ก่อนหน้านี้ผู้ที่ซื้อ Pebble Time บ่นว่าไม่สามารถใช้กับ iPhone ได้เนื่องจากแอพ Pebble Time ยังไม่ขึ้น App Store ผู้พัฒนา Pebble ต้องออกมาบอกให้ชาว iOS กดดัน Apple ให้อนุมัติแอพเร็วๆ เนื่องจากส่งแอพไปนานแล้ว โดยใช้แท็ก #FreeOurPebbleTime
การกดดันได้ผล Apple ปล่อยแอพ Pebble Time ขึ้น App Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งาน Pebble Time สามารถดาวน์โหลดได้ทันที
ที่มา - The Next Web
หลังจาก Pebble Time ล็อตแรกได้เริ่มส่งสินค้าให้กับผู้สนับสนุนผ่าน Kickstarter ไปแล้ว ตอนนี้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมา นั่นคือแอพ Pebble Time Watch สำหรับซิงค์ข้อมูลบน iPhone ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ขึ้น App Store ทำให้คนที่เตรียมใช้ Pebble Time กับ iPhone ถึงได้รับของก็ยังใช้งานไม่ได้นั่นเอง (Android ไม่มีปัญหา)
บริษัท Pebble ออกมาแถลงข่าวความคืบหน้าของสมาร์ทวอทช์จอสี Pebble Time ดังนี้
John Biggs แห่ง TechCrunch อ้างแหล่งข่าวภายใน Pebble ระบุว่าถึงแม้บริษัทจะประสบความสำเร็จกับโครงการระดมทุนล่าสุดอย่าง Pebble Time ด้วยเงินกว่า 20 ล้านดอลลาร์ แต่ภายในบริษัทก็มีปัญหาทางการเงินหนักจนตอนนี้ต้องขอกู้เงิน 5 ล้านดอลลาร์และขอเครดิตอีก 5 ล้านดอลลาร์จากธนาคาร ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกตินักสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพ อันเนื่องจากบริษัทไม่สามารถขอเพิ่มทุนจากบรรดากองทุน Venture Capital ได้
Pebble Time เปิดตัวมาตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านผ่าน KickStarter และประกาศตั้งแต่แรกๆ ว่าจะมีพอร์ตสำหรับพัฒนาฮาร์ดแวร์เสริมมาให้ เมื่อปลายเดือนที่แล้วทาง SeeedStudio ก็ประกาศ Xadow Connector ชุดพัฒนาอุปกรณ์เสริมสำหรับ Pebble Times แต่ยังไม่มีของจริงมาแสดง จนกระทั่งในงาน Maker Faire ปีนี้ ทาง Pebble ก็นำ Pebble Xadow ตัวจริงมาโชว์ในงาน
วันนี้การระดมทุน Pebble Time ก็จะจบลง โดยยอดล่าสุดก็ทะลุ 20 ล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากผ่าน 13 ล้านดอลลาร์ไปตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นโครงการอันดับหนึ่งของ KickStarter สถิติใหม่ที่ Pebble ทำไว้ตอนนี้คงทำให้อีกนานกว่าจะมีโครงการใหม่มาแซงไปได้
Pebble ยังปล่อยภาพถ่ายชุดใหม่ของนาฬิกาจริง (แต่หน้าจอจำลอง) พร้อมกับภาพสลักด้านหลังนาฬิการะบุว่าเป็นรุ่นพิเศษสำหรับผู้ร่วมระดมทุนผ่าน KickStarter ถ้าใครใช้บัญชีเดิมร่วมระดมทุนทั้งรุ่นแรกและรุ่นใหม่จะได้รับนาฬิการุ่นสำหรับคนสนับสนุนสองครั้งอัตโนมัติ แต่ถ้าใครเปลี่ยนบัญชีให้ติดต่อทาง Pebble ไปเพื่อขอรับภาพสลักให้ถูกต้อง
เมื่อครั้งเปิดตัว Pebble Time และ Time Steel นอกจากหน้าตา และหน้าจอแบบใหม่แล้ว ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคงหนีไม่พ้น smartstrap อินเทอร์เฟซสำหรับเพิ่มความสามารถให้กับ Pebble Time ผ่านพอร์ตที่ทำหน้าที่เป็นสายนาฬิกาไปในตัว ซึ่งวันนี้ Pebble ออกมาประกาศให้ตั้งกองทุนหนึ่งล้านเหรียญ เพื่อสนับสนุนนักพัฒนา smartstrap สำหรับ Pebble แล้ว
วิธีการได้เงินจาก Pebble ไม่ต้องยื่นเอกสารใดๆ เพียงแค่ทำโครงการระดมทุนในเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ แล้วหากว่าโครงการนั้นเข้าตาทีมงาน Pebble ก็จะเข้าไปช่วยระดมทุนเอง หรือจะทวีตไปหา @Pebble เพื่อแจ้งให้ทีมทราบก็ได้ โดยนอกจาก Pebble จะลงเงินแล้ว ยังจะช่วยโปรโมตให้อีกทางด้วย
หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือน Pebble Time ได้ทำลายสถิติ โครงการที่ระดมทุนได้สูงที่สุดใน Kickstarter ยอดระดมทุนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นว่าพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หลังงาน Spring Forward ที่แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch ไปเมื่อ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
ในช่วงก่อนงาน Spring Forward จะเริ่ม ยอดระดมทุนต่อชั่วโมงของ Pebble Time อยู่ที่ประมาณ 6,000 ดอลลาร์ และขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ ในช่วงงานเปิดตัว ก่อนที่จะพุ่งไปอยู่ที่ประมาณ 16,000 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ภายหลังงานจบ
ก่อนหน้านี้ Pebble ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Pebble Time ใช้วิธีระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งยอดระดมทุนของ Pebble Time ได้ถึง 14,949,656 ดอลลาร์ (ณ เวลาที่เขียนข่าว) ทุบสถิติที่กล่องแช่เย็นอเนกประสงค์ Coolest Cooler ทำได้ 13,285,226 ดอลลาร์
สถิติ Pebble รุ่นแรกทำไว้เมื่อปี 2012 อยู่ที่ 10,266,845 ดอลลาร์ ซึ่ง ณ เวลานั้นก็ทำลายทุกสถิติในเว็บ Kickstarter เช่นกัน
ทั้งนี้ Pebble Time ยังมียอดระดมทุนเพิ่มได้อีก เนื่องจากเหลือระยะเวลาระดมทุนอีก 23 วัน
คล้อยหลังจากการเปิดตัว Pebble Time และประสบความสำเร็จอย่างมากในการระดมทุนผ่านทาง Kickstarter วันนี้ Pebble ประกาศเปิดตัว Pebble Time Steel อย่างเป็นทางการ
แน่นอนว่า Pebble Time Steel ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมนอกจากเปลี่ยนวัสดุตัวเรือนเป็นโลหะเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 316L, แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้นเป็น 10 วัน, จอถูกเชื่อมติดเข้ากับกระจก และมาในสีดำ (Gunmetal Black), สีเงินโลหะเหล็กกล้าไร้สนิม (Silver Stainless) และสีทอง! พร้อมสายหนังมาให้เปลี่ยนในตัวด้วย
เมื่ออาทิตย์ก่อน Pebble เพิ่งจะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นต่อไป Pebble Time ล่าสุดวันนี้ก็ได้เปิดตัว Pebble Time Steel หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นรุ่นบอดี้โลหะของ Pebble Time นั่นเอง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดยังคงเหมือนกับ Pebble Time รุ่นปกติครับ (คล้ายๆตอน Pebble Original กับ Pebble Steel เป็นเพียงแค่เปลี่ยนวัสดุและดีไซน์เท่านั้น) แต่ในรุ่นนี้ทางผู้ผลิตบอกสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่นปกติถึง 10 วันเนื่องมาจากแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่านั่นเอง
ต่อมาในส่วนของ Pebble Smartstraps สายนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดสำหรับ Pebble Time โดยความสามารถหลักๆของมันก็คือ
ในที่สุด Pebble ก็ได้ปล่อย Pebble SDK 3.0 รุ่นล่าสุดออกมาเรียบร้อย โดยในเวอร์ชั่นล่าสุดพร้อมรองรับกับฮาร์ดแวร์ของ Pebble Time ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลที่เป็นสีและไมโครโฟนที่ติดมากับนาฬิกา สำหรับฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใน SDK รุ่นล่าสุดมีดังนี้ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆสามารถอ่านได้จากที่มาครับ
ที่มา - Pebble Developer
ทีมงาน Pebble เข้าไปตอบคำถามใน Reddit เกี่ยวกับ Pebble Time มีประเด็นเพิ่มเติมจากข้อมูลสินค้าที่ประกาศออกมา
Thomas Sarlandie ซึ่งเป็น Developer Evangelist ของ Pebble เผยผ่าน Reddit AMA ว่า บริษัทไม่มีแอพบน Windows Phone แต่ได้สนับสนุนนักพัฒนาภายนอกให้ทำแอพแบบไม่เป็นทางการที่รองรับการทำงานกับอุปกรณ์ของบริษัท ซึ่งจะรวมถึงนาฬิการุ่นจอสี Pebble Time ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัว
หวังว่าอนาคต Pebble จะทำแอพบน WP อย่างเป็นทางการนะ
ที่มา: Reddit AMA ผ่าน Gdgt Arena
หลัง Pebble เปิดตัวนาฬิการุ่นจอสี Pebble Time และได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี (ขณะที่เขียนข่าว ยอดระดมทุน 8 ล้านดอลลาร์แล้ว) เว็บไซต์ Medium Backchannel ก็มีบทสัมภาษณ์ Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Pebble ถึงเบื้องหลังการสร้าง Pebble Time ครับ
Pebble เปิดตัว Pebble Time นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปใช้จอ e-paper จอสี โดยยังใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเดิมได้ทั้งหมดกว่า 6500 รายการ
จุดเด่นของรุ่นใหม่อื่นๆ ได้แก่ กันน้ำ (ไม่แนะนำให้ใช้ดำน้ำ, แต่ว่ายน้ำได้), รองรับ Voice Reply ของแอนดรอยด์หลายแอพพลิเคชั่น ส่วน iOS รองรับเฉพาะ Gmail, จอภาพ Gorilla Glass, อายุแบตเตอรี่ 7 วัน, และสายนาฬิกาแบบ 22 มิลลิเมตรมาตรฐานได้
หน้าจอแบบใหม่ Timeline จะเรียงหน้าจอตามเวลา อดีต, ปัจจุบัน, และอนาคต โดยหน้าจอนี้ตัว Pebble เดิมและ Pebble Steel จะได้รับอัพเดตด้วย
ราคาปลีก 199 ดอลลาร์ ช่วงเริ่มต้น 5,000 เรือนแรก 159 ดอลลาร์ ส่งของเดือนพฤษภาคมนี้
มีคนไปพบว่ามีภาพสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ยังไม่ออกสู่ตลาดบนเซิร์ฟเวอร์ของ Pebble เอง ถึงแม้ภาพนั้นจะถูกลบออกไปแล้วแต่ก็ยังมีคนเก็บภาพนั้นได้ทัน
จากภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) จะเห็นว่าสมาร์ทวอทช์มีหน้าจอสี ดูเหมือนขอบจอหนาขึ้นและปุ่มเล็กลงกว่ารุ่นก่อน เว็บไซต์ 9to5Mac เสริมว่า สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่นี้จะไม่มีหน้าจอสัมผัส, มีระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งเทียบเท่ากับอุปกรณ์รุ่นแรกจาก Pebble, ซีพียู Cortex M4, ไจโรสโคปแบบ 6 แกน และระบบปฏิบัติการได้รับการออกแบบใหม่หมดโดยทีมที่อยู่เบื้องหลัง webOS
ที่มา: 9to5Mac
ดูเหมือน Pebble ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์รายแรกๆ ของตลาด จะเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเร็ววันนี้ หลังจากเพิ่งเริ่มนับถอยหลังในหน้าเว็บหลัก โดยจุดหมายคือวันอังคารหน้าที่ 24 กุมภาพันธ์เวลา 22 นาฬิกาตามเวลาบ้านเรา
เริ่มขายมาได้สองปีนิดๆ ในที่สุด Pebble ก็ทำยอดขายทะลุล้านชิ้นต่อปีได้สำเร็จในปี 2014 ที่ผ่านมาแล้ว เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อปี 2013 ที่ขายได้ราว 400,000 ชิ้นเท่าตัวกว่าๆ เลยทีเดียว
นอกจากเผยยอดขายแล้ว Pebble ยังบอกว่าในปีนี้จะมีสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่มาเปิดตัวแน่ๆ หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัว Pebble Steel ที่จับของเดิมมาใส่กรอบโลหะเท่านั้น โดยในปีนี้ Pebble จะแสดงให้เห็นถึงการทำสมาร์ทวอทช์ที่ไม่ได้เน้นไปที่แอพแบบกูเกิล หรือแอปเปิลทำให้สมาร์ทวอทช์คล้ายกับสมาร์ทโฟน แต่จะเน้นสร้างแพลตฟอร์มที่ไม่ทำให้สมาร์ทวอทช์กลายเป็นสมาร์ทโฟนแทน
แต่กว่าจะได้เห็นกัน คาดว่าจะต้องรอถึงช่วงปลายปีเลยครับ
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Pebble ที่อยากได้ฟีเจอร์แบบ Android Wear บ้าง หลังจากในอัพเดตใหม่เวอร์ชัน beta เพิ่มความสามารถให้ Pebble สามารถตอบผ่านข้อความแจ้งเตือนได้โดยตรงแล้ว
วิธีการของ Pebble จะใกล้เคียงกับ Android Wear ต่างกันตรงที่ตัวเครื่องไม่มีหน้าจอสัมผัส จึงใช้ปุ่มด้านข้างสำหรับเลือกรูปแบบข้อความที่ต้องการตอบกลับ (พิมพ์ไม่ได้เพราะไม่มีจอสัมผัสเช่นกัน) ซึ่งดูยุ่งยากกว่า แต่คงใช้แบตเตอรี่น้อยกว่าเช่นกัน
วิดีโอแสดงการทำงานของฟีเจอร์นี้สามารถดูได้ท้ายข่าว ส่วนใครที่อยากใช้ตอนนี้ สามารถไปลงทะเบียนเพื่ออัพเดตเวอร์ชัน beta ได้ที่นี่
Pebble ผู้บุกเบิกสมาร์ทวอทช์ได้เริ่มทดสอบการรองรับระบบการเตือนที่โต้ตอบได้ของ Android Wear แล้ว หลังจากเริ่มรองรับการแจ้งเตือนจากทุกแอพมาก่อนหน้านี้ โดยตัว Pebble จะรองรับการแสดงผลการแจ้งเตือนแบบเดียวกับอุปกรณ์ Android Wear อื่นๆ และผู้ใช้สามารถเลือกการโต้ตอบง่ายๆ กลับไปได้ แม้ตัว Pebble จะไม่รองรับการสัมผัสหน้าจอ และไม่ได้รัน Android Wear บนตัวเองก็ตาม
Pebble ปล่อยเฟิร์มแวร์รุ่นล่าสุดให้ผู้ใช้แล้ว มีการเพิ่มภาษา 80 ภาษาเพื่อให้แสดงการแจ้งเตือนได้ถูกต้องโดยไม่แสดงเป็นตัวอักษรที่ไม่รองรับในรูปของกล่องสี่เหลี่ยม อย่างไรก็ตาม ไม่มีภาษาไทยอยู่ในรายการภาษาดังกล่าว
สำหรับผู้ใช้ Android มีข่าวดีอีกข่าวคือแอพ Pebble บนแอนดรอยด์จะได้รับอัพเดตรุ่น 2.1.0 ที่มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
Nest Labs ประกาศเข้าซื้อกิจการเป็นครั้งที่สองถัดจากการซื้อกล้องวงจรปิด Dropcam โดยรอบนี้เป็นการซื้อบริษัท Revolv ที่ขายฮับสำหรับบ้านอัจฉริยะ (คู่แข่งคือ SmartThings ที่โดนซัมซุงซื้อไปแล้ว)
อย่างไรก็ตาม การซื้อครั้งนี้ต่างไปจากการซื้อ Dropcam ที่ยังขายกล้องวงจรปิดต่อ แต่รอบนี้ Revolv จะหยุดขายสินค้าทุกอย่าง และถูกยุบไปรวมกับทีมหลักของ Nest โดยจะยังให้บริการหลังขายกับลูกค้าเก่าต่อไป
Pebble นาฬิกาอัจฉริยะที่บุกเบิกตลาด ประกาศลดราคาลงทุกรุ่น 50 ดอลลาร์ โดย Pebble รุ่นปกติเหลือ 99 ดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับราคาสมัยระดมทุน Kickstarter ส่วน Pebble Steel เหลือ 199 ดอลลาร์
นอกจากนี้ Pebble ยังประกาศคุณสมบัติในซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ เพิ่มหัวข้อการตรวจจับ Activity ซึ่งทำงานร่วมกับแอพออกกำลังกายทั้ง Misfit, UP ของ Jawbone และ Swim.com
หลังแอปเปิลเปิดตัว iPhone 6 จอใหญ่กว่าเดิม คู่แข่งร่วมวงการก็มารวมตัวกันจิกกัดแอปเปิลโดยมิได้นัดหมาย
ไล่ตั้งแต่ HTC, Sony, Nokia, Samsung และรายเล็กอย่าง OnePlus กับบริษัทนาฬิกาอย่าง Pebble ทุกรายใช้ช่องทาง social network ของตัวเองแซวแอปเปิลกันเต็มที่