คนส่วนมากอาจรู้จัก Disney ในฐานะผู้ผลิตการ์ตูนและภาพยนตร์ แต่เอาจริงแล้ว Disney เป็นเครือสื่อขนาดยักษ์ของโลก เป็นเจ้าของสถานีทีวีรายใหญ่อย่าง ABC และ ESPN รวมถึงล่าสุดเพิ่งเข้าซื้อบริษัทการ์ตูน Marvel อีกด้วย

ในงานสัมมนา Appnation ผู้บริหารของดิสนีย์ซึ่งดูแลสถานี ABC ได้กล่าวกับผู้ร่วมสัมมนาว่า ดิสนีย์ไม่สนใจพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย HTML5 ด้วยเหตุผลสองประการคือ มีพื้นที่แสดงโฆษณาน้อย และ HTML5 ไม่มีมาตรการป้องกันลิขสิทธิ์ของเนื้อหาที่ดีพอ ดังนั้นแนวทางของดิสนีย์บนมือถือจะเน้นการสร้างแอพพลิเคชันเฉพาะของตัวเองแทน เนื่องจากควบคุมได้มากกว่า

ที่มา - Business Insider

แม้ว่าภาพของ Adobe จะไปผูกกับ Flash เสียเยอะ แต่เอาเข้าจริงแล้วบริษัทก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดการพัฒนาเว็บอยู่มาก และหลังจากออก HTML5 Pack สำหรับ Dreamweaver ไปเมื่อกลางปี ก็ถึงคิวของ Illustrator

Adobe Illustrator CS5 HTML5 Pack เป็นโปรแกรมเสริมของ Illustrator ตามชื่อ ตอนนี้มันยังมีสถานะเป็นรุ่นทดสอบใต้แบรนด์ Adobe Labs ความสามารถของมันก็คือแปลงรูปภาพใน Illustrator ออกมาเป็น <canvas>, SVG และ CSS3

ที่มา - Technologizer

ถึงกูเกิลจะล้ำหน้า Bing จากไมโครซอฟท์ไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Google Instant แต่ก็ใช่ว่าไมโครซอฟท์จะไม่มีหรือไม่คิดจะทำฟีเจอร์ดังกล่าวแต่อย่างไร

ในงาน Apple WWDC ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้นำเสนอ Bing เวอร์ชั่นใหม่ ที่ทำขึ้นจาก HTML5 พร้อมกับฟีเจอร์ค้นหาทันทีโดยไม่ต้องคลิก (instant search) และฟีเจอร์พรีวิวแท็บข้อมูลสภาพอากาศ แผนที่ คล้ายกับ Aero Peek ของ Windows 7 ด้วย (ดูคลิปวีดีโอได้ท้ายข่าว)

นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังนำเสนอ Bing เวอร์ชั่นใหม่สำหรับโทรศัพท์มือถือ (ในคลิปวีดีโอแสดงการเดโมบนเบราว์เซอร์ Safari บน iPhone) ที่เมื่อค้นหาภาพก็สามารถที่จะแสดงผลได้เสมือนโปรแกรมจัดการภาพในตัวเครื่อง

แม้ว่า Silverlight จะยังโดน Flash ทิ้งอยู่ไกล แต่ตัวเทคโนโลยีเองก็มีฐานผู้ใช้ระดับหนึ่ง และเริ่มเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม Silverlight (รวมถึง Flash) เริ่มถูกคุกคามโดย HTML5 ซึ่งมีความสามารถมากกว่า HTML4 มาก และเริ่มขึ้นมาทาบรัศมีกับโปรแกรมจำพวก RIA ทั้งหลาย

ทางทีมงานของไมโครซอฟท์จึงให้ข้อมูลผ่านบล็อก Silverlight ว่า แม้ไมโครซอฟท์จะสนับสนุน HTML5 เช่นกัน แต่ Silverlight ก็มี "ที่ยืน" ของตัวเอง โดยเน้นไปที่ 3 เรื่องที่ HTML ยังสู้ลำบาก (ผมอ่านดูแล้วใช้กับ Flash ก็ได้เช่นกัน)

Google มีอะไรเจ๋งๆ มาให้เล่นกันอีกแล้วครับ คราวนี้เป็นการแสดงภาพ และเสียง เสียงเพลงโดยวง Arcade Fire อินดี้ร็อคจากแคนาดา ไม่รู้เหมือนกันว่าบ้านเรามีคนรู้จักกันมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับคออินดี้น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วนภาพก็ได้แสดงถึงศักยภาพของ HTML 5 โดยใช้พื้นที่ของ Chrome เ็ป็นเวทีหลัก (ผมลองใช้ Firefox แล้วไม่ได้) เข้าไปที่ thewildernessdowntown.com พร้อมกันป้อนสถานที่เกิด (ผมลอง Bangkok เว็บบอกว่าไม่มี street view ตอนแรกก็งง) จากนั้นเว็บก็จะเล่นตัวมิวสิควิดีโอ เปิด-ปิดหน้าต่างสลับไปมา พร้อมๆ กับภาพ และเสียง รวมถึงภาพใน Google Street View แล้วก็ระบบ interactive อีกนิดหน่อย แนะนำให้ไปเล่นเองครับ หลังๆ ทำได้สวยดี

Nikkei Electronics Asia ได้ลงบทสัมภาษณ์ Shantanu Narayen CEO ของ Adobe พูดคุยเกี่ยวกับ Flash ซึ่งรวมถึงกรณีพิพาทกับ Apple ซึ่งสอดคล้องกับ ข่าวเก่าจาก Telegraph จุดประสงค์ของ Open Screen Project ที่ใช้แนวคิดแบบเดียวกับ PDF ที่ได้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก จนไปถึงการมาของ HTML5 ว่าจะอยู่ร่วมกับ Flash ได้อย่างไร และบทบาทของเทคโนโลยี Flash ที่จะช่วยให้ E-book มีสีสันมากขึ้น

ที่มา - Nikkei Electronics Asia

Shantanu Narayen CEO ของ Adobe ได้ให้สัมภาษณ์ใน Nikkei Electronics Asia พูดถึง Flash และ E-book ไว้ดังนี้ครับ

YouTube เริ่มหาทางออกในการฝังวิดีโอแบบ HTML5 บนเว็บไซต์ภายนอก โดยเพิ่มทางเลือกจากเดิมที่ใช้แท็ก embed มาเป็น iframe

การเลือกใช้ iframe จะช่วยให้ YouTube สามารถเลือกแสดงผลวิดีโอให้เหมาะกับเบราว์เซอร์ของผู้ชมได้ (เลือกว่าจะใช้ embed หรือ video ให้เอง) ซึ่งมองในฐานะของ YouTube แล้วเข้าท่าทีเดียว

โค้ดที่ใช้จะเป็นดังนี้ และตัวอย่างวิดีโอดูด้านใน

<iframe class="youtube-player" type="text/html" width="640" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/VIDEO_ID" frameborder="0">

ที่มา - YouTube API Blog

บริษัท CloudCanvas ได้เปิดตัวเว็บแอพฯ สร้างและแก้ไขภาพที่สร้างจาก HTML5 ล้วนๆ ให้ใช้งานกันฟรีๆ โดยแอพฯ ดังกล่าวจะดึงเอาความสามารถที่มีใน Adobe Illustrator และ Photoshop มาผสมผสานกัน ฟีเจอร์หลักๆ มีดังนี้

• รองรับการสร้างและแก้ไขภาพ
• มีเครื่องมือคล้ายกับ Photoshop (อาทิ polygons, circles, lines)
• มีเลย์เอาต์การทำงานให้เลือก ทั้งแบบงานพิมพ์ งานออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ และงานออกแบบฟอร์ม
• รองรับการทำเลเยอร์
• รองรับภาพทั้งบิตแมปและเวกเตอร์

ลองดูคลิปวีดีโอนำเสนอแอพฯ ได้ท้ายข่าว ใครอยากใช้ก็เข้าเว็บไซต์ CloudCanvas

YouTube ปรับหน้าเว็บเวอร์ชันมือถือ (m.youtube.com) ใหม่หมด เปลี่ยนมาใช้ HTML5 และแท็ก <video> กลายเป็นเว็บแอพพลิเคชันเต็มรูปแบบ

m.youtube.com รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ YouTube มากมาย เช่น Search Suggestion, ปุ่ม Like/Dislike ที่มาแทนการให้ดาวแบบเก่า รวมถึงใช้วิดีโอที่มีคุณภาพดีกว่าเวอร์ชัน native app ของ iPhone ด้วย สามารถเข้าได้กับเบราว์เซอร์บนมือถือทุกตัวที่รองรับ HTML5 (ซึ่งในตอนนี้คือ iPhone/Android)

เว็บจับคู่นายจ้างและคนหางานฟรีแลนซ์อย่าง Freelancer.com รายงาน 50 อันดับแรกของหมวดหมู่งานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเทียบไตรมาสที่สองของปีนี้กับไตรมาสแรก (QoQ) พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างน่าสนใจคือมีสามอันดับที่กระโดดขึ้นมาได้แก่ Geolocation ที่เพิ่มขึ้นกว่า 9 เท่าตัว, HTML5 ที่เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าตัว และ Amazon Web Services ที่เพิ่มกว่า 4 เท่าตัว

ตัวเลขอื่นๆ ทัี่มีความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปตามแนวโน้มที่เราเห็นกัน เช่นโทรศัพท์มือถือ, Saleforce.com, Kindle, audit (ไม่แน่ใจว่าเป็นบริการตรวจรับงาน หรือเป็นอีกแพลตฟอร์ม), และ iPad ที่เพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าตัวกัน

อยู่ดีๆ แอปเปิลก็ได้พวกอย่างไม่คาดคิด โดย Digital Playground หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมหนังโป๊ พร้อมที่จะเลิกใช้ Flash และหันไปใช้ HTML5 แทน ซึ่งให้เหตุผลว่า HTML5 นั้นเป็นฟอร์แมตแห่งอนาคต โทรศัพท์มือถือในท้องตลาดตอนนี้ส่วนใหญ่เล่น HTML5 ได้ และ Flash ที่เพิ่งเปิดตัวบน Android นั้นกินแบตพร้อมทำให้ทุกอย่างช้าลง

อันนี้เป็นคนละเรื่องกับสงคราม codec ระหว่าง H.264 กับ WebM นะครับ แต่เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง Flash embed กับ HTML5 <video>

YouTube ออกมาแสดงความเห็นผ่านบล็อกว่าถึงแม้ HTML5 <video> จะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่เทียบกับ Flash embed แล้ว มันยังสู้ไม่ได้ในหลายๆ เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ YouTube จำเป็นต้องใช้ (คล้ายกับข่าว Hulu บอก HTML5 ยังไม่พร้อมสำหรับใช้งานจริง)

ประเด็นของ YouTube

ไมโครซอฟท์ส่ง IE9 Platform Preview 3 (ข่าวเก่าของ Preview 1, Preview 2) ซึ่งมีฟีเจอร์สำคัญคือ hardware accelerated canvas rendering (เดิมทีเร่งความเร็วเฉพาะวิดีโอ ตอนนี้รวม canvas แล้ว)

ไมโครซอฟท์ปล่อยคลิป hardware acceleration ใน IE9 เทียบกับ Safari 5 ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้เว็บไซต์ Download Squad ได้ลองเอาไปรันแข่งกับ Chrome 6 ปรากฎว่า Chrome แพ้กระจุย (เพราะไม่มี hardware acceleration นั่นเอง) ดูวิดีโอด้านใน

หลังจาก แอปเปิลออกเดโม HTML5 แสดงพลังของ "มาตรฐานเว็บที่ใช้ได้เฉพาะ Safari เท่านั้น" (เลยโดนทั้ง Firefox และ Opera สับเละ) และ ไมโครซอฟท์ออกเดโม HTML5 เฉพาะที่ IE9 รองรับ คราวนี้ถึงคิวของผู้เล่นในตลาดเบราว์เซอร์เจ้าสุดท้ายที่ยังไม่มีข่าว นั่นคือกูเกิล

กูเกิลเปิดเว็บไซต์เฉพาะชื่อ HTML5Rocks สาธิตการทำงานของ HTML5 เช่นกัน โดยแสดงอยู่ในรูป slideshow ที่สร้างด้วย HTML5 ล้วนๆ ดูเข้าใจง่ายดีครับ

Opera เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประกาศตัวตั้งแต่วันแรกว่าจะร่วมใช้งานและรับ WebM เป็นมาตรฐานเว็บพร้อมๆ กับ Mozilla และ Adobe และในวันนี้ก็มีประกาศออกมาว่ารุ่น Snapshot ตัวล่าสุดนั้นมีฟีเจอร์ WebM เข้ามาแล้ว

นอกจาก WebM แล้ว Opera รุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐาน HTML5 เพิ่มเติมอีกหลายส่วนได้แก่

• HTML5 Offline Web Application
• Geolocation
• Web Workers
• Cross-document messaging

ดูเหมือนตอนนี้กระแส HTML5 จะจุดติดจนยากจะหยุด ตอนนี้อาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่เริ่มศึกษากันได้ ก่อนกระแส Tablet/MID ที่รองรับ HTML5 เต็มๆ จะมากันจนเต็มตลาด

Adobe และ Greystripe ผู้ทำตลาดการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา เปิดเผยว่าเตรียมปล่อยระบบสื่อโฆษณาแบบใหม่ ที่สามารถแปลงโฆษณาประเภท Flash ไปเป็น HTML5 ที่สามารถเปิดบน iPhone และ iPad ได้โดยอัตโนมัติ คาดว่าจะเปิดตัวระบบดังกล่าวได้ช่วงเดียวกับที่ Apple จะเปิดตัว iAd

ที่มา: Electronista, All Things Digital

ต่อเนื่องจากข่าว แอปเปิลโชว์ความสามารถ HTML5 และ Firefox แฉเล่ห์แอปเปิลเรื่อง HTML5 อีกรายที่ออกมาร่วมวงคือ Opera

พนักงานคนหนึ่งของ Opera ชื่อ Haavard เขียนลงในบล็อกของเขาว่า เดโม HTML5 ของแอปเปิลนั้น มีส่วนที่เป็น HTML5 จริงๆ แค่แท็ก <video> และ <audio> เท่านั้น ที่เหลือเป็นโค้ดเฉพาะบริษัท (เช่น -webkit-border-radius) แถมยังมีวิดีโอแบบ H.264 ที่ยังตกลงกันไม่ได้เพราะติดสิทธิบัตรอีกด้วย

จากข่าว แอปเปิลโชว์ความสามารถ HTML5 ที่ดูได้เฉพาะ Safari แต่ดันโปรโมทว่า "มาตรฐาน[ที่แท้จริง]ของเว็บต้องไม่ใช่ Add-on แต่มันคือตัวเว็บเอง"

จริงๆ ข่าวนี้โดนชาว Blognone แฉกันไปนานแล้ว (และมีสาวกแอปเปิลแถกันอีกเเป็นจำนวนไม่น้อย) แต่เราลองมาดูการ "แฉ" จากฝั่ง Mozilla กันบ้างครับ

Christopher Blizzard ผู้บริหารของ Mozilla คนหนึ่งได้เขียนบล็อกชื่อ intellectual honesty and html5 เขาบอกว่าแท้จริงแล้ว คนที่เชี่ยวชาญเทคนิคสร้างภาพแบบนี้คือกูเกิล แต่รอบนี้ แอปเปิลทำตัวน่าอับอายจนเกินจะทน

Blizzard เริ่มจากบรรยายภาพๆ แรก

ไมโครซอฟท์เปิดเผยผลการทดสอบ Internet Explorer 9 Platform Preview ล่าสุด สามารถผ่านการทดสอบ HTML5 และ CSS3 ของ W3C Web Standards ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ในขณะที่เบราว์เซอร์อื่นอย่าง Firefox 3.6.3, Opera 10.52, Safari 4.05 และ Chrome 4.1 ไม่มีใครทำได้เต็มเลย

ตารางสรุปผลการทดสอบดูได้ที่ท้ายข่าว ส่วนผลการทดสอบฉบับเต็มนั้นดูได้ที่นี่

ที่มา: Internet Explorer 9 Testing Center ผ่าน Neowin.net

ล่าสุดแอปเปิลได้ทำหน้าเว็บแสดงพลังของ HTML5 แล้ว โดยตัวอย่างแต่ละอย่างที่แอปเปิลเอามาโชว์อาจจะทำให้นักพัฒนาเว็บหลาย ๆ คนน้ำลายไหลเลยก็ได้ โดยแอปเปิลก็ได้ทิ้งคำพูดเล็กน้อยไว้ว่า...

Standards aren't add-ons to the web. They are the web.
"มาตรฐาน[ที่แท้จริง]ของเว็บต้องไม่ใช่ Add-on แต่มันคือตัวเว็บเอง"

ข้อเสียคือแอปเปิลบังคับให้ดาวน์โหลด Safari เพื่อชมเว็บนี้

คลิกเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ HTML5 Showcase

ที่มา - Daring Fireball

เป็นเรื่องปรกติที่กูเกิลจะฉลองวันสำคัญต่างๆ ด้วย Doodle แบบต่างๆ กันไป แต่ในวันครบรอบ 30 ปีของ Pac-Man ก็มีเรื่องน่าทึ่งกว่านั้นเมื่อกูเกิลเอาเกมทั้งเกมมาเป็น Doodle ให้เล่นกัน

เกมทั้งเกมใช้ HTML5 และ JavaScript ถ้าใครอยากดูโค้ดก็สามารถดูได้ที่นี่

เผื่อใครไม่รู้ เกมนี้เล่นได้สองคนจริงๆ โดยคนที่สองใช้ปุ่ม WASD

ที่มา - Google

ที่งาน Google I/O (อีกแล้ว) Adobe ได้ประกาศ Dreamweaver HTML5 Pack ซึ่งเป็นส่วนขยายสำหรับ Dreamweaver CS5 ในชุดประกอบด้วย

• ตัวไฮไลท์โค้ด HTML5 และ CSS3 สำหรับ Dreamweaver CS5
• ปรับปรุงเอนจินพรีวิวเว็บให้เป็น WebKit รุ่นใหม่ที่รองรับ HTML5 สมบูรณ์มากขึ้น
• รองรับความสามารถของ CSS3 ช่วยให้ออกแบบเว็บเดียวแต่แสดงผลได้หลายอุปกรณ์

ตอนนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ใน Adobe Labs แต่เข้าใจว่าเป็นรุ่นจริงแล้ว ใครมี CS5 ก็สามารถทดลองกันได้ครับ นโยบายเล่นสองขาทั้ง HTML5 และ Flash ของ Adobe เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ในวันเดียวกับที่กูเกิลเผยโครงการ WebM ในงาน Google I/O ผู้จัดการทั่วไปที่ดูแลอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ก็ได้ประกาศเช่นกันว่าอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ 9 จะสนับสนุนทั้ง VP8 และ H.264 เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง VP8 codec บนวินโดวส์ไว้

อนึง เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้จัดการทั่วไปคนดังกล่าวเพึ่งจะออกมาบอกเองว่าอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ 9 จะสนับสนุน H.264 codec เท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้ออกมาบอกว่าผู้ใช้สามารถติดตั้ง codec อื่นได้

นับแต่ข่าวการเข้าซื้อ On2 สิงหาคมปีที่แล้ว ก็มีความคาดหวังกันเรื่อยมาว่ากูเกิลจะเปิดให้ VP8 ซึ่งเป็น codec ตัวล่าสุดของ On2 นั้นเป็นโอเพนซอร์สและรวมเข้าเป็นมาตรฐานเว็บ และในงาน Google I/O 2010 ความคาดหมายนี้ก็เป็นจริงแล้วในชื่อโครงการ WebM

บริษัทหลักๆ ที่เริ่มการรองรับ WebM แล้วได้แก่ Opera, Mozilla, และ Adobe น่าสนใจว่าแอปเปิลไม่เข้าร่วมในความร่วมมือนี้ ส่วนไมโครซอฟท์นั้นคงไม่น่าแปลกใจนักที่จะสงวนท่าทีในเรื่องนี้ไว้ก่อน

มาตรฐาน WebM จะประกอบไปด้วยสามส่วนคือ

Hulu บริการทีวีออนไลน์ที่สถานีทีวีในสหรัฐลงขันกันสร้างขึ้น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก (เมืองไทยใช้ไม่ได้ครับ) ได้เปิดตัว Hulu Player รุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์เพิ่มขึ้น เช่น adaptive bitrate, volume normalization ฯลฯ

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มุมมองของ Hulu ที่มีต่อ HTML5 ในฐานะผู้ให้บริการวิดีโอรายใหญ่ของสหรัฐ (น่าจะเป็นรองแค่ YouTube นะครับ) ทาง Eugene Wei รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Hulu ระบุว่าความสามารถของ HTML5 ในปัจจุบันยังไม่พอต่อความต้องการของบริษัท เพราะ Hulu ไม่ได้มีแค่วิดีโอ แต่ยังต้องมีเรื่องโฆษณา ปรับคุณภาพของวิดีโอให้เหมาะกับเครือข่าย การทำบัฟเฟอร์ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบัน Flash นั้นทำได้