นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นวิธีปรับปรุงเซลล์เชื้อเพลิงใหม่ โดยทำให้ electrode ของเซลล์เชื้อเพลิงมีขนาดเบาและบาง ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายของ คาร์บอนนาโนทูบส์ ซึ่งสามารถเข้าไปใกล้ความจริงในการนำมาใช้ได้ตามบ้านเรือน
งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ลงวารสารวิชาการ Applied Physics Letters เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2008 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการคิดค้นของสถาบันวิจัย Max Planck และ มหาวิทยาลัยDarmstadt ประเทศเยอรมันนี
เครือข่ายนาโนทูบส์ที่สร้างขึ้นมาจะทำหน้าที่เป็น electrode ในการให้แก๊สแพร่เข้าไปยังชั้นที่ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งมีแพลทินัมเป็นส่วนประกอบ โปรตอนและอิเล็กตรอนของแก๊สจะทำปฏิกิริยาต่อวัสดุนี้และแยกอะตอมออกมาให้พลังงานออกมา
ในสภาวะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงอย่างในปัจจุบัน ทำให้การใช้พลังงานทางเลือกเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งแหล่งพลังงานทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นพลังงานชีวภาพ
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการนำพลังงานชีวภาพ มาใช้กันแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เหตุผลหลักๆ ของฝ่ายที่คัดค้าน ก็คือ เรื่องการใช้พลังงานทั้งหมด ในวงจรของการปลูกและผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ และปัญหาเรื่อง ปริมาณอาหารที่จะเพียงพอหรือไม่ หากเรานำมาใช้ผลิตเป็นพลังงาน
การพัฒนาเทคนิคในการผลิตโซลาร์เซลล์เพื่อให้ต้นทุนต่ำพอที่จะติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่ยังคงอยู่ในความสนใจของคนจำนวนมาก และด้วยเทคโนโลยี Power Plastic ที่บริษัท Konarka เพิ่งประกาศความสำเร็จ ด้วยการใช้เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ตแทนกระบวนการผลิตชิปซิลิกอนแบบเดิมๆ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะลดต้นทุนในการผลิตโซลาร์เซลล์ในปริมาณมาก
แม้กระบวนการผลิตจะเริ่มผลิตโซลาร์เซลล์ได้แล้ว แต่ประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ที่ได้จากกระบวนการนี้ยังมีประสิทธิภาพเพียงร้อยละ 5 เทียบกันร้อยละ 15 ถึง 20 ของโซลาร์เซลล์โดยทั่วไป ในเรื่องนี้ทางด้าน Konarka ระบุว่าเราอาจจะต้องรอไปอีกประมาณสองปีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ Power Plastic ก่อนจะได้เห็นมันวางตลาดจริงๆ
ตามแผนการยกเลิกการใช้พลังงานจากถ่านหินภายในปี 2014 รัฐ Ontario ประเทศแคนาดาได้เริ่มเตรียมการประมูลการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่หลังจากไม่มีการสร้างเพิ่มเติมมานานนับสิบปี
ในปัจจุบันแคนาดามีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทำงานอยู่ทั้งหมด 16 เตาจากโรงไฟฟ้าสามแห่ง ทั้งหมดสร้างขึ้นมานานกว่ายี่สิบปี มีกำลังผลิตรวม 14,000 เมกกะวัตต์ ด้วยอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ เตาปฏิกรณ์สองเตาถูกปิดไปตั้งแต่ปี 2005 และกำลังมีอีกสองเตาต้องปรับปรุงสภาพในเร็วๆ นี้
พร้อมๆ กับแผนการนี้ทางการแคนาดากำลังเตรียมเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนจาก 6,300 เมกกะวัตต์เป็น 15,700 เมกกะวัตต์ภายในปี 2025
ที่มา - PhysOrg
หลังจากเป็นข่าวมานาน รถยนต์พลังอากาศอัดก็เริ่มประกาศแผนการทำตลาดในสหรัฐฯ แล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดจอดภายในต้นปีนี้และเริ่มส่งมอบรถล็อตแรกกันในปี 2010 โดยรถดังกล่าวจะผลิตโดยบริษัท Zero Pollution Motor ซึ่งซื้อสิทธิ์ในการผลิตมาจากบริษัท MDI ในประเทศฝรั่งเศส
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีปัญหาด้านพลังงานมาค่อนข้างยาวนาน ล่าสุดทางรัฐบาลของรัฐวิคตอเรียก็ได้ผู้ชนะการประมูลในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบใช้โซลาร์เซลล์มูลค่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณหนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการก่อสร้างนั้นจะเริ่มต้นในปีหน้า
หากโครงการนี้ก่อสร้างสำเร็จจะทำให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าที่กำลังผลิตไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก ด้วยกำลังผลิต 54 เมกกะวัตต์ แต่ยังไม่มีข้อมูลถึงกำหนดการก่อสร้างแต่อย่างใด
ขณะที่กระแสการลดการใช้พลังงานกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ เองรถยนต์ที่ครองแชมป์ในด้านนี้อยู่คงเป็น Toyota Prius ที่มีประสิทธิภาพสูงมากเป็นดันดับต้นๆ และมีวางขายในสหรัฐฯ แต่ตอนนี้หมายเลขสองอย่างฮอนด้าก็เริ่มโชว์เทคโนโลยีขั้นต่อไปที่เหนือกว่ารถไฮบริดแบบเดิมๆ กันแล้ว โดยมีการตีพิมพ์ในงานวิจัยหัวข้อ "Advanced Transient Simulation on Hybrid Vehicle Using Rankine CYcle System"
ในวารสารวิชาการ Microbial Biotechnology เล่มล่าสุด(PDF) มีรายงานถึงการใช้แบคทีเรีย E. coli ที่ เคยสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง มาใช้ในการผลิตพลังงานแหล่งใหม่ โดยทีมงานวิจัยพบว่าเชื้อ E. coli นี้สามารถนำมาใช้ในการผลิตไฮโดรเจนได้เป็นอย่างดี หลังผ่านการคัดและดัดแปลงพันธุ์มาแล้ว
กระแสการใช้พลังงานชีวภาพกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในบ้านเราและประเทศในกลุ่มเอเซียแปซิฟิกและยุโรป กำลังสร้างความวิตกต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจจะไม่คุ้มค่า จนทางองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ต้องออกมาเตือนว่าแม้การใช้พลังงานชีวภาพจะให้ผลดีในแง่ของความมั่นคงทางพลังงาน แต่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นมากเกินกว่าที่เราคาดกัน
การแถลงการครั้งนี้มาจากนาย Regan Suzuki ในงามประชุมวิชาการที่ได้รับการสนับสนุนจากทางสหประชาชาติและรัฐบาลไทย ระบุว่าผลกระทบหลักๆ ของการใช้พลังงานชีวภาพคือ การขาดแคลนอาหาร, การขาดแคลนน้ำที่จะถูกผันไปใช้ในการเกษตร, และพื้นที่ป่าที่จะถูกทำลายเพื่อนำมาเป็นพื้นที่เพาะปลูก
กระแสพลังงานชีวภาพเริ่มได้รับความนิยมเรื่อยมาในช่วงหลัง ที่เราเห็นๆ กันคงเป็นไบโอดีเซล กับแก๊สโซฮอลล์ ในเรื่องนี้ทางสหภาพยุโรปนั้นจริงจังกว่าเรามาก โดยระบุชัดเจนว่าภายในปี 2020 แหล่งพลังงานของระบบขนส่งต้องมาจากเชื้อเพลิงชีวภาพร้อยละ 10
ในเรื่องนี้ได้มีการศึกษาจาก Joint Research Centre ซึ่งศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ของทางสหภาพยุโรปเอง ระบุชัดเจนว่าความพยายามเพิ่มการใช้งานพลังงานชีวภาพนั้นไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าค่าใช้จ่ายรวมเพื่อการบรรลุเป้าหมายร้อยละ 10 นั้นจะอยู่ที่ 33 ถึง 65 พันล้านยูโรหรือประมาณ 1.5 ถึง 3 ล้านล้านบาทไทย
บริษัทแคนาดาได้พัฒนาแบตเตอรี่พลังงานไฮโดรเจนต้นแบบที่มีชื่อว่า Angstrom Power ที่สามารถใส่เข้าไปในมือถือได้พอดี และ ใช้จนกว่าแบตเตอรี่จะหมดได้นานกว่าแบตเตอรี่มือถือทั่วไป 2 เท่า
แบตเตอรี่ตัวนี้ได้ออกงาน CES 2008 มาแล้วโดยอยู่ในเครื่อง Motoslvr และทีมงานได้โชว์ว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายใน 10 นาที บริษัทหวังว่าแบตเตอรี่นี้จะสามารถวางขายได้ในปี 2010 ซึ่งตอนนั้นคงให้พลังงานมากกว่านี้แน่นอน
แบตเตอรี่นี้ไม่ติดไฟ ไม่ระเบิด ซึ่งเกิดจากการทดลองเอาเข้าไปเผาในกองไฟ และไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ข้อเสียคือคุณไม่สามารถชาร์จแบตเองได้ คุณต้องซื้อเชื้อเพลิงไฮโดรเจนมาเติมมันเท่านั้น ซึ่งในอนาคตอาจจะมีขายตามร้านสะดวกซื้อต่างๆก็เป็นได้
ที่งาน Detroit Auto Show ปีนี้ทางฮอนด้าได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้พลังงานทางเลือกหลายต่อหลายรุ่น เช่น FCX Clarity รถซีดานที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง ตลอดจนรถไฟพลังงานก๊าช-ไฟฟ้า แต่ที่น่าสนใจคือการที่นาย Takeo Fukui ประธานของบริษัทฮอนด้าออกมาระบุว่า บริษัทกำลังเตรียมการทำตลาดรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่ารถเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้ฮอนด้าแตะระดับร้อยละ 10 ภายในปี 2010
ตามแผนนี้ฮอนด้ากำลังเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดอีกสองรุ่นภายในไม่กี่ปีนี้ โดยรุ่นแรกน่าจะวางตลาดในปีนี้และมีการวางเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่สองแสนคัน ส่วนอีกรุ่นนั้นจะตามมาภายหลัง
ว่าแต่ NGV บ้านเรานี่ถือเป็นพลังงานทางเลือกรึเปล่าเนี่ย?
ปัญหาความมั่นคงทางพลังงานของจีนนับว่าเป็นความท้าทายที่ล้ำหน้ากว่าชาติใดๆ ในโลก ด้วยอัตราการบริโภคพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้จีนเป็นชาติที่ลงทุนกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ สูงมาก ล่าสุดโครงการนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่เป็นความร่วมมือระหว่าง ญี่ปุ่น, สหภาพยุโรป, สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, อินเดีย, รัสเซีย, และจีน ในชื่อว่า ITER (Wikipedia) (International Thermonuclear Experimental Reactor) ก็ได้รับคำมั่นจากทางการจีนในการสนับสนุนเงินวิจัยถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์
พลังงานแสงอาทิตย์ทุกวันนี้แม้จะน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้อเสียของพลังงานในรูปแบบนี้หลักๆ คือความมั่นคงที่ค่อนข้างต่ำ และการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ทำได้เพียงช่วงกลางวันทำให้การพึ่งพิงพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเดียวเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่บริษัท Hamilton Sunstrand กำลังสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
พลังงานทดแทนมีข้อด้อยหลักๆ ในตอนนี้คือเรื่องของการใช้พื้นที่ในการผลิตที่ค่อนข้างด้อยประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับพลังงานจากฟอสซิลแบบเดิมๆ ที่เราใช้งานกัน และยิ่งเมื่อเทียบกับพลังงานนิวเคลียร์ด้วยแล้ว พลังงานทดแทนต้องการพื้นที่ในการผลิตต่อวัตต์ของพลังงานที่ได้มาสูงมาก
เซลล์แสงอาทิตย์เริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทางบริษัท Nanosolar เริ่มส่งมอบเซลล์แสงอาทิตย์ราคาถูก ที่มีราคาเพียง 2.12 ดอลลาร์ ต่อเซลล์แสงอาทิตย์กำลังผลิต 1 วัตต์ให้กับโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าทางตะวันออกของประเทศเยอรมันแล้ว หลังจากเริ่มเปิดตัวเทคโนโลยีของตนเองสู่สาธารณะเมื่อเดือนที่ผ่านมา
โตชิบาเตรียมวางตลาดโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดเพียง 20x6 ฟุต หรือประมาณ 7x2 เมตรเท่านั้น โดยโรงงานไฟฟ้านี้จะมีกำลังผลิตประมาณ 200 กิโลวัตต์ มากพอสำหรับหมู่บ้านห่างไกลทั้งหมู่บ้าน ที่สำคัญคือต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยนั้นอยู่ที่ 5 เซนต์ หรือประมาณ 2 บาทเท่านั้น โดยโรงงานไฟฟ้านี้ออกแบบจากความร่วมมือระหว่างโตชิบาและสถาบันวิจัยพลังงานไฟฟ้าของญี่ปุ่น จะวางตลาดในชื่อ Toshiba 4S (Super Safe, Small, and Simple)
ด้วยอัตราการเติบโตของโครงสร้างไอทีในย่านเอเชียแปซิฟิกที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทาง IDG ได้สำรวจพบว่าการใช้พลังงานโดยศูนย์ข้อมูลที่อยู่ในเอเชียแปซิฟิกนั้นกำลังเพิ่มขึ้นด้วยอัตราร้อยละ 23 ต่อปี เทียบกับทั่วโลกที่เติบโตร้อยละ 16 ต่อปี
ด้วยการเติบโตในอัตรานี้ ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐที่เคยกินพลังงานอยู่ถึงร้อยละ 40 ของศูนย์ข้อมูลทั่วโลก จะลดสัดส่วนลงเหลือร้อยละ 34 ภายในปี 2010 ขณะที่เอเชียแปซิฟิกนั้นจะกระโดดมาอยู่ที่ร้อยละ 16 เทียบกับร้อยละ 10 ในปี 2000
แผนการใช้พลังงานสะอาดอย่างน้อยร้อยละ 20 ภายในปี 2020 ของสหภาพยุโรปเริ่มเห็นภาพอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโครงการต่างๆ มีการเปิดตัวตามๆ กันมา ล่าสุดทางสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษที่เราเรียกกัน) ก็ได้ออกมาแถลงการถึงแผนการใช้พลังงานลม จากการติดตั้งกังพันปั่นไฟฟ้ารอบเกาะ ด้วยจำนวนที่อาจจะมากถึง 7000 ชุดด้วยกัน
เนื่องจากสหราชอาณาจักรนั้นเป็นเกาะมีน้ำล้อมอยู่แล้ว การสร้างกังหันในทะเลซึ่งมีลมแรงและไม่มีสิ่งกีดขวางจึงทำได้โดยง่าย และมีพื้นที่ค่อนข้างมาก
ในประเด็นด้านความมั่นคงทางพลังงาน ที่กรณีที่ไม่มีลมในช่วงเวลาหนึ่งถึงสองวันซึ่งอาจจะเป็นไปได้ ในการแถลงการถึงแผนการนี้ก็ได้เตรียมการขยายกำลังการผลิตจากด้านอื่นๆ รวมถึงนิวเคลียร์ไว้ควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน
รายงานการศึกษา เรื่อง "ปรากฏการเรือนกระจกและมลภาวะทางอากาศของไบโอดีเซลในประเทศออสเตเลีย" โดยสถาบัน CSIRO ประเทศออสเตรเลีย ได้ข้อสรุปที่ว่า การใช้ไบโอดีเซลมีส่วนช่วยลดมลภาวะในอากาศในส่วนของอุตสาหกรรมขนส่ง
จากรายงานฉบับนี้ พบว่าการใช้ไบโอดีเซลบริสุทธิ์ (คือไม่ผสมน้ำมันใดๆเลย) มีส่วนช่วยลดมลภาวะกว่า 87 เปอร์เซ็นต์ และหากใช้ไบโอดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม สามารถช่วยลดมลภาวะ 80 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากมลภาวะที่ลดลง การใช้ไบโอดีเซล ยังมีส่วนช่วยลดฝุ่นละอองในอากาศ ซึ่งช่วยให้สุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นดีขึ้น
ช่วงนี้กระแสพลังงานทางเลือกกำลังมาแรง พลังงานหลายรูปแบบได้ถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาให้เราใช้ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานจากไฮโดรเจน, พลังงานแสงอาทิตย์ และที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน นั่นก็คือ พลังงานจากชีวมวล
สองนักเคมี Yutaka Amao และ Yumi Takeuchi จากมหาวิทยาลัย Oita ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงขนิดใหม่ ซึ่งอาศัยพลังงานจากน้ำตาลกลูโคส โดยอาศัยกระบวนการเลียนแบบการสังเคราะห์แสงที่เกิดขึ้นในพืช โดยเมื่อเซลล์เชื้อเพลิงได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ น้ำตาลกลูโคสก็จะทำปฏิกิริยาทางเคมี แล้วปล่อยไฮโดรเจนไอออนออกมา ซึ่งในการทดลอง แสดงให้เห็นว่า เซลล์เชื้อเพลิงชนิดนี้ สามารถให้ความต่างศักดิ์ของกระแสไฟฟ้าได้หลายร้อยมิลลิโวลต์
อีกหน่อยคงต้องซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ติดรถซะแล้ว
กูเกิลเกาะกระแสพลังงานทดแทนที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในช่วงหลัง ด้วยการเปิดตัวโครงการ RE<C หรือ Renewable energy is cheaper than coal. (พลังงานสะอาดถูกกว่าถ่านหิน) โครงการนี้เป็นการร่วมมือระหว่างกูเกิลเอง และบริษัทพันธมิตร ที่จะร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดที่มีกำลังผลิต 1 กิกะวัตต์และมีต้นทุนต่ำกว่าพลังงานถ่านหิน
การร่วมมือนี้ไม่ใช่ไม่ได้หยุดแค่การประกาศพันธมิตรกับบริษัทพลังงานเท่านั้น แต่ทางกูเกิลยังได้เปิดแผนกวิจัยขึ้นมาโดยตรง และกำลังรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ อยู่แล้วในตอนนี้
หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อ Maglev ที่เป็นเทคโนโลยีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่อาศัยแม่เหล็กถาวรในการยกตัวรถให้ลอยอยู่ในอากาศและส่งกำลังขับเคลื่อน แต่ตอนนี้เทคโนโลยีใหม่ที่จะใช้ในทางกลับกันคือการใช้เทคโนโลยี Maglev นี้มาผลิตไฟฟ้าได้เปิดตัวในงาน Wind Power Asia 2008
บริษัท Maglev Wind Turbine จากรัฐอาริโซนาร์ สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตกังหันลมในเทคโนโลยีดังกล่าว ได้อ้างถึงข้อดีหลายประการในการใช้งานเทคโนโลยี Maglev เช่นการลดการใช้งานตลับลูกปืนในข้อหมุนต่างๆ ทำให้ลดการสูญเสียพลังงานไปได้มาก และการสร้างกังหันขนาดใหญ่ทำให้ประหยัดต้นทุนต่อวัตต์ไปได้
ข้อเสียของพลังงานแสงอาทิตย์ในทุกวันนี้คือราคาต่อวัตต์แพงมากจนกระทั่งหลายๆ ครั้งมีคนตั้งคำถามว่ามันคุ้มค่าจริงหรือ โดยนับแต่มีการประดิษฐ์เซลล์แสงอาทิตย์ขึ้นมาครั้งแรกเมื่อประมาณสามสิบปีมาแล้วนั้น เป็นการผลิตไฟฟ้าจากสารกึ่งตัวนำบนแผ่นเวเฟอร์ ที่ใช้พลังงานในการผลิตสูงมาก จนกระทั่งจุดคุ้มทุนด้านพลังงาน (ที่ใช้ในการผลิต) นั้นอยู่ที่สามปีจึงเริ่มคืนทุน ส่วนเซลล์แสงอาทิตย์ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้นั้นเป็นเซลล์แบบบางที่ฉาบอยู่บนแผ่นแก้ว โดยมีระยะเวลาการคืนพลังงานอยู่ที่ 1.7 ปีโดยประมาณ และค่าใช้จ่ายในการผลิตค่อนข้างสูงอีกทั้งการผลิตจำนวนมากยังทำได้ยาก
ถ้าพูดถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เราก็ต้องคิดถึงความร้อนสูงมากที่ปล่อยออกมา เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงไม่เอาความร้อนนี้มาทำน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคซะล่ะ?
นี่คือไอเดียใหม่ของ S.S. Verma และภาควิชาฟิสิกส์ของสถาบัน Sont Longowal ในประเทศอินเดีย พวกเขาคิดว่าถ้าหากสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่น้ำทะเลบริเวณที่ใกล้กับเมืองที่มีประชากรหนาแน่นแล้วนอกจากจะมีไฟฟ้าใช้ยังจะได้น้ำสะอาดใช้อีกด้วย