Nokia ผุดไอเดียพัฒนาโดรนเพื่อช่วยในการตรวจสอบระบบตลอดจนซ่อมบำรุงเสาสัญญาณโทรคมนาคม
งานนี้ Nokia ร่วมมือกับ Du บริษัทด้านโทรคมนาคมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกแบบโดรนเพื่อใช้งานในหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดคุณภาพสัญญาณในบริเวณต่างๆ หรือการตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์บนเสาสัญญาณเพื่อประเมินงานซ่อมบำรุง ซึ่งจะช่วยทุนแรงและเวลาในการทำงานของพนักงาน
ล่าสุด Nokia ก็ได้ทำการทดสอบโดรนที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ โดยใช้โดรนที่ติดตั้งกล้องบันทึกภาพและสมาร์ทโฟนไว้ในตัว ทำการบันทึกภาพและจดบันทึกค่าความแรงของสัญญาณจากเสาส่งในพื้นที่สนามกีฬา Dubai International Stadium ทั้งยังใช้ตรวจสอบแนวการมองเห็นซึ่งกันและกันของเสาส่งสัญญาณ ซึ่งผลการทดสอบใช้งานก็เป็นที่น่าพอใจ
ช่วงหลังมานี้กระแสความนิยมของโดรนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก จนเริ่มมีคนหันมาพัฒนาโดรนสำหรับใช้งานอย่างหลากหลาย ยักษ์ใหญ่ในวงการจึงเริ่มขยับเพื่อผลักให้วงการโดรนโตไวขึ้นแล้ว
โดยสองยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง Airware ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับโดรน และ DJI ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ของโลกออกมาประกาศตั้งกองทุนสำหรับผู้พัฒนาโดรนพร้อมกัน
ถูกนำไปติดโดรนอย่างกว้างขวาง จนมีข่าวว่า GoPro กำลังจะทำโดรนของตัวเอง ล่าสุดเจ้าโดรนตัวที่ว่าได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
โดรนของ GoPro ใช้ชื่อว่า Quads plus GoPro ใช้ตัวเครื่องแบบสี่ใบพัด ซึ่งรองรับการติดตั้งกับกล้อง GoPro ทุกรุ่น แต่ยังไม่มีรายละเอียดออกมามากนัก ทั้งสเปค และราคา ตั้งเป้าว่าจะวางขายในช่วงต้นปีหน้า
ผู้เล่นในตลาดโดรนสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเริ่มจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนมากก็ยังเป็นแค่โดรนบินได้ติดกล้องที่ต้องควบคุมเอง ล่าสุดมีบริษัทหน้าใหม่มาคิดใหม่ทำใหม่ ออกมาเป็น Lily โดรนที่ใช้งานง่ายๆ ด้วยการโยนไปขึ้นไปบนอากาศ แล้วปล่อยให้ตัวเครื่องจัดการขับเคลื่อนตัวเอง
ถัดจากโครงการรถยนต์ไร้คนขับ กูเกิลเริ่มฝันถึงอนาคตของ "เครื่องบินไร้คนขับ" บ้างแล้ว
Dave Vos หัวหน้าทีมโดรนส่งพัสดุ Project Wing ในสังกัด Google X ขึ้นเวทีงานสัมมนาด้านอากาศยานไร้คนขับของสมาคม Association of Unmanned Vehicle Systems International โดยเขากล่าวถึงอนาคตของธุรกิจการบินที่ไม่ต้องใช้มนุษย์เป็นนักบินอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์แทน
อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ของ Vos ยังอีกยาวไกล และเขาบอกเพียงว่าน่าจะได้เห็นอนาคตแบบนี้ภายในช่วงอายุของเขาเอง
OnePlus ฉลองวัน April Fools ด้วยโดรนขนาดจิ๋ว DR-1 ที่มีของขายจริงๆ แต่ในจำนวนจำกัด
โดรน OnePlus DR-1 เป็นคอปเตอร์ 4 ใบพัดขนาดเล็กมากๆ ความยาวตัวเครื่องแค่ 7 ซม. และน้ำหนักเพียง 12.5 กรัมเท่านั้น (OnePlus คุยว่ามันเป็นโดรนควบคุมด้วยรีโมทที่เล็กที่สุดในโลก) มันมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3.7V100mAh Li-Po การชาร์จหนึ่งครั้งนาน 20 นาที สามารถบินได้ราว 7-8 นาที
ราคาขายตัวละ 19.99 ดอลลาร์ ของหมดเกลี้ยงแล้ว
ไม่ใช่บริษัทฝั่งสหรัฐฯ เท่านั้นที่แข่งขันกันเรื่องความไวในการส่งสินค้า เพราะยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Alibaba ก็สนใจเรื่องนี้เช่นกัน และมาในทิศทางเดียวกันด้วยการทดสอบส่งสินค้าด้วยโดรนที่การันตีส่งถึงในหนึ่งชั่วโมงแล้ว
แน่นอนว่าบริการทดสอบย่อมมากับข้อจำกัด โดยการส่งด้วยโดรนนั้นสามารถส่งได้เฉพาะชาขิงเท่านั้นในขณะนี้ น้ำหนักรวมต้องไม่เกิน 340 กรัม โดยมีร้านค้าเข้ามาร่วมในการทดสอบครั้งนี้มากกว่า 450 ราย
ตามแผนที่โอบามาสั่งให้สำนักงานกาบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) จัดการร่างกฏการใช้โดรนทั้งภาคเอกชน และพลเรือน ตอนนี้ก็เริ่มมีฝั่งเอกชนออกมาขยับใช้โดรนอย่างจริงจังแล้ว เริ่มด้วย CNN ที่เพิ่งได้รับการอนุญาตให้ทดสอบใช้งานโดรนสำหรับเก็บข้อมูลรายงานข่าว
โดรนที่ CNN เลือกใช้ไม่ได้เป็นระดับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างที่เราเคยเห็นกัน แต่เป็นระดับเดียวกับที่ใช้ทางการทหาร ซึ่งจะมีหลายรูปแบบตามสถานการณ์ และติดตั้งกล้องไว้ในตัว ซึ่งน่าจะทดแทนภาพถ่ายทางอากาศ หรือภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุรุนแรงได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า และปลอดภัยกว่าเดิม
ในระยะหลังมานี้เราพบว่าการใช้โดรนช่วยในการถ่ายภาพเริ่มถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ตอนนี้มีข่าวลือว่าทาง GoPro ที่เป็นผู้ผลิตกล้องแอ็คชั่นรายใหญ่และได้รับความนิยมในการนำไปติดตั้งกับโดรนก็ได้เผยแผนการผลิตโดรนเป็นของตัวเองออกมา โดยผู้ที่อ้างตัวว่าเกี่ยวข้องกับแผนนี้ได้ออกมาบอกว่า GoPro กำลังพัฒนาเฮลิคอปเตอร์แบบหลายใบพัดที่ติดตั้งกล้องความละเอียดสูงของพวกเขาเองมาด้วย โดยที่โดรนนี้จะออกสู่ตลาดในปลายปีหน้า ที่ราคาอยู่ในช่วง $500 ถึง $1,000
ที่มา - SlashGear
ทีมนักวิจัยจากสถาบันหลายแห่งร่วมกับศูนย์วิจัย Ames ของ NASA พัฒนาโดรนเพื่องานจารกรรมที่มีคุณสมบัติย่อยสลายได้ง่าย โดยการพัฒนาวัสดุที่สร้างขึ้นจากเส้นใยของเห็ด
ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีโดรนเริ่มเป็นที่สนใจในหมู่คนทั่วไป และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และถูกนำมาประยุกต์ใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายทำภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ และการรายงานข่าว แต่ครั้งนี้เป็นการนำมาใช้กับการถ่ายทำหนังโป๊แทน
โดยการถ่ายทำครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของวงการหนังโป๊ที่นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้งานในการถ่ายทำ ซึ่งมีชื่อวิดีโอว่า Drone Boning ผลิตโดย Ghost+Cow และถ่ายทำโดยทีมงานถ่ายทำมืออาชีพ Spark Aerial
และในวิดีโอนี้ เป็นการถ่ายทำจากโดรนล้วนๆ ในสถานที่ต่างๆ และแน่นอนในแต่ละที่นั้นจะมีกลุ่มคนร่วมเพศอยู่ในวีดีโออยู่ด้วย
เนื่องจากภาพ และวิดีโอที่อยู่ในข่าวนั้นค่อนข้างล่อแหลม และไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ จึงขอให้ตามไปดูที่เว็บไซต์ข่าวด้วยตัวเองตามลิงก์ข้างล่างนี้แทนนะครับ
หากยังจำกันได้เมื่อราว 1 เดือนก่อนมีข่าวโครงการสร้างโดรนถ่ายภาพที่ชื่อ Nixie ที่มีจุดเด่นสามารถจัดเก็บได้โดยการเปลี่ยนมันเป็นกำไลพันข้อมือ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นผู้เข้ารอบการประกวด "Make It Wearable" งานพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ที่จัดโดย Intel มาตอนนี้ได้มีการตัดสินการประกวดดังกล่าวแล้ว และ Nixie ก็คือโครงการที่ชนะเลิศคว้าเงินรางวัล 500,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ
ด้วยเงินดังกล่าวน่าจะทำให้ผู้พัฒนา Nixie สามารถปรับปรุงโดรนรุ่นต้นแบบให้ดียิ่งขึ้นได้ ทั้งเรื่องของขนาดใบพัด, ตัวเครื่อง และความสามารถเรื่องการถ่ายภาพ
น่าตื่นเต้นเหลือเกินว่า Nixie จะกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมขายจริงได้เมื่อไหร่
มูลนิธิ Linux Foundation ร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายราย เปิดตัวโครงการ Dronecode เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สสำหรับ "โดรน" และอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles หรือ UAV)
บริษัทที่เป็นแกนหลักของโครงการนี้คือ 3D Robotics บริษัทโดรนของ Chris Anderson อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Wired โดยมีบริษัทโดรนรายอื่นๆ รวมถึงบริษัทไอทีอย่าง Intel, Qualcomm, Baidu ร่วมเป็นสมาชิก
เชื่อว่าปัจจุบันนี้หลายคนคงคุ้นหูและรู้จักอากาศยานไร้คนขับที่เรียกกันว่า "โดรน" มากขึ้น และหลายคนก็น่าจะเริ่มคุ้นชินกับสิ่งประดิษฐ์ที่อยู่ในกลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ แต่อาจมีคนไม่มากนักที่จะรู้ว่าตอนนี้มีสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีทั้ง 2 รูปแบบข้างต้นเข้าไว้ด้วยกัน มันคือ Nixie โดรนที่เอามาสวมใส่ไว้บนข้อมือได้
เก้าเดือนผ่านไปหลังจากที่ Deutsche Post หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ DHL บริษัทไปรษณีย์ของเยอรมนีได้ทำการทดสอบการส่งพัสดุด้วยโดรน มาวันนี้พวกเขาเริ่มใช้งานมันจริงๆ แล้ว
Google เปิดเผยงานคิดค้นอีกอย่างหนึ่งของทีม Google X ด้านการพัฒนาโดรนเพื่อใช้งานสำหรับส่งพัสดุ ภายใต้ชื่อ Project Wing
โดรนที่ Google พัฒนาขึ้นนี้มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ โดยรูปร่างของมันมีปีกคล้ายเครื่องบิน และมีใบพัด 4 ตัว ในขณะออกตัวและลงจอดตัวโดรนจะวางตัวในแนวตั้ง โดยจะอาศัยใบพัดเป็นตัวควบคุมการเคลื่อนที่ขึ้นและลงในแนวดิ่งคล้ายเฮลิคอปเตอร์ แต่ในขณะเคลื่อนที่ในแนวราบกลางอากาศ ตัวโดรนจะวางตัวในแนวนอนคล้ายเครื่องบินโดยใบพัดจะดูดอากาศผ่านปีกเพื่อสร้างแรงยกใต้ปีก (หลักการเดียวกับการขับเคลื่อนของเครื่องบินจริง)
Blognone มีข่าวเรื่องการนำอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน มาใช้งานก็หลายข่าว สำหรับข่าวนี้เป็นการนำโดรนมาใช้งานด้านความบันเทิง ที่ทำให้เห็นว่าโดรนสามารถต่อยอดไปได้ไกลกว่าที่คิดครับ
Disney ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตร 3 รายการที่เกี่ยวข้องกับโดรน ซึ่งทั้งสามสิทธิบัตรนี้ทำให้เห็นว่า Disney กำลังศึกษาการนำโดรนมาใช้ประกอบการแสดงเพื่อความบันเทิงในสวนสนุก Disneyland ที่อาจยกระดับโชว์ไปอีกขั้น สิทธิบัตรทั้งสามประกอบด้วย
ให้หลังจากความนิยมของอากาศยานไร้คนขับ (drone) จนพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ก็เริ่มขยับเพื่อวางกฏระเบียบการใช้งาน drone แล้ว โดยเป็นโอบามาที่วางแผนจะออกคำสั่งคณะบริหารให้ร่างข้อบังคับในการใช้งาน drone ในน่านฟ้าของสหรัฐฯ เร็วๆ นี้
จากคำสั่งนี้ แทนที่จะสั่งการให้สำนักงานการบินแห่งชาติ (FAA) ซึ่งจัดการ drone อยู่แล้ว ไปร่างกฎเกณฑ์ กลับเป็นองค์กรบริหารคลื่นความถี่สหรัฐฯ ที่รับหน้าที่นี้ไป โดยจะประสานงานกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญ และบริษัทที่เกี่ยวข้องเพื่อร่างกฎเกณฑ์ดังกล่าว เนื้อหาสำคัญคือเพื่อปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนจาก drone ที่มักจะบรรทุกกล้องติดตัวได้
หลังจากที่เคยมีข่าวลือก่อนหน้านี้ว่าเฟซบุ๊กสนใจเข้าซื้อกิจการบริษัท Titan Aerospace เพื่อมาสานต่อเจตนารมณ์ในโครงการ Internet.org จนภายหลังดีลนี้ก็ได้ยุติลงเมื่อ Mark Zuckerberg และทีมงานจัดตั้ง Connectivity Lab ภายในบริษัท และมีรายงานว่าเฟซบุ๊กตัดสินใจซื้อกิจการบริษัท Ascenta แทนด้วยมูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิง)
เว็บไซต์ TechCrunch เปิดเผยว่า Facebook กำลังเจรจาซื้อบริษัท Titan Aerospace ผู้ผลิตอากาศยานไร้คนขับ (UAV) บินระดับใกล้วงโคจรของโลกและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ มาสานต่อโครงการ Internet.org ที่มุ่งมั่นจะให้ผู้คนที่ยากไร้กว่าห้าพันล้านคนทั่วโลกได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตกันได้ง่ายขึ้นและทั่วถึงยิ่งขึ้น คาดว่าดีลนี้จะมีมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์
เรโนลต์ (Renault) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส เผยต้นแบบรถไร้คนขับและแนวคิดรถมีอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กบินสำรวจสภาพจราจรติดขัด รายละเอียดมีดังนี้
ต้นแบบรถไร้คนขับนี้มีชื่อว่า Next Two สามารถขับหาช่องจอดและขับออกมารับผู้โดยสารได้เอง และรองรับการเชื่อมต่อ 4G ในตัว Next Two โดยได้รับการออกแบบตามแนวคิดที่ว่ารถในปี 2020 สามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง ผู้ขับสามารถสั่งให้รถมารับผ่านสมาร์ทโฟน และสามารถทำสิ่งต่างๆ อาทิ จองตั๋วภาพยนตร์ ประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ ให้เสร็จสิ้นได้ขณะนั่งอยู่ในรถที่ขับได้เองที่ความเร็วสูงสุด 30 กม./ชม. (ดูวิดีโอได้ข้างล่าง)
John Donahoe ซีอีโอ eBay ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV โดยมีตอนหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า eBay จะมีบริการส่งสินค้าด้วยโดรนเหมือนกับที่ Amazon ศึกษาอยู่หรือไม่ ซึ่ง Donahoe บอกว่า eBay ไม่สนใจกับเรื่องเพ้อฝันในอนาคต แต่บริษัทสนใจกับสิ่งที่สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ให้ลูกค้าในวันนี้มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามซ้ำอีกครั้งว่าเขามองโครงการโดรนเป็นเรื่องเพ้อฝันจริงหรือไม่ ซึ่ง Donahoe ก็บอกเพียงว่าแล้วเราก็จะได้เห็นกัน
ปัจจุบัน eBay มีบริการชื่อ eBay Now ซึ่งสามารถส่งสินค้าได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยคิดค่าบริการเพิ่ม 5 ดอลลาร์แต่ยังจำกัดอยู่ในบางเมือง
ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นข่าว Flirtey ธุรกิจส่งของด้วยโดรนในออสเตรเลีย และเมื่อสัปดาห์ก่อนยักษ์ใหญ่ธุรกิจขายปลีกอย่าง Amazon เองก็เพิ่งเผยข้อมูลระบบส่งของด้วยโดรนที่เรียกว่า Prime Air ไปหมาดๆ มาตอนนี้บริษัทไปรษณีย์ชื่อดังจากเยอรมนีอย่าง DHL ก็เริ่มทดสอบการใช้โดรนเพื่อส่งพัสดุบ้างเช่นกัน
การทดสอบของ DHL นั้นเป็นการใช้โดรนแบบซึ่งควบคุมโดยมนุษย์ในการเคลื่อนย้ายพัสดุเพื่อขนส่งไปให้ผู้รับที่อยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ยาก ซึ่งโดรนของ DHL สามารถเคลื่อนย้ายพัสดุที่มีน้ำหนัก 3 กิโลกรัม ภายในขอบเขตรัศมี 1 กิโลเมตร โดยมันสามารถบินได้ถึงความสูง 100 เมตรเหนือพื้นดิน
ซีอีโอของ Amazon นาย Jeff Bezos ได้ออกเผยวิธีการส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าแบบใหม่ ด้วยการใช้หุ่นยนต์โดรน ผ่านทางรายการ 60 Minutes โดยหุ่นโดรนเหล่านี้สามารถที่จะส่งพัสดุที่มีน้ำหนักไม่เกิน 5 ปอนด์ถึงลูกค้าได้ภายใน 30 นาที และจะให้บริการภายใต้แบรนด์ใหม่ชื่อ Amazon PrimeAir
เขาบอกว่า 86% ของยอดการสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง Amazon เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 5 ปอนด์อยู่แล้ว โดยโดรนที่ใช้ในบริการ Amazon PrimeAir จะเป็นโดรนแปดใบพัด ที่จะรอรับสินค้าอยู่ที่ปลายสายพาน ณ ศูนย์กระจายสินค้าประจำพื้นที่ หลังจากนั้น โดรนเหล่านี้จะสามารถบินไปส่งสินค้าได้ภายในรัศมี 10 ไมล์จากศูนย์กระจายสินค้า
ในประเทศออสเตรเลียมีธุรกิจ Flirtey โชว์แนวคิดใหม่เรื่องบริการส่งสินค้าแก่ผู้ซื้อ โดยแหวกแนวทางเดิมๆ ไม่ต้องพึ่งระบบไปรษณีย์ หรือตู้ล็อกเกอร์ฝากของใดๆ เพราะสิ่งที่พวกเขาจะใช้ก็คือโดรน หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า UAVs : Unmanned Aerial Vehicles ซึ่งหมายถึงอากาศยานไร้คนขับนั่นเอง