Clubhouse แอปตั้งห้องสนทนาเสียง(เคย)ยอดนิยม ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้งานสามารถส่งข้อความตัวหนังสือหาเพื่อน และปลายทางสามารถรับข้อความนี้แบบแปลงเป็นเสียงพูดได้

อ่านถึงตรงนี้อาจมีคำถามว่า แล้วทำไมไม่ส่งเป็นข้อความเสียงไปเลยตั้งแต่แรก Clubhouse บอกว่าอาจมีบางสถานการณ์ ที่เราไม่สะดวกส่งข้อความเสียง เช่น อยู่ในรถไฟฟ้า หรืออยู่ในสถานที่เสียงดังมาก จึงสามารถพิมพ์ตัวหนังสือไป แต่ปลายทางยังได้รับเป็นข้อความเสียงตามสไตล์ Clubhouse นั่นเอง (มีเครื่องหมายกำกับว่าเป็นเสียงที่สร้างขึ้น)

Clubhouse ประกาศปรับปรุงแอปครั้งใหญ่โดยใช้คำว่า new clubhouse ระบุว่าต้องการเป็นเหมือนแอปรับส่งข้อความให้มากขึ้น โดยเน้นฟีเจอร์ Chats ที่ใช้ส่งข้อความเสียงเท่านั้นในกลุ่มกับเพื่อน ๆ การใช้งานเหมือนตั้งห้องคุย แต่เป็นการรับ-ส่งข้อความเสียงทิ้งไว้ ไม่ต้องโต้ตอบกันทันที

จุดขายของ Chats คือการกดบันทึกและส่งข้อความเสียงได้ทันที สามารถเร่งความเร็วการฟังข้อความเสียง 2x ได้ ใช้การปัดเพื่อฟังข้อความเสียงถัดไป และสามารถโต้ตอบด้วยการส่งข้อความเสียงหาเฉพาะบุคคลได้ทันที

Paul Davison และ Rohan Seth สองผู้ก่อตั้ง Clubhouse ส่งอีเมลแจ้งพนักงานว่าบริษัทตัดสินใจปลดพนักงานมากกว่า 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินชดเชย, หุ้น, ต่อระยะเวลาสวัสดิการ และแล็ปท็อปของบริษัท

สาเหตุของการปลดพนักงานจำนวนมากครั้งนี้ Clubhouse บอกว่าตอนนี้โลกเข้าสู่ยุคหลังโควิด ส่งผลต่อผู้ใช้งานทำให้หาเพื่อนสนทนายากขึ้น และจัดเซสชันสนทนาแบบยาวให้ลงตัวกับการใช้ชีวิตปัจจุบันได้ยากขึ้นด้วย Clubhouse จึงต้องเปลี่ยนแปลงและเข้าสู่โหมดรีเซตเป็น Clubhouse 2.0 จึงนำมาสู่การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อปรับทีมให้เล็กลงและโฟกัสในภารกิจหลักได้เร็วขึ้น

Clubhouse โซเชียลคุยเสียง ประกาศทดสอบฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า House โดยซีอีโอ Paul Davison อธิบายว่า ที่ผ่านมา Clubhouse คือห้องต่าง ๆ ให้เราเลือกเข้าฟัง ร่วมสนทนากับชุมชน แต่ฟีเจอร์ House นี้ เสมือนเรามีบ้าน ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

แนวคิดคือบ้านจะเป็นส่วนย่อยของชุมชนอีกที มีความเฉพาะ ลงรายละเอียดหัวข้อมากขึ้น และจำกัดคนที่จะเข้ามาได้ จึงมีความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งาน

Clubhouse เพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าโปรไฟล์เป็นแบบส่วนตัว (Protected Profile) ซึ่งจะมีเฉพาะผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตให้ติดตามเท่านั้นที่จะเห็นรายละเอียดโปรไฟล์ทั้งหมด

Clubhouse บอกว่าฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้ เหตุผลหลักจากสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งมีผู้ใช้งานหลายคนต้องการแชร์ข้อมูลต่าง ๆ แต่ก็กังวลความเป็นส่วนตัวในการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งนี้ Clubhouse เป็นหนึ่งในบริการที่ยังไม่ถูกบล็อกหรือหยุดให้บริการในรัสเซีย

นอกจากนี้ Clubhouse ยังเปลี่ยนให้การบันทึกเสียงเพื่อฟังย้อนหลัง ถูกปิดเอาไว้เป็นค่าเริ่มต้น มีผลกับผู้ใช้ในยูเครน (ส่วนรัสเซียปิดไปก่อนหน้านี้แล้ว)

Clubhouse ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Wave Bar ซึ่งก็มีลักษณะตามชื่อ โดยแสดงแถบที่ด้านบนสุดของหน้าแรกในแอป ว่าเพื่อนคนไหนที่เราติดตามกำลังออนไลน์อยู่ พร้อมไอคอนโบกมือ (Wave) เพื่อให้แชตไปทักทายได้

ที่มาที่ไปฟีเจอร์นี้ Clubhouse บอกว่า ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาเพื่อนและเริ่มพูดคุยกับคนที่ไม่ได้คุยกันมานาน ได้ง่ายมากขึ้น

เมื่อ Wave แล้ว ก็สามารถตั้งห้องคุยเสียงรวมกลุ่มกันได้ทันที โดยจากเดิมที่เป็นเฉพาะห้อง Private จากนี้จะเปลี่ยนเป็นห้อง Social ในค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนกลับเป็น Private คืนได้

Clubhouse ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ คือกล่องแชตข้อความในห้องสนทนา ซึ่งคงบอกได้ว่าฟีเจอร์นี้ไม่ใหม่ที่อื่น แต่ใหม่สำหรับที่นี่

สำหรับกล่องแชตนี้ ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดปิดได้เมื่ออยู่ในห้องสนทนา โดย Clubhouse อธิบายที่มาของฟีเจอร์นี้ว่าเป็นทางเลือก ในการสื่อสารกันระหว่างเจ้าของห้องและผู้เข้าร่วมการสนทนา ซึ่งเป็นการขยายจากฟีเจอร์ DM ที่เพิ่มมาปีที่แล้ว

ก็อาจบอกได้ว่า Clubhouse เริ่มขยายพื้นที่จากที่เน้นการสื่อสารผ่านเสียง มาสู่วิธีการอื่นที่ผู้ใช้งานคุ้นเคยมาแล้วจากแพลตฟอร์มอื่นนั่นเอง

Clubhouse ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Replay ซึ่งโฮสต์ของห้องสามารถเลือกให้บันทึกห้องสนทนาสดเอาไว้ และเปิดให้คนมาฟังย้อนหลังได้ ทั้งบน iOS และ Android

แนวคิดของ Replay คือให้การฟังย้อนหลัง ได้ประสบการณ์เหมือนกันการฟังสดในเวลานั้นมากที่สุด โดยลิงก์ที่แสดงในห้องระหว่างการสนทนาก็จะเปลี่ยนตามไปด้วยในเวลานั้น จำนวนคนเข้าออกจากห้องก็แสดงผลตามเช่นกัน ในการฟังยังสามารถกดข้ามได้ แต่เป็นการข้ามผู้พูดแต่ละคน หรือเร่งความเร็วในการฟังเป็น 1.5-2x

สำหรับโฮสต์ของห้อง สามารถดาวน์โหลดไฟล์เสียง เพื่อนำไปใช้งานต่อ เช่นการเผยแพร่ลงสื่ออื่นได้อีกด้วย

Clubhouse ประกาศเพิ่ม Music Mode เพื่อให้ผู้จัดห้องสนทนา สามารถนำเสนอการแสดงดนตรีสดผ่าน Clubhouse ด้วยคุณภาพเสียงที่ดีมากขึ้น โดยใน Music Mode จะรองรับคุณภาพเสียงที่สูงขึ้น รวมไปถึงรองรับเสียงจากอุปกรณ์มืออาชีพ เช่น ไมโครโฟน USB ภายนอก หรือบอร์ดมิกซ์เสียง นอกจากนี้การตัดคลิปสั้นด้วย Clips ก็รองรับระบบเสียงสเตอริโอด้วยเช่นกัน

การเปิดใช้งาน Music Mode ทำได้โดยเลือกหัวข้อ Audio Quality สำหรับโฮสต์ของห้อง ส่วนผู้ฟังนั้นไม่ต้องทำอะไร

Clubhouse ประกาศในวันนี้ว่าทุกคนสามารถสมัครใช้งาน Clubhouse ได้โดยไม่ต้องมี Invite แล้ว และตัวบริการยังออกจากสถานะเบต้าด้วย โดยมีข้อมูลว่ามีผู้ใช้งานที่อยู่ใน waitlist ประมาณ 10 ล้านคน

นอกจากนี้ Clubhouse ยังแชร์ตัวเลขที่น่าสนใจ ว่ามีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 10 ล้านคน ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวแอปบน Android มีการส่งข้อความผ่าน Backchannel มากกว่า 90 ล้านครั้งตั้งแต่เปิดตัว

Clubhouse ประกาศเพิ่มคุณสมบัติสำหรับส่งข้อความหากันระหว่างผู้ใช้งานตั้งชื่อว่า Backchannel เปิดใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้ทุกคนทั้งบน iOS และ Android โดยตอนนี้รองรับเฉพาะการส่งข้อความตัวอักษรเท่านั้น

ในการใช้งานนั้น Clubhouse บอกว่าทำได้ทั้งการส่งข้อความคุยกันระหว่างบุคคลแบบ 1:1, คุยแบบกลุ่มในห้องสนทนา กรณีส่งข้อความไปหาคนที่ไม่ได้ติดตามเรา ข้อความจะอยู่ที่กล่อง Request ก่อน ต้องได้รับการอนุมัติ จึงจะได้สามารถสนทนาต่อได้