Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลสายซัพพลายเชนคนเดิม คราวนี้เขาให้ข้อมูลว่าด้วยกล้องของ iPhone 16 แถมยังยาวไปถึง iPhone 17 เลยด้วย รายละเอียดดังนี้

• iPhone 16 Pro ได้กล้องหลังอัลตร้าไวด์ เพิ่มเป็น 48MP (iPhone 15 Pro - 12MP) ซึ่งทำให้ได้ภาพที่ดีขึ้นโดยเฉพาะตอนถ่ายโหมด 0.5x
• iPhone 16 Pro จะได้เลนส์ Tetraprism ในกล้องเทเล แบบที่มีเฉพาะ iPhone 15 Pro Max ทำให้ได้ออปติคัลซูมเพิ่มขึ้น

ข้อมูลนี้มาจากจดหมายข่าวรายสัปดาห์ Power On โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม ซึ่งพูดถึงแผนงานของแอปเปิลในการพัฒนาชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ขึ้นมาเอง นำทีมโดย Johny Srouji หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของแอปเปิล

ที่ผ่านมาผลงานเด่นของแอปเปิลคือการพัฒนาชิปประมวลผลเอง ทั้งที่ใช้ใน iPhone มานาน และที่โดดเด่นล่าสุดคือชิปสำหรับ Mac รวมถึงชิปที่ไปถึงระดับเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ทั้งหมดนี้เป็นการวางแผนยาวนานมากกว่า 10 ปี อย่างไรก็ตามทีมของ Srouji ยังมีงานออกแบบพัฒนาชิ้นส่วนอีกหลายอย่าง ที่อยู่ในแผนงานและตอนนี้ยังไม่สำเร็จ

ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy S ของซัมซุง เป็นที่นิยมของผู้ชมการแสดงคอนเสิร์ต เนื่องจากฟีเจอร์ซูมได้ในระยะไกล แต่ยังได้รูปภาพที่คุณภาพดีไม่แตก อย่าง Galaxy S23 Ultra สามารถซูมได้ถึง 100x แม้ในพื้นที่แสงน้อย ความสามารถในการซูมภาพถ่ายนี้ ส่งผลให้เกิดธุรกิจเช่าโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ถ่ายรูปในคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ โดยสามารถดูได้ในทวิตเตอร์ได้เช่น #เช่าS23Ultra หรือ #เช่าโทรศัพท์

LG Innotek บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนกล้องสำหรับสมาร์ทโฟนในเครือ LG เปิดตัวชิ้นส่วนกล้องแบบซูมออปติคอลในชื่อ Optical Telephoto Zoom Camera Module โดยระบุว่าเป็นการซูมออปติคอลที่แท้จริง อาศัยการทำงานของกล้องแบบ Telescopic ทำให้การซูมไม่ลดคุณภาพของรูปที่ได้แม้เป็นระยะไกล รองรับที่ระยะ 4x-9x

ในการออกแบบนี้ LG Innotek ยังเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เสริม อาทิ ระบบกันสั่นที่ลดการใช้พลังงานของสมาร์ทโฟน, ดีไซน์ที่ลดความหนาของกล้องหลัง ไปจนถึงการออกแบบที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสามารถเลือกถอดเลนส์ซูม 4x หรือ 9x ออกได้

จากรายงานปัญหาของผู้ใช้ iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ที่พบกล้องภาพสั่นเมื่อเปิดใช้งานผ่านแอปโซเชียลต่าง ๆ ล่าสุดแอปเปิลออกมายอมรับปัญหานี้แล้ว

โดยแอปเปิลบอกว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ จึงไม่จำเป็นต้องนำโทรศัพท์เข้ารับการซ่อม และจะออกซอฟต์แวร์แก้ไขปัญหานี้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าคือ iOS 16.0.2

แอปเปิลไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จุดแตกต่างที่สำคัญของกล้องหลัง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max จากรุ่นก่อนหน้าคือชิปกันภาพสั่นรุ่นใหม่ จึงเป็นไปได้ว่าส่วนนี้มีการทำงานที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเปิดผ่านแอปอื่น

แอปเปิลเริ่มเชิญบล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์มารีวิว iPhone 13 Pro แล้ว โดยรีวิวจากหลายรายได้พูดถึงปัญหาหนึ่งเหมือนกัน คือระบบกล้องโหมดมาโครของ iPhone 13 Pro ที่เปลี่ยนเป็นโหมดนี้อัตโนมัติ เมื่อเลนส์เข้าใกล้วัตถุ และปรับคืนเมื่อเลนส์ขยับออก ซึ่งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปคุณสมบัติน่าจะดี แต่จะดีกว่าหากผู้ใช้เลือกควบคุมได้เองด้วย (ดูลักษณะปัญหาได้จากคลิปด้านล่าง)

แอปเปิลบอกว่ารับทราบปัญหานี้แล้ว โดยจะออกซอฟต์แวร์แก้ไขในภายหลัง ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้กล้องเข้าโหมดมาโครอัตโนมัติ หรือต้องกำหนดเอง ทั้งนี้ส่วนการตั้งค่า Lock Camera นั้น มีผลสำหรับการถ่ายโหมดมาโครแบบวิดีโอเท่านั้น ยังไม่มีผลกับการถ่ายภาพนิ่ง

OnePlus เตรียมออกอัพเดตใหม่ให้แอปกล้องบนมือถือซีรีส์ OnePlus 9 เป็นโหมดถ่ายภาพมุมกว้าง XPan Mode อัตราส่วน 65:24 หรือราว 2.7:1 บนความยาวโฟกัส 30 มม. และ 45 มม. ได้แรงบันดาลใจจากกล้อง Hasselblad XPan ที่เป็นพันธมิตรพัฒนากล้องของมือถือรุ่นนี้ โดยจะเน้นถ่ายภาพมุมกว้างแนวนอน และจะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อถือเครื่องแนวตั้ง

กล้อง Hasselblad XPan เป็นกล้องรุ่นคลาสสิกของ Hasselblad เลนส์ที่เป็นที่นิยมมีสองความยาวโฟกัสคือ 30 มม. และ 45 มม. ถ่ายภาพออกมาในอัตราส่วน 65:27 และ OnePlus น่าจะพยายามทำให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่กล้องมือถือจะทำได้ ด้วยอัตราส่วน 65:24 และระบุว่าอัตราส่วนภาพทางยาวลักษณะนี้ บอกเล่าเรื่องราวได้ดีกว่า และมีเอกลักษณ์ คล้ายกับการถ่ายภาพยนตร์

แอปเปิลเพิ่มข้อมูลใหม่ในหน้า Support ระบุว่าระบบ OIS ที่กันภาพสั่น และระบบปิด AF ในกล้องของ iPhone อาจได้รับความเสียหาย ในกรณีที่อุปกรณ์ได้รับแรงสั่นสูงบนความถี่ระดับหนึ่ง ส่งผลต่อคุณภาพของการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว

กรณีที่แอปเปิลยกตัวอย่างคือมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดกำลังเครื่องยนต์สูง โดยตัวเครื่องจะมีแรงสั่นความถี่สูง ส่งมาถึงโครงของรถและแฮนด์ จึงไม่แนะนำให้วางโทรศัพท์ติดกับส่วนดังกล่าวเพราะจะได้รับแรงสั่นโดยตรง ส่วนรถที่มีแรงสั่นความถี่ต่ำกว่า เช่น สกูตเตอร์ แอปเปิลก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงเช่นกัน

Corning ผู้ผลิตกระจกหน้าจอสมาร์ทโฟน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Gorilla Glass DX และ Gorilla Glass DX+ ซึ่งเป็นการขยายไลน์สินค้าสู่กระจกปิดหน้าเลนส์สำหรับกล้องในสมาร์ทโฟน

Jaymin Amin รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Gorilla Glass อธิบายว่าตามปกติกระจกหน้าเลนส์ของกล้องจะมีการเคลือบผิว หรือที่เรียกว่าโค้ทหน้าเลนส์ เพื่อลดการสะท้อนแสง แต่ก็แลกกับโอกาสที่ผิวจะเป็นรอยขูดขีดง่ายขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพของภาพถ่าย กระจกปิดหน้าเลนส์ของ Gorilla Glass จึงพัฒนาขึ้นให้แสงผ่านได้ที่ 98% และมีความทนทานตามมาตรฐาน Gorilla Glass รวมทั้งปรับขนาดได้ตามการออกแบบกล้องของสมาร์ทโฟนนั้น

Corning บอกว่าซัมซุงจะเป็นบริษัทแรกที่นำกระจก Gorilla Glass DX ไปใช้งาน ซึ่งก็ต้องตามกันต่อไปว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใด

ข่าวนี้เป็นการรวมรายงานจาก Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF Securities คนเดิม ที่มีประวัติให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลได้แม่นยำที่สุด โดยเขาพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตของแอปเปิลหลายอย่างตามข้อมูลที่ได้รับมาล่าสุดดังนี้

หลังจากเป็นประเด็นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีคนพบโหมด Color Filter บน OnePlus 8 Pro ทำให้สามารถส่องทะลุพลาสติกบางชนิดได้

ล่าสุด OnePlus เผยว่าเตรียมอัพเดตและถอดฟีเจอร์ Color Filter ออกจาก OnePlus 8 Pro โดยให้เหตุผลว่าเพราะเคารพความเป็นส่วนตัวสูงสุด และตัดความเป็นไปได้ทุกอย่างที่ฟีเจอร์นี้จะก่อให้เกิดความไม่สบายใจและละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยอัพเดตจะเริ่มทยอยปล่อยภายใน 1 สัปดาห์

ที่มา - Engadget

ผู้ใช้ combat goofwing โพสต์ในฟอรั่มของ XDA Developers ว่าเขาค้นพบฟังก์ชั่นถ่ายทะลุพลาสติกของ กล้อง OnePlus 8 Pro โดยไม่ได้ตั้งใจ พร้อมกับลงวิดีโอ Youtube ยืนยันว่าเป็นความจริง พร้อมกับผู้ใช้รายอื่นยืนยันในคอมเม้นต์ ว่าทดสอบแล้วทำได้เช่นเดียวกัน

CEO โซนี่ฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์เผยว่าตอนนี้ โรงงานผลิตเซนเซอร์กล้องสมาร์ทโฟนผลิตสินค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงต่อเนื่องมาสองปีแล้ว ก็ยังไม่ทันความต้องการของตลาด

Bloomberg วิเคราะห์ว่าผู้ใช้ให้ความสำคัญกับกล้องสมาร์ทโฟนมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของโซนี่โดยเฉพาะเซนเซอร์กล้องเติบโตต่อเนื่อง และทำรายได้ดีเป็นอันดับสองรองจากธุรกิจ PlayStation

หลังจาก Huawei Mate 30 Pro ที่ได้คะแนน DXOMARK 121 คะแนน และยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องดีเป็นอันดับหนึ่งไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ทางเว็บก็นำ Mate 30 Pro 5G ไปทดสอบถ่ายภาพได้ผลสรุปที่ 123 คะแนน เหนือกว่า Mate 30 Pro รุ่นธรรมดาไป 2 คะแนน แบ่งเป็นคะแนนภาพนิ่ง 134 คะแนนและถ่ายวิดีโอได้ที่ 102 คะแนน

DXOMARK กล่าวว่าฮาร์ดแวร์กล้องของ Mate 30 Pro รุ่นธรรมดาและ 5G เหมือนกันทั้งหมด ภาพที่ได้จึงได้รายละเอียดที่ดี สีภาพถ่ายเข้ม, เก็บรายละเอียดในภาพและคุม noise ดีเหมือนกัน แต่รุ่น 5G เหนือกว่าจากการที่ Huawei ปรับแต่งซอฟท์แวร์ถ่ายภาพให้ดีขึ้น โหมดที่ DXOMARK กล่าวถึง ได้แก่โหมดซูมที่วัดแสงได้ดีขึ้นและแก้ปัญหาซูมแล้วถ่ายภาพเกิดโฟกัสหลุด

หลังจากที่ Xiaomi เปิดตัว Xiaomi Mi Note 10 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้เขียนมีโอกาสทดลองเล่นเครื่องโชว์ในงานเป็นเวลาสั้น ๆ และมีโอกาสเก็บภาพด้วยกล้องหลัง 108 ล้านพิกเซลที่ DXOMARK ให้คะแนนสูงถึง 121 แต้ม มาให้ผู้สนใจชมกัน

รุ่นที่ผู้เขียนทดลองเล่นเป็น Mi Note 10 รุ่นธรรมดา ส่วนสเปกกับจุดแตกต่างจากรุ่น Pro หลัก ๆ คือชิ้นเลนส์รุ่นธรรมดาจะมีเพียง 7 ชิ้นในขณะที่รุ่น Pro จะมี 8 ชิ้น ส่วนสเปกโดยละเอียดสามารถอ่านได้ที่ลิงค์ข้างบน

TigerMobiles.com เว็บรวมสมาร์ทโฟนราคาพิเศษเผยภาพสิทธิบัตรกล้องหน้าดีไซน์ใหม่ของ Xiaomi ที่ยื่นขอจดทะเบียนเอาไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศจีน หรือ CNIPA ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา คือทางบริษัทจะดีไซน์กล้องหน้าแบบสไลด์เป็นแถบยาวเอาไว้ที่ด้านบนของตัวเครื่องพร้อฝังกล้องไว้ 5 ตัว

อย่างไรก็ตาม ทาง South China Morning Post เห็นว่าสิทธิบัตรนี้เป็นการขอจดทะเบียนเอาไว้สักพักหนึ่งแล้วและยังไม่ได้นำมาใช้จริง ซึ่งตามปกติแล้วสิทธิบัตรอาจไม่ได้เอามาใช้จริงทุกฉบับเสมอไป

ในตอนแรก Google Camera 7.0 ของ Pixel 4 สามารถบันทึกไฟล์ด้วย H.265/HEVC ได้แต่ถูกถอดออกในเวอร์ชั่น 7.1 และกูเกิลจะนำกลับมาในเวอร์ชั่น 7.2 เลือกเปิดได้ที่การตั้งค่าขั้นสูงในแอพกล้องที่ตัวเลือกล่างสุด ส่วนมือถือ Pixel รุ่นก่อน ๆ จะใช้ได้ในเวอร์ชั่น 7.1

ข้อดีของไฟล์ H.265/HEVC คือไฟล์เข้ารหัสดีกว่าจึงใช้พื้นที่บันทึกไฟล์และแบนด์วิธน้อยกว่า H.264/AVC แต่กูเกิลย้ำว่าโปรแกรมเล่นคลิปวิดีโอบางตัวอาจไม่รองรับมาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอนี้ นอกจากนี้เวอร์ชัน 7.2 มีการปรับ UI ใหม่เล็กน้อย และเพิ่มตัวเลือกแชร์รูปภาพไปยัง Slack

กล้องของสมาร์ทโฟนยุคนี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่หลายรุ่นก็จะมีชุดเลนส์ที่นูนขึ้นมาจนขัดตาบ้าง แต่จากสิทธิบัตรล่าสุดที่แอปเปิ้ลยื่นขอจดทะเบียนไปตั้งแต่ปี 2017 แล้วเพิ่งได้รับเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นระบบเลนส์ที่เรียกว่า Folded lens system ใช้กระจกเลนส์ 3 หรือ 5 ตัว สะท้อนภาพกับตัวปริซึมที่อยู่ด้านหลังจะทำให้ชุดกล้องด้านหลังบางลง ไม่นูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและซูมระยะได้ไกลขึ้นด้วย

อาจถือเป็นหนึ่งในข่าวดีสำหรับแฟนานุแฟนของมือถือกลุ่ม Lumia ที่หวังว่า Lumia 950 XL จะให้ภาพถ่ายที่ดีขึ้น เมื่อเว็บไซต์ WMPoweruser ได้รายงานว่ามีผู้ใช้ใน Reddit ที่ชื่อว่า Guyman101 ไปลองเล่น Lumia 950 XL ที่มีวางแสดงไว้ในร้าน Microsoft Store และถ่ายรูปเปรียบเทียบกับภาพที่ได้จาก Lumia 1520

ผลปรากฎว่า ภาพที่ออกมานั้นดูดีและแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมไปถึงความเร็วและการถ่ายภายในที่มืดซึ่งทำได้ดีกว่าอย่างมากด้วย โดยเว็บไซต์ WMPoweruser อ้างข้อมูลที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า กล้องของ Lumia 950 XL ได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่า f ที่ 1.9 เมื่อเทียบกับ 2.4 ของ Lumia 1520

ภาพดูได้จากที่มาครับ

ปัจจุบันกล้องดิจิทัล หรือ กล้องบนโทรศัพท์มือถือพัฒนาไปไกลมาก ทำให้ถ่ายภาพ และวิดีโอได้ชัดเจน แต่ว่าอาจจะมีปัญหาด้านไมโครโฟน ที่ยังไม่ได้คุณภาพในระดับที่บางคนพอใจ ปัญหานี้อาจหมดไปด้วยอุปกรณ์ตัวใหม่ที่จะช่วยทำให้การรายงานข่าว หรือการถ่ายวิดีโอพัฒนาไปอีกขั้นกับ Solocam ไม้เซลฟี่ที่มาพร้อมไมโครโฟนระดับ HD และที่จับที่จะช่วยให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น พร้อมพรีออร์เดอร์แล้วบน Indiegogo