เมื่อต้นปี Dell ออกโน้ตบุ๊ก XPS 13 Plus ที่ใช้ดีไซน์ต่างไปจากไลน์ XPS 13 รุ่นมาตรฐานที่ออกรุ่นอัพเดตทุกปี จุดเด่นคือดีไซน์แบบ minimalist ทัชแพดกระจกไร้เส้นขอบ และคีย์บอร์ดแถวบนเป็นจอสัมผัส
วันนี้ Dell ประเทศไทยนำ XPS 13 Plus รุ่นนี้มาขายแล้วในราคา 73,990 บาท
เมื่อต้นปี Dell ได้ออกโน้ตบุ๊ก XPS 13 Plus ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่ของตระกูล XPS 13 ล่าสุด Dell มีอัพเดตในรุ่นปกติด้วยเช่นกัน ด้วยจุดขายเครื่องที่บางและเบาลง เหมาะกับการพกพา
XPS 13 ใช้ซีพียูอินเทล 12th Gen แบตเตอรี่ระบุว่าใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมง หน้าจอเทคโนโลยี InfinityEdge รุ่นที่ 5 รายละเอียดสเป็กดังนี้
Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊ก XPS 13 Plus (9320) ซึ่งถือเป็นการยกเครื่องใหญ่ XPS 13 รุ่นยอดนิยมเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดของ XPS 13 Plus คือคีย์บอร์ดและทัชแพด ที่เปลี่ยนโฉมไปมาก โดยคีย์บอร์ดแถวบนสุด Esc/F1-F12 เปลี่ยนเป็นกลุ่ม capacitive touch (ในขณะที่แอปเปิลเพิ่งตัดสินใจเลิกใช้ Touch Bar) ส่วนทัชแพดเป็นกระจกแบบ seamless ไม่มีกรอบใดๆ ผสานลงไปกับตัวบอดี้เลย
Dell บอกว่าเป้าหมายของการปรับดีไซน์ครั้งนี้ยึดคำว่า minimalist และ modern เป็นสำคัญ ไม่มีอะไรเกะกะสายตา ตัวปุ่มคีย์บอร์ดปรับมาใช้ดีไซน์แบบไม่มีช่องว่างระหว่างปุ่ม (zero-lattice) ส่งผลให้ปุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
ในงาน The New XPS Virtual Launch วันนี้ Dell เปิดราคาโน้ตบุ๊กตระกูล XPS รุ่นใหม่ปลายปี 2020 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ทั้งหมด 4 รุ่น คือ XPS 13, XPS 13 2-in-1, XPS 15 และ XPS 17 รายละเอียดราคาดังนี้
เมื่อต้นปี Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊กเรือธง XPS 13 รุ่นปี 2020 ที่ใช้ซีพียู Intel Core 10th Gen (รหัสรุ่นคือ 9300)
หลัง Intel เปิดตัว Core 11th Gen Tiger Lake ไปเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้ Dell ตามอัพเดต XPS 13 ด้วย หน้าตาภายนอกยังใช้ดีไซน์ขอบจอบางเหมือนเดิมทุกประการ เปลี่ยนรหัสรุ่นมาเป็น 9310 ให้เห็นความแตกต่างของฮาร์ดแวร์ภายใน
Dell มีโน้ตบุ๊ก XPS 13 Developer Edition รุ่นที่ใช้ Ubuntu มาตั้งแต่ปี 2012 และตามอัพเดตให้เรื่อยมา
ล่าสุด Dell เปิดตัว XPS 13 รุ่นปี 2020 ที่เป็น Developer Edition โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Ubuntu 20.04 LTS รุ่นใหม่ที่สุดด้วย (ก่อนหน้านี้เคยขายมาแล้ว แต่เป็น Ubuntu 18.04 LTS)
ในแง่ฮาร์ดแวร์คงไม่มีอะไรต่างจาก XPS 13 (2020) รุ่นปกติ ที่ใช้ดีไซน์ใหม่ขอบบาง, หน้าจอ 16:9, ซีพียู Intel 10th Gen เปิดให้สั่งซื้อได้แล้วในราคาเริ่มต้น 1,099.99 ดอลลาร์
Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊กระดับพรีเมียม XPS 15 และ XPS 17 เวอร์ชันปี 2020 โดยอัพเกรดดีไซน์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนมาใช้จอสัดส่วน 16:10 ขอบจอบางทั้ง 4 ด้านเหมือน XPS 13 ที่เปิดตัวช่วงต้นปี
การเปิดตัว Dell XPS 17 ยังเป็นการกลับมาของโน้ตบุ๊กแบรนด์ XPS ขนาดจอ 17 นิ้ว หลังจากเว้นช่วงไปนานเกือบ 10 ปี (ซึ่งจะมาชนกับ MacBook Pro 16" ตรงๆ) โดย Dell ระบุว่าผลจากการลดขอบจอ ทำให้มันคือโน้ตบุ๊กจอ 17 นิ้วที่ขนาดเล็กที่สุดในโลก เล็กกว่าโน้ตบุ๊กจอ 15" หลายๆ ตัวด้วยซ้ำ
ดีไซน์ของทั้ง XPS 15 และ XPS 17 ใช้แนวทางเดียวกัน คือ เป็นอะลูมิเนียมที่ตัดด้วยเครื่อง CNC และตัวแผ่นรองมือเป็นคาร์บอนไฟเบอร์
Dell เปิดต้นปีมาด้วยการแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนเริ่มงาน CES 2020 ในสัปดาห์หน้า โดยโน้ตบุ๊กยอดนิยม XPS 13 ได้รับการอัพเดตประจำปี 2020 ต่อเนื่องจาก การอัพเดตรอบต้นปี 2019
หน้าตาโดยรวมของ Dell XPS 13 ยังเหมือนของเดิม สิ่งที่เปลี่ยนคือ
Dell ประเทศไทยเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่สองซีรี่ย์ ได้แก่ XPS 13 2-in-1 มีอัตราส่วนหน้าจอ 16:10 และฟีเจอร์ Eyesafe ช่วยลดแสงสีฟ้าถนอมสายตาผู้ใช้ดีไซน์ตัวเครื่องบางพกพาง่าย และ Inspiron ทั้งสองรุ่นสามารถพับเครื่องเป็นแท็บเล็ตได้ ติดตั้งซีพียู Intel 10th Gen
ประกัน Premium Support จะมีบริการ On-site Service ในวันถัดไปหลังแจ้งเสีย โดยซ่อมแซมเมื่อเสียหายจากอุบัติเหตุ (เครื่องตก, น้ำหกใส่, ไฟฟ้ากระตุก), รับการแก้ปัญหาทางซอฟต์แวร์ เป็นต้น
หลังจากอินเทลเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen ที่ผลิตแบบ 10 นาโนเมตรอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนนี้ ก็เริ่มได้เวลาที่สินค้าจริงจะวางขาย
Core 10th Gen ชุดแรกเป็นซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กสายบางเบา (รหัส U และ Y เดิม) และโน้ตบุ๊กตัวแรกที่ใช้ Core 10th Gen คือ Dell XPS 13 2-in-1 (7390) ที่เปิดตัวไปแล้ว และเริ่มวางขายจริงแล้วในสหรัฐอเมริกา
Dell เปิดตัวคอมพิวเตอร์หลายรุ่นที่งาน Computex 2019 โดยตัวที่โดดเด่นที่สุดคือโน้ตบุ๊ก XPS 13 2-in-1 (7390) ที่ใช้ซีพียู Core 10th Gen "Ice Lake" ตัวใหม่ล่าสุดของอินเทล (ถือเป็นโน้ตบุ๊กตัวแรกที่ใช้ Ice Lake ด้วย)
Dell XPS 13 2-in-1 (7390) เป็นการอัพเกรดตาม XPS 13 (9380) รุ่นจอพับไม่ได้ที่เปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้
Dell ยังตามออกโน้ตบุ๊กรุ่นที่ใช้ลินุกซ์อย่างต่อเนื่อง (นับจากออกครั้งแรกในปี 2012) หลังจากเปิดตัว Dell XPS 13 (9380) รุ่นปี 2019 ที่ย้ายเว็บแคมกลับมาไว้ด้านบน ไปไม่นาน บริษัทก็ออกรุ่น Developer Edition ตามมาทันที
Dell XPS 13 (9380) Developer Edition ใช้ฮาร์ดแวร์ชุดเดียวกับ 9380 รุ่นวินโดวส์ ซีพียูเป็น Core i3/i5/i7 Whisky Lake U, แรมใส่ได้สูงสุด 16GB, สตอเรจเป็น NVMe ใส่ได้สูงสุด 2TB, จอภาพมีทั้ง Full HD และ Ultra HD, ระบบปฏิบัติการเป็น Ubuntu 18.04 LTS
Dell อัพเดตโน้ตบุ๊กรุ่นยอดนิยม XPS 13 ใหม่เป็นรุ่นของปี 2019 (รหัสรุ่นคือ 9380) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือตำแหน่งของกล้องเว็บแคมที่เคยอยู่ใต้จอ เปลี่ยนมาอยู่ด้านบนของจอภาพเหมือนโน้ตบุ๊กทั่วไปแล้ว
สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือขอบจอของ Dell XPS 13 ตัวใหม่เป็นจอ InfinityEdge ที่บางมากอยู่แล้ว แต่ Dell ยังสามารถยัดเว็บแคมลงไปได้อีก โดย Dell บอกว่าเว็บแคมตัวนี้มีขนาดเล็กเพียง 2.25 มิลลิเมตรเท่านั้น (ของเดิม 7 มิลลิเมตร) ถือเป็นเว็บแคมความละเอียดสูงตัวแรกที่ออกแบบได้เล็กระดับนี้ และพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนของ Dell ต้องตั้งสายการผลิตขึ้นมาใหม่เพื่อผลิตเว็บแคมตัวนี้โดยเฉพาะ
นอกจากโน้ตบุ๊กสองรุ่นใหม่จาก Dell ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้อย่าง Inspiron 7000 กับ Inspiron Chromebook 14 แบบ 2-in-1 ยังมีรุ่นท็อปตระกูล XPS เปิดตัวตามมาอีกเช่นกัน แบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่ XPS 13 รุ่น Core i3-8130U, XPS 13 Developer Edition และ XPS 13 แบบ 2-in-1 ซึ่งทุกรุ่นยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Infinity Edge
Dell ประกาศอัพเดตสเปคของ XPS 15 รุ่นใหม่ รหัสรุ่นเป็น 9570 ซีพียูเป็น Intel 8th Gen รหัส H (Coffee Lake) มีตั้งแต่ Core i5-8300H ที่มี 4 คอร์ 8 เธรด จนไปถึงสูงสุด Core i9-8950HK ที่มี 6 คอร์ 12 เธรด การ์ดจอสูงสุด GTX 1050Ti หน้าจอความละเอียดสูงสุด 4K UHD และ PCIe NVMe SSD ขนาด 1TB, Thunderbolt 3 เป็น PCIe แบบ 4 เลน และ HDMI 2.0
ส่วนตัวเครื่องภายนอกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นที่แล้ว เริ่มพรีออเดอร์ในสหรัฐวันที่ 16 เมษายนนี้ ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์
นับตั้งแต่การเปิดตัว XPS รุ่นหน้าจอเกือบไร้ขอบในปี 2015 ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ XPS ทาง Dell ก็แทบคงดีไซน์หลักเอาไว้ตลอดและปรับปรุงย่อยเป็นหลัก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของรุ่นปี 2018 นี้ถึงแม้จะยังคงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ก็ค่อนข้างเห็นได้ชัดจากทั้งดีไซน์และสีใหม่ ไปจนถึงพอร์ทที่เปลี่ยนเป็น USB-C ทั้งหมด
Dell XPS 13 รุ่นปีนี้จะใช้รหัสรุ่น 9370 โดยรุ่นที่ถูกนำเข้ามาขายในไทยมี 3 รุ่นย่อย จากทั้งหมด 4 รุ่น และรุ่นที่ Dell ประเทศไทยไม่ได้เอาเข้ามาขายคือรุ่นล่างสุดที่ใช้ Core i5-8250U แรม 4GB SSD 128GB
เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมกับ Dell XPS 13 รุ่นใหม่ประจำปี 2018 โดยมีการออกแบบดีไซน์ใหม่เล็กน้อยและใข้วัสดุใหม่ รวมถึงเพิ่มสีใหม่เข้ามา วันนี้ Dell ประเทศไทยเปิดประกาศเปิดตัว XPS 13 รุ่นใหม่นี้แล้ว
ส่วนรุ่นย่อยตามสเปคที่เอาเข้ามาจำหน่ายมี 3 รุ่นดังนี้
เมื่อวานเราเห็น HP Spectre x360 15 ที่ใช้ชิปตัวใหม่ของอินเทล-เอเอ็มดี กันไปแล้ว วันนี้ฝั่ง Dell ก็เปิดตัว XPS 15 2-in-1 ที่ใช้ชิปตัวเดียวกัน
Dell XPS 15 2-in-1 เป็นโน้ตบุ๊กพับจอได้ขนาดจอ 15.6" แบบไร้ขอบ InfinityEdge ความละเอียดสูงสุด 4K (รองรับสี Adobe RGB 100%) และมีรุ่น 1080p ให้เลือก
สเปกเครื่องใช้ซีพียูตัวใหม่ Intel Core i5-8305G หรือ Core i7-8705G ที่มีจีพียู AMD Radeon RX Vega M GL พร้อมแรมจีพียู 4GB HBM2 จับตลาดคนที่ต้องการเล่นเกมบนโน้ตบุ๊ก
โน้ตบุ๊ก Dell XPS 13 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 แต่มาจุดติดจริงๆ เมื่อปรับดีไซน์ใหม่ในปี 2015 มาใช้จอแบบเกือบไร้ขอบ Infinity Display ซึ่งกวาดรางวัลมากมาย และทำให้ XPS 13 เป็นโน้ตบุ๊กที่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับหลายสำนักมาโดยตลอด
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา XPS 13 มีการปรับปรุงย่อยหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นการอัพสเปก เปลี่ยนมาใช้ซีพียูรุ่นใหม่ตามรอบของอินเทล แต่ดีไซน์ยังคงบอดี้แบบเดิมตลอดมา
วันนี้ Dell เปิดตัว XPS 13 รุ่นใหม่ที่ปรับดีไซน์อีกรอบ (เลขประจำรุ่นคือ 9370) แม้จะไม่ใช่การปรับใหญ่ชนิดฉีกไปจากเดิม แต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกครั้ง
Dell ประกาศอัพเกรดสเปกของโน้ตบุ๊กรุ่นยอดนิยม XPS 13 มาใช้ซีพียูตัวล่าสุด Core 8th Gen โดยยังคงหน้าตาคงเดิม
XPS 13 เวอร์ชัน Core 8th Gen จะเริ่มจากรุ่นที่เป็น Core i7 ก่อน ราคาเริ่มต้น 1,399.99 ดอลลาร์ วางขายวันที่ 12 กันยายนนี้ ส่วนรุ่นที่เป็น Core 7th Gen Kaby Lake ก็ยังวางขายอยู่เหมือนเดิม รุ่น Core i3 ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์
Dell เปิดตัวพีซีออลอินวัน (ผสานจอและส่วนฮาร์ดแวร์ไว้ในชิ้นเดียวกัน) รุ่น XPS27 ที่ปรับสเปคมาใหม่ ใช้ชิป Core i7-7700 แรม DDR4-2133 16GB จีพียู AMD Radeon RX 570 กับสตอเรจ HDD 2TB+SSD 32GB หรือ SSD 512GB วิ่งบน PCI-E x4
XPS 27 แยกเป็นสองรุ่นคือรุ่นจอทัชได้กับไม่ได้ โดยจอเป็นขนาด 27” IPS ละเอียด 4K กับค่าสี Adobe RGB 100% กับลำโพงหน้าเครื่อง 10 ลำโพง รุ่นจอทัชได้จะเอนหน้าจอให้นอนได้แบบ Surface Studio ของไมโครซอฟท์ได้ด้วย ราคาอยู่ที่ 1,999 และ 2,699 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ (ประมาณ 68,000 และ 92,000 บาท)
Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊ก XPS 13 2-in-1 ในงาน CES 2017 ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และวางขายในสหรัฐฯไปแล้ว ก็ถึงคราว Dell ประเทศไทยเปิดตัวบ้าง
โน้ตบุ๊คพรีเมี่ยมเรือธง XPS 13 2-in-1 ขนาดเล็กเพียง 13 นิ้ว บานพับกางได้ 360 องศา พร้อมเปิดตัวหน้าจอ S Series อีกสี่รุ่น
นอกจากจะออก XPS 13 รุ่น 2-in-1 แล้ว Dell ยังได้อัพเดตสเปค XPS 15 โดยเปลี่ยนหน่วยประมวลผลเป็น Core i รุ่นที่ 7, เปลี่ยนหน่วยประมวลผลกราฟิกเป็น Nvidia GeForce GTX 1050 4 GB DDR5, เพิ่มตัวเลือกสำหรับตัวอ่านลายนิ้วมือ ในการใช้งาน Windows Hello, เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ และ เปลี่ยนไปใช้ชิปการเชื่อมต่อไร้สาย Killer 1535 Wireless 2x2 + Bluetooth 4.1
Dell ออกพีซีออลอินวันตัวใหม่ XPS 27 ที่มีจุดเด่นที่ลำโพงใหญ่ยักษ์ใต้จอ
XPS 27 ใช้จอภาพจาก Dell UltraSharp ความละเอียด 4K Ultra HD (3840x2160) มีทั้งแบบทัชและไม่ทัช, ซีพียูยังเป็น Intel Core 6th Gen Skylake, แรม 8-32GB, จีพียูใส่ได้สูงสุด AMD Radeon R9 M485X, พอร์ต Thunderbolt 3 x2, ตัวเครื่องรุ่นทัชสามารถพับจอเอียงลงได้เกือบแบนราบ
แต่จุดเด่นที่เตะตาทุกคนคือแถบ soundbar ใต้จอที่มีลำโพงขนาดใหญ่รวม 10 ตัว (ลำโพงเสียงสูงหรือ tweeter 2 ตัว, ลำโพงหลักด้านหน้า 4 ตัว, ลำโพงด้านล่าง 2 ตัว, ลำโพง passive radiator เสียงเบส 2 ตัว) ซึ่ง Dell คุยว่าให้เสียงดังกว่าใครและมีเสียงเบสหนักแน่น ถือเป็นพีซีออลอินวันที่มีเสียงดีที่สุด
Dell ต่อยอดความสำเร็จของโน้ตบุ๊ก XPS 13 ด้วยการออก Dell XPS 13 2-in-1 ที่สามารถพับจอได้ 360 องศาเป็นแท็บเล็ตได้
XPS 13 2-in-1 ยังรักษาความเป็นจอ InfinityEdge ขอบจอบาง และความละเอียด QHD+ (5.7 ล้านพิเซล) ถือเป็นโน้ตบุ๊กแบบ 2-in-1 จอ 13" ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เทียบเท่ากับโน้ตบุ๊กขนาด 11"
หน่วยประมวลผลเป็น Intel Core 7th Gen (Kaby Lake) รุ่นที่มีฟีเจอร์ vPro สำหรับลูกค้าฝั่งองค์กร, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 15 ชั่วโมง (สำหรับเวอร์ชันจอ Full HD), มีรุ่นที่ฝังกล้อง Windows Hello ให้เลือกซื้อ