เฟซบุ๊กประกาศปรับปรุงระบบ Safety Check ด้วยการเพิ่มระบบระดมทุนใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ขึ้น Safety Check จากการเกิดภัยพิบัติหรือเหตุร้ายต่างๆ

ผู้คนคนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยและขึ้น Safety Check หลังกดยืนยันแล้วว่าปลอดภัย สามารถเปิดระดมทุนเพื่อขอความช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็นได้เลย ขณะที่คนที่อยู่นอกพื้นที่ก็สามารถเปิดโครงการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ประสบภัยได้เช่นกัน โดยระบบนี้จะเริ่มใช้งานในสหรัฐก่อนในสัปดาห์หน้า

Taimoor Raza ชายอายุ 30 ปีในปากีสถาน ถูกตัดสินประหารชีวิตโทษฐานหมิ่นประมาทศาสดานบีมูฮัมหมัดในทางไม่ดีลงใน Facebook

ไม่มีรายละเอียดเรื่องโพสต์ Facebook นั้นออกมาชัดเจน ครั้งนี้เป็นโทษประหารชีวิตครั้งแรกข้อหาหมิ่นประมาทในโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตามในปากีสถานมีความตึงเครียดเรื่องศาสนาสูงมาก และทวีความรุนแรงเรื่องบทลงโทษมากขึ้นหากหมิ่นศาสนา

รัฐบาลปากีสถานประกาศปราบปรามการหมิ่นประมาทที่ถูกกล่าวหาในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย Chaudhry Nisar Ali Khan ระบุว่าจะบล็อกเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมดที่มีเนื้อหาดูหมิ่นศาสนา

ข่าวนี้เผยแพร่ครั้งแรกโดยอ้างอิงสำนักข่าว Bloomberg ทางตัวแทนกสทช.ติดต่อ Blognone ว่าข่าวนี้ผิดพลาดและขอให้ลบออก

เฟซบุ๊กปล่อยให้ดาวน์โหลดแอพบน Play Store สำหรับแอนดรอยด์ทีวีแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เอาไว้สำหรับเปิดนั่งอ่านนิวส์ฟีดบนทีวี เนื่องจากตัวแอพจะแสดงเฉพาะวิดีโอแต่เพียงอย่างเดียว

ตัวเลือกวิดีโอมีให้เลือกอย่าง Suggested หรือหมวดแนะนำ ซึ่งจะมีวิดีโอที่เพื่อนแชร์อยู่ในนี้ หมวด Live, Games และ Your Videos

ที่มา - 9to5Google

Docs.com บริการเอกสารความร่วมมือ Facebook และ Microsoft เพื่อแข่งกับ Google ล่าสุดถึงจุดจบแล้ว เมื่อตอนนี้ Microsoft ประกาศปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการ โดยเหตุผลที่ Microsoft แจ้งไว้คือเนื่องจากมีบริการที่ดีกว่า อย่างเช่น SlideShare หรือ OneDrive

Microsoft ประกาศว่า บริการ Docs.com จะหยุดให้บริการในวันที่ 15 ธันวาคม 2017 โดยสำหรับผู้ใช้ Docs.com ในตอนนี้จะสามารถเข้าถึงเอกสารที่อัพโหลดไว้และแบคอัพลง OneDrive ได้ แต่จะไม่สามารถอัพโหลดเอกสารใหม่เพิ่มเติมได้แล้ว ส่วนผู้ใช้ที่ยังไม่ได้สร้างบัญชีก็จะไม่สามารถสร้างบัญชีได้อีก

Facebook ร่วมมือกับ UNICEF จัดทำแผนที่ภัยพิบัติโดยใช้ดาต้าจาก Facebook ในการระบุความร้ายแรงของภัยพิบัติในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการภัยพิบัติรู้จุดที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

Facebook ยังร่วมมือกับสหพันธ์สภากาชาดระหว่างประเทศ, World Food Programme และองค์กรอื่นๆ ในการจัดทำแผนที่ดังกล่าวด้วย โดยแผนที่จะแสดงตำแหน่งของกลุ่มคนทั้งก่อน ระหว่างและหลังภัยพิบัติโดยอาศัยภาพถ่ายดาวเทียม และแสดงแผนที่ความเคลื่อนไหวและการอพยพของผู้คน ช่วยให้องค์กรทำความเข้าใจรูปแบบการอพยพเพื่อจัดการทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้คนได้ง่ายขึ้น รวมทั้งทำนายความหนาแน่นของการจราจรได้ล่วงหน้า

เฟซบุ๊กประกาศรองรับการแสดงคำบรรยาย (Closed Captions) บนเฟซบุ๊กไลฟ์แล้ว สำหรับผู้ชมที่มีหูหนวกและมีปัญหาด้านการได้ยินโดยเฉพาะ

ระบบคำบรรยายผ่านการถ่ายทอดสดของเฟซบุ๊กตอนนี้รองรับเฉพาะมาตรฐาน CEA-608 ขณะที่ผู้ที่ถ่ายทอดสดสามารถใช้บริการบริษัท Captioning Services Provider ที่เฟซบุ๊กเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อใส่คำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้ตอนนี้รองรับเฉพาะบนพีซีและ iOS เท่านั้น

ที่มา - Facebook Newsroom (1, 2)

เฟซบุ๊กกำลังถูก Korea Communication Commission หรือกสทช. เกาหลีใต้สอบสวน หลังถูกยื่นฟ้องจากกลุ่ม Green Consumer Network ว่าเฟซบุ๊ก ลวงผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแอพ Messenger ด้วยการส่งการแจ้งเตือนหลอกไปว่ามีข้อความ ก่อนจะพบว่าไม่มีข้อความใดๆ เข้ามาเลยหลังโหลดแอพแล้ว

กลุ่ม Green Consumer Network ระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวของเฟซบุ๊ก เป็นการละเมิดกฎโทรคมนาคมของเกาหลีใต้ ขัดขวางเสรีภาพในการเลือกของผู้ใช้ และการแข่งขันที่เป็นธรรม ด้านเฟซบุ๊กแถลงว่า การแจ้งเตือนเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอพนั้น ไม่ได้เป็นการขัดขวางตัวเลือกของผู้ใช้แต่อย่างใด เพราะการไม่ลงแอพ Messenger ไม่ได้ขัดขวางหรือทำไม่สามารถใช้โซเชียลมีเดียได้แต่อย่างใด

นับจากที่มีการทำสัญญาร่วมกันของโซเชียลมีเดียในการจัดการกับ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์ม ล่าสุด EU เผยสถิติว่าโซเชียลมีเดียจัดการ Hate Speech ในภาพรวมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ Facebook ที่สามารถนำ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์มได้ 58% ภายใน 24 ชั่วโมง ดีขึ้นจากเดิมในเดือนธันวาคมที่ทำได้ 50%

Twitter ทำได้ 39% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากเช่นกัน จากเดิมที่เคยทำได้ 23.5% และครั้งนั้น EU ก็เตือนว่ายังทำได้ไม่ดีพอ

ในทางตรงกันข้าม YouTube กลับทำผลงานได้ช้าลง ทำได้ 42.6% ผิดจากการวัดผลครั้งก่อนหน้าที่ทำได้ถึง 60.8% แต่โดยรวมทุกแพลตฟอร์มมีการจัดการดีขึ้น คิดเป็นตัวเลข 59.2% จากเดิมวัดได้ 28.2%

ไม่เพียง Facebook ที่เจอปัญหาข่าวปลอม WhatsApp ก็เจอปัญหาหนักไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนจะหนักกว่าเพราะข่าวปลอมที่แพร่ใน WhatsApp ส่งผลต่อสถานการณ์จริงด้วย

รายละเอียดคือมีคอนเทนต์หนึ่งเผยแพร่ใน WhatsApp ประเทศบราซิล ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอายุราว 20 ปี กับผู้ชายสูงอายุประมาณ 60 ปี ลักพาตัวเด็กๆ ไปค้ามนุษย์ จนกระทั่งมีคนหนึ่งสังเกตุเห็นว่ามีบุคคลตรงตามข่าวลือที่แพร่ใน WhatsApp ในเขต Lake District กรุงริโอ เดอจาเนโร ทั้งคู่ขับรถสีขาว 1989 Ford Escort มีคนถ่ายภาพทั้งคู่ได้และภาพก็แพร่ไปใน WhatsApp ทำให้มีฝูงชนเข้าไปล้อมทั้งคู่และทำร้ายร่างกายพวกเขา แต่โชคดีที่ไม่ถึงแก่ชีวิต เพราะเพื่อนของฝ่ายหญิงเข้าไปช่วยไว้ และระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเด็ก

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในคอนเสิร์ตของ Ariana Grande เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย บาดเจ็บ 59 คน เมื่อวานนี้ Ariana Grande จึงจัดคอนเสิร์ต One Love Manchester ขึ้นเพื่อระดมเงินช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุก่อการร้ายดังกล่าว ซึ่งนอกจากการซื้อบัตรเข้าชมแล้ว ผู้ดูทางบ้านยังกดปุ่มบริจาคผ่าน Facebook ที่ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ด้วย

เรามักได้ยินคำอธิบายจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ถึงสาเหตุที่เครือข่ายสังคมอื่นอย่าง Twitter หรือ Snapchat เป็นที่นิยมของวัยรุ่น นั่นคือพวกเขา หนีพ่อแม่จาก Facebook ซึ่งจะเห็นว่า Facebook รับรู้ถึงปัญหาและหาทางแก้ไขมาตลอด ล่าสุด Facebook อาจออกแอพใหม่มาให้วัยรุ่นใช้กัน (อีกแล้ว!)

โดยข้อมูลจากเว็บ The Information เผยว่าในโค้ดของแอพ Facebook นั้น มีการเขียนคอมเมนต์หลายตอนพูดถึงแอพชื่อว่า Talk รายละเอียดบอกว่า Talk เป็นแอพที่ผู้ใช้ควบคุมผู้ติดต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ, ลูกๆ จะคุยกับพ่อแม่ผ่านแอพ Messenger ตามปกติแต่คุยกับเพื่อนผ่านแอพนี้ และบอกว่าแอพนี้เน้นกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น

เกิดเหตุเด็กหญิงชาวเยอรมันวัย 15 ฆ่าตัวตาย พ่อแม่ของเด็กอยากทราบสาเหตุที่ลูกฆ่าตัวตาย ด้วยการพยายามเข้าไปยังแอคเคาท์ Facebook ของลูกสาวเพื่อดูประวัติการแชท ล่าสุดศาลอุทธรณ์ของเยอรมันตัดสินว่าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ดังกล่าว

ตอนแรก ศาลชั้นต้นตัดสินว่าพ่อแม่มีสิทธิ์เข้าถึง Facebook ของลูกสาวได้ โดยระบุว่าข้อมูลสามารถสืบทอดได้โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหา แต่ทาง Facebook ขออุทธรณ์การตัดสิน ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็ตัดสินว่าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาใน Facebook ของลูกสาว เนื่องจาก Facebook ทำสัญญาการใช้งานกับตัวผู้ใช้ (ลูกสาว) ไม่ใช่พ่อแม่ และข้อมูลการติดต่อพูดคุยกับผู้อื่นของลูกสาวไม่สามารถสืบทอดได้

ผู้ใช้ Facebook ในพม่าไม่พอใจเมื่อ Facebook แบนผู้ใช้จำนวนหนึ่งชั่วคราว เนื่องจากใช้คำว่า "kalar" ที่มักถูกใช้เป็นคำสบถเวลาพูดถึงชนกลุ่มน้อยมุสลิมในพม่า ต่อผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ทางรัฐบาลพม่าได้ส่งอีเมลขอรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวไปยัง Facebook แล้วแต่ยังไม่ตอบอะไรกลับมา

ในประเทศพม่ามีปัญหาเรื่องอคติของคนนับถือศาสนาพุทธที่มีต่อคนนับถือศาสนาอิสลาม (ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในประเทศพม่า) อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยต่อการแบนคำว่า Kalar เพราะคำนี้เป็นคำใช้อ้างถึงชาวต่างชาติโดยทั่วไป แต่ในระยะหลังถูกใช้ในทางลบต่อกลุ่มมุสลิม

Facebook ลงทุนวางสายเคเบิลใต้ดินระยะทาง 200 ไมล์ (ประมาณ 321 กิโลเมตร) เพื่อเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ Los Lunas Data Center ด้วยตัวเอง เมื่อเสร็จแล้วมันจะเป็นระบบเครือข่ายไฟเบอร์ที่ทันสมัยที่สุด และมีศักยภาพในการส่งข้อมูลสูงที่สุดระบบหนึ่งของอเมริกา มีขีดความสามารถเหนือกว่าระบบที่ดีที่สุดในปัจจุบันถึง 50%

ศูนย์ข้อมูล Los Lunas Data Center ตั้งอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโกทางตอนใต้ของสหรัฐ มีกำหนดเปิดใช้ในช่วงปลายปี 2018 โดยจะถือเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งที่เจ็ดของ Facebook และเป็นศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้

มีงานวิจัยมากมายที่ระบุว่าการเล่นโซเชียลมากเกินไป ส่งผลต่อระดับความสุข วันนี้มีมายืนยันอีกงานคือ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Yale และมหาวิทยาลัย California โดยสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้ Facebook กว่า 5,000 คนในช่วงสองปี โดยขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมให้แชร์ข้อมูลกิจกรรมบน Facebook พร้อมทั้งรายงานความรู้สึกสุขภาพจิตใจเป็นระยะ ผลคือการใช้ Facebook เกินมาตรฐานเฉลี่ยทำให้ความสุขและความพอใจในตัวเองของกลุ่มทดลองลดลง

ประโยคที่ว่า "Mark Zuckerberg ไม่จบปริญญา" คงไม่เป็นจริงอีกต่อไป เพราะเมื่อคืนนี้เขากลับไปยังมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและรับปริญญาเรียบร้อยแล้ว พร้อมโพสต์บอกชาวโลกว่า Mom, I always told you I'd come back and get my degree.

นอกจากการรับปริญญาแล้ว ฮาร์วาร์ดยังเชิญเขาไปกล่าวสุนทรพจน์ให้กับบัณฑิตที่จบการศึกษาในปี 2017 พร้อมทั้งพาภรรยา Priscilla ไปเยี่ยมชมห้องของเขาในหอพักของฮาร์วาร์ด สถานที่กำเนิด Facebook อีกด้วย

Facebook เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ภายใต้โครงการ Facebook Journalism Project เพื่อให้บริการผู้ทำข่าวและผู้อ่านข่าวบนแพลตฟอร์ม คือ ส่วนขยายของ SDK สำหรับสร้าง Instant Articles ที่รองรับการสร้างโค้ดบนแพลตฟอร์มอื่นคือ Google AMP และ Apple News

ด้วยส่วนขยาย SDK ใหม่นี้ ผู้ทำคอนเทนต์สามารถสร้างคอนเทนต์สำหรับ Instant Articles เพียงครั้งเดียว จากนั้นก็สามารถสร้างโค้ดในฟอร์แมตอื่นได้ทันที เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรไปกับการทำให้รองรับแพลตฟอร์มจำนวนมาก รวมถึงเครื่องมือใหม่นี้ยังรองรับ markup เฉพาะของผู้ทำคอนเทนต์แต่ละราย และเครื่องมือจากนักพัฒนาภายนอกอีกด้วย

หลังเฟซบุ๊กพยายามรับมือกับประเด็นข่าวปลอมมาโดยตลอด ล่าสุดเฟซบุ๊กประกาศปรับดีไซน์และเปลี่ยนที่แสดงผลหน้า Trending Page ให้ง่ายสำหรับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็คาดว่าเพื่อให้ผู้ใช้ได้เสพข้อมูลที่กำลังเป็นประเด็นของจริงและกรองข่าวปลอมได้ง่ายขึ้น

ดีไซน์ใหม่ของ Trending Page มาแบบ full-screen บนหน้าจอสมาร์ทโฟน โดยตัวโพสต์จะถูกจัดเรียงแนวนอนและปัดออกด้านข้างเพื่อเปลี่ยนโพสต์ (carousel) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ผู้ใช้ iPhone ในสหรัฐจะได้เห็นก่อนขยายไปยังแอนดรอยด์และเดสก์ท็อปต่อไป

Facebook เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับส่วนถ่ายทอดสด ได้แก่ฟีเจอร์ Live Chat with Friends สร้างห้องแชทส่วนตัวระหว่างดูการถ่ายทอดสดและ Live with ชวนเพื่อนมาถ่ายทอดสดด้วยกัน

Live Chat with Friends เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สามารถเชิญเพื่อนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดพร้อมเราเข้ามาแชทแบบส่วนตัว เหมือนเป็นการดูถ่ายทอดสดอยู่กับเพื่อนนั่นเอง แต่หากอยากจะสลับไปยังห้องแชทของการถ่ายทอดสดก็ทำได้เช่นกัน

ฟีเจอร์ต่อมาคือ Live with เป็นการชวนผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนดูเข้ามาถ่ายทอดสดร่วมกับเรา โดยหน้าจอของผู้ใช้คนนั้นจะปรากฎอยู่ในการถ่ายทอดสดของเราเป็นกรอบเพิ่มเข้ามา ทั้งนี้ผู้ใช้ที่ถูกเชิญเข้ามาถ่ายทอดสดก็สามารถปฏิเสธการเชิญได้

สำหรับฟีเจอร์ Live Chat with Friends กำลังอยู่ในช่วงทดสอบอยู่ คาดว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้เร็วๆ นี้ ส่วนฟีเจอร์ Live with เปิดให้ใช้งานแล้วเฉพาะบน iOS ทั้งแบบบุคคลทั่วไปและเพจ ยังไม่มีกำหนดว่าจะปล่อยให้ Android ใช้งานได้เมื่อไหร่

ที่มา : Engadget

เว็บไซต์ Bangkok Post รายงานว่าตำรวจกำลังเพ่งเล็งคนที่ดูรูปและอ่านคอนเทนต์ผิดกฎหมาย แม้ไม่ได้กดไลค์กดแชร์ ก็อาจมีความผิดเช่นกัน

TechCrunch รายงานว่า Facebook ได้เริ่มทดสอบเมนูสำหรับสั่งอาหารโดยเฉพาะแล้ว โดยผู้ใช้สามารถสั่งอาหารได้จาก Facebook ทันทีผ่าน Order Food ภายในหน้าเมนูของ Facebook (หรือ sidebar หากใช้งานบนเว็บ) โดยฟีเจอร์ดังกล่าว Facebook ใช้บริการจาก Delivery.com และ Slice

เมื่อผู้ใช้กดปุ่ม Order Food ในเมนูของ Facebook แล้ว จะเห็นรายการร้านอาหารที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่เปิดให้บริการ สั่งอาหาร สามารถแตะที่ภาพของร้านอาหารเพื่อเข้าไปยังหน้าเพจของร้านได้ หรือจะกดปุ่ม Start Order เพื่อเข้าไปยังเมนูเลยก็ได้ โดยมีตัวเลือกให้กรอกที่อยู่สำหรับส่ง หรือเลือกมารับที่ร้านเองก็ได้

ESL ผู้จัดการแข่งขันอีสปอร์ตชื่อดังของโลก ประกาศความร่วมมือกับ Facebook ถ่ายทอดสดทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ตสำคัญอย่าง ESL One และ Intel Extreme Masters (IEM) ผ่าน Facebook Live

ESL ไม่ได้ถ่ายทอดแค่วิดีโอช่วงการแข่งขันเท่านั้น แต่จะยังมีคอนเทนต์พิเศษ เช่น สัมภาษณ์นักแข่งหรือแคสเตอร์หลังเวที (ซึ่งเป็น exclusive เฉพาะ Facebook เท่านั้น) รวมถึงการถ่ายทอดการแข่งขันแมตช์ออนไลน์ของเกม CS:GO ของผู้เล่นระดับสูงในกลุ่ม ESEA Rank S สัปดาห์ละ 30 ชั่วโมงอีกด้วย

ความเคลื่อนไหวของ Facebook ในครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะตลาดอีสปอร์ตเป็นของ Twitch มานาน แต่ Facebook ก็พยายามผลักดัน Facebook Live ในตลาดนี้ ด้วยการเป็นพันธมิตรกับผู้จัดรายใหญ่อย่าง ESL แถมได้คอนเทนต์แบบ exclusive มาด้วย

LinkedIn เผยอันดับ 50 บริษัทในสหรัฐที่น่าทำงานด้วยที่สุดประจำปีที่แล้ว นำมาโดย Alphabet, Amazon, Facebook, Salesforce และ Uber ใน 5 อันดับแรก

ส่วนอันดับ 6-10 ได้แก่ Tesla, Apple, Time Warner (บริษัทแม่ Warner Bros, HBO), Walt Disney และ Comcast NBC Universal

ขณะที่บริษัทไอทีอื่นๆ อย่าง Airbnb อยู่อันดับ 11, Netflix อันดับ 12, Dell อันดับ 14, ทวิตเตอร์อันดับ 17, VISA อันดับ 19, Adobe อันดับ 24, Oracle อันดับ 26, Cisco อันดับ 28, Verizon อันดับ 29, Fitbit อันดับ 32, Yelp อันดับ 35, Lyft อันดับ 38, Pandora อันดับ 40, Dropbox อันดับ 42, Gartner อันดับ 43, Box อันดับ 47 และ Square อันดับ 49

Facebook เริ่มทดสอบการแสดงการแจ้งเตือนข้ามแอพบนสามบริการหลักของบริษัทคือ Facebook, Messenger และ Instagram โดยผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างแอพได้ทันที

เมื่อผู้ใช้กดไอคอนโปรไฟล์ของตัวเองในบริการใด ก็จะแสดงโปรไฟล์ทั้งสามบริการออกมา พร้อมกับการแจ้งเตือนด้านข้างว่าตอนนี้แต่ละบริการมีการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้เปิดอีกเท่าไร และเมื่อแตะที่ไอคอนของโปรไฟล์ในบริการใด ก็จะสลับไปยังแอพนั้นทันที ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี WhatsApp อยู่ในการทดสอบแต่อย่างใด

Facebook ได้ยืนยันแล้วว่ากำลังทดสอบฟีเจอร์นี้กับผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ โดยทางบริษัทจะพยายามหาทางให้ผู้ใช้สลับบัญชีไปมาระหว่าง Facebook, Messenger และ Instagram ได้ง่ายยิ่งขึ้น