ถึงแม้จะเลื่อนแข่งกันไปแบบไม่มีกำหนดเพราะ COVID-19 สำหรับ The International 2020 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ประจำปีของ Dota 2 แต่ผู้เล่นทั่วโลกก็ยังคงไม่หยุดเปย์ ร่วมสร้างสถิติใหม่ให้กับรายการนี้ โดยยอดเงินรางวัลรวมสุดท้ายอยู่ที่ 40,018,195 ดอลลาร์ ทำลายสถิติเดิมของ The International 2019 ซึ่งอยู่ที่ 34,330,068 ดอลลาร์ไปอย่างขาดลอย
แม้ว่าภาวะวิกฤต COVID 19 อาจทำให้วงการ esports ต้องชะงักไปบ้าง แต่ผู้จัดหลายรายก็เริ่มปรับตัวจัดการแข่งขันเป็นรูปแบบออนไลน์แทนกันบ้างแล้ว
สำหรับประเทศไทยกำลังจะมีทัวร์นาเมนต์ออนไลน์ของ Dota 2 มาให้ชมกัน เมื่อ ESL ผู้จัดทัวร์นาเมนต์ esports ชื่อดังประกาศเปิดตัว ESL Thailand: Online โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (MoTS) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (SAT) พร้อมเปิดให้ทีม Dota 2 จากไทยเข้าไปร่วมแข่งขันกับทีมชั้นนำจากโซนเอเชียอีกด้วย
ทัวร์นาเมนต์นี้มีเงินรางวัลรวม 200,000 ดอลลาร์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ดิวิชั่น ดังนี้
อีกหนึ่งผลกระทบของ COVID-19 ต่อวงการ esports เมื่อ The International 2020 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ประจำปีของ Dota 2 ซึ่งปีนี้จะจัดที่ที่เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ได้ถูกประกาศเลื่อนไปแข่งขันในปี 2021 แทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Valve แถลงเพิ่มเติมว่าเนื่องด้วยข้อบังคับท้องถิ่นในการห้ามรวมตัวกัน การระบาดของไวรัส และ ข้อกำหนดในการเดินทางระหว่างประเทศ ที่ทั้งหมดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้พวกเขายังไม่สามารถยืนยันวันที่จะจัดการแข่งขันใหม่ได้ในเร็วๆ นี้ และพวกเขากำลังวางแผนว่าจะจัดการอย่างไรกับการแข่งขัน DPC ที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนี้
ผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 ยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถึงคราวของ Dota 2 แล้ว เมื่อ Valve ตัดสินใจแถลงผ่าน Twitter ว่าหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาได้ตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันรายการ Minor-Major ที่ 4 ของ Dota Pro Circuit 2019-2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ Valve ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พวกเขาจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจต่อไปว่าจะจัดการแข่งขันรายการ Minor-Major ที่ 5 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของฤดูกาลนี้อย่างไร
Valve เดินตามรอยกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่างโอลิมปิก ด้วยการเปิดให้เมืองทั่วโลกเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน The International 2021งานแข่งขันประจำปีของเกม Dota 2 ได้ โดยเมืองที่สนใจจะต้องส่งเอกสารแสดงความจำนงภายในวันที่ 21 มีนาคม 2021 นี้
Valve กล่าวว่า งาน The International สามารถดึงคนให้เดินทางมายังเมืองที่จัดงานได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงก่อให้เกิดการใช้จ่ายในหลายๆ ด้านเช่น โรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยว
Valve เปิดตัวระบบการแข่งขันใหม่ Regional League ที่จะนำมาใช้ใน Dota Pro Circuit แทนที่ระบบ Minor-Major เดิม เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทีมระดับ Tier 2/3 ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันและกระจายเงินรางวัลให้กับทีมเหล่านี้ได้มากขึ้น โดยจะเริ่มต้นใช้งานหลังจากการแข่งขัน The International 2020 ที่จะจัดขึ้นในปีนี้
กลับมาอีกครั้งกับสารคดีที่แฟน Dota 2 ทุกคนรอคอย เมื่อ Valve ได้เปิดตัว True Sight: The International 2019 อย่างเป็นทางการ ซึ่งสารคดีชุด True Sight นี้คือการพาทุกคนไปสัมผัสกับบรรยากาศของรอบชิงชนะเลิศรายการ The International ซึ่งมีตั้งแต่บรรยากาศในบูธแข่งขัน การพูดคุยกันระหว่างเกม การพูดคุยระหว่างช่วงพักของทีม หรือ บรรยากาศความดีใจและเศร้าเสียใจของผู้ชนะและผู้แพ้หลังจบการแข่งขัน
สำหรับ True Sight: The International 2019 นี้ ทุกคนจะได้รับชมการเจอกันระหว่าง Team Liquid (หรือ ในขณะนี้คือ Nigma) กับ OG ซึ่งทั้งคู่ต่างเคยเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้วทั้งคู่ และกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกใน Dota 2 ด้วยการเป็นแชมป์สองสมัยเป็นครั้งแรก
หลังจากหยุดพักไม่ลงแข่งรายการ Major แรกของ DPC 2019-2020 Team Secret ก็ได้ประเดิมเริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันของตัวเองอย่างสวยงามด้วยการคว้าแชมป์ DreamLeague Season 13: The Leipzig Major ที่ประเทศเยอรมนีโดยไม่แพ้แม้แต่แมตช์เดียว รับเงินรางวัล 300,000 ดอลลาร์พร้อม DPC Points 4,850 คะแนน
หลังจากเงียบหายไปพักใหญ่ สำหรับ OG หนึ่งในทีมยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของ Dota 2 เจ้าของแชมป์ The International 2 สมัย มีเพียงข่าวว่าพวกเขาจะลงแข่งขันรอบคัดเลือกรายการ Major ที่สามของ DPC 2019-2020 เท่านั้น ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของทีมเกี่ยวกับผู้เล่น โดย OG ประกาศว่า Anathan ana Pham ผู้เล่น Carry ของทีมขอพักการแข่งขันหนึ่งฤดูกาล และ Jesse JerAx Vainikka ผู้เล่น Support ประกาศเลิกเล่น
เปิดประเดิมต้นปี 2020 ด้วยความดุเดือด เมื่อ Nigma ทีมใหม่ที่มีผู้เล่นเป็นเจ้าของเองของสมาชิก Team Liquid ชุดรองแชมป์ The International 2019 สามารถคว้าแชมป์รายการ Win WePlay! Bukovel Minor พร้อมได้รับสิทธิ์ไปแข่งขันต่อที่รายการ DreamLeague Season 13: The Leipzig Majorr ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 18 มกราคมที่จะถึงนี้ รับเงินรางวัล 72,000 ดอลลาร์และ DPC points 140 คะแนน
อีกหนึ่งเกมที่แฟนๆ ชาวไทยจับตามองสำหรับการแข่งขัน esports ใน SEA Games 2019 อย่าง Dota 2 ก็ปิดฉากลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทีมไทยแพ้ให้กับฟิลิปปินส์เจ้าภาพของรายการนี้ไปด้วยคะแนน 3-2 เกม คว้าเหรียญเงินกลับมาฝากเกมเมอร์ชาวไทย
สำหรับรอบชิงชนะเลิศนี้ ทีมชาติไทยที่นำโดย Jabz-อนุชา จิระวงศ์และ 23savage-หนึ่งนรา ธีรมหานนท์ สองผู้เล่นอาชีพที่เล่นให้กับทีม Fnatic โคจรมาเจอกับทีมชาติฟิลิปปินส์ที่ยกทีมมาจาก Team Ardroit ที่เพิ่งจะมาคว้าแชมป์รายการ ESL Clash of Nations Bangkok 2019 โดยแมตช์นี้ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสีและต้องสู้กันถึงเกมสุดท้ายที่ทีมไทยชิงความได้เปรียบช่วงต้นเกม แต่ถูกตีโต้กลับในช่วงท้ายของเกมก่อนที่จะแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย
แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงระหว่างการพักของทีมแต่ OG สุดยอดทีมยุโรปเจ้าของแชมป์ The Internaional 2018 และ 2019 ก็ได้เปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ OG Seed ที่ไม่ใช่แค่น่าสนใจแต่ยังเป็นการตอบแทนคืนให้กับสังคมการแข่งขันของ Dota 2
OG Seed จะเป็นทีมที่รวมตัวผู้เล่นซึ่ง OG เชื่อว่ามีศักยภาพมากพอที่จะแข่งขันในระดับสูงแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดย OG จะให้การสนับสนุนในการล่าฝันของพวกเขาให้สำเร็จทั้งการให้คำแนะนำ แบ่งปันประสบการณ์ และการช่วยเหลือด้านการวางแผนการเล่นไปจนถึงรายการ Major ที่สามของ DPC 2019-2020
หลังจากที่เปิดตัวกันไปในช่วงงาน TI 9 ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในที่สุดก็ถึงวันที่เกมเมอร์ท่ัวโลกรอคอย เมื่อ Valve ได้ปล่อยอัพเดตแพตช์ใหญ่ The Outlanders Update ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมาพร้อมกันทั้งเกม Dota 2 และ Dota Underlords
ไฮไลท์ของ The Outlanders Update คือการเปิดตัวฮีโร่ใหม่ 2 ตัวพร้อมกันบนทั้งสองเกมคือ Void Spirit และ Snapfire นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายดังนี้
ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยกับ MDL Chengdu Major รายการระดับ Major แรกของ Dota Pro Circuit 2019-2020 ซึ่งแชมป์ตกเป็นของ TNC Predator ยอดทีมจากโซน SEA รับเงินรางวัล 300,000 ดอลลาร์และ DPC Points 4,850 คะแนน
ในรอบชิงชนะเลิศ เป็นการโคจนมาเจอกันของ TNC Predator และ Vici Gaming ทีมเจ้าบ้านจากประเทศจีน โดย TNC Predator ขึ้นนำไปก่อนด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนที่ VG จะสามารตีตื่้นเอาชนะได้ในเกมที่สาม ส่วนในเกมที่สี่ VG ชิงความได้เปรียบเป็นฝ่ายเหนือกว่าตลอดทั้งเกม แต่กลับพลาดท่าในช่วงท้ายเกม ส่งผลให้ TNC Predator พลิกกลับขึ้นมาชนะได้ในที่สุด ส่งผลให้ TNC Predator คว้าชัยไปในรายการนี้ด้วยสกอร์ 4-1
ท่ามกลางบรรยากาศฝุ่นตลบในการสับเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลังจากจบงาน The International 2019 ก็มีเรื่องราวช็อกวงการ Dota 2 เกิดขึ้นเมื่อ Team Liquid ประกาศแยกทางกับผู้เล่นชุดปัจจุบัน ที่นำโดย Kuro KuroKy Salehi Takhasomi กัปตันทีมที่พา Team Liquid คว้าแชมป์ TI 7 และรองแชมป์ TI 9 ที่ผ่านมา ปิดตำนานหนึ่งในทีม Dota 2 ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ในบล็อกของ Team Liquid Victor Nazgul Goossens Co-Founder และ CEO ของทีมกล่าวว่า Kuroky มาบอกกับเขาหลังจากจบ TI 9 ว่าต้องการที่จะทำทีมของตัวเอง ซึ่งเขาเคารพการตัดสินใจครั้งนี้ และอวยพรให้ Kuroky และสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่เลือกเดินต่อไปในอนาคต
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับการมาถึงของฤดูกาลแข่งขันใหม่ของเกม Dota 2 อย่าง Dota Pro Circuit 2019-2020 ซึ่งมีการอัพเดตรายละเอียดต่างๆ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยุบรวมรอบคัดเลือกรายการ Major และ Minor ที่เป็นคู่กันให้เหลือเพียงครั้งเดียว แทนที่จะคัดเลือกแยกกันดังที่แล้วมา
รายละเอียดสำคัญที่แตกต่างไปจากเดิมของ Dota Pro Circuit 2019-2020 มีดังนี้
Acer เปิดตัว Planet9 แพล็ตฟอร์มชุมชนออนไลน์ของผู้ที่สนใจใน esports ที่ช่วยให้ผู้เล่นสร้างทีมของตัวเอง ลับฝีมือการเล่นของตัวเองให้เก่งขึ้น และร่วมแข่งขันกับผู้เล่นอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเน้นไปที่ผู้เล่นทั่วไปที่อยากสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันและพัฒนาฝีมือของตัวเอง แต่ไม่ได้จริงจังถึงระดับมืออาชีพ โดย Planet9 ถูกเปิดตัวในงาน next@acer ในวันที่ 4 กันยายาที่ผ่านมา
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีสำหรับวงการ Dota 2 ของประเทศไทย เมื่อทีม Fnatic ต้นสังกัด esports ชื่อดังได้ประกาศเปิดตัว 23savage หนึ่งนรา ธีรมหานนท์ ผู้เล่นอาชีพชาวไทยวัย 17 ปีเข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการเพื่อลงสู้ศึก Dota Pro Circuit 2019-2020 ซึ่งถือว่าเป็นผู้เล่นไทยคนที่ 2 ที่ได้เล่นกับทีมระดับนานาชาติ ตามรอย Jabz - อนุชา จิระวงศ์ ที่ขณะนี้เล่นให้กับทีม Fnatic เช่นเดียวกัน
ผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่พูดถึงที่สุดของ 23savage คือการระเบิดฟอร์มอันยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกโซน SEA ของรายการ The International 2019 ขณะที่เล่นให้กับ Team Jinesbrus ในตำแหน่ง Carry
The International เวทีศักดิ์สิทธิ์เพื่อค้นหาทีมที่แข็งแกรงที่สุดแห่งปีของเกม Dota 2 เจ้าของตำแหน่งทัวร์นาเมนต์ esports ที่มีเงินรางวัลรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นรายการแข่งขันที่แฟน Dota 2 อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต
เมื่อ Valve ประกาศว่า The International 2019 (หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า TI 9) จะจัดขึ้นที่ประเทศจีน แทนที่จะเป็นซีกโลกตะวันตกเหมือนที่แล้วมา ทำให้ผมมีความหวังเล็กๆ ที่จะได้ไปชมงาน TI 9 แบบสดๆ ในสนาม และโชคดีอย่างมากที่สามารถทำได้สำเร็จ
แล้วบรรยากาศในงานจะเป็นแบบไหน จะสนุกเร้าใจเหมือนที่คิดไว้หรือไม่ มาลองติดตามเดินทางไปงาน The International 2019 นี้ไปด้วยกันครับ
แม้จะมีหลายคนสบประมาทว่าพวกเขาแค่โชคดีที่สามารถคว้าแชมป์ได้ในปีที่แล้ว แต่วันนี้ OG ได้พิสูจน์ตัวเองให้โลกได้รับรู้แล้วอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ The International 2019 จารึกประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์สองสมัยได้และใช้ผู้เล่นชุดเดิมอีกด้วย
หลังจากที่รอคอยกันมานาน ในที่สุดความฝันของแฟนๆ ก็เป็นจริง เมื่อ Valve ได้เปิดตัวฮีโร่ใหม่เพิ่มอีกหนึ่งตัวในงาน The International 2019 ต่อจาก Spitfire เป็น Spirit ตัวที่ 4 ของเกม Dota 2 ที่มีชื่อว่า Void Spirit
ทั้ง Snapfire และ Void Spirit จะมาพร้อมกับอัพเดตใหญ่ของเกมที่ชื่อว่า The Outlanders Update ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้
Valve ทำเซอร์ไพรส์เปิดตัวฮีโร่คนใหม่ของ Dota 2 Snapfire กลางงาน The International 2019 โดยจะเปิดให้ทุกคนได้เล่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2019
Snapfire ถูกเปิดตัวผ่านอนิเมชั่นขนาดสั้น เล่าเรื่องราวของ Snapfire ที่กำลังอบคุกกี้เพื่อแจกให้กับเหล่าฮีโร่ตัวอื่นๆ ก่อนที่จะต้องต่อสู้กับ Batrider และ Timbersaw ที่จะพยายามมาขโมยคุกกี้ของเธอ
จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ รอบ Group Stage ของ The Internaional 2019 ที่แข่งขันกันมาอย่างดุเดือดตลอด 4 วันเต็ม โดยสองทีมแรกที่ต้องตกรอบไปก่อนคือ Chaos Esports Club และ Ninja in Pyjamas เนื่องจากได้อันดับสุดท้ายของแต่ละกลุ่มนั่นเอง
ความน่าสนใจสำหรับสองทีมที่ตกรอบไปก่อนนี้คือ ทั้งคู่เป็นทีมจากโซนยุโรป และ มีอดีตผู้เล่นที่เคยคว้าแชมป์รายการ The International มาแล้วอยู่ในทีม (Lasse MATUMBAMAN Urpalainen จากทีม Chaos Esports Club เป็นแชมป์ TI 7 ส่วน Peter ppd Dager เคยคว้าแชมป์ TI 5)
อีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงข้างหน้า The International 2019 ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ Dota 2 ประจำปีกำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้วที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดย Valve ได้ประกาศการแบ่งกลุ่มที่จะแข่งขันกันในรอบ Group Stage ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในแต่ละกลุ่มจะมีทีมดังต่อไปนี้
เป็นไปตามคาดสำหรับรายการ The International 2019 ทัวร์นาเมนต์ Dota 2 ประจำปี โดยขณะที่เขียนข่าวนี้ เงินรางวัลรวมทะลุ 30,000,337 ดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ทัวร์นาเมนต์นี้ก้าวขึ้นครองตำแหน่งทัวร์นาเมนต์ esports รายการเดี่ยวที่มีเงินรางวัลรวมสูงสุดในประวัติศาสตร์
ในปีที่แล้ว The International 2018 เคยครองตำแหน่งนี้ด้วยเงินรางวัลรวม 25,532,177 ดอลลาร์ หลังจากนั้นตำแหน่งนี้ถูกส่งต่อให้กับ Fortnite World Cup ของ Epic Games ที่มีเงินรางวัลรวม 30,000,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับมายึดคืนโดย The International 2019 ในที่สุด