Yahoo ประกาศปิดบริการเพิ่มเติม ตามยุทธศาสตร์ปรับโฟกัสธุรกิจใหม่ ที่ประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้ว

• Yahoo Games แพลตฟอร์มเล่นเกมผ่านเว็บ ที่เปิดให้ผู้ผลิตเกมต่างๆ มาให้บริการแก่ผู้ใช้ Yahoo ปิดตัว 13 พฤษภาคมนี้
• Yahoo Livetext แอพแชทแบบวิดีโอ ปิดตัวสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ฟีเจอร์บางอย่างจะถูกนำไปใช้กับ Yahoo Messenger ที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท
• ปิดเว็บคอนเทนต์ Yahoo Astrology ในยุโรปหลายประเทศ และปิดเว็บข่าว Yahoo Maktoob (ภาษาอารบิก) บางเซคชั่น
• ปิดบริการ Yahoo BOSS หน้าผลการค้นหาส่วนตัว ตามที่เคยประกาศไปแล้ว

รอบปีมานี้เราเห็นบริษัทไอทีใหญ่ๆ หลายรายทยอยเปิดซอร์สซอฟต์แวร์ด้าน deep learning ของตัวเอง เช่น TensorFlow ของกูเกิล หรือ CNTK ของไมโครซอฟท์

บริษัทที่หลายคนอาจลืมไปแล้วอย่าง Yahoo ก็ร่วมขบวนนี้ด้วยเหมือนกัน ซอฟต์แวร์ตัวนี้เรียกว่า CaffeOnSpark เอาไว้เทรน AI สำหรับงาน deep learning บนคลัสเตอร์ Hadoop/Spark ที่รันงาน big data อยู่แล้ว

เราทราบกันดีว่าช่วงนี้ Yahoo อาการหนัก แต่บริษัทก็ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขว่าผู้ใช้งานลดลงมากน้อยแค่ไหน

เว็บไซต์ข่าว The Information ได้ตัวเลขภายในมาเผยแพร่ (ข้อมูลช่วงต้นเดือนธันวาคม 2015) พบว่าผู้เข้าชมหน้าแรกของ Yahoo ลดลง 16.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2014, ผู้ใช้งาน Yahoo Mail เป็นประจำ (daily average users) ลดลง 11.5%, ผู้ใช้งาน Yahoo Search ลดลง 9% ทั้งนี้ผู้ใช้งานบนมือถือก็มีจำนวนลดลง และระยะเวลาที่ใช้งานก็ลดลง

บริการทั้ง 3 ตัวถือเป็นบริการหลักของ Yahoo การที่ตัวเลขผู้ใช้งานลดน้อยลง แปลว่ามูลค่าของบริษัท Yahoo ย่อมลดลงไปด้วย

Yahoo ประกาศปิดบริการ BOSS - Build Your Own Search Service ซึ่งเป็น API สำหรับดึงผลการค้นหาของ Yahoo มาปรับแต่งเอง บริการนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2008 และจะปิดบริการในวันที่ 31 มีนาคม 2016 นี้

สำหรับเจ้าของเว็บที่ใช้ระบบค้นหาของ Yahoo ภายในเว็บตัวเอง บริษัทแนะนำให้ย้ายไปใช้ Yahoo Partner Ads (YPA) ที่ให้บริการผลการค้นหา พร้อมโฆษณาเพื่อสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ด้วย

บริษัทไม่ได้อธิบายเหตุผลของการปิดบริการ BOSS แต่ก็คาดว่าเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ปรับโฟกัสธุรกิจใหม่ หลังจากสถานการณ์ของบริษัทยังไม่ค่อยดีนัก

ต่อจากข่าว ความยากลำบากของ Yahoo จนต้องมองหาโอกาสขายกิจการ วันนี้มีข่าวผู้สนใจซื้อโผล่มาบ้างแล้ว นั่นคือ Verizon โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา

Verizon เพิ่งซื้อ AOL ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งธุรกิจของ AOL กับ Yahoo มีความคล้ายคลึงกันมาก (พอร์ทัล เนื้อหา โฆษณา) เว็บไซต์ Bloomberg รายงานข่าววงในว่า Verizon มอบหมายให้ Tim Armstrong ซีอีโอของ AOL เป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณาว่าควรซื้อ Yahoo หรือไม่ (นอกจากนี้ Tim Armstrong ยังเป็นศิษย์เก่า Google เช่นเดียวกับ Marissa Mayer ด้วย)

หลังถูกนักลงทุนกดดันอย่างหนัก วันนี้ Yahoo ประกาศแผนการฟื้นฟูกิจการ 4 ข้อ พร้อมเปิดทางเลือกว่าอาจรับข้อเสนอซื้อขายหรือร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ เป็นทางเลือกขนานกับการฟื้นฟูกิจการด้วยตัวเอง

ส่วนของแผนฟื้นฟูกิจการ 4 ข้อ ที่ Yahoo จะเดินหน้าด้วยตัวเอง มีดังนี้

Yahoo! สนับสนุนการวิจัยการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการปล่อยฐานข้อมูลการใช้เว็บข่าวของผู้ใช้ Yahoo! ที่มีการโต้ตอบกับเนื้อหาข่าวในหน้าแรก หรือ Yahoo News, Yahoo Sports, Yahoo Finance, Yahoo Movies, และ Yahoo Real Estate โดยปล่อยข้อมูลออกมาเป็นช่วงเวลาสี่เดือนระหว่าง กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม 2015 ที่ผ่านมา

ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปเป็นข้อมูลสำหรับการวิจัยการวิเคราะห์ข้อมูล หรือวิจัย machine learning ที่อาจจะปรับปรุงระบบการเรียงลำดับข่าว

ข้อมูลมีตั้งแต่หัวข้อข่าว, บทสรุป, คำสำคัญ, เวลาที่ผู้ใช้กด, ข้อมูลพื้นฐานผู้ใช้ เช่น ช่วงอายุ, เพศ, พื้นที่ที่ใช้งาน แต่ลบข้อมูลระบุตัวตนออกไปแล้ว

สถานการณ์ของ Yahoo ยังดูไม่สดใสเช่นเดิม ล่าสุดเว็บไซต์ Business Insider อ้างแหล่งข่าววงในว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานรอบใหม่ 1,000 คน หรือประมาณ 10% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและลดค่าใช้จ่าย

พนักงานฝ่ายที่ได้รับผลกระทบเยอะที่สุดคือฝ่ายสื่อ (media business), พนักงานในยุโรป และพนักงานฝ่ายบริการไอทีภายในบริษัท คาดว่าการปลดพนักงานจะเริ่มภายในไตรมาสนี้ และอาจเห็นข่าวอย่างเป็นทางการภายในเดือนมกราคมนี้เป็นอย่างเร็วที่สุด

ปีที่แล้ว Yahoo ปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมกันลดคนได้ประมาณ 14% และรอบนี้เตรียมปลดออกอีก 10%

ที่มา - Business Insider

เว็บไซต์ Ars Technica พยากรณ์ "Deathwatch" หรือบริษัท-แพลตฟอร์มไอทีที่น่าจะ "ตาย" ในปี 2016 หลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาด-ประสบปัญหาทางการเงินต่อเนื่องมานาน

Eric Jackson ผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ SpringOwl ได้ส่งเอกสารนำเสนอความยาว 99 หน้า เสนอต่อบอร์ดบริหารยาฮู โดยสรุปว่ายาฮูสมควรเปลี่ยนตัวซีอีโอ Marissa Mayer ออกไป หลังจากยาฮูมีข้อสรุปให้ขายธุรกิจหลักออกไป และยังคงถือหุ้น Alibaba ต่อ ซึ่งเมื่อวัดมูลค่าหุ้น Alibaba ที่ถือครองแล้ว ธุรกิจหลักยาฮูแทบจะมีมูลค่าเป็นศูนย์

Jackson ได้ให้ข้อมูลประกอบเพื่ออธิบายปัญหาที่เกิดจาก Mayer ว่าไม่สามารถทำให้ตัวยาฮูเองมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้เลย โดยมีส่วนที่น่าสนใจดังนี้

จากข่าววงในว่า ยาฮูระงับแผนขายหุ้น Alibaba ออกไปก่อน เน้นขายธุรกิจดั้งเดิมแทน วันนี้ผลการประชุมบอร์ดอย่างเป็นทางการมาแล้วครับ

CNBC รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวภายในที่ทราบข้อมูลการประชุมผู้บริหารระดับสูงของยาฮู หลังมีข่าวว่าอาจขายหุ้น Alibaba ที่ยาฮูถืออยู่ออกไป ว่าแผนนี้ถูกระงับไว้ก่อน เนื่องจากยาฮูอาจถูกคิดภาษีจากการขายหุ้นนี้สูงและไม่คุ้มค่า โดยกองทุนผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางแห่งแนะนำให้ยาฮูเน้นที่การขายธุรกิจหลักดั้งเดิมออกไปมากกว่า

คาดว่ายาฮูจะออกมาแถลงข้อสรุปทิศทางบริษัทในปีหน้าภายในวันพรุ่งนี้ครับ

ที่มา: CNBC

หลังจากที่ไม่มีการปรับปรุงอะไรมานาน วันนี้ Yahoo Messenger ปรับโฉมใหม่หมดทั้ง UI และ UX แถมอัดฉีด Feature ใหม่ให้พร้อมลุยตลาด IM

เรียกได้ว่าเป็น “All new” Yahoo Messenger เปิดตัวพร้อมรองรับทั้ง iOS, Android และ เว็บเบราเซอร์ โดยจุดเด่นนอกจากหน้าตาใหม่ทั้งหมดแล้ว ยังเพิ่มการเชื่อมต่อกับ Flickr, Tumblr และ Xobni เข้าไว้ด้วย โดย Feature ที่เป็นตัวชูโรงคือ การทำงานที่รวดเร็วมากๆ และความสามารถในการส่งรูปภาพครั้งละจำนวนมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ แถมยังเรียกดูไฟล์ต้นฉบับแบบไม่บีบอัดได้อีกด้วย

ต่อเนื่องจากข่าวยาฮูอาจขายบริษัท สำนักข่าว Wall Street Journal ก็ออกมากางข้อมูลของยาฮู และประเมินว่าจะมีบริษัทใดบ้างที่หากได้ยาฮูไปแล้วจะสามารถใช้ขยายธุรกิจของตัวเองได้

จากสถิติที่นำมาแสดง แม้ว่ายาฮูจะผลงานตกต่ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นเว็บไซต์ที่คนเข้ามากที่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ รองเพียงกูเกิล และเฟซบุ๊กเท่านั้น โดยเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 200 ล้านรายด้วยกัน แม้ว่าสัดส่วนโฆษณาจะลดต่ำลงถึงสามเท่าตัวเมื่อเทียบจากปี 2009 ก็ตาม

ดูเหมือนความพยายามในการพลิกฟื้นธุรกิจของยาฮูจะดำเนินไปอย่างไม่ค่อยสวยงามนัก ในการประชุมบอร์ดผู้บริหารรอบล่าสุดมีรายงานออกมาว่ายาฮูกำลังจะถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่จนได้

ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในที่เกี่ยวข้องกับแผนระบุว่าการประชุมครั้งนี้กินเวลายาวตั้งแต่วันพุธยันวันศุกร์ แม้จะยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่ข้อเสนอที่บอร์ดบริหารยกขึ้นมานั้นมีตั้งแต่การแยกส่วนที่ลงทุนใน Alibaba ซึ่งมูลค่าปัจจุบันสูงกว่า 30,000 ล้านเหรียญออกจากยาฮู, หาผู้ที่สนใจซื้อธุรกิจหลักของยาฮู หรือทั้งสองอย่าง

ความขัดแย้งระหว่างเว็บไซต์รายใหญ่ที่หารายได้จากโฆษณา กับผู้ใช้ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ Ad Blocker บล็อคโฆษณายังดำเนินต่อไป ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นข่าว YouTube แสดงโฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ ถ้าหากผู้ชมติดตั้ง Ad Blocker ล่าสุดเป็นคิวของยาฮูบ้าง

มีผู้ใช้ Yahoo Mail หลายรายที่เข้าเว็บผ่าน Chrome และติดตั้ง Adblock Plus รายงานว่าไม่สามารถใช้งานได้ โดยยาฮูแสดงข้อความว่าไม่สามารถแสดงผล Yahoo Mail ได้ และขอให้ปิดการทำงานของ Ad Blocker ก่อนใช้งาน

ตัวแทนของยาฮูชี้แจงประเด็นนี้สั้นๆ เพียงว่ายาฮูทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และการทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้ในสหรัฐจำนวนหนึ่งเท่านั้น

สถานการณ์ของยาฮูในช่วงหลังเริ่มไม่ค่อยดีนัก ท่ามกลางข่าวผู้บริหารระดับสูงลาออกอย่างต่อเนื่อง และบริษัทก็ยังไม่มีแนวทางการพลิกฟื้นกิจการที่ชัดเจนนักว่าจะไปอย่างไร

ล่าสุดเว็บไซต์ Re/code ออกมาแฉเรื่องปาร์ตี้ฟุ่มเฟือยภายในบริษัท ที่นำโดยซีอีโอ Marissa Mayer เอง เธอนำทีมผู้บริหารแต่งแฟนซีเป็นตัวละครจากเรื่อง Wizard of Oz ในงานเลี้ยงของบริษัท (แน่นอนว่าเธอแต่งเป็นโดโรธี นางเอกของเรื่อง) และหมดเงินกับงานนี้ไป 70,000 ดอลลาร์ (ราว 2.5 ล้านบาท) แต่พนักงานบางส่วนกลับรู้สึกอับอายต่อเรื่องนี้

ยาฮูประกาศปรับปรุงหน้า image search ใหม่ จากเดิมที่ค้นได้เฉพาะรูปในอินเทอร์เน็ต ของใหม่สามารถค้นรูปจาก Flickr โดยอิงกับบัญชีของเรา (ถ้าล็อกอินค้างไว้) ได้ด้วย

หน้าค้นหารูปแบบใหม่ของยาฮูจะแสดงภาพจาก Flickr ของเราเอง และบัญชีที่เราติดตามบน Flickr ไว้ส่วนบนสุดของผลการค้นหา จากนั้นถึงเป็นภาพทั่วไปตามเว็บไซต์ต่างๆ

ที่มา - Yahoo! Search Tumblr

เว็บไซต์ Re/code รายงานว่าพนักงานระดับสูงของยาฮู ทยอยลาออกกันในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแผนการพลิกฟื้นยาฮูของซีอีโอ Marissa Mayer ไม่ได้ผลอย่างที่คิด จนพนักงานเริ่มเสียกำลังใจและหันไปมองหางานใหม่

แหล่งข่าวภายในยาฮูระบุว่า Mayer พยายามซื้อใจพนักงานด้วยการขึ้นเงินเดือน แต่ก็ไม่ได้ผลมากนัก

ที่มา - Re/code

กูเกิลและยาฮูประกาศรองรับมาตรฐาน DMARC ที่เสนอโดยยาฮู เพื่อยืนยันว่าผู้ส่งเป็นเจ้าของบัญชีจริง มาตรฐานนี้ผ่านเป็น rfc7489 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ทั้งสองบริษัทประกาศร่วมกันที่จะรองรับมาตรฐานนี้โดยเร็ว ทางฝั่งยาฮูนั้นจะรองรับมาตรฐานนี้บนโดเมน ymail.com และ rocketmail.com ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากเปิดใช้งานบน Yahoo! Mail ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนกูเกิลจะเริ่มรองรับเต็มรูปแบบภายในเดือนมิถุนายนปีหน้า

ยาฮูประกาศความร่วมมือด้านค้นหากับกูเกิล โดยยาฮูจะนำข้อมูลจากบริการค้นเว็บ (Web search), ค้นรูปภาพ (image search) และโฆษณา (AdSense for Search) ของกูเกิลมาแสดงผลบนเว็บไซต์ของยาฮูและพันธมิตรบางราย นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2015 ถึง 31 ธันวาคม 2018 (ประมาณ 3 ปี)

ก่อนหน้านี้ยาฮูมีข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ ที่ต้องนำผลการค้นหาและโฆษณาจาก Bing มาแสดงบนเว็บไซต์ของยาฮูด้วยสัดส่วน 51% ของผลการค้นหาทั้งหมด ส่วนอีก 49% ที่เหลือ ยาฮูมีอิสระที่จะเลือกใช้ข้อมูลการค้นหาจากใครก็ได้ ทำให้ยาฮูใช้ช่องว่างนี้เซ็นสัญญากับกูเกิลนั่นเอง

จากข้อตกลงนี้ทำให้การค้นข้อมูลบนเว็บไซต์ของยาฮู เราอาจจะเห็นผลการค้นหาผ่านเอนจิน Google Search หรือ Bing ก็ได้ แล้วแต่กระบวนการคัดเลือกของยาฮูเอง

หลังจากเคยออกมาประกาศเลิกใช้รหัสผ่านสำหรับล็อกอิน ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ SMS แทนเมื่อหกเดือนก่อน ตอนนี้ Yahoo! ขยับไปอีกขั้นด้วยการเลิกใช้รหัสผ่านทั้งหมด แล้วเปลี่ยนไปใช้ระบบล็อกอินแบบใหม่แทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมแอพ Yahoo Mail ไปในตัว

การปรับโฉมใหม่ของ Yahoo นอกจากหน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนที่ปรับปรุงไปจากเดิมมากคือความเร็ว! ตามมาด้วยการรองรับการใช้งานในยุคใหม่ ให้สามารถเชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อดึงภาพมาใส่ในเมลได้ การสั่งงานที่รองรับ gesture มากขึ้นตามสมัยนิยม และระบบค้นหาที่หาได้ทั้งคน เอกสาร และอีเมลในที่เดียว

หนึ่งในช่องทางการหารายได้ของบรรดาบริษัทให้บริการบนอุปกรณ์พกพาคงหนีไม่พ้นการแสดงโฆษณา แม้แต่รายใหญ่อย่างกูเกิล ยาฮู และเฟซบุ๊กก็ถูกรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ล่าสุดมีรายงานว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือกำลังจะเข้ามามีบทบาทกับเม็ดเงินก้อนใหญ่นี้แล้ว

Digicel ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสัญชาติจาเมกาเพิ่งประกาศแผนการบล็อคโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะมีผลไม่ว่าผู้ใช้จะติดตั้งแอพบล็อคโฆษณาหรือไม่ เพื่อบีบให้เจ้าของธุรกิจเครือข่ายโฆษณารายใหญ่อย่างกูเกิล ยาฮู เฟซบุ๊ก และรายอื่นๆ เข้ามาเซ็นสัญญาแบ่งปันรายได้โฆษณากับทาง Digicel โดยอ้างว่าโฆษณาเหล่านี้กินแบนด์วิดท์ของเครือข่ายฟรีๆ เพื่อสร้างรายได้ของตัวเอง ทำให้ผู้ใช้ต้องเสียปริมาณข้อมูลไปโดยไม่จำเป็น

บริษัทความปลอดภัย Malwarebytes รายงานว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ 28 ก.ค.) มีแฮ็กเกอร์ใช้เครือข่ายโฆษณาของ Yahoo เผยแพร่มัลแวร์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการไอที

Malwarebytes ตรวจสอบพบว่าแฮ็กเกอร์รายนี้เช่าเซิร์ฟเวอร์ Azure บวกกับเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง แล้วลงโฆษณาผ่านระบบของ Yahoo ให้อยู่ในรูปไฟล์ Flash โดยฝังโค้ดประสงค์ร้ายไว้ในโฆษณา ถ้าหากผู้ใช้ที่โชคร้ายเปิดมาพบโฆษณาชุดนี้ และ Flash Player ในเครื่องไม่ได้อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด ก็จะโดนเจาะผ่านช่องโหว่ของ Flash ทันที

ความร้ายแรงของการแพร่มัลแวร์รอบนี้อาศัยช่องโหว่ที่ผู้ใช้จำนวนมากไม่ยอมอัพเดต Flash บวกกับเครือข่ายโฆษณาของ Yahoo ที่เข้าถึงเว็บใหญ่ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้มีคนที่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง

หลายๆ คนอาจคุ้นเคยดีกับผ่านพูดคุยผ่านวิดีโอ แต่ก็มีไม่น้อยที่ประสบปัญหาคุยวิดีโอได้แต่ไม่สามารถสนทนาโต้ตอบได้ Yahoo จึงได้ทำแอพ Livetext มาเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว โดยผู้ใช้จะสามารถพิมพ์ข้อความและข้อความจะไปปรากฎในวิดีโอได้ (ดูการทำงานของแอพได้ท้ายเบรก)

ใครสนใจก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play Store

ที่มา - Yahoo