กูเกิลประกาศเพิ่มเครื่องมือเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งการเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเครื่องมือเตือนภัยต่าง ๆ

โครงการแรกคือ Project Green Light โดยนำ AI มาช่วยคำนวณการเปิดสัญญาณไฟจราจร เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนโดยเฉพาะในจุดตัดตามแยกต่าง ๆ เมื่อยานพาหนะต้องจอดรอไฟสัญญาณ ทำให้ยานพาหนะต้องจอดรอน้อยลง 30% ลดการปล่อยคาร์บอนตามแยก 10% ปัจจุบันโครงการนี้ทดสอบแล้วใน 70 แยก ของ 12 เมือง ซึ่งมีบาหลีและจาการ์ตาด้วย

ต่อมาคือเครื่องมือหาเส้นทางใน Google Maps แบบที่ประหยัดพลังงานที่สุด เพิ่มเติมในอีกสองประเทศคืออินเดียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกยานพาหนะแบบสองล้อในตัวเลือกด้วย

คดีสิทธิบัตรระหว่างกูเกิลกับ Sonos ในประเด็นฟีเจอร์ควบคุมเสียงของลำโพง Google Home มีความคืบหน้าเพิ่ม โดยกูเกิลยื่นต่อศาลว่าวิธีการฟ้องสิทธิบัตรของ Sonos เป็นการกลั่นแกล้งทางธุรกิจ ซึ่งศาลเห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของกูเกิล

คำโต้แย้งของกูเกิลระบุว่า ทั้งสองบริษัทเคยหารือทำลำโพงร่วมกันในปี 2014 หลังจากนั้นดีลล่ม กูเกิลออกลำโพงเองในปี 2015 แต่ Sonos กลับรอจนถึงปี 2019 ค่อยยื่นฟ้องกูเกิลละเมิดสิทธิบัตร และเพิ่งนำฟีเจอร์ควบคุมเสียงตามสิทธิบัตรนี้มาใช้กับลำโพงของตัวเองในปี 2020 ด้วยซ้ำ

กูเกิลประกาศผลักดันให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาล็อกอินด้วย Passkeys มากขึ้น หลังจากประกาศรองรับมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยเมื่อผู้ใช้งานทำการล็อกอินเข้าบัญชี จะมีข้อความแจ้งแนะนำให้สร้าง Passkeys

ในข้อความแนะนำนั้น กูเกิลบอกว่าเมื่อใช้ Passkeys ผู้ใช้งานสามารถใช้ลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า หรือระบบปลดล็อกหน้าจออุปกรณ์ เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ง่ายมากขึ้น กูเกิลบอกว่าวิธีการนี้เร็วกว่าการใส่รหัสผ่าน 40%

กูเกิลยังประกาศร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ เพื่อนำ Passkeys มาใช้งานร่วมกับ Chrome และ Android เป้าหมายเพื่อลดการใส่รหัสผ่านให้มากที่สุด พร้อมประกาศให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เปลี่ยนมาใช้แนวทาง Passkeys กันให้มากขึ้นด้วย

เป็นธรรมเนียมของกูเกิลที่ยังต้องตั้งหุ่น Android ตามเวอร์ชันต่างๆ ที่บริเวณสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย ในโอกาส Android 14 ออกตัวจริง กูเกิลก็เปิดเผยหน้าตาของหุ่นเวอร์ชัน 14 ที่เป็นหุ่นเขียว Android ตีลังกากลับหัวบนเค้ก Upside Down Cake ซึ่งเป็นโค้ดเนมขนมของเวอร์ชันนี้ (ขึ้นต้นด้วยตัว U)

ภาพถ่ายหุ่นตัวนี้มาจาก Dave Burke หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม Android ซึ่งเป็นคนที่ขึ้นเวทีเล่าฟีเจอร์ใหม่ของ Android ในงาน Google I/O ทุกปีนั่นเอง

ย้อนความ หุ่นของ Android 13 เป็นรูปชิงช้ารูปเลข 13 วางแนวนอน โดยโค้ดเนมของ Android 13 คือขนม Tiramisu

กูเกิลออกคลิปโฆษณา Pixel 8 ตัวใหม่ โดยยังอยู่ในธีม #BestPhonesForever ที่เนื้อหาหลายต่อหลายตอนนำมือถือ Pixel มาคุยกับ iPhone แล้วพูดถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ Pixel มี และไม่มีใน iPhone

โฆษณาตัวใหม่นี้ชื่อ Razzle Dazzle ซึ่งมีสถานการณ์คือ iPhone พา Pixel มาถ่ายหนังโฆษณาตัวใหม่ เนื่องจากตอนนี้ Pixel 8 เปิดตัวแล้ว ซึ่ง Pixel ก็เสนอว่าควรขายฟีเจอร์ด้าน AI แต่ iPhone ไม่เห็นด้วย บอกว่าจริง ๆ คนต้องการแค่ความตื่นตาตื่นใจเท่านั้น โดยเริ่มที่ภาพโทรศัพท์ลอยกลางอากาศ ซูมขอบเครื่อง แล้วใส่ดนตรีประกอบเข้าไป จากนั้นก็เริ่มการถ่ายทำ

Pixel ยังถามอีกรอบว่าจริง ๆ ควรพูดถึงสเป็กด้าน AI บ้าง แต่ iPhone ยืนยันว่าไม่จำเป็น ดูคลิปโฆษณาได้ท้ายข่าว

KCC หรือ กสทช. ของเกาหลีใต้ ออกคำเตือนถึงกูเกิล และแอปเปิล ในประเด็นจำกัดไม่ให้นักพัฒนาแอปสามารถใช้ระบบจ่ายเงินอื่นนอกจากของแพลตฟอร์ม ระบุว่าทั้งสองบริษัทต้องแก้ไขให้เป็นไปตามข้อกำหนด มิฉะนั้นอาจถูกสั่งปรับเงิน

ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้ได้ผ่านกฎหมาย ที่กำหนดให้นักพัฒนาต้องสามารถเลือกใช้ระบบจ่ายเงิน In-App กับผู้ให้บริการภายนอก นอกเหนือจากวิธีการของแพลตฟอร์มได้ด้วย

Gmail เริ่มปล่อยฟีเจอร์ใหม่ emoji reaction การกดปุ่ม emoji ให้กับข้อความ ลักษณะเดียวกับที่เราคุ้นเคยกันจากแอพแชทต่างๆ ตอนนี้ลามมาถึงอีเมลแล้ว

ฟีเจอร์นี้เริ่มใส่เข้ามาใน Gmail บน Android ก่อน โดยด้านล่างสุดของอีเมลที่อ่าน เดิมทีมีปุ่ม Reply, Reply All, Forward ตอนนี้จะเพิ่มปุ่มที่สี่รูปหน้ายิ้ม emoji เข้ามา กดแล้วเลือก emoji ที่ต้องการได้เลย การส่ง emoji ให้อีเมลของเพื่อนเหมือนเป็นการส่งอีเมล และสามารถกด unsend ได้ในช่วง 5-30 วินาทีหลังกดส่ง (ตั่งค่าเองได้ใน Settings)

Google เริ่มเอาระบบสแกนหน้ามาใช้ตั้งแต่ Pixel 4 โดยตอนนั้นใช้ เรดาร์ Soli ที่พัฒนาเอง ก่อนจะเอาออกในรุ่นหลังจากนั้น และระบบสแกนหน้าบน Google Pixel ก็ทำได้แค่ปลดล็อคมือถือเท่านั้น ไม่สามารถใช้ยืนยันตัวตนเพื่อการทำธุรกรรมหรือใช้งานกับแอปอื่นๆ ได้

ล่าสุดระบบสแกนหน้าใน Pixel 8 และ Pixle 8 Pro รองรับการยืนยันตัวตนในกรณีอื่นๆ นอกจากปลดล็อคเครื่องแล้ว โดยรวมถึงกรณีอย่างการทำธุรกรรมธนาคารหรือ Google Pay แล้วด้วย ซึ่ง Google บอกว่าระบบปลดล็อคนี้ได้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดบน Android (Class 3)

ในงาน Made by Google 2023 สิ่งแรกที่ถูกนำมาเปิดตัวคือ Google Pixel Watch 2 ที่คราวนี้ชูจุดเด่นไปที่เซนเซอร์วัดสุขภาพแบบใหม่, ชิปแบบ Quad-Core ที่ประมวลผลเร็วขึ้น โดยวางขายที่ราคา 349.99 ดอลลาร์แบบ Wi-Fi และราคา 399.99 ดอลลาร์ สำหรับรุ่น 4G LTE

สเปคคร่าว ๆ ของ Google Pixel Watch 2 มีดังนี้

กูเกิลประกาศอัพเดตหูฟังไร้สาย Pixel Buds Pro โดยไม่ได้ออกรุ่นใหม่ เป็นการเพิ่มความสามารถให้กับรุ่นเดิมที่ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านฮาร์ดแวร์มีเพียงเพิ่มสองสีใหม่ Bay และ Porcelain เพื่อให้เข้ากับตัวเลือกสีของ Pixel รุ่นใหม่

ความสามารถและฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาได้แก่ รองรับบลูทูธ Super Wide Band (SWB) ของ Pixel 8 และ Pixel 8 Pro ทำให้แบนด์วิธของการคุยเสียงมีมากขึ้น เสียงที่ได้จึงชัดและมีรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งรอบ Clear Calling ตัดเสียงรบกวนด้วย

กูเกิลประเทศญี่ปุ่นยังคงพัฒนาคีย์บอร์ด Gboard เวอร์ชันใหม่ ใส่ไอเดียสร้างสรรค์กันต่อ โดยปี 2023 นี้เป็น Gboard CAPS คีย์บอร์ดในรูปแบบหมวกสวมศีรษะ ที่ผู้ใช้งานสามารถออกแบบดีไซน์ DIY ได้เองด้วย

กูเกิลบอกว่าโจทย์ใหญ่ของคีย์บอร์ด Gboard CAPS นี้ มาจากความต้องการพกคีย์บอร์ดติดตัวไปด้วยตลอดเวลา แต่จะหิ้วติดมือก็พะรุงพะรังเกินไป ฉะนั้นเอาคีย์บอร์ดไปไว้บนหัวก็คือคำตอบ

วิธีการทำงานของ Gboard CAPS นั้น ผู้ใช้เพียงหันศีรษะให้ทิศทางของปีกหมวกตรงตำแหน่งตัวอักษรที่ต้องการพิมพ์ จากนั้นกดหมวกลงเพื่อเป็นการกดสวิตช์พิมพ์อักษรนั้น ด้วยกลไกพื้นฐานเท่านี้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบหมวกได้อิสระตามความต้องการ

งาน Made by Google 2023 ที่เพิ่งจบไป Google ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของค่ายจำนวน 2 รุ่นได้แก่ Google Pixel 8 และ 8 Pro ตรงตามที่หลุดมาเกือบหมด โดยมีการชูจุดเด่นด้าน AI ที่เข้ามาช่วยประมวลผลแบบจัดเต็ม พร้อมรองรับการอัพเดตซอฟแวร์ และความปลอดภัยจาก Google นาน 7 ปี

กูเกิลเปิดตัว Assistant with Bard เป็นการรวมผู้ช่วย AI สองตัวคือ Google Assistant และ Bard เข้าด้วยกัน เพื่อให้เก่งขึ้นกว่าเดิม

อินเทอร์เฟซของมันยังเป็นการสนทนาผ่าน Google Assistant แต่ได้รับพลังด้าน generative AI และตรรกะเหตุผลเพิ่มมาจาก Bard รองรับการป้อนข้อมูลด้วยเสียงพูด ข้อความ และภาพ เราสามารถยกกล้องขึ้นถ่ายภาพเพื่อเป็นอินพุตแล้วสั่งให้ AI ทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพนั้นได้

Assistant with Bard ยังเข้าถึงบริการบางตัวของกูเกิล เช่น Gmail และ Docs ทำให้เราสามารถสั่งให้สรุปอีเมลทั้งหมดของสัปดาห์นั้น คัดเลือกอีเมลที่สำคัญมาสรุปให้อ่านได้ด้วย

ตอนนี้ Assistant with Bard ยังแค่นำมาโชว์เท่านั้น บอกว่าจะเปิดทดสอบทั่วไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

กูเกิลประกาศนโยบายอัพเดตซอฟต์แวร์ให้ Pixel 8 และ Pixel 8 Pro เป็นระยะเวลานาน 7 ปี ตามที่เคยมีข่าวลือก่อนหน้านี้ เท่ากับว่ามือถือซีรีส์ Pixel 8 ที่ออกในปี 2023 จะได้อัพเดตนานไปจนถึงปี 2030

นโยบาย 7 ปีของกูเกิลจะครอบคลุมทั้งการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ, อัพเดตแพตช์ความปลอดภัย และอัพเดตฟีเจอร์ที่เรียกว่า Feature Drops ด้วย

กูเกิลบอกว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีพฤติกรรมใช้มือถือยาวนานขึ้น จึงพยายามจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทำงานอัพเดตซอฟต์แวร์ในระยะยาวได้ รวมถึงวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการทดสอบให้พร้อมด้วย

กูเกิลประกาศนโยบายต่อต้านสแปมใน Gmail โดยเพิ่มเงื่อนไขว่าคนที่ส่งอีเมลเข้ามายังแอดเดรส Gmail จำนวนเกิน 5,000 ฉบับต่อวัน (bulk sender) ต้องยืนยันตัวตนและเพิ่มปุ่ม unsubscribe ในอีเมลด้วย

กูเกิลมีเงื่อนไขการยืนยันตัวตนผ่านวิธี SPF/DKIM อยู่ก่อนแล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือในเนื้ออีเมลจะต้องมีลิงก์หรือปุ่ม unsubscribe ยกเลิกการรับอีเมลภายในคลิกเดียว และกระบวนการยกเลิกอีเมลต้องเสร็จสิ้นภายใน 2 วัน

กูเกิลยังประกาศตัวเลขค่าความน่าจะเป็นสแปม (spam rate threshold คำนวณตามที่ผู้รับอีเมลกดปุ่มแจ้งสแปม) ให้ชัดเจนขึ้น ผู้ส่งอีเมลต้องพยายามกดค่านี้ให้ต่ำกว่า 0.3% ถึงจะไม่ถูกปรับเป็นสแปม

กูเกิลจับมือกับ HP เริ่มผลิต Chromebook ในประเทศอินเดีย ตามนโยบาย Make in India ของรัฐบาลอินเดีย

HP มีโรงงานในอินเดียมาตั้งแต่ปี 2020 อยู่ใกล้กับเมืองเชนไน เริ่มผลิตโน้ตบุ๊กและพีซีเดสก์ท็อปมาก่อนแล้ว ส่วน Chromebook จะเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2023 นี้ เน้นทำตลาดภาคการศึกษาของอินเดีย แต่ยังไม่ระบุว่ามี Chromebook รุ่นใดบ้างที่จะผลิตในอินเดีย

เราเริ่มเห็นการขยับของแบรนด์ไอทียักษ์ใหญ่หลายราย เข้าไปตั้งโรงงานผลิตสินค้าในอินเดีย ผลิตเพื่อขายในอินเดียอย่างเดียว ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ แอปเปิลเริ่มผลิต iPhone 15 ในอินเดีย มีสินค้าผลิตเสร็จพร้อมขายตั้งแต่วันแรก

การไต่สวนในคดีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฟ้องกูเกิล ประเด็นผูกขาดธุรกิจเสิร์ชเอ็นจิน ได้ดำเนินต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ได้ร่วมให้การต่อศาลถึงประเด็นดังกล่าว

Nadella กล่าวถึงดีลที่กูเกิลจ่ายเงินให้แอปเปิลปีละหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นเสิร์ชเอ็นจินพื้นฐานในอุปกรณ์ (default) ส่งผลให้คนไม่สามารถหนีกูเกิลพ้นได้ นอกจากจะเปลี่ยนเสิร์ชพื้นฐานในการตั้งค่าเอง เขายังบอกว่าการเปลี่ยนตั้งค่าทำได้ง่ายมากบน Windows แต่ยากที่สุดบนสมาร์ทโฟน

กูเกิลเปิดตัวตราสัญลักษณ์ Chromebook Plus เป็นการรับรองโน้ตบุ๊กกลุ่ม Chromebook ว่ามีประสิทธิภาพสูงมากพอ และมีฟีเจอร์ด้าน AI ได้มาตรฐานตามที่กูเกิลต้องการ โดยมีราคาตั้งต้นที่ 399 ดอลลาร์ขึ้นไป (ข่าวลือก่อนหน้านี้จะใช้ชื่อว่า Chromebook X)

เงื่อนไขของโน้ตบุ๊กที่เข้าข่าย Chromebook Plus มีดังนี้

มีคนค้นพบฟีเจอร์ใหม่ของ Bard ที่ยังไม่เปิดตัว ชื่อว่า Memory เป็นการกำหนดค่าให้ Bard จดจำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา เพื่อที่จะไม่ต้องสั่งงานซ้ำอีกในภายหลัง

ตัวอย่างที่กูเกิลนำมาโชว์ได้แก่ ไม่กินเนื้อสัตว์, มีลูก 2 คน, ชอบคำตอบสั้นๆ มากกว่าคำตอบยาวๆ ฯลฯ การที่ Bard รู้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้การถามตอบกับ Bard ไม่ต้องป้อนข้อมูลทุกครั้งไป ผู้ใช้สามารถตั้งค่า Memory และลบออกได้ตามต้องการ

Bard ไม่ใช่ระบบแช็ทบ็อตตัวแรกที่มีฟีเจอร์ลักษณะนี้ เพราะ ChatGPT เองมีฟีเจอร์ชื่อ custom instructions มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023

กูเกิลออกโฆษณาใหม่ของ Pixel ชื่อ Scary Story โดยยังใช้แนวทาง Pixel กับ iPhone คุยกันเหมือนกับคลิป Spa Day ก่อนหน้านี้

ในคลิปนี้ iPhone กับ Pixel ไปตั้งแคมป์ในป่าและเล่าเรื่องน่ากลัวให้กันฟัง โดย iPhone บอกว่ากลัวการเปิดตัว Pixel 8 เพราะคนจะสนใจเรื่องกล้องและฟีเจอร์ AI ของ Pixel 8 แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน โดยที่ iPhone 15 มีของใหม่เฉพาะแค่ปุ่มใหม่และ "พอร์ตชาร์จแบบใหม่" เท่านั้น

Pixel ปลอบ iPhone บอกว่าไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่ากับความเป็นเพื่อนของเรา ก่อนถูกทำลายจังหวะด้วย "ผี" T-Mobile G1 มือถือ Android รุ่นแรกที่หลงทางอยู่ในป่า และปิดท้ายด้วยคำว่า Scary cool updates

กูเกิลประกาศชื่อบ็อต crawler ไล่ดูดหน้าเว็บตัวใหม่ชื่อ Google-Extended มีหน้าที่ดูดข้อมูลไปใช้สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ เช่น Bard และ Vertex AI เพื่อให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถกำหนดค่าได้ง่ายว่าอนุญาตให้บ็อตดูดหน้าเว็บหรือไม่ ผ่านไฟล์ robots.txt ที่ใช้งานกันอยู่แล้ว

เนื่องจากบ็อต Google-Extended เป็นบ็อตตามมาตรฐานของกูเกิล เจ้าของเว็บสามารถเขียนกฎแบบเดียวกับบ็อตอื่นๆ ที่ใช้งานอยู่แล้วในไฟล์ robots.txt ได้ เช่น

User-agent: Google-Extended
Disallow: /

ที่มา - Google

ลงสุสานกูเกิลไปอีกราย กูเกิลประกาศปิดบริการแอพ Jamboard ที่ใช้คู่กับกระดานไวท์บอร์ดอัจฉริยะ Jamboard 55 (เปิดตัวตั้งแต่ปี 2016) โดยตัวฮาร์ดแวร์จะอัพเดตให้จนถึงเดือนกันยายน 2024

กระดานอัจฉริยะ Jamboard เป็นหน้าจอขนาด 55" 4K ติดกล้องและไมโครโฟนมาให้ในตัว เขียนกระดานไป ประชุมกันไป เรียกเอกสารจาก G Suite มาขึ้นบนจอได้ (ตอนนั้นยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็น Google Workspace ด้วยซ้ำ) ตัวกระดานตั้งราคาขายชุดละ 4,999 ดอลลาร์ และมีค่าธรรมเนียมใช้งานอีกปีละ 600 ดอลลาร์

Gagan Ghotra ที่ปรึกษาด้าน SEO ทวีตรูปบน X บอกว่าพบความผิดพลาด URL ที่เชื่อมโยงไปหน้าสนทนาของผู้ใช้งาน Bard ปรากฏในหน้าค้นหา Google เป็นข้อความคำถามจากผู้ใช้ที่ถาม Bard เช่น อะไรคือสิ่งที่ควรจำไว้เมื่อเห็นตัวนากในสิงคโปร์, วิธีใช้ Bard เพื่อปรับปรุงงานเขียน และเมื่อคลิกลิงก์เข้าไปจะสามารถดูบันทึกประวัติการสนทนาของผู้ใช้งานที่ถาม Bard

Peter Liu นักวิจัยที่ Google DeepMind ตอบกลับทวีตดังกล่าวว่า บทสนาที่ปรากฏในหน้าการค้นหาเป็นเพียงบทสนทนาที่ตั้งใจแชร์เท่านั้น บทสนทนาของผู้ใช้ไม่ได้เป็นสาธารณะตามค่าเริ่มต้น

กูเกิลประกาศปิดแอพ Google Podcasts ในปี 2024 (ยังไม่ระบุเดือน) เพื่อย้ายฟังก์ชันการฟังพ็อดแคสต์มาอยู่ในแอพ YouTube Music แทน

การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะกูเกิลแสดงสัญญาณนี้มาสักพักแล้ว ตั้งแต่การประกาศเพิ่ม Podcast เข้ามาใน YouTube Music ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 และ เพิ่มเข้ามาจริงในเดือนเมษายน 2023

Eddy Cue หัวหน้าส่วนธุรกิจ Services ของแอปเปิล ได้ให้การต่อศาลเพื่อเป็นพยานในคดีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฟ้องกูเกิล เกี่ยวกับการผูกขาดธุรกิจเสิร์ช ซึ่งแอปเปิลถือเป็นพยานรายสำคัญ เพราะกูเกิลจ่ายเงินให้แอปเปิล ด้วยตัวเลขระดับหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อแลกกับการเป็นเสิร์ชค่าเริ่มต้น (default) ใน iPhone, iPad และ Mac