BeagleBoard ผู้ผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์ BeagleBone ที่ได้รับความนิยมมาก่อน Raspberry Pi ตอนนี้ก็กลับมาออกบอร์ดรุ่นใหม่อีกครั้ง ในชื่อ BeagleBone AI
ชิปหลักคือ TI AM5729 ภายในเป็น Cortex-A15 พร้อมคอร์ DSP และไมโครคอนโทรลเลอร์ Cortex-M4 แรมบนบอร์ด 1GB สตอเรจ 16GB แบบ eMMC พอร์ตแลนกิกะบิต รับพลังงานผ่านช่อง USB Type C
ตัวซอฟต์แวร์ติดตั้งมาจากโรงงานพร้อมไลบรารี TIDL สำหรับการพัฒนาโมเดล Deep Learning บนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
วางขายไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 100 ดอลลาร์
FriendlyARM ผู้ผลิตบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์วางขายบอร์ด NanoPi R1 ใช้ชิป Allwinner H3 จุดเด่นสำคัญคือมีพอร์ตแลน 2 ช่อง สำหรับงานที่ต้องการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คหลายวงแยกกัน
พอร์ตแลน 2 พอร์ต ความเร็ว 1Gbps และ 100Mbps มีพอร์ต UART ภายนอก, USB 2.0 2 ช่อง ช่องต่อเสาอากาศ โดยรวมน่าจะใช้กับงาน IoT เป็นหลัก
รุ่นเล็ก 29 ดอลลาร์ แรม 512MB และไม่มี eMMC รุ่นใหญ่ 39 ดอลลาร์ แรม 1GB พร้อม eMMC 8GB ค่าส่งมาไทย 13 ดอลลาร์
ที่มา - FriendlyARM, CNX Software
Lichee Pi ออกบอร์ด Zero ที่ใช้ชิป Cortex-A7 มาตั้งแต่ปี 2017 ตอนนี้ก็มีบอร์ดเวอร์ชั่นเล็กลงคือ Lichee Pi Nano ที่ขนาดเกือบเท่าการ์ด SD
บอร์ดใช้ชิป Allwinner F1C100s ที่คอร์เป็น ARM9 สัญญาณนาฬิกา 900MHz หน่วยความจำในตัว 32MB และมีวงจรถอดรหัส h.264 ที่ 720p ได้ ใส่การ์ด micro SD ได้ และมีหน่วยความจำแฟลชบนบอร์ด
ด้านซอฟต์แวร์รองรับทั้งลินุกซ์, RT-Thread, และ Xboot เอกสารการพัฒนามีเฉพาะภาษาจีน
ODROID ผู้ผลิตบอร์ดฝั่งเกาหลีเปิดตัวบอร์ดรุ่นใหม่ ODROID-N1 ที่ใช้ Rockchip RK3399 ชิปประสิทธิภาพสูงรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Pine64 RockPro
จุดเด่นของบอร์ดรุ่นนี้คือแรมที่สูงถึง 4GB แบบ dual-channel และมีพอร์ต SATA เชื่อมต่อกับซีพียูผ่าน PCIe 2.0 ไม่ได้ผ่าน USB 3.0 เช่นบอร์ดขนาดเล็กอื่นๆ
ตัวบอร์ดมีสองรุ่น คือแบบมีพัดลมและไม่มีพัดลม หากต้องการใช้งานหนักๆ ตลอดเวลาทางผู้ผลิตแนะนำให้สั่งแบบมีพัดลม และบอร์ดต้องการตัวจ่ายไฟ 12V/2A หากต้องการจ่ายไฟให้ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้วครบทั้งสองลูกจะต้องการ 12V/4A ตัวบอร์ดราคาประมาณ 110 ดอลลาร์ แต่ขึ้นกับราคาแรมแต่ละช่วงด้วย
Pine64 ผู้ผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมาตั้งแต่ปี 2015 ตอนนี้ทางโครงการก็เปิดตัวบอร์ดเพิ่มอีกสองรุ่น คือ Pine H64 และ RockPro64
Pine H64 ใช้ชิป Allwinner H6 ที่ภายในเป็น Cortex-A53 พร้อมกราฟิก Mali-T720 MP2 รองรับวิดีโอ 4K60 สามารถต่อบอร์ดเสริมได้หลายแบบ ตั้งแต่ mini PCIe, eMMC, RTC, Wi-Fi/Bluetooth บนตัวบอร์ดมีพอร์ตแลนกิกะบิต, USB 2.0, USB 3.0, GPIO อีก 20 ขา, อินฟราเรด
ราคาแบ่งตามแรม 1GB 25 ดอลลาร์, 2GB 35 ดอลลาร์, และ 3GB 45 ดอลลาร์ วางตลาดพรุ่งนี้
Raspberry Pi เปิดตลาดบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กทำให้มีบริษัทออกบอร์ดขนาดเดียวกันหรือใกล้เคียงกันออกมามากมาย เช่น กล้วย, ส้ม ไปจนถึงบอร์ดที่ไม่ได้ใช้ชื่อผลไม้เช่น ODROID หรือ Tinker Board ล่าสุดตอนนี้ผู้ผลิตฝั่งยุโรปที่ชื่อว่า Scalys ก็เปิดตัว Grapeboard SBC บอร์ดที่มีจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อความเร็วสูง
จุดเด่นที่ชัดเจนของ Grapeboard คือพอร์ตอีเธอร์เน็ตกิกะบิต 2 พอร์ต, USB 3.0 อีก 2 พอร์ต, และยังรองรับ M.2 SATA/PCIe/USB อีกด้วย
ODROID ผู้ผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์จากเกาหลีใต้เปิดตัวบอร์ดรุ่นใหม่พร้อมกันสองรุ่น ได้แก่
เริ่มขายจริง 21 สิงหาคมนี้
แวดวงพีซีเครื่องจิ๋วคงต้องจารึกเมนบอร์ดรุ่น GA-SBCAP3350 จาก Gigabyte รุ่นนี้ ซึ่งเป็นเมนบอร์ดพีซีเต็มตัว ในขนาด 146x102 มม. ทรวดทรงใหญ่ต่างจากบอร์ด Raspberry Pi (85x56 มม.) อัพเกรดส่วนประกอบได้ และเป็นพีซี x86 ลงวินโดวส์ใช้งานได้ตามปกติ
เมนบอร์ดรุ่นนี้มากับซีพียู Celeron N3350 ไม่มีพัดลม ใช้แผ่นอะลูมินั่มประกบ ใส่แรม DDR3L แบบ SO-DIMM ได้ 1 โมดูลจุสูงสุด 8GB ให้สล็อต Mini-PCIe (เป็น mSATA ได้ด้วย) สองช่อง ให้พอร์ตกิกะบิทแลนสองช่อง มี VGA, HDMI ภาพออก 4K 30Hz พร้อมพอร์ต USB3.0, SATA และพิน USB2.0, GPIO ครับ น่าประยุกต์ไปเล่นอะไรได้เยอะทีเดียว
ASUS เข้าร่วมวงการคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกับเขาด้วย Tinker Board ที่หน้าตาคล้ายๆ Raspberry Pi 3 แต่ซีพียูแรงกว่า มีแรมเยอะกว่า รองรับการแสดงวิดีโอ 4K และมี Gigabit Ethernet ด้วย
ASUS Tinker Board ใช้ซีพียู Rockchip RK3288 ARM Cortex-A17 ควอดคอร์, จีพียู ARM Mali-T764 graphics, แรม 2GB, ช่องเสียบ microSD, Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.0, พอร์ต USB 2.0 จำนวน 4 พอร์ต, HDMI ทั้งหมดอยู่ในแพ็กเกจขนาด 3.4 x 2.1 นิ้ว
Tinker Board วางขายแล้วในยุโรป ราคาตกประมาณ 60 ดอลลาร์ (2,100 บาท) ในขณะที่ RPi 3 Model B ขายตัวละ 35 ดอลลาร์
ผู้ผลิตบอร์ดจีนอย่าง Banana Pi เคยมีจุดเด่นที่รองรับพอร์ต SATA ในตัว แต่หลังจากอัพเกรดมาเป็นรุ่น M2 ก็กลับตัดความสามารถนี้ออกไป ตอนนี้ Banana Pi M2 Ultra เปลี่ยนมาใช้ชิป Allwinner R40 แทนที่ Allwinner A31S ทำให้ความสามารถนี้กลับมาอีกครั้ง
นอกจากพอร์ต SATA แล้ว M2 Ultra ยังอัพเกรดสเปค ได้แก่ แรมเพิ่มเป็น 2GB และรองรับแบตเตอรี่ลิเทียมในตัว บนตัวบอร์ดมี eMMC มาให้ 8GB และติดตั้ง micro SD เพิ่มเติมได้
บอร์ดวางจำหน่ายแล้ว ราคา 48 ดอลลาร์ไม่รวมค่าส่ง ค่าส่งมาไทย 3.75 ดอลลาร์
Raspberry Pi 2 เปิดตัวด้วยชิป BCM2836 ที่เป็น Cortex-A7 รองรับชุดคำสั่ง 32 บิต ขณะที่ RPi 3 เป็นชิป BCM2837 ที่รองรับชุดคำสั่ง 64 บิต แต่การอัพเดตรุ่นล่าสุดก็ปรับ RPi 2 มาใช้ชิปรุ่นเดียวกันแล้ว
RPi 2 v1.2 ใช้ชิป BCM2837 โดยทำงานที่ 900 MHz ต่ำกว่าบนบอร์ด RPi 3 และบอร์ดยังให้แรม 1GB เท่าเดิม ความต่างจาก RPi 3 หลักๆ ตอนนี้จึงเหลือเพียง RPi 3 รองรับการสื่อสารไร้สายในตัว ทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth
ที่มา - CNX Software
Orange Pi PC 2 จากค่ายฝั่ง Orange Pi ใช้ชิป Allwinner H5 คอร์ภายในเป็น Cortex-A53 ARMv8 สี่คอร์ พร้อมกราฟิก Mali-450MP4
จุดเด่นของบอร์ดนี้ยังมีเรื่องของอินเทอร์เฟซความเร็วสูง ทั้งอีเธอร์เน็ตกิกะบิต และ SPI 8mbps สำหรับ NOR flash พอร์ต HDMI, MIPI CSI, USB 2.0 3 พอร์ต พร้อมพอร์ตแบบ OTG อีกหนึ่งพอร์ต
ราคาไม่รวมค่าส่ง 19.98 ดอลลาร์ เริ่มขายแล้ว
บอร์ด CHIP คอมพิวเตอร์ราคา 9 ดอลลาร์ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม (จนตอนนี้ของก็ยังส่งมอบไม่ครบ) แต่ Next Thing Co. ผู้พัฒนาบอร์ด CHIP ก็ออกบอร์ดรุ่นต่อไป คือ CHIP Pro ออกมาแล้ว
CHIP Pro มีราคา 16 ดอลลาร์ ภายในเป็นชิป GR8 ของ Next Thing เองแต่แกนภายในคือ Allwinner R8 แพ็กเข้ากับแรม 256MB แล้วจึงนำชิปมาลงบอร์ด พร้อม SLC NAND 512MB ชิป AXP209 สำหรับควบคุมไฟฟ้า และชิปเน็ตเวิร์ครองรับ Wi-Fi/BLE
Gigabyte เปิดตัว BRIX คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กรุ่นอัพเดต ซีพียูเปลี่ยนไปใช้เป็น Intel Core รุ่นที่ 7 รหัส Kaby Lake ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟิกเพิ่มขึ้นจากรุ่นเก่า และสามารถเล่นวิดีโอความละเอียด 4K ได้ลื่นไหลขึ้น และ BRIX s ที่สเปคเหมือนกัน แต่ขนาดใหญ่กว่าและรองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5"
BRIX และ BRIX s มีโมเดลย่อยอยู่ 3 รุ่น ซึ่งจะแตกต่างกันที่หน่วยประมวลผล ได้แก่ Core i3-7100U, Core i5-7200U, Core i5-7500U
ที่มา - MSPoweruser
นักพัฒนาที่ต้องการบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจำนวนมากมักดูเรื่อง I/O ความเร็วต่ำเป็นหลักเพราะต้องการนำไปใช้งาน IoT แต่นักพัฒนาอีกกลุ่มพยายามหาการเชื่อมต่อความเร็วสูงเพราะต้องการนำไปพัฒนาเราท์เตอร์เฉพาะกิจหรือเซิร์ฟเวอร์สตอเรจ ตอนนี้มีบอร์ดทางเลือกกำลังเตรียมระดมทุน คือบอร์ด ESPRESSOBin
บอร์ด ESPRESSOBin ใช้ซีพียู Armada 3700LP เป็น Cortex A53 ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 1.2GHz รุ่นเริ่มต้นแรม 512MB และจะมีรุ่นแรม 1GB ตามมา ส่วน I/O มีดังนี้
บอร์ดคอมพิวเตอร์จีนอย่าง Banana Pi ประกาศรุ่นอัพเกรดล่าสุดเป็น BPI-M64 ใช้ชิป Allwinner A64 ที่คอร์เป็น Cortex A53 สี่คอร์
สเปครวมๆ ของ BPI-M64 ค่อนข้างครบ แรม 2GB หน่วยความจำแฟลช 8GB พอร์ตแลนกิกะบิต, พอร์ต HDMI, MIPI DSI/CSI, Wi-Fi, Bluetooth (ผมมองไม่เห็นสายอากาศบนบอร์ด อาจจะต้องต่อสายอากาศภายนอกอย่างเดียว), ไมโครโฟน, พอร์ดหูฟัง, อินฟราเรด, ช่องต่อแบตเตอรี่ลิเทียม
บอร์ดยังไม่วางขาย แต่ตัวแทนบริษัทบอกกับ CNX Software ว่าราคาจะอยู่ราวๆ 35 ดอลลาร์
ที่มา - CNX Software
FriendlyARM ผู้ผลิตบอร์ดลินุกซ์ออกบอร์ดในตระกูล NanoPi มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเน้นขนาดเล็กเป็นหลัก ตอนนี้บอร์ด NanoPi NEO ก็เป็นบอร์ดที่เล็กลงไปอีก ขนาดบอร์ดเพียง 40 มิลลิเมตร x 35.4 มิลลิเมตรเท่านั้น เล็กกว่า Raspberry Pi Zero อยู่ประมาณ 25%
ตัวบอร์ดใช้ซีพียู Allwinner H3 พร้อมแรม 256MB หรือ 512MB เก็บข้อมูลใน micro SD พอร์ตมี Ethernet 10/100, USB, micro USB, serial debug พอร์ต I/O แยกเป็นสองฝั่ง 24 ขาหนึ่งฝั่งและ 12 ขาอีกหนึ่งฝั่ง
ยังไม่ประกาศราคา แต่บอร์ด NanoPi รุ่น M1 ที่เล็กที่สุดก่อนหน้านี้ราคา 11 ดอลลาร์ รุ่นนี้ราคาก็น่าจะลดลงมาอีก
Orange Pi อัพเดตบอร์ด Orange Pi PC ที่เปิดตัวมาปีที่แล้ว ด้วยการเพิ่ม eMMC ขนาด 8GB และ Wi-Fi 802.11b/g/n โดยเพิ่มราคาจาก 15 ดอลลาร์เป็น 19.99 ดอลลาร์
ตัวเสาอากาศเชื่อมต่อผ่านพอร์ต uFL และราคาบอร์ดรวมค่าเสาอากาศมาแล้ว
อุปกรณ์อื่นๆ ยังเหมือนเดิม คือ Allwinner H3 แรม 1GB, 100Mbps Ethernet, USB 2.0 3 พอร์ต, HDMI, GPIO 40 ขา, ไมโครโฟน, ตัวรับรีโมตอินฟราเรด
ค่าส่งมาไทย 3.43 ดอลลาร์
BeagleBone บอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้ชิป Texas Instrument ขายสิทธิ์การใช้ชื่อ BeagleBone ให้กับ SeeedStudio เพื่อผลิตบอร์ด BegleBone Green (BBG) ตอนนี้ทาง SeeedStudio ก็ปรับปรุงบอร์ดรุ่นใหม่ BeagleBone Green Wirless (BBGW) เพิ่มชิปสำหรับการเชื่อมต่อไร้สายเข้ามา ทำให้รองรับ Wi-Fi 2.4GHz และ Bluetooth LE ในตัว
นอกจากการเพิ่มการเชื่อมต่อไร้สายแล้ว บอร์ดยังเพิ่มพอร์ต USB เป็น 4 พอร์ต
ราคาเพิ่มขึ้นมาเป็น 44.9 ดอลลาร์ เริ่มส่งสินค้าสิ้นเดือนนี้
ที่มา - SeeedStudio
Zotac ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เปิดตัวพีซีขนาดจิ๋วของตัวเอง ที่มาใน 2 รุ่นย่อยคือ PI220 และ PI221 ที่รุ่นแรกจะมาพร้อมพัดลมระบายความร้อน แต่รุ่นหลังจะไม่มีมาให้ ทำให้เกิดเสียงรบกวนน้อยลง ด้านสเปคที่เหลือจะเหมือนกัน ดังนี้
ราคาและวันวางจำหน่ายยังไม่เปิดเผย
ที่มา - Zotac via MSPoweruser
Orange Pi เปิดตัวบอร์ดรุ่น Orange Pi Lite จากเดิมที่เคยเปิดตัวบอร์ดขนาดเล็ก Orange Pi One ราคา 9.99 ดอลลาร์ไปก่อนแล้ว แต่รุ่น Lite นี้มี Wi-Fi มาให้ในตัว
ตัวซีพียูหลักเป็น Allwinner H3 แกน Cortex-A7 4 คอร์ 1.2GHz แรม 512MB การเก็บข้อมูลใช้ microSD เท่านั้น บนตัวบอร์ดมีชิป Wi-Fi ของ Realtek แต่กลับไม่มีเสาอากาศในตัว ต้องต่อเสาภายนอกผ่านพอร์ต u.FL เท่านั้น
ราคาบอร์ด 12 ดอลลาร์ แต่ค่าส่งไทยประมาณ 3.39 ดอลลาร์
UDOO ผู้ผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มักจะรวมเอาบอร์ด Arduino ไว้ในตัวเช่นบอร์ด UDOO Neo ตอนนี้ประกาศระดมทุนรอบใหม่เป็นบอร์ด UDOO X86 ที่ใช้ซีพียูหลักเป็น Intel Braswell และมีโมดูล Curie ทำให้เขียนโปรแกรมแบบไมโครคอนโทรลเลอร์ได้เหมือน Arduino 101
บอร์ดมีสองรุ่น คือรุ่น Basic ใช้ซีพียู x5-E8000 พร้อมแรม 2GB และรุ่น Advanced ทั้งสองรุ่นมีเสปคอื่นๆ เหมือนกัน เช่น หน่วยความจำ eMMC ขนาด 8GB, พอร์ต SATA, M2, micro SD, UART, USB 3.0, อินฟราเรด
เมื่อต้นปี ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure IoT Hub คลาวด์สำหรับรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ IoT ไปแล้ว ในงาน Build 2016 ไมโครซอฟท์เปิดตัวชุดพัฒนา IoT ชื่อว่า Microsoft Azure IoT Starter Kits ซึ่งประกอบด้วยฮาร์ดแวร์จากผู้ผลิตต่างๆ หลากหลายรุ่น
หลายคนอาจจะยังตื่นเต้นกับ Raspberry Pi 3 ที่ปรับมาใช้ Cortex-A53 ที่เป็น 64 บิต ฝั่งเกาหลีทาง Hardkernel ก็ออกบอร์ด ODROID-C2 ที่อัพเดตซีพียูและเพิ่มแรม
ซีพียูของ ODROID-C2 ใช้ชิปจาก Amlogic เป็น Cortex-A53 สี่คอร์ พร้อมกราฟิก Mali-450 แรม 2GB พอร์ตอีเธอร์เน็ตกิกะบิต ขา GPIO อีก 40 ขาพร้อมพอร์ต I2S สำหรับการส่งสัญญาณเสียง
ซอฟต์แวร์รองรับทั้ง Ubuntu 16.04 และ Android 5.1 ฝั่ง Ubuntu นั้นตอนนี้ยังไม่เสถียร และทาง HardKernel ระบุว่าต้องใช้เวลาแก้ไขอีกสักพักจึงใช้งานได้จริง
Banana Pi อัพเดตบอร์ดตระกูล M2 ที่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว เป็น M2+ เปลี่ยนรูปแบบบอร์ดกลายสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 65x65 ตารางมิลลิเมตร
ตัวบอร์ดใช้ Allwinner H3 เทียบกับรุ่น M2 ที่ใช้ Allwinner A31S มีพอร์ตอีเธอร์เน็ตกิกะบิตและ Wi-Fi มาในตัว แต่ไม่มี SATA เช่นเดียวกับ M2 บนตัวบอร์ดเองมี eMMC ขนาด 8GB มาให้แต่แรก
ยังไม่แจ้งราคาและวันเริ่มจำหน่าย