Fedora 7 (ไม่มี core) ออกแล้ว ในชื่อรหัสว่า "Moonshine" มีการเปลี่ยนแปลงเด่นๆ ที่ประกาศใน announce คือ

Fedora 7 (ไม่ได้ชื่อ Fedora Core 7 อีกต่อไปแล้ว - ข่าว) ได้เลื่อนกำหนดออกจากวันที่ 26 เมษายนมาเป็น 24 พฤษภาคม ด้วยเหตุผลว่ามีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของแพ็กเกจ รวม Core กับ Extra เข้าด้วยกัน เลยมีแพ็กเกจรอคิวรีวิวอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ Fedora 7 ยังใช้ธีมใหม่ชื่อว่า Flying High ซึ่งเป็นสีน้ำเงินเข้มแบบเดิม แต่เพิ่มบอลลูนเข้ามาด้วยคอนเซปต์ "บินสูงเพื่อความท้าทายใหม่ๆ" ธีมนี้ผมดูยังไงมันก็ Corel Draw ชัดๆ

ที่มา - Linux.com

อย่างแรกเลยคือชื่อครับ กลับไปอ่านหัวข่าวอีกครั้งจะเห็น Fedora 7 ไม่ใช่ Fedora Core 7 อีกต่อไป สาเหตุก็เพราะทางโครงการ Fedora ได้รวมเอา repository ของ Fedora Core กับ Fedora Extras เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อลดปัญหา dependency ระหว่าง 2 repository

โครงการ Fedora Legacy ซึ่งเป็นการยืดอายุซัพพอร์ตของ Fedora Core ตัวเก่าๆ ได้ประกาศปิดตัวโครงการแล้ว

Fedora Core มีอายุการซัพพอร์ตจากทีม Fedora Project ค่อนข้างสั้น ปัจจุบันมีเพียง Core 5 และ Core 6 ที่ยังซัพพอร์ตอยู่ ถ้าใครใช้ตั้งแต่ Core 4 ลงไปจำเป็นต้องใช้แพกเกจจาก Fedora Legacy

สาเหตุที่ปิดตัวนั้นในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุชัด แต่คาดว่ามีหมายสาเหตุ เช่น 1.) มีนักพัฒนาเข้ามาน้อย 2.) Fedora Project ยืดระยะเวลาซัพพอร์ตจาก 9 เป็น 13 เดือน ทำให้ความสำคัญของ Fedora Legacy น้อยลง และ 3.) ผมคิดเองว่าลินุกซ์สาย RPM เค้านิยมใช้ CentOS กันมากกว่านะ

เดือนนี้ออกกันเยอะมากทั้งดิสโทรและเบราว์เซอร์ หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ Fedora Core 6 ก็ออกตัวจริง การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ ธีมใหม่ (ที่ยังใช้ไอคอน Bluecurve อันเดิมตั้งแต่สมัย Red Hat 8 เลยโดนวิจารณ์ซะเละ), Xen ที่มี GUI มาด้วย และ AIGLX ตามสมัยนิยม

ตอนนี้มีรีวิวออกมาให้อ่านแล้วสามอัน คือ Phoronix, Lunapark6 กับ Linux Format รวมๆ ก็บอกว่าดีแต่ต้องรอเทียบกับ Ubuntu 6.10

พร้อมกับการมาของ Fedora Core 6 Test 2 ในวันที่ 26 เดือนกรกฏาคมนี้ Fedora จะหยุดการสนับสนุน Fedora และ Red Hat Linux เวอร์ชั่นเก่าอันประกอบไปด้วย Fedora Core 1, Fedora Core 2, Red Hat 7.3 และ Red Hat 9 พร้อมกับหยุดรับบั๊กใหม่ๆ ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และจะแก้เท่าที่แก้ได้ภายใน 31 ธันวาคมนี้ครับ

Fedora Core 6 ออกรุ่น Test 1 มาพร้อมกับของใหม่หลายอย่าง ที่สำคัญคือสนับสนุน Intel-Macintosh ผ่าน BootCamp แล้วด้วย

กำหนดการออกตัวจริงคือวันที่ 27 กันยายน ซึ่งจะสอดคล้องกับ GNOME 2.16 และ OpenOffice.org 2.0.3 ที่จะออกในเดือนกันยาด้วยเหมือนกัน เรียกว่าโปรแกรมออกปุ๊บจับเข้าดิสโทรตัวจริงปั๊บ

อ่านรายละเอียดและดาวน์โหลดได้ตามลิงก์

หลังจากเมื่อปีที่แล้วทาง RedHat แสดงท่าทีที่จะก่อตั้งมูลนิธิ Fedora ขึ้น ในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าความตั้งใจนั้นจะดับลงไปเสียแล้ว เมื่อทาง Max Spevack หัวหน้าโครงการ Fedora ได้ออกมาประกาศท่าทีของ RedHat ในตอนนี้ว่าจะไม่มีการก่อตั้งมูลนิธิอีกต่อไป

ช่วงนี้รีวิวเริ่มทยอยออกมา คราวนี้มีสองอันครับ

อันแรกของ OSNews เอง สั้นๆ เน้นว่ามีจุดบกพร่องอย่างไร และจะแก้ไขได้อย่างไร ผมยังไม่ได้ลอง แต่ทุกรีวิวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเร็วขึ้น และกินแรมน้อยลงมาก (รีวิวนี้บอกว่าพอล็อกอินเข้าไปแล้ว ใช้ประมาณ 90MB เทียบกับ 220MB ใน Core 4)

Fedora Core 5 ออกปุ๊บ รีวิวเริ่มทยอยออกมาให้เห็นแล้ว

สรุปสั้นๆ จากรีวิว การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ FC5 คือธีม โดยใช้โลโก้ f ตัวใหม่ของโครงการ Fedora ในธีมฟองสบู่สีฟ้า (ดูภาพเต็มๆ ได้ที่ OSDir) ซึ่งจะเปลี่ยนทั้งหมดตั้งแต่ตัวติดตั้งไปจนถึงวอลลเปเปอร์ เพียงแต่ไอคอนจะยังใช้ Bluecurve ของเดิม เลยดูโบราณไปนิดนึง

นอกจากนั้นเป็นเรื่องการติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม ที่ลดความซับซ้อนลงให้ผู้ใช้หน้าใหม่ และเรื่องของความเร็วที่ได้อานิสงค์จาก Gnome 2.14 มาเต็มๆ

ออก Core 5 กันมาแล้วนะครับกับเจ้า Fedora

ใช้ Gnome 2.14, KDE 3.5 มี Mono รวมอยู่ในตัวซึ่งก็มีเจ้า Beagle, F-Spot ให้เลย เบราว์เซอร์หลักเป็น Firefox 1.5 มี OpenOffice.org 2.0 ให้ สนับสนุน Xen เป็นต้น

ดาวน์โหลดได้ที่ Fedora DownLoad ดูรายละเอียดของ Core 5 ได้ที่ Release Note

ป.ล. ว่าแต่วันนี้ up เยอะเหมือนว่าง จริงๆ ไม่ว่างเน้อ T_T

หลังจาก Novell ออก XGL มาให้ชาวลินุกซ์ได้ตื่นเต้นกันว่า อนาคตเดสก์ท็อปเราจะสดใสอยู่พักนึง ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแล้วครับ

เนื่องจากว่าฝั่ง Red Hat/Fedora ได้ออกมาหนุนโครงการแบบเดียวกันชื่อ AIGLX (ย่อมาจาก Accelerated Indirect GL X) ซึ่งผมแนะนำให้ดูวิดีโอสั้นๆ ตามลิงก์นี้ก่อน จะรู้ว่ามันเหมือน XGL แค่ไหน

ข่าวช็อกวงการอีกเหมือนกัน เมื่อ rawhide (ชื่อเรียกรุ่นทดลองสุดๆ ในสาย Red Hat/Fedora) ตัวเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) ได้รวมเอา Mono มาด้วย ที่ช็อกเพราะว่าทาง Red Hat นั้นมีท่าทางปฏิเสธ Mono มาตลอด เนื่องจากกลัวปัญหาทางด้านกฎหมายกับไมโครซอฟท์ เจ้า Mono ใน rawhide นี้ จะไปโผล่ใน Fedora Core 5 ที่จะออกเดือนมีนาด้วย

กำหนดออกตัวจริงสิ้นเดือนกุมภาปีหน้าพร้อมกับ GNOME 2.14 เรื่องของหน้าตาไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก รายการของใหม่อ่านได้จาก FedoraWiki และมีรีวิวสั้นๆ จาก DistroReviews

ดาวน์โหลดได้จาก Fedora Mirror

Fedora Core 4 ออกยังไม่ทันไร ทางโครงการ Fedora ได้เตรียมแผนการสำหรับ FC5 แล้ว

แนวทางของโครงการก็เริ่มจะเปลี่ยนไปแล้วครับ จากที่ Red Hat เคยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ก็เริ่มย้ายโครงการออกมาให้มีลักษณะเป็น Community มากขึ้น (เหมือนอย่าง Mozilla หรือ Gentoo ที่ตั้ง Foundation ของตัวเองมารองรับ)

คงไม่ต้องแนะนำว่า Fedora คืออะไรกันแล้วนะครับ

รายการซอฟต์แวร์ได้แก่ Gnome 2.10 และ KDE 3.4 พร้อมกับธีมใหม่ คือ Clearlooks (เฉพาะ Gnome เท่านั้น ผมว่าสวยกว่า Bluecurve นะครับ แต่ว่าไอคอนต่างๆ ยังใช้แบบเดิมอยู่), OpenOffice.org 2.0 (ที่ยังไม่ใช่ตัวจริง), Evince โปรแกรมอ่าน PDF ตัวใหม่, Eclipse 3.1 IDE ที่หลายๆ คนรู้จักกันดี นอกจากนั้นมี GFS (Global File System) สำหรับคลัสเตอร์ และ Xen เทคโนโลยีในการทำ Virtualization ที่ทั้ง Red Hat และ Novell หนุนหลังอยู่

ไหนๆ ก็รีวิวแล้ว เขียนถึงให้หมดเลย สำหรับ Fedora Core 4 ถึงยังไม่ใช่ตัวจริง แต่ก็มีคนรีวิวตัวทดสอบให้อ่านกันบ้าง มีให้ใช้บน 3 สถาปัตยกรรม คือ x86 เฉยๆ, x86-64 และ PowerPC (สำหรับเครื่องแมค) รีวิวอยู่ที่ Linux Planet ใช้ GNOME 2.10, KDE 3.4 และ GCC 4.0 ใหม่สดซิงๆ เลย สำหรับผมก็รอตัวจริงเช่นเคยครับ (ลงบ่อยๆ มันก็เบื่ออะนะ) ไว้ตัวจริงมาแล้วจะเขียนรีวิวฉบับ Blognone ให้ครับผม

ข่าวซอฟท์แวร์ออกเฉยๆ ยกรายการอัพเดตมาเลยละกันครับ

- GNOME updated to 2.10 final - KDE updated to 3.4.0 final - Firefox updated to 1.0.2 - OpenOffice.org update to 1.9.89

จาก Linux Compatible

ตอนนี้ชักเริ่มรู้สึกว่าออกเร็วดีนะครับ Core 3 ยังใช้ไม่ค่อยคุ้มเลย

มีอะไรใหม่บ้าง - Eclipse IDE รวมมาด้วย - Gcc 4.0 - Gnome 2.10 Beta - สารพัดชุดจาวาจาก Jakarta (tomcat, ant, gcj, ...)

ข่าว ส่วนมิเรอร์เมืองไทย ถ้าเนคเทคเอามาแล้วจะมาแจ้งให้ทราบครับ

เป็น Review ใน OSNews Fedora Core 3 vs. SUSE 9.2 Professional ประมาณ 4 หน้าได้... เปรียบเทียบ Feature กันระหว่าง version ล่าสุดของทั้งสอง Distro ที่เพิ่งปล่อยออกมา (Fedora กับ SUSE) ทางด้าน Fedora นั้น ซึ่งมี Red Hat support อยู่ สามารถ download ใช้งานได้ฟรี มี repositories ขนาดใหญ่มีโปรแกรมให้เลือกใช้มากมาย ส่วนทางด้าน SUSE ก็มี Novell เป็นแบ็คอยู่ สวยงามเหนือกว่า อะไรๆครบครันกว่า ดูดีกว่า ลองอ่านกันดู - -

เคยเขียนรีวิวไปรอบนึงแล้ว อันนี้เป็นอีกชิ้นนึงที่ผมเขียนลงกรุงเทพธุรกิจครับ (ฉบับวันพฤหัสที่ 18 นี้ล่ะ) เนื้อหาก็ไม่ต่างกันมาก แต่อันใน Blognone จะละเอียดกว่าและลึกกว่า (ด้วยข้อจำกัดด้านเนื้อที่ และระดับผู้อ่านครับ)

Owen Taylor แห่ง Red Hat ได้มาจุดประกายเรื่องลินุกซ์บูตช้า (นับรวมๆ ประมาณ 2 นาที) และหาทางแก้ไขจุดนี้อยู่ เขายังประมาณอีกว่าระบบในอุดมคติน่าจะบูตได้ภายใน 10 วินาทีตั้งแต่กดเปิดสวิตช์เลยทีเดียว (แน่นอนว่าของจริงคงไม่ได้ขนาดนั้น) ตอนนี้เริ่มมีการเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ของระบบในช่วงบูตแล้วครับ หวังว่าอีกไม่นานลินุกซ์ของเราจะบูตเร็วขึ้น จาก OSNews

OSNews มีรีวิวของ Desktop Linux แห่งยุคสองตัว คือ Fedora Core 3 จากฝั่งเรดแฮท และ SuSE 9.2 โนเวลส่งประกวด สรุปใจความคร่าวๆ คือ FC3 น่าประทับใจกว่าตรงแพ็กเกจเยอะ หาได้ทั่วไปตาม Freshrpms, etc.

ตามสัญญาครับ พบกับ Fedora Core 3 Review โดย Blognone

ลินุกซ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ออกตัวใหม่แล้ว สำหรับรีวิวคงต้องรอ mk มาดูให้ครับ

สำหรับ CORE3 นี้จะมีเวอร์ชั่นสำหรับ X86-64 มาให้เลย ทำให้คนเล่นเครื่อง 64 บิตได้ใช้ความแรงกันเต็มตัวล่ะครับ

ทีั่มา Fedora Project, sponsored by Red Hat