BitTorrent Tracker ชื่อดังอย่าง The Pirate Bay มีผู้ใช้ (concurrent) ขึ้นหลัก 10 ล้านคนแล้ว อาจถือได้ว่าเป็นเครือข่าย P2P ที่มีผู้ใช้พร้อมกันเยอะที่สุดในโลกก็ว่าได้ แหล่งข่าวประเมินว่าเครือข่ายอื่นๆ อย่าง eDonkey มีประมาณ 5 ล้านคน ส่วนที่ใกล้เคียงหน่อยอาจต้องนับ Skype ที่มีประมาณ 9 ล้านคนออนไลน์พร้อมกัน

นอกจากนี้ The Pirate Bay ยังมีไฟล์ torrent เกิน 1 ล้านไฟล์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้บริหารของ The Pirate Bay ให้สัมภาษณ์ว่ายินดีมากที่ผู้ใช้เลือกแชร์ไฟล์กับเรา และเป้าหมายต่อไปคือยอดผู้ใช้ 20 ล้าน

The Pirate Bay มีปัญหาด้านกฎหมายหลายครั้ง และการลงข่าวบ่อยๆ อาจมีส่วนช่วยให้เว็บไซต์ได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้น

หลังจากที่มีคดีต่อสู้กันมานานระหว่าง RIAA หรือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจสื่อบันทึกแห่งอเมริกากับหญิงชาวมินเนโซตาเจมี่ ธอมมาสที่ได้ดาวน์โหลดเพลง 24 เพลงและแชร์เพลงเหล่านี้บน Kazaa ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ออกมากล่าวสนับสนุนคำตัดสินของศาลและลูกขุน หลังจากที่ศาลได้ติดสินว่าเธอนั้นทำผิดและจำเป็นต้องปรับธอมมาสเป็นเงิน 222,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 6.8 ล้านบาท

หลังจากที่เว็บบิตทอเรนท์ทั้งหลายได้ถูกกดดันอย่างหนักจากสมาคมผู้ผลิตภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกาและแคนาดา (MPAA และ CRIA) มาโดยตลอดในช่วงหลังนี้ เว็บไซท์บิตทอเรนท์ Demonoid.com หลังจากที่ได้หนีไปเปิดเซิร์ฟเวอร์ในแคนาดาแล้ว ล่าสุดทางเว็บได้ออกมาแจ้งว่า "CRIA ได้ข่มขู่ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ของเรา ทำให้เราไม่สามารถที่จะเปิดเว็บต่อไปได้ ขออภัยสำหรับความไม่สะดวกและขอขอบคุณที่เข้าใจ"

คำถามสำคัญตอนนี้คือ Demonoid ได้ลาจากไปจริง ๆ แล้วหรือว่าจะเป็นแค่การเล่นซ่อนหาเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของ Demonoid กับแน่...

ที่มา - TechRepublic

บ้านเราตอนนี้หลายๆ คงชินชากับการบล็อค BitTorrent ของบรรดา ISP ทั้งหลาย แต่กับทางเมืองนอกแล้วปัญหานี้ที่เรียกกันว่า Network Neutrality นั้นเป็นปัญหาในระดับนโยบายกันมานาน และมีคดีความกันยาวเหยียด ล่าสุดคงมีสองประเด็นใหญ่ๆ คือ

เมื่อวานนี้้ ISOHunt หนึ่งใน tracker ชื่อดังของโลกที่เป็นเจ้าของทั้ง torrentbox และ podtropolis ได้บล๊อคการเข้าถึง tracker ของตนจาก U.S. ทั้งหมด เนื่องจากมีผลกระทบกับปัญหาทางกฏหมายของ MPAA. ซึ่งในเดือนที่แล้ว Torrenyspy, หนึ่งใน tracker ชื่อดังได้ประกาศบล๊อคการใช้งานใน U.S. เช่นเดียวกัน นี่ถือเป็นข่าวที่น่าเสียดายมากสำหรับ เนื่องจากว่า trackers ต่างๆที่บล๊อค U.S. ไปนั้นถือว่าเป็น trackers ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้

เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของบริษัท Comcast ในสหรัฐเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาแทบจะไม่สามารถ Seed ไฟล์ให้แก่ผู้ใช้ BitTorrent คนอื่นได้ บางส่วนพบว่าความเร็วในการดาวน์โหลดนั้นต่ำลง แต่ที่แย่คือว่าไม่มีใครสามารถ Seed ได้ ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้อัตราส่วนการดาวน์โหลด-อัพโหลดนั้นเป็นค่าบวก

หลังจาก BitTorrent เข้ารวบ uTorrent ไป ตอนนี้ BitTorrent Inc. ได้ปล่อย "Rebranded Version" ของ uTorrent ในชื่อ BitTorrent 6.0 (ภาพ) โดยพ่วงเอาเทคโนโลยี BitTorrent DNA ไว้ด้วยพร้อมกับเอาระบบค้นหาจากเว็บบิทฯ ชื่อดังออก (เพิ่มคืนได้) แต่ไม่ต้องกลัวว่านี่จะเป็นจุดจบของ uTorrent เพราะซีอีโอของ BitTorrent Ashwin Navin ได้ให้คำมั่นว่า

ช่วงนี้ผมกำลังยุ่งๆ อาจจะไม่ค่อยได้เขียนข่าวเท่าไร เอารีวิวที่เขียนไว้ซักพักแล้ว (แต่เพิ่งจะได้อัพโหลดรูป) ไปอ่านเล่นๆ ก่อนละกันครับ

รู้จักกับ Vuze

ปี 2006 นักพัฒนาหลักบางส่วนของ Azureus โปรแกรม BitTorrent ชื่อดังได้ร่วมกันก่อตั้ง Azureus, Inc. โดยมีเป้าหมายเพื่อแย่งเค้กวิดีโอออนไลน์ชิ้นโต สิ่งที่ Azureus, Inc. ทำอย่างเป็นรูปธรรม คือ branch ใหม่ของ Azureus ใน CVS ที่ SourceForge โดยใช้ชื่อว่า "azureus3" (เวอร์ชันล่าสุดของ Azureus คือ 2.5.0.2)

จากที่ผ่านมา BitTorrent ได้สร้างปัญหา ให้กับผู้ผลิตภาพยนต์ มาโดยตลอด จากการที่ทำให้เกิดการดาวน์โหลด ภาพยนต์กันอย่างผิดกฎหมายผ่าน p2p

วันนี้ BitTorrent ได้เปิดร้านขายสื่อดิจิตอลออนไลน์ ที่มีชื่อว่า BitTorrent Entertainment Network บนเว็บไซต์ BitTorrent.com โดยเว็บไซต์นี้ จะเปิดให้ดาวน์โหลด ภาพยนต์ทั้งใหม่ และเก่ากว่า 3,000 เรื่อง ซึ่งได้มาจากการร่วมมือกับ ผู้ผลิตสื่อภาพยนต์ รายใหญ่ ทั้ง Twentieth Century Fox, Paramount และ Warner Brothers นอกจากนี้ยังมี รายการโชว์ทางทีวี พีซีเกมส์ มิวสิควิดีโออีกกว่าพันรายการ

ใครที่ติดตามข่าวด้าน P2P หน่อยอาจจะเคยเห็นชื่อ "Venice Project" มาบ้าง ตอนนี้มันได้ชื่อจริงแล้วคือ "Joost"

Joost เป็นโปรแกรมดูทีวีออนไลน์ ส่งข้อมูลด้วยวิธี P2P (รูปแบบจะคล้ายๆ โปรแกรม Democracy Player ถ้าใครเคยเล่น) แต่สิ่งที่ทำให้ Joost เป็นที่กล่าวขวัญมาตลอด เพราะว่าเป็นโครงการใหม่ของทีมผู้สร้าง Kazaa และ Skype ซึ่งมีผลงานการันตีฝีมือมาแล้ว สื่อต่างประเทศจึงจับตามองว่า Joost จะเข้ามาเป็นคู่แข่งของเคเบิลทีวีได้เหมือนกับ Skype ไปท้าทายโทรทางไกลต่างประเทศหรือไม่ ซึ่งอันนี้ขึ้นกับฝีมือเจรจาของ Joost กับบรรดาผู้ผลิตสื่อวิดีโอต่างๆ เป็นสำคัญ

อ่านหัวข้อแล้วอย่างงว่ามันก็เป็นบิททอเรนท์อยู่แล้วนี่ เรื่องก็คือวันนี้มีประกาศการเข้ารวบกิจการของ uTorrent AB ผู้พัฒนาไคลเอนท์บิททอเรนท์ µTorrent โดย BitTorrent, Inc. ของ Bram Cohen ผู้พัฒนาโปรโตคัล P2P ยอดนิยมบิททอเรนท์นั่นเอง

เกือบทุกท่านที่อ่านเว็บนี้คงรู้จักกับ YouTube และ Google Video กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม้การดูวีดีโอผ่านเว็บแบบเว็บทั้งสองเว็บนี้จะค่อนข้างสะดวก แต่ปัญหาที่หลายๆ คนอาจจะรำคาญคือการดาวน์โหลดที่ค่อนข้างยุ่งยาก ทำให้ไม่เหมาะกับการดูผ่านเน็ตความเร็วต่ำ อีกทั้งคุณภาพวีดีโอที่ได้ยังค่อนข้างจำกัด

แต่อนาคตอันใกล้เราอาจจะได้ดูรายการโทรทัศน์จากต่างประเทศในคุณภาพระดับ HD กันเป็นเรื่องปรกติ เมื่อทาง Azureus ผู้ผลิตโปรแกรมลูกข่าย BitTorrent ที่ได้รับความนิยมสูงสุดโปรแกรมหนึ่งได้ออกบริการ Zudeo ที่ให้บริการอัพโหลดวีดีโอแบบความละเอียดเต็มเท่าที่ผู้อัพโหลดต้องการ

Vista จะเปิดแชร์ไฟล์บน IPV6 และระบบจัดการ DNS ที่คล้ายกับ P2P ชื่อว่า Windows Internet Computer Name ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาจากระบบ P2P ของไมโครซอฟท์เอง (Peer Name Resolution Protocol - PNRP)

Windows Internet Computer Name จะทำงานคล้ายๆกับระบบ P2P ทั่วไป ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง Vista จะประกาศ Peer name ไปยัง Vista เครื่องอื่นๆ หลังจากนั้นจะอนุญาิิตให้เชื่อมต่อเข้ามาโดยตรงผ่าน IPV6 address

อ้างอิง : Noah Horton's Blog, apcmag.com

หลังจากที่รอมานาน นานมาก ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว AllPeers ก็เปิด Closed Beta โดยใช้ระบบ invite quota มาหลายเดือน ผมก็รอคิวมาหลายเดือนเช่นกัน ในที่สุดก็พึ่งได้ activate code เมื่อสองวันก่อน และเมื่อวาน AllPeers ก็อนุญาตให้ invite ได้ไม่จำกัด ถือว่าเป็นการเปิด Public Beta อย่างไม่เป็นทางการด้วยวิธีเดียวกับ Gmail

ช่วงปีนี้กระแส P2P ซบเซาไปพอสมควร เพราะ BitTorrent กลายเป็นเรื่องปกติเข้าไปทุกวัน โปรแกรมก็มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด ง่ายไปซะทุกอย่าง แต่ถ้าคิดว่านั่นยังไม่ง่ายพอ ลองดูผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Asus ที่ชื่อว่า WL-700gE รายละเอียดความสามารถทั้งหมดลองอ่านกันเอาเอง สรุปสั้นๆ ว่ามันคือ Wireless Router หรือ Access Point ที่มีฮาร์ดดิสขนาด 160 GB และ USB อยู่ในตัวนั่นเอง สาเหตุที่ต้องมีฮาร์ดดิสก็เพราะว่ามันมาพร้อม BitTorrent Client ในตัว นึกง่ายๆ ว่าเดินไปแถวๆ True Coffee แล้วเสียบปลั๊กมันก็จะเริ่มโหลดสิ่

รัฐสภาสเปนผ่านกฎหมายเอาผิดผู้ใช้ P2P ถึงแม้ว่าจะเป็นการใช้ส่วนตัวก็ตาม และรัฐยังสามารถเอาผิดกับ ISP ที่ยอมให้มีการใช้งาน P2P อีกด้วย นั่นแปลว่าปิดช่องมันทุกทางเลย

ร่างกฎหมายเดิมในเดือนพฤษภาคมนั้น ถ้าเป็นการใช้ส่วนตัวถือว่าไม่ผิด แต่ฉบับจริงนั้นเปลี่ยนแล้ว

นอกจากเรื่อง P2P สเปนยังเพิ่มภาษีกับอุปกรณ์เก็บข้อมูลเปล่า (เช่น CD, พวกการ์ดต่างๆ) เพื่อเอาเงินนี้ไปชดเชยให้กับผู้เสียหายจากการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย

ที่มา - Slashdot

กลุ่มบริษัทที่ถูกตำรวจสวีเดนเข้ายึดเครื่องในกรณเข้าจับตรวจสอบเครื่องของ The Pirate Bay ที่เป็นแทรกเกอร์อันดับต้นๆ ของโลกในเวลานี้ โดยขณะที่ทางตำรวจมีหมา่ยศาลให้เข้ายึดเครื่องของ The Pirate Bay ไปตรวจสอบได้ มีการสั่งให้บริษัท PRQ ซึ่งเป็น ISP ของทาง The Pirate Bay หยุดให้บริการเครื่องทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้บริษัทอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหาย

กลุ่มบริษัทต้องการใ้ห้ทางตำรวจสวีเดนจ่ายเงินชดเชยต่อธุรกิจที่เสียหาย ในช่วงการเข้าตรวจค้นดังกล่าว โดนทางตำรวจยังคงไม่ให้เหตุผลว่าทำไมจึงหยุดการให้บริกา่รเครื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องไปด้วย

ประเด็นการถกเถียงที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าการให้บริการข้อมูลการแลกเปลี่ยนไฟล์ในเครือข่าย P2P นั้นเป็นเรื่องถูกกฏหมายหรือไม่ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองกันต่อไป เมื่อตำรวจสวีเดนบุกเข้ายึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการเว็บแทรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดอันหนึ่งของโลกคือ ThePiratebay.org

ทางตำรวจสวีเดนยังไม่ได้จับกุมเจ้าของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวแต่อย่างใด โดยระบุว่าเป็นเพียงการตรวจสอบว่า ThePiratebay.org ไม่มีข้อมูลละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องของตนจริงหรือไม่

หลังจาก True เปิดตัว Hi-Speed Internet เมื่อปีที่แล้วก็ทำให้วงการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยคึกคักถนัดตา ผลพลอยได้ของความเร็วก็คือ ดาวน์โหลด และก็หนีไม่พ้น P2P ทั้งหลายแหล่ ปัญหาความเร็วตกเลยเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเร็วไปยังต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหานี้ True และ ISP อีกหลายเจ้าได้ใช้วิธีห้ามใช้ P2P แบบเงียบๆ ด้วยไฟร์วอลล์หรือไม่ก็ Bandwidth Shaper ผลก็เป็นตามคาด ลูกค้าหนีไปไม่น้อย พวกที่ยังติดสัญญาก็ใช้ความสามารถของซอฟต์แวร์เพื่อเข้ารหัสให้พ้นการตรวจจับ สุดท้ายแล้วก็ปัญหาเดิม ตำรวจกับขโมย

ถ้าใครเคยใช้โปรแกรมอย่าง eMule คงจะเห็นว่าความสะดวกของมันคือการค้นหาไฟล์ที่ง่ายกว่าการใช้บิตทอร์เรนต์มาก โดยข้อได้เปรียบนี้เกิดจากที่เครือข่าย eDonkey2000 นั้นมีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการค้นหาอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือ Razerback2

แต่แล้วในวันนี้ เซิร์ฟเวอร์ที่เป็นเหมือนสันหลังของของเครือข่ายแชร์ไฟล์อันดับหนึ่งของโลก ก็ถูกสั่งปิดพร้อมกับการถูกจับกุมของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแอดมินเครื่องเซิร์ฟเวอร์นี้ โดยการจับกุมนี้เป็นการบุกจับถึงบ้านกันเลยทีเดียว

หลังจากถูกไอเอสพีบล๊อกบ้าง บีบแบนด์วิดท์บ้างมาเป็นเวลานาน ทีมพัฒนาโปรแกรมบิตทอร์เรนต์อย่าง uTorrent ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการเข้ารหัสเพื่อไม่ให้ไอเอสพีสามารถตรวจสอบโปรโตคอลได้ โดยในตอนนี้โปรแกรม uTorrent รุ่นล่าสุด (RC4) รองรับโปรโตคอลนี้อยู่แล้ว โดยการใช้อัลกอลิธึ่ม Diffie-Hellman

ที่น่าสนใจคือความคิดนี้ไม่ได้รับความสนใจจากนาย Bram Cohen ผู้สร้างบิตทอร์เรนต์แต่อย่างใด โดยเขาระบุว่าไอเอสพีส่วนใหญ่ไม่ได้บีบแบนด์วิดท์อะไร และการเข้ารหัสจะทำให้โปรแกรมกินทรัพยากรของเครื่องมากขึ้นโดยไม่จำเป็น

ไม่แน่ใจว่าเป็นรายแรกของโลกรึเปล่า แต่ตอนนี้น่าจะเป็นรานแรกของฮ่องกง ที่มีการจำคุกในฐานที่แชร์ไฟล์มีลิขสิทธิ์ผ่านทาง BitTorrent โดยเมื่อวานนี้ศาลฮ่องกงได้ตัดสินจำคุกนายฉาน ไหน่หมิง เป็นเวลาสามเดือน ฐานที่จงใจแจกจ่ายภาพยนต์สามเรื่องในอินเทอร์เน็ต

งานนี้ทนายของนายฉานระบุว่าจะสู้คดีต่อไป และได้ขอประกันตัวนายฉานแล้วด้วยเงิน 645 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณสามหมื่นบาท) โดยก่อนหน้านี้ที่สวีเดนก็เพิ่งมีคดีแบบเดียวกันนี้ แต่ศาลสวีเดน ลงโทษเพียงให้ทำงานรับใช้สังคมเท่านั้น

เมืองไทยตอนนี้กำลังจะบังคับใช้หมายเลขบัตรประชาชนในเว็บบอร์ด (เพื่ออะไร?)

ที่ฮ่องกง คดีการละเมิดลิขสิทธิ์คดีแรกของโลกที่มี BitTorrent มาเอี่ยว (หลังจากพวก eMule อะไรพวกนั้นโดนกันไปนานแล้ว) ศาลได้ตัดสินว่านาย Chan Nai-ming ซึ่งโดนสั่งฟ้องตั้งแต่เดือนเมษาในข้อหาอัพโหลดหนังสามเรื่อง อันได้แก่ Daredevil, Red Planet และ Miss Congeniality มีความผิดจริง ซึ่งนาย Chan ได้ประกันตัวออกไปสู้คดีในศาลชั้นต่อไป

หลังจาก RIAA ส่งจดหมายไปถึงผู้ให้บริการ P2P เมื่อวันที่ 15 กันยายน ตอนนี้ P2P Network ก็ปิดตัวกันไปทีละรายสองรายเริ่มกันตั้งแต่ WinMX ตอนนี้ก็มา eDonkey ซึ่งก็เป็นไปตามกาลเวลานิ จับกันไม่จบไม่สิ้น

ตอนนี้ก็ได้แต่รอดูว่า Freenet โครงการที่ต้องการคงเสรีภาพในการเผยแพร่ข้อมูลบน Internet โดยใช้หลักการ decentralized network จะทำงานได้ดีแค่ไหน แล้วถ้าเกิดทำงานได้ดีจริงๆ RIAA จะทำัยังไง ?

ที่มา P2P Future Darkens as eDonkey Closes

เรื่องนี้ค่อนข้างยาวครับ ผมเขียนรวมในข่าวเดียวเลยละกัน