สำนักข่าว BBC รายงานว่าได้รับเอกสารภายในจากบริษัท ARM แจ้งให้พนักงานหยุดทำธุรกิจกับหัวเว่ยทั้งหมดเนื่องจากสถาปัตยกรรม ARM นั้นมี "เทคโนโลยีสหรัฐฯ"
ARM ไม่ได้ขายชิปโดยตรงแต่ขายสถาปัตยกรรมคำสั่ง (instruction set architecture - ISA) และพิมพ์เขียวของชิปเพื่อให้บริษัทต่างๆ นำไปปรับแต่งและผลิตขายด้วยตัวเอง บริษัทผู้ผลิตชิปเช่นแอปเปิล, ซัมซุง, หรือหัวเว่ย ต้องซื้อสิทธิ์ในการผลิตจาก ARM ก่อนจะผลิตชิป
ตัว ARM เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร แต่เจ้าของบริษัทคือ SoftBank จากญี่ปุ่น อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีซีพียูนั้นมักมีการซื้อเทคโนโลยีข้ามบริษัทกันไปมาหลายต่อ
ARM ไม่ยืนยันหรือปฎิเสธข่าวนี้ แต่บอกกับ BBC ว่า "บริษัททำตามการกำกับดูแลโดยสหรัฐฯ ตามเงื่อนไขล่าสุด" ส่วนทางหัวเว่ยปฎิเสธไม่ออกความเห็น
ที่มา - BBC
ภาพ Kirin 980 จากเว็บไซต์หัวเว่ย
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ถ้ายืนยันว่าจริงนี่ก็ลาก่อนเลยนะครับ
รู้สึกว่า CPU แห่งชาติของจีนเป็นสถาปัตยกรรม MIPS หรือเปล่า
I need healing.
คำสั่งไม่มีผลย้อนหลังไม่ใช่หรอ
งั้นhuaweiก็พัฒนาต่อจากkirinเดิมได้สิ
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนarchitect
รายละเอียดไม่มีใครบอกครับ แต่ชิป ARM ปกติต้องซื้อสิทธิ์ผลิต "รายตัว" ด้วยครับ ไม่ใช่ซื้อพิมพ์เขียวมาขาดเลย
lewcpe.com, @wasonliw
เท่าที่เคยหาข้อมูล
การซื้อรายตัวเป็น License แบบนึง (Single/Multi Use) ซึ่งล๊อคไว้ว่าทำได้เฉพาะ Core รุ่นไหน
แต่มี License ที่สูงกว่านั้นคือ Subscription ซึ่งเข้าถึงพิมพ์เขียวและผลิตได้ทุก Core (รุ่น Cortex) ใน portfolio ของ ARM ตลอดช่วงเวลาของ License แต่ละรอบด้วยครับ
ซึ่งผู้ผลิตชั้นนำแทบทุกเจ้าใช้ License แบบ Subscription หมด
ไม่แน่ใจว่าถ้าข่าวนี้เป็นจริงคือ ARM จะรักษา License ของ Huawei ไว้ไหม (ไม่ให้ต่ออายุ แต่ License เดิมก็ปล่อยหมดอายุไป)
หรือ revoke license เลย
มันไม่ใช่สัญญาขายขาดครับ แล้วถ้าต่อสัญญาไม่ได้ CPU รุ่นต่อไปก็จะพัฒนาไม่ได้ถ้ายังใช้ ARM อยู่
พูดง่ายๆคือความเร็วก็จะอยู่ที่รุ่นล่าสุดที่ทำสัญญาเอาไว้ไม่ได้
ติ่งจีนไม่ถูกใจสิ่งนี้ แล้วถ้าไม่มีซีพียู หงเม่ง โอเอส จะไปต่อยังไง
ทำไมหัวเว่ยไม่สนใจ Sailfish OS บ้างนะ อยากลองใช้
เหลืออีกท่าคือไปใช้ RISC-V แต่แบบเดียวกับ AOSP คือซื้ออย่างอื่นไม่ได้ (พวกพิมพ์เขียวพร้อมผลิต) ต้องทำเองใหม่หมดจากชุดคำสั่ง
lewcpe.com, @wasonliw
RISC-V มัน target IoT ด้วยสิ จะไหวไหมน่อ
งี้จีนจะอ้างแล้วใช้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ได้ไหมครับ
ขายแค่ในจีนอาจะได้....
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
สงสัยเหมือนกันว่า Huawei มีสิทธิบัตรใน 5 g ค่อนข้างเยอะ บ. สหรัฐฯ จะทำ 5g จะซื้อสิทธิบัตรจาก Huawei ได้หรือเปล่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
น่าจะไม่ได้
น่าสนุกดี ถ้าเกิดเป็นเรื่องจริง อยากรู้ว่าจีนจะทำยังไง กับการโดนแบนแบบโหดในครั้งนี้ ?
ปกติแล้ว Essential Patents นี่ น่าจะเป็น FRAND Patents ไม่ใช่เหรอครับ?
ไม่น่าจะ Ban ไม่ให้ใช้ได้นะครับ
FRAND นี่รัฐสั่ง
ไม่ขายเลยนี่ก็รัฐสั่งครับ ส่วนว่าสั่งขัดกับ FRAND ได้ไหมนี่ผมไม่แน่ใจกฎหมายล่ะ (มันกฎหมายนานาชาติด้วยแบบนี้)
lewcpe.com, @wasonliw
ระวังแหย่หนวดมังกรให้ตื่นนะ
ตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมา เดี๋ยวก็โดนพ่นไฟใส่หรอก 555 //บอกนกอินทรี
ถ้าจะเล่นกันขนาดนี้ ผมว่าอีกหน่อยประเทศใหญ่ ๆ ทั่วโลก ไม่เฉพาะจีน คงต้องผลิตออกแบบชิปเอง เพราะก็ต้องป้องกันตัวเองจากปัญหานี้เช่นกัน มันจะลามไปทั่วโลก และต้นทุนจะสูง และมีปัญหากับความเข้ากันได้ของชุดคำสั่งแน่ๆ
หรืออีกหน่อย การผลิตของพวกนี้ อาจจะต้องมีอนุสัญญาที่เป็นกลาง ไม่ขึ้นกับประเทศใด ไม่งั้นผู้ผลิตชิปแต่ละประเทศอาจจะไม่กล้าซื้อ เพราะกลัวจะมีปัญหาข้อนี้เหมือนกัน
ตอนแรกอาจจะดูว่าสหรัฐอเมริกาชนะ แต่ระยะยาวทุกธุรกิจ อาจจะต้องมาสายนี้ (อนุสัญญาที่เป็นกลาง ไม่ขึ้นกับประเทศ) และถ้ามาสายนี้ และไม่ขึ้นกับประเทศ รัฐบาลประเทศเจ้าของ license อาจจะปวดหัวมากขึ้น บริษัททำธุรกิจยากขึ้น สุดท้าย รัฐบาลของประเทศเหล่านี้ก็จะเดือดร้อนกันไปตาม ๆ มา เป็นผลมาจากสิ่งที่เริ่มไว้
ผมว่าน่าจะวุ่นวาย แต่มองให้ดี มันคือการจัดระเบียบใหม่ว่า ของแบบนี้ไว้ใจไม่ได้แล้ว ต้องมีทางออกหลาย ๆ ทาง
ถ้าสมดุลนี้ถูกเปลี่ยน (ARM, Google, Apple, etc.) ก็อาจเป็นไปได้ว่า ในอนาคต อาจจะมีเจ้าใหม่ ๆ ที่ใหญ่พอ จะมาเป็นคู่แข่งธุรกิจเหล่านี้ก็ได้ เพราะ USA ดันไปเขย่าสิ่งที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ให้เป็นสมการอื่นแทน
เห็นด้วยครับ
แล้วแบบนี้เวลามีปัญหาเช่นโดนละเมิด โดนเบี้ยวไม่จ่าย ใครดูแล ใช้กฏหมายใครครับ ?
สถาปัตยกรรม CPU บนโลกมีมากมายเยอะแยะครับ พวก Intel , ARM , IBM ฯลฯ เขาทุ่มเงินทำมาเป็นแสนล้าน เวลาเป็นสิบๆ ปี ผ่านช่วงจะเจ๊งมานับไม่ถ้วนอยู่มาบอกว่าเป็นมบัติโลกนี่มันไม่ใช่ละมั้งครับ
ถ้าข่าวนี้เปลี่ยนเป็น MediaTek หรือ Apple โดนบ้าง ผมเชื่อว่าเม้นนี้จะไม่ออกมาแน่
I need healing.
เขาไม่ได้ไม่จ่ายลิขสิทธิ์นะ แต่เป็นเพราะคำสั่งปกครอง ไม่ให้เขาขายต่างหาก ทำให้คนจะขาย ขายไม่ได้ คนจะซื้อ ก็ซื้อไม่ได้
คือผมตั้งคำถามว่าถ้าไม่ขึ้นต่อประเทศใด ใครจะคุ้มครองเวลามีปัญหาครับ
I need healing.
จริง ๆ ก็มีซีพียูที่เปิดซอร์สอยู่เหมือนกัน แต่ performance ยังไม่ถึงขั้นครับ
เหมือนจะมีไม่กี่ประเทศที่ pure inventure ชนะ supplier ซึ่งก็เมื่อ 30 ปีมานี้ สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อคงการเติบโตของความคิดสร้างสรรค์และก้าวหน้าเอาไว้แบบทุนนิยม ลองถ้าจีนเกิดเปิดใจด้วยการโดนบีบแบบนี้ใหม่ ให้รายเล็กได้แข่งขันโดยยอมเจ็บตัวในภาคใหญ่ มันก็จะเกิดผลแบบเดียวกัน แต่ช่างมันเถอะมันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ก็ในเมื่อมาทางลัดขนาดนี้แล้ว แถมพลวัตรภายในภายนอกก็ยังไม่ได้เหนือกว่า แต่เริ่มตั้งหลักสู้เอง นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่เตะตัดขาแบบดีเลย์ไป 10 ปี
กว่าโลกทั้งใบ จะมีฉันทานุมัติร่วมกันว่า เรามาแชร์หลาย ๆ สิ่งร่วมกัน เป็น common agreement หรือ common protocol เรามากำหนดมาตรฐานร่วมกัน แล้วใช้ของร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ต่อตัวเจ้าของผลิตภัณฑ์ ไม่ต้องทำอะไรออกมามากมายเพื่อให้รองรับกับหลาย ๆ มาตรฐาน และจะทำให้ต้นทุนทุกฝ่ายถูกลง ระยะเวลาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เร็วขึ้น ผู้ใช้งานไม่วุ่นวาย เราผ่านยุคนั้นมาแล้วจริง ๆ
แต่เวลานี้ อาจจะเป็นสัญญาณของจุดเริ่มต้นว่า แต่ละเจ้า อาจจะออกแบบแยกกัน เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องแบบนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต มันอาจจะเป็นเรื่องยากมาก กับการที่เราจะกลับมาในแบบเดิมได้อีก ถ้า US ยังไม่หยุดเล่นเกมแบบนี้
+1
บอกแล้วว่าสหรัฐจะไม่แบนคนเดียว เพราะสหรัฐพวกมาก มักจะใช้วิธีหมาหมู่รุมแบน ยิ่งอังกฤษนี่แล้วแต่พี่กัน พี่กันเอาไงหนูกิดเอาด้วย อย่างกับเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา เพราะฉะนั้นทุกประเทศถ้าไม่อยากมีปัญหาก็อย่าหือ จงสิโรราบให้อเมริกาซะ
ไม่ใช่แค่มือถือ
Router networkของhuaweiใช้cpu armด้วย...โดนกระทบหนักมาก
โห... ถ้า ARM แบน Huawei ผลกระทบรุนแรงกว่า 100 เท่าเลย เทียบกับแบน Andriod
+1
สมัยก่อนหัวเหว่ยยังเคยซื้อ 3Com+USRobotics >>> H3C มาแล้ว ไม่รู้ว่าสิทธิบัตรต่างๆขายทิ้งกลับไปอยู่กับ HP ด้วยหรือเปล่า
ความสัมพันธ์ระหว่าง softbank กับ จีน จะสั่นคลอนไหมเนี่ย
จีนก็มีความสามารถออกแบบเองผลิตใช้เองได้ทั้งเครื่อง มันอาจจะต่างมาตรฐานทำให้ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาไม่ได้ ต่างคนต่างผลิตใช้กันเอง ส่วนประเทศอื่นก็เลือกซื้อได้
ออกแบบใหม่โดยไม่ติดสิทธิบัตรของคนอื่นโดยให้ประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าของในตลาดปัจจุบันได้ไหม อันนี้สิยากจริงๆ