จึงทดลองดู และจะแชร์ตัวเลขให้ดูในสัปดาห์หน้า

Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX รวมถึงเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียล X ตอบโพสต์ของผู้ใช้งานบน X ในประเด็นจำนวนหุ้น Tesla ที่เขาถืออยู่ว่า เขารู้สึกไม่สบายใจถ้าจะผลักดัน Tesla ให้เติบโตเป็นผู้นำด้าน AI และ Robotics โดยที่เขาไม่ได้ถือหุ้น Tesla ที่ระดับ 25% ซึ่งตัวเลขนี้มากพอที่จะมีอิทธิพลในบริษัท แต่อาจไม่ถึงกับเอาชนะการโหวตได้ทุกครั้ง

ปัจจุบัน Musk ถือหุ้น Tesla อยู่ประมาณ 13% (411 ล้านหุ้น)

บริษัท SpaceX ผู้ผลิตจรวดและดาวเทียมของ Elon Musk ถูกกรมแรงงานของสหรัฐฯ กล่าวหาว่าไล่พนักงาน 8 คนออกอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากส่งจดหมายวิจารณ์ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงอย่าง Elon Musk ว่าเป็นอุปสรรคและเป็นที่น่าอับอาย (distraction and embarrassment) ต่อองค์กร

เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคร่วมกับคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติ หรือ National Labour Relations Board (NLRB) ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนโดยอ้างว่า SpaceX ละเมิดสิทธิของคนงานภายใต้กฎหมายแรงงานของรัฐบาลกลางในการรวมตัวกัน และสนับสนุนสภาพการทำงานที่ดีขึ้น

T-Mobile บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐ ประกาศว่าจรวด Falcon 9 ของ SpaceX ได้ส่งดาวเทียม 6 ดวง ขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งเป็นดาวเทียมชุดแรกที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณโทรศัพท์ตรงสู่พื้นโลกไปที่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน

เป้าหมายคือการเชื่อมต่อผู้ใช้งานแบบ Direct to Cell (D2C) ให้ได้ทุกที่ในโลก แม้ในจุดที่ไม่มีสัญญาณ โดยนอกจาก T-Mobile แล้ว SpaceX ยังร่วมทดสอบบริการนี้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์อีก 6 ราย ใน 6 ประเทศ ได้แก่ Optus (ออสเตรเลีย), Rogers (แคนาดา), One NZ (นิวซีแลนด์), KDDI (ญี่ปุ่น), Salt (สวิตเซอร์แลนด์) และ Entel (ชิลี)

D2C ในช่วงแรกจะทดสอบด้วยการส่งข้อความตัวหนังสือก่อน จากนั้นจึงขยายมาทดสอบบริการคุยเสียง และการรับส่งข้อมูล ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี

หลังจากทั้ง BYD และ Tesla รายงานตัวเลขยอดขายรถยนต์นับถึงสิ้นปี 2023 กันครบแล้วเมื่อวานนี้ ทำให้ตอนนี้ BYD สามารถแซงหน้า Tesla ด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ได้อย่างเป็นทางการแล้ว

ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนของ BYD ในไตรมาส 4/2023 (ไม่นับรวมไฮบริด) คือ 526,400 คัน ส่วน Tesla ในไตรมาสเดียวกันคือ 484,500 คัน ถึงแม้ตัวเลขฝั่ง Tesla เองถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ของบริษัท แต่ BYD ผลิตได้เยอะเป็นประวัติการณ์ยิ่งกว่า ทำให้ BYD แซงหน้า Tesla ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกถ้านับยอดขายรายไตรมาส

MrBeast ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ตอบโพสต์ของ Elon Musk บน X หลังจากเขาบอกว่าได้อัปโหลดวิดีโอตอนล่าสุดแล้ว โดย Musk สนับสนุนให้เขาอัปโหลดวิดีโอลงแพลตฟอร์ม X ด้วยอีกแห่ง

Jimmy Donaldson หรือ MrBeast ตอบโพสต์ของ Musk แบบตรง ๆ ว่า ต้นทุนการผลิตวิดีโอของเขาอยู่ที่หลายล้านดอลลาร์ ต่อให้ได้ยอดวิวเป็นพันล้านครั้งบน X ส่วนแบ่งที่ได้ก็คิดเป็นเงินเล็กน้อยเท่านั้น เขาจะยอมร่วมทดสอบก็ต่อเมื่อผลตอบแทนมากกว่านี้เท่านั้น

ที่ผ่านมา X มีโครงการจ่ายเงินส่วนแบ่งโฆษณาให้กับครีเอเตอร์ ซึ่งตัวเลขเมื่อเดือนกันยายน X จ่ายเงินไปแล้วรวมกว่า 20 ล้านดอลลาร์

CNN รายงานว่า Elon Musk เตรียมเปิดโรงเรียนประถม-มัธยมที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ใช้ชื่อว่า The School โดยระยะยาวมีแผนพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยด้วย

Elon Musk มีความสนใจด้านการศึกษามาโดยตลอด ในอดีตเขาก็เคยมีส่วนร่วมก่อตั้งโรงเรียน Ad Astra ที่สำนักงานใหญ่ของ SpaceX ในแคลิฟอร์เนีย และในปี 2021 เขาเคยประกาศว่าอยากตั้งมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์ในเท็กซัส มาก่อน ส่วนเหตุผลที่เลือกเท็กซัสคงเป็นเพราะย้ายสำนักงานใหญ่ของ Tesla จากแคลิฟอร์เนียมาอยู่เท็กซัสแล้วนั่นเอง