กูเกิลออก Google Places API ให้นักพัฒนาบน Android และ iOS สามารถเข้าถึงข้อมูลสถานที่ในระบบของกูเกิล แล้วแปลงไป-กลับจากพิกัดได้ง่าย

นักพัฒนาแอพสามารถฝัง Place Picker เพื่อให้ผู้ใช้แอพเลือกสถานที่ที่ตัวเองอยู่ในขณะนั้นได้เลย (ไม่ต้องเขียนเอง) นอกจากนี้ยังมีระบบ Autocomplete ช่วยเดาชื่อสถานที่ได้แบบเดียวกับ Google Search, รายละเอียดของสถานที่นั้น เช่น หมายเลขโทรศัพท์ แบบเดียวกับที่แสดงบน Google Maps

ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยมี Places API แต่รองรับเฉพาะการเรียกผ่านเว็บเซอร์วิส และเรียกผ่านจาวาสคริปต์เท่านั้น ตอนนี้ขยายมายัง Android/iOS เพื่อให้ใช้กับแอพมือถือได้ง่ายขึ้น (สถานะของ Android เป็นรุ่นจริงแล้ว, iOS ยังเป็นเบต้า)

โนเกียเปิดตัวแอพแผนที่และนำทาง HERE for iOS ตามที่สัญญาไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว

ความสามารถนั้นก็เฉกเช่นเดียวกับแอพบน Windows Phone และ Android กล่าวคือ รองรับการนำทางด้วยเสียงทั่วโลก สามารถดาวน์โหลดแผนที่เพื่อการใช้งานแบบออฟไลน์ได้ รายงานสภาพจราจรและอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์ใน 40 ประเทศ มีข้อมูลการขนส่งสาธารณะมากกว่า 900 เมือง วางแผนเส้นทางทั้งการขับรถ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือเดินได้จากที่เดียวเพื่อให้ผู้ใช้เปรียบเทียบได้ง่าย และสามารถซิงค์สถานที่ที่ถูกบันทึกไว้ไปยังทุกอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้

ใครที่ใช้ iPhone 4S พร้อม iOS 7 ขึ้นไป สามารถดาวน์โหลดแอพได้ที่ App Store ครับ

วิธีการป้องกันปัญหา "บัตรเครดิตถูกใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต" คือการเช็คต้นทางการรูดบัตรว่ามาจากสถานที่แปลกๆ ที่ผู้ใช้รายนั้นไม่เคยไป (เช่น บัตรเครดิตประเทศไทยที่ไม่เคยใช้งานนอกประเทศมาก่อน ถูกใช้ในยุโรปตะวันออกหรืออเมริกาใต้) อย่างไรก็ตาม วิธีการแบบนี้ก็ส่งผลกระทบในกรณีเจ้าของบัตรไปต่างประเทศ แล้วไม่สามารถรูดบัตรได้ เนื่องจากระบบไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงหรือไม่

Facebook ก้าวเข้าสู่การรบสู้กับ Yelp และ Foursquare ด้วยการปล่อยฟีเจอร์ Place Tips โดยเมื่อผู้ใช้กดดูทิปแนะนำสถานที่ก็จะพบกับข้อมูลที่แสดงในรูปของการ์ดแนะนำข้อมูลต่างๆ และสามารถเห็นโพสต์หรือรูปของเพื่อนที่แชร์ในสถานที่ต่างๆ ด้วย

ความน่าสนใจของทิปต่างๆ มีทั้งการดึงโพสต์จากเพจ เมนูยอดนิยม และอีเวนต์ที่กำลังจะมาถึง แต่ถ้าหากรำคาญก็สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้ที่หน้าตั้งค่า

ที่มา - The Next Web, Facebook Newsroom

ข่าวนี้น่าจะเป็นตัวบ่งชี้ชั้นดีว่าทำไมบริษัทโฆษณาอย่างกูเกิล ถึงต้องทำระบบแผนที่และมีระบบปฏิบัติการมือถือของตัวเอง

ตามปกติของคนลงโฆษณายุคอินเทอร์เน็ต มักต้องการทราบว่าเม็ดเงินค่าโฆษณาที่ลงไปนั้นคืนกลับมาเป็นยอดขายสักเท่าไร (estimated total conversions) และลูกค้าที่เห็นโฆษณาใช้วิธีไหนในการเข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา (ในวงการเรียก path of purchase) การเก็บสถิติว่าคนเห็นโฆษณาแล้วกดซื้อสินค้าออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ในกรณีของการมาซื้อสินค้าที่หน้าร้าน อาจประเมินได้ยากว่าคนซื้อมาจากการเห็นโฆษณาบนหน้าเว็บหรือไม่

เว็บไซต์ Business Insider รายงานข่าววงในว่า Twitter จะจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Foursquare ด้านข้อมูลสถานที่ในข้อความทวีต โดยจะประกาศเรื่องนี้ในปี 2015

ทั้ง Foursquare และ Twitter ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ แต่ในเอกสารนำเสนอต่อนักลงทุนของ Twitter มีกล่าวถึงฟีเจอร์ด้านสถานที่หลายอย่างในอนาคต เช่น การเช็คอินแบบ Foursquare ในข้อความทวีต, การแนะนำสถานที่ในบริเวณใกล้เคียง และการจัดเนื้อหาให้เหมาะกับพิกัดปัจจุบันของผู้ใช้

หากใครยังจำกันได้ Nokia เคยเปิดตัว HERE Maps บน iOS เมื่อปี 2012 แต่พอ iOS 7 ออกนั้น Nokia ก็เลิกพัฒนา โดยโฆษกกล่าวว่าเพราะ iOS 7 ทำให้ประสบการณ์ใช้งาน HERE Maps แย่

ตามหลังจากเปิดตัว HERE Maps บน Android นั้น Nokia ก็ได้บอกว่าเตรียมจะออก HERE Maps บน iOS โดย Nokia กล่าวว่าตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาและคาดว่าน่าจะออกตัวเต็มสำหรับ iOS ได้ในต้นปีหน้า ซึ่งช้ากว่าที่ซีอีโอคนเก่าของ HERE เคยกล่าวไว้ว่าจะมาในปีนี้เล็กน้อย

Swarm แอพเช็คอินที่แยกร่างมาจาก Foursquare (ถ้ายังมีคนใช้กันอยู่) อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ iOS เช็คอินตามสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยรองรับฟีเจอร์ widget ของ iOS 8 แล้ว

การใช้งานคือลากแถบ notification bar ลงมา (หน้า Today) จะเห็น widget ของ Swarm ซึ่ง "คาดเดาสถานที่" ที่เราน่าจะเช็คอินให้ แล้วกดเช็คอินได้เลย (ลักษณะเดียวกับ Swarm widget บน Android ทำมานานแล้ว)

แล้วก็เป็นไปตามสัญญา เมื่อ HERE for Android รุ่นเบต้าขึ้น Galaxy App Store ให้ผู้ใช้มือถือซัมซุง Galaxy ดาวน์โหลดได้แล้ว

ความต้องการขั้นต่ำคือแรม 1 กิกะไบต์ และรัน Android 4.1 (Jelly Bean) อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับซัมซุงว่าจะเปิดให้รุ่นใดดาวน์โหลดแอพได้บ้าง และอาจต้องใช้เวลากว่าที่แอพจะปรากฏบน Galaxy App Store ในทุกประเทศครับ

ที่มา: HERE Three Sixty

Sean Fernback รองผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสของฝ่าย Everyday Mobility ซึ่งอยู่ภายใต้ธุรกิจ HERE ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Next Web ว่า หลังจากโนเกียเสร็จสิ้นดีลขายธุรกิจมือถือและบริการให้ไมโครซอฟท์ (ต้นฉบับบอก transaction) บริษัทจะค่อยๆ ลดกำลังการพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์ม Windows Phone และไปให้ความสนใจ Android และ iOS อย่างไรก็ตามโนเกียกำลังพูดคุยเรื่องนี้กับไมโครซอฟท์อยู่

หลังจากที่เปิดตัว HERE for Android และ HERE for Gear เฉพาะบนอุปกรณ์ของซัมซุงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางโนเกียเองก็มีแผนจะขยายแผนที่ HERE Maps บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ให้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงอุปกรณ์ iOS ด้วยเช่นกันภายในสิ้นปีนี้

Sean Fernback ผู้บริหารของ HERE Maps เปิดเผยกับ Wall Street Journal ว่าโนเกียมีแผนที่จะผลักดันให้ HERE Maps ขึ้นมาท้าชิงกับ Google Maps และ Apple Maps อย่างเต็มตัว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยจะมีอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่รองรับแผนที่ของทางโนเกียมากขึ้นภายในสิ้นปีนี้

นอกจาก HERE for Android เฉพาะมือถือซัมซุงตระกูล Galaxy และบริการ Glympse โนเกียเปิดตัวแอพ HERE for Gear แอพแผนที่และระบบนำทางสำหรับ Gear S นาฬิกาแพลตฟอร์ม Tizen ด้วย

HERE for Gear ทำได้ทุกอย่างราวกับแอพบนวินโดวส์โฟนโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องต่อนาฬิกาเข้ากับมือถือเพื่อใช้งานแอพเลย กล่าวคือผู้ใช้สามารถดูตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบัน ระบุสถานที่ปลายทางเพื่อให้ระบบนำทางด้วยการเดินเท้าหรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงสามารถดาวน์โหลดแผนที่มาใช้งานแบบออฟไลน์ได้

HERE for Gear จะเปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อซัมซุงวางขาย Gear S ครับ

โนเกียเปิดตัว HERE for Android แอพแผนที่และระบบนำทางบนแอนดรอยด์อย่างเป็นทางการ HERE for Android ทำได้ทุกอย่างเหมือนกับแอพบนวินโดวส์โฟน กล่าวคือผู้ใช้สามารถดูตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบัน ระบุสถานที่ปลายทางเพื่อให้ระบบนำทางด้วยการขับรถ เดินเท้า หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงสามารถดาวน์โหลดแผนที่มาใช้งานแบบออฟไลน์ และบันทึกสถานที่ลง Collections ซึ่งจะซิงก์กับแอพบนแพลตฟอร์มอื่นได้

ณ เวลานี้ เฉพาะผู้ใช้มือถือตระกูล Galaxy ของซัมซุงจะได้ใช้ HERE for Android ฟรีครับ

หลังจากบุกตะลุยตลาดคมนาคม-ขนส่งในหลายๆ ประเทศ ล่าสุด Uber หันมาจับมือกับพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรม โดยเปิด Uber API ให้แอพตัวอื่นเรียกใช้ได้

รูปแบบการใช้งานจะเหมาะกับแอพประเภทอิง location-based เช่น แอพจองร้านอาหาร OpenTable หรือแอพจองโรงแรมในเครือ Hyatt สามารถรับจอง แล้วเพิ่มปุ่มเรียก Uber จากในแอพนั้นๆ ได้เลย แอพที่เรียกใช้ Uber API จะรับทราบข้อมูลสถานที่ปลายทาง (ผู้ใช้ไม่ต้องกรอกใหม่ในแอพ Uber อีกที) พร้อมทั้งแสดงเวลาที่รถจะเดินทางมาถึง และค่าโดยสารโดยประมาณให้ด้วย

หลังจาก Foursquare ปรับยุทธศาสตร์ แยกการเช็คอินสถานที่ออกเป็นแอพใหม่ Swarm และเปลี่ยนรูปแบบของแอพ Foursquare เดิม

วันนี้แอพ Swarm ออกเวอร์ชัน Windows Phone ให้ดาวน์โหลดแล้ว โดยหน้าตาและความสามารถแทบไม่ต่างอะไรกับเวอร์ชัน iOS และ Android ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้จาก Windows Phone Store

Foursquare ยังบอกว่าจะออกแอพ Foursquare โฉมใหม่บน Windows Phone ภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ด้วยครับ

จากที่เคยประกาศไว้ Foursquare ยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ทั้งโลโก้และแนวทางของแอพ วันนี้ Foursquare เวอร์ชันใหม่ (นับเป็น 8.0) เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน iOS และ Android

Foursquare 8.0 เปลี่ยนโลโก้เป็นรูปตัว F และเปลี่ยนหน้าตาของแอพเป็นการแนะนำ "สถานที่รอบตัว" มากขึ้น ผมลองเล่นแล้วตอนเริ่มต้นใช้งาน แอพจะให้เราเลือก "taste" หรือคีย์เวิร์ดของสถานที่ที่เราสนใจ (เช่น ประเภทของอาหาร) จากนั้นแอพจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปประมวลผลร่วมกับพิกัดและข้อมูลอื่นๆ (เช่น การเช็คอินของเราในอดีต) ขึ้นเป็นสถานที่แนะนำตามหมวดต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เที่ยวกลางคืน ฯลฯ

โนเกียอัพเดตแอพ HERE Maps for Windows 8.1 พร้อมกับเปิดให้ดาวน์โหลดได้ทั่วโลกแล้ว จากเดิมที่จำกัดเฉพาะบางประเทศ อัพเดตนี้มากับฟีเจอร์ใหม่ ดังนี้

Michael Halbherr ซีอีโอของ HERE บริษัทลูกภายใต้โนเกีย ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ GeekWire ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

iBeacon เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล โดยอาศัยคลื่นความถี่และเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม ผสานกับแนวคิดในฝั่งของซอฟต์แวร์และการบอกพิกัดตำแหน่งในอาคาร ผลที่ได้คือเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการบอกตำแหน่งและส่งข้อมูลให้กับผู้ใช้ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกจากเพียงแค่เปิดเครื่องและอนุญาตให้รับสัญญาณจากตัวอุปกรณ์เท่านั้น

บทความนี้จะเป็นการกล่าวถึงเทคโนโลยี iBeacon โดยคร่าว และรูปแบบการใช้งาน การประยุกต์ใช้งาน ตลอดจนถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ในอนาคต

นอกจากวอลโว่ XC90 จะมากับ CarPlay ผู้ช่วยส่วนตัวบนรถยนต์ โนเกียเปิดเผยว่าระบบแดชบอร์ดติดรถยนต์ Sensus ที่รวม CarPlay ในรถยนต์รุ่นดังกล่าวจะใช้แผนที่และระบบนำทาง HERE รายละเอียดมีดังนี้

แอปเปิลเข้าซื้อกิจการบริษัท Spotsetter แบบเงียบๆ โดยไม่เปิดเผยมูลค่า

Spotsetter เป็นแอพสำหรับค้นหาสถานที่เชิงโซเชียล (social search engine for place) หลักการทำงานคือดึงข้อมูลจากเครือข่ายสังคมของเรา (เช่น Facebook, Foursquare) เพื่อดูว่าเพื่อนเราเช็คอินหรือรีวิวสถานที่ใดบ้าง จากนั้นนำมาผนวกกับข้อมูลสถานที่จากเว็บไซต์หรือบริการดังๆ (เช่น Yelp, Zagat, TripAdvisor) เพื่อแนะนำสถานที่ให้เหมาะกับผู้ใช้คนนั้นๆ

ปัจจุบัน Spotsetter ระบุว่ามีข้อมูลสถานที่ 40 ล้านแห่ง และมีข้อมูลของผู้ใช้มากกว่า 5 ล้านคน

เว็บไซต์ Android Police รายงานข่าววงในว่ากูเกิลเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของแอนดรอยด์ที่ใช้ชื่อว่า Nearby โดยมันจะเป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services รุ่นหน้า (น่าจะเปิดตัวที่งาน I/O ปลายเดือนนี้)

ความสามารถของ Nearby คือบอกว่าอุปกรณ์พกพาของเรานั้นอยู่ใกล้กับคน สิ่งของ สถานที่ใดบ้าง เพื่อให้บริการหรือแอพสามารถทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เช่น เปิด Bluetooth/Wi-Fi เมื่อไปยังสถานที่ที่กำหนด จุดเด่นของ Nearby คือมันสามารถบอกได้ว่าอุปกรณ์สองชิ้นมาอยู่ใกล้กันแค่ไหน เพื่อจะติดต่อสื่อสารกันได้เองโดยอัตโนมัติ

การเปิดใช้ Nearby จะต้องเปิดใช้ Location History และ Location Reporting ของแอนดรอยด์ด้วย ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ในหน้า Settings > Location

ในยุคที่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถระบุตำแหน่งตัวเองได้เกือบทั้งโลก แต่กับภายในอาคารก็ยังเป็นจุดบอดของระบบชี้พิกัดแบบเดิมที่ใช้ดาวเทียมเป็นหลักอยู่ และเป็นบริษัทสัญชาติฟินแลนด์ IndoorAtlas ที่ใช้การตรวจจับสนามแม่เหล็กเพื่อระบุตำแหน่งภายในอาคาร

หลังจาก Foursquare ประกาศแยกระบบการเช็คอินออกมาเป็นแอพอีกตัวชื่อ Swarm วันนี้ Swarm เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วครับ (Play Store, App Store)

เป้าหมายของ Swarm คือเน้นการแชร์ตำแหน่งของเรากับเพื่อนๆ ที่รู้จักกันดี เพื่อเน้นการออกไปเจอกันตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ Swarm จะเน้นความเป็นโซเชียลและการบอกสถานะมากขึ้น และลดความสำคัญของระบบเก็บแต้ม, Badge และ Mayor เดิมลง

ใครลองแล้วเป็นอย่างไรบ้างก็แสดงความเห็นกันได้ครับ

ต่อจากข่าว Foursquare เปิดตัว Swarm แอพใหม่สำหรับเชคอินโดยเฉพาะ ล่าสุดทาง Foursquare ออกมาประกาศยกเลิกแนวคิดเรื่องเกมและการแข่งขันเช็คอินแบบเดิมๆ ที่เคยเวิร์คในสมัยแรกๆ แต่ไม่เวิร์คแล้วในปัจจุบัน

• ระบบคะแนน (point) ไม่ตอบโจทย์เรื่องผลตอบแทนของการเช็คอินแล้ว เพราะการเช็คอินในแต่ละสถานที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก
• ระบบป้าย (badge) มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้การครอบครอง badge ไม่มีคุณค่าเหมือนสมัยแรกๆ

• ระบบ mayor ถูกออกแบบมาสมัยที่ผู้ใช้ไม่เยอะ แข่งขันครอบครอง mayor ได้ง่าย แต่เมื่อผู้ใช้เยอะขึ้น การแข่งขันก็มากขึ้นจนไม่สนุก

  ยุคของ Swarm จะเปลี่ยนแปลงแนวคิดข้างต้นดังนี้