ฟีเจอร์ตรวจการสะกดคำ (spellchecking) ถือเป็นฟีเจอร์เล็กๆ อันหนึ่งที่ขาดไปใน IE แต่มีในคู่แข่งอย่าง Firefox และ Chrome

ล่าสุดไมโครซอฟท์เพิ่มความสามารถด้านการตรวจสะกดลงใน IE10 แล้ว โดยฟีเจอร์ด้านการตรวจสะกดจะเป็นมาตรฐานให้ทุกแอพบน Windows 8 แต่ก็มีใน IE10 บน Windows 7 ด้วย

แต่ที่เหนือไปอีกระดับคือ IE10 ยังมีฟีเจอร์แก้คำผิดอัตโนมัติ (auto-correct) แบบที่เราคุ้นเคยใน Microsoft Word ด้วย (ถือเป็นเบราว์เซอร์ตัวแรกที่ทำได้) ผู้ใช้สามารถเปิดเมนูแก้คำผิดด้วยการคลิกเมาส์หรือกด Shift+F10 นอกจากนี้ถ้าไม่ชอบคำผิดที่แก้ให้ก็ยังกด Ctrl+Z เพื่อยกเลิกได้ด้วย

Xbox 360 เปิดตัวเมื่อปี 2005 นับถึงตอนนี้ก็มีอายุ 6 ปีกว่าๆ เริ่มครบวัฏจักรของเครื่องเกมคอนโซลแล้ว

ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะยังเงียบๆ ไม่ยอมพูดถึง Xbox ตัวต่อไป (ซึ่งสื่อต่างประเทศเรียกมันว่า Xbox 720 แต่ชื่อจริงยังไม่มีใครรู้) แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวลือของ Xbox รุ่นใหม่ออกมาบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามข่าวหลายกระแสยังไม่ตรงกันสักเท่าไร

ข่าวแรกมาจากบล็อกชื่อ MS Nerd อ้างว่า Xbox ตัวใหม่มีรหัสว่า "loop" มันจะใช้ซีพียูตระกูล ARM แบบพิเศษที่มีคอร์หลักสำหรับประมวลผล และมีคอร์เฉพาะสำหรับงานแต่ละชนิด เช่น คอร์สำหรับกราฟิก คอร์สำหรับเสียง คอร์สำหรับประมวลผลฟิสิกส์ ฯลฯ ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กกว่า Xbox 360 และราคาถูกกว่า ระบบปฏิบัติการจะเป็น Windows 9 รุ่นปรับแต่งพิเศษ

ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นกับข่าวไมโครซอฟท์ไล่เซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ Android หลายราย แต่หนึ่งรายที่ไม่ยอมเซ็นกับไมโครซอฟท์ก็คือ Barnes & Noble (ซึ่งทำ Nook) และจบลงด้วยไมโครซอฟท์ยื่นฟ้อง Barnes & Noble

ทางทนายของ Barnes & Noble ก็แก้เกมกลับโดยยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานด้านต่อต้านการผูกขาด ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และล่าสุดมีสไลด์ของ Barnes & Noble หลุดออกมาสู่สาธารณะ (เอกสารยื่นวันที่ 12 กรกฎาคม 2011)

เอกสารนี้เผยให้เห็นรายละเอียดของ "สิทธิบัตร" ที่ไมโครซอฟท์นำมาเจรจา/ฟ้องกับ Barnes & Noble ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสิทธิบัตรชุดเดียวที่ใช้เซ็นสัญญากับผู้ผลิต Android รายอื่นๆ (ซึ่งไมโครซอฟท์ไม่เคยเปิดเผย) ใครสนใจก็เอาเลขสิทธิบัตรไปค้นต่อกันตามสะดวก

อนาคตของ Silverlight เป็นที่ชัดเจนมานานแล้วว่า มันจะถูกลดความสำคัญลง และไมโครซอฟท์จะหันมาเน้น HTML5 แทนสำหรับเทคโนโลยีเว็บ และย้ายมันไปใช้สำหรับงานเฉพาะทางบางอย่างแทน (อดีตพนักงานฝ่าย Silverlight ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า "

หลังจากไมโครซอฟท์เซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับ Compal ไปไม่นาน คราวนี้ก็ถึงคราวของ Huawei ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนที่ มีผลิตภัณฑ์หลักอยู่ในแพลตฟอร์มแอนดรอยด์

Victor Xu ตำแหน่ง chief marketing officer ของ Huawei กล่าวว่า "ไมโครซอฟท์มาเยือนเราแล้ว" และยังกล่าวเสริมอีกว่า "เราเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาอยู่เสมอ แต่ด้วยสิทธิบัตร 65,000 รายการทั่วโลกทำให้มั่นใจได้ว่านั่นจะเพียงพอสำหรับปกป้องผลประโยชน์ของเรา"

อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่าขั้นตอนทั้งหมดยังอยู่ในช่วงของการเจรจา

ที่มา - Guardian

นับเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ของวงการทีเดียว หลังจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Windows Phone นั่นว่างลงหลังจาก Charlie Kindel ผู้บริหารคนก่อนประกาศลาออก หลังจากร่วมงานกับไมโครซอฟท์มา 21 ปี และวันนี้ผู้ที่มารับตำแหน่งคนล่าสุดคือ Gavin Kim

แน่นอนว่าการจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารของไมโครซอฟท์ย่อมต้องไม่ธรรมดา และจะยิ่งไม่ธรรมดายิ่งขึ้นถ้าบุคคลนั้นไม่ใช่ "เด็กปั้น" ของบริษัท

หลังจากการปล่อย Bing สู่ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ไปสักระยะ แม้ว่าจะได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้ใช้ แต่ Microsoft ก็คงไม่หยุดเท่านั้น เพราะว่า ระบบยังไม่ได้ใช้โค้ดที่ "สดใหม่" อย่าง HTML5 ล่าสุดจึงได้ออกอัพเดตเพื่อบรรจุ Bing ในแบบ HTML5 ลงระบบ ซึ่งนี้ถือเป็นการอัพเดตที่ใหญ่ที่สุดของ Bing App

เว็บไซต์ MobilityDigest เผยว่า ไมโครซอฟท์ได้ปรับปรุงสเปกฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำของ Windows Phone 7 บนเว็บไซต์ MSDN ไปตั้งแต่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยหน้าเว็บดังกล่าวระบุว่ากล้องและเซ็นเซอร์ compass กับ gyro จะถูกตัดออกไปเป็นออปชันแทน

ตั้งแต่ออก Developer Preview ไปตั้งแต่เดือนกันยายน จนตอนนี้ผ่านมาเกือบจะ 2 เดือนแล้ว ความคืบหน้าล่าสุดก็มีเพียงแค่การปรับหน้า Start ตามเสียงของผู้ใช้เท่านั้น แต่ล่าสุดมีคนค้นพบว่า Microsoft ได้คอมไพล์ build ใหม่รหัส 8141 ซึ่งมีชื่อว่า Windows 8 Beta และ Windows Server 8 Standard Beta โดยสิ่งใหม่หลังจากที่ได้ทำการทดลองติดตั้งลงไปแล้วนั่นคือ

DigiCert Sdn. Bhd เป็นหน่วยงานออกใบรับรองแบบตัวกลาง (Intermediate CA) ที่ได้รับการรับรองจาก Entrust และ Verizon มาอีกที แต่หลังจากพบการออกใบรับรองอย่างหละหลวมหลายใบจนมีการนำใบรับรองเหล่านั้นไปโจมตีผู้อื่น ทางมอซซิลล่าและไมโครซอฟท์ก็ประกาศยกเลิกสถานะของ CA นี้

ผู้อ่าน Blognone คงจำต้นแบบแท็บเล็ต Microsoft Courier ที่เป็นข่าวตั้งแต่ปี 2009 (ก่อน iPad เปิดตัวด้วยซ้ำ) แท็บเล็ตตัวนี้ยังเป็นแค่โครงการภายในของไมโครซอฟท์ ที่ไม่เคยเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (แต่ Gizmodo เป็นคนนำมารายงาน) น่าเสียดายว่า

สงครามการชิงตลาดบริการระดับองค์กรระหว่างกูเกิลกับไมโครซอฟท์มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหม่ เมื่อการสเปคการจัดซื้อของกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐฯ ที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้บริการอีเมลในกลุ่มเมฆแทนการตั้งเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเองเมื่อปีที่แล้ว จนตอนนี้แต่ระบุในสเปคว่าต้องใช้ระบบของไมโครซอฟท์เท่านั้นจนกระทั่งกูเกิลฟ้องร้อง และเพิ่งได้ข้อสรุปเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านสเปคใหม่ก็ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

แม้ Kinect นั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ XBox 360 เป็นหลักแต่นักพัฒนาจำนวนมากก็เห็นศักยภาพของ Kinect และพากันพัฒนาการใช้งานรูปแบบแปลกๆ ออกมาจำนวนมาก โดยไมโครซอฟท์เองก็เปิด SDK ให้ใช้งานกันก่อนหน้านี้ แต่ SDK กลับเป็นรุ่นเพื่อการทดลอง ไม่สามารถนำมาพัฒนาสินค้าจริงจังได้ แต่วันนี้ไมโครซอฟท์ก็ประกาศว่าชุดเครื่องมือสำหรับการพัฒนา Kinect เพื่อการค้าจะออกมาในต้นปีหน้า

ไมโครซอฟท์ระบุว่าตอนนี้เองก็มีการใช้งาน Kinect อย่างจริงจังในหลายอุตสาหกรรม เช่นบริษัท Tedesys กำลังพัฒนาระบบควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทาง (gesture) เพื่อให้แพทย์สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์นอกห้องผ่าตัดได้โดยไม่ต้องออกจากห้องผ่าตัด

ตอนนี้อาจจะได้เวลาคิดว่าเอามันมาทำอะไรดี

ตาม Mango มาติด ๆ สำหรับฟังก์ชันที่หลายคนรอคอยอย่างการแชร์อินเทอร์เน็ตจากโทรศัพท์

หา ไม่มีเลยงั้นเหรอ ผมรอคนเดียวก็ได้

ผู้ที่ได้อัพเดตนี้มาครอบครองก่อนก็ไม่ใช่ใครอื่น รุ่นสร้างตำนานในไทยด้วย "แลก" ตามด้วย "ลด" จบด้วย "แจก" และ "แถม" อย่าง HTC 7 Mozart นั่นเอง

อัพเดต: ผู้ใช้ HTC 7 Mozart ในไทยสามารถอัพเดตได้ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไปครับ ผมอัพแล้ว (^.^)

ตามที่ไมโครซอฟท์แจ้ง Mango มีฟังก์ชันนี้มาพร้อมแล้ว แต่เพิ่มเข้ามาใน beta build หลัง ๆ ของอัพเดตทำให้ผู้ผลิตเตรียมไม่ทัน เพื่อไม่เป็นการล่าช้าไมโครซอฟท์ก็เลยปล่อย Mango นำมาก่อนเลย ค่ายไหนรุ่นไหนพร้อมแล้วจึงอัพเดตเปิดฟังก์ชันนี้ตามกันขึ้นมาอีกที

ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะยังอุบเงียบ ไม่ยอมบอกข้อมูลของ Windows Phone รุ่นถัดไปรหัส "Apollo" แต่ข้อมูลหลุดกลับออกมาจาก Michael Halbher ผู้บริหารของโนเกีย ที่บอกกับเว็บไซต์ Engadget ว่า "Apollo" จะออกช่วงกลางปี 2012 และ "แตกต่าง" จาก Mango มาก (อาจแปลว่ามันจะเป็น Windows Phone 8?)

Halbher ยังบอกว่าโนเกียพยายามผลักดันให้ไมโครซอฟท์สนับสนุน NFC ใน Apollo และปรับปรุงเรื่องการจับพิกัดเพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบแผนที่ของโนเกียได้ดีขึ้น

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์บางรายบอกกับ Engadget ว่าข้อมูลเรื่องช่วงเวลาของ Halbher ไม่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ ก็ต้องฟังหูไว้หูก่อนละกันครับ

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานี้ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยวีดีโอเกี่ยวกับชีวิตของเราและเทคโนโลยีต่าง ๆ ในยุค Post PC Era ซึ่งนี่อาจจะเป็นวิถีชีวิตของเราอีก 5 ถึงสิบปีข้างหน้านี้ก็ได้

โดยในวีดีโอความยาว 6 นาทีกว่านี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เราจะเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ตั้งแต่กระจกรถยันจอภาพขนาดเท่าเครดิตการ์ด และอุปกรณ์ไฮเทคที่เราใฝ่ฝันกันอย่างแว่นตาที่คอยแปลภาษาให้กับเราเมื่อเราได้ยินเสียงประกาศเป็นภาษาที่เราไม่รู้จัก

กดเข้ามาเพื่อชมวีดีโอนี้ได้เลยครับ

ที่มา - Cnet

ถ้าเป็นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครคิดว่าจะมีวันนี้ แต่ประโยค "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร" ก็ยังใช้ได้เสมอ

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้โชว์ Tango หรือบริการวีดีโอคอลล์บน HTC Titan ไปเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้ยืนยันว่า Tango จะเป็นบริการวีดีโอคอลล์ตัวแรกบน Windows Phone และจะเริ่มใช้งานการตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. นี้เป็นต้นไป

Tango เกิดขึ้นมาได้ราว 2 ปีแล้ว และกลายเป็นบริการวีดีโอคอลล์ตัวแรกบน iOS สำหรับเป้าหมายของบริษัทคือการให้บริการวีดีโอคอลล์กับทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Windows, Android, iOS และล่าสุดกับ Windows Phone ปัจจุบันนี้มีผู้ลงทะเบียนใช้มากกว่า 25 ล้านบัญชีผู้ใช้ใน 190 ประเทศ

เมื่อวานนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วคือ 25 ตุลาคม 2001 ไมโครซอฟท์ได้ออกระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคือ Windows XP

ปัจจุบันแม้เวลาผ่านมาถึง 10 ปี และไมโครซอฟท์เองก็ออกวินโดวส์รุ่นใหม่กว่านั้นมาอีก 2 รุ่น แต่ XP ก็ยังได้รับความนิยมสูง และมีส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้เน็ตถึง 30% จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เองก็พยายามจะจบวงจรชีวิตของ Windows XP อยู่หลายครั้ง แต่ก็ทนเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ไม่ไหว จนต้องต่ออายุมาหลายรอบ

ข่าวต่อเนื่องจากการลงนามข้อตกลงระหว่างไมโครซอฟท์และ Compal วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เขียนบล็อกต่อเนื่องออกมาอีกบทความ ระบุว่าอุปกรณ์แอนดรอยด์กว่าครึ่งตลาดในตอนนี้ได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรจากไมโครซอฟท์แล้ว

ตัวเลขจำนวนอุปกรณ์ที่ได้รับความคุ้มครองนี้สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพราะ Compal เองเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์แอนดรอยด์ถึงร้อยละ 16 ของตลาดโลก เมื่อรวมกับ Wistron และ Quanta ที่ลงนามกันไปก่อนหน้านี้ก็จะเป็นจำนวนถึงร้อยละ 55 ของตลาดโลก

กลยุทธ์การหารายได้จากการเก็บค่าสิทธิบัตร ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของไมโครซอฟท์ในตลาดโทรศัพท์มือถือต่อไป แต่การเซ็นสัญญาครั้งล่าสุดกับบริษัท Compal Electronics ก็น่าแปลกใจที่สัญญาสิทธิบัตรนี้รวมไปถึง Chrome ด้วย

Compal นั้นเป็นโรงงานผลิตเน็ตบุ๊กรายใหญ่ในจีน ถ้าเราซื้อเน็ตบุ๊กจีนก็จะเจอแบรนด์นี้อยู่บ้าง จึงมีความเป็นไปได้ที่ Compal จะผลิตเน็ตบุ๊กที่ใช้ Chrome OS ออกมาในอนาคต การเซ็นสัญญานี้จึงเป็นการเซ็นสัญญาเผื่อไว้สำหรับ Compal

แต่น่าสนใจว่าไมโครซอฟท์นำสิทธิบัตรใดไปเรียกร้องให้ Compal จ่ายเงินค่าสิทธิบัตรสำหรับ Chrome OS

สัญญาครั้งนี้เปิดเผยเพียงว่าไมโครซอฟท์จะได้รับค่าสิทธิบัตรจาก Compal แต่ไม่ระบุสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้อง และตัวเลขเงินที่จ่ายกัน

นอกจากที่คุณ Andy Lees ประธานฝ่าย Windows Phone ได้นำ Windows Phone รุ่นใหม่ที่ขายผ่านเครือข่าย AT&T ในสหรัฐฯ มาโชว์ให้ดู ที่งาน AsiaD แล้ว เขายังได้กล่าวถึง Windows Phone ไว้อีกหลายประการ สรุปได้ดังนี้

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ตามปฏิทินการเงินของบริษัท กำไรสุทธิ 5.74 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.737 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7%

ตัวเลขที่ออกมาก็ช่วยสะท้อนภาพของธุรกิจพีซีได้ว่ายังอยู่ในระดับที่ "ไปได้เรื่อยๆ" ไม่ได้ถดถอยลงอย่างที่ประเมินกันก่อนหน้านี้ โดยไมโครซอฟท์กล่าวว่ายอดขายในส่วนของ Office, SharePoint, Exchange และบรรดาบริการบนกลุ่มเมฆอย่าง Office 365 และ Windows Azure นั้นยังแข็งแกร่งดี

ที่งาน Web 2.0 Summit นอกจากคุณสตีฟ บัลเมอร์บอกว่า "โชคดีมากที่ซื้อยาฮูไม่ได้" และ "Android เป็นระบบที่ใช้ยากชนิดที่ต้องจบวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ถึงจะใช้มันเป็น" แล้ว ยังมีอีกคำถามหนึ่งที่คุณบัลเมอร

สตีฟ บัลเมอร์ CEO ของไมโครซอฟท์เผยในระหว่างขึ้นเวที Web 2.0 Summit ว่า ไมโครซอฟท์โชคดีมากที่ซื้อ Yahoo ไม่สำเร็จ

บัลเมอร์ให้ความเห็นเวลาว่าระยะเวลาหลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ยื่นข้อเสนอให้ Yahoo ครั้งแรกนั้นหลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนไปมากและเค้ารู้สึกว่าไมโครซอฟท์โชคดี (ที่ซื้อ Yahoo! ไม่สำเร็จ)

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 ไมโครซอฟท์ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อ Yahoo ในราคา 44.6 พันล้านดอลลาร์หรือ 31 ดอลลาร์ต่อหุ้นซึ่งสูงกว่าราคาแท้จริงของ Yahoo ในขณะนั้นมาก และไมโครซอฟท์ก็เพิ่มข้อเสนอเป็น 33 ดอลลาร์ต่อหุ้นซึ่งก็ยังไม่สามารถปิดดีลได้เนื่องจากทาง Yahoo ต้องการราคาถึง 37 ดอลลาร์ต่อหุ้น