Google Maps ประกาศเพิ่มข้อมูลภาพถ่ายอีก 2 ประเภท ดังนี้

• ภาพถ่ายทางอากาศมุม 45 องศา สำหรับ 37 เมืองในสหรัฐ และ 14 เมืองนอกสหรัฐ (ยังไม่มีประเทศไทย) ซึ่งเป็นเมืองในยุโรปและแคนาดา มีสถานที่สำคัญๆ อย่างหอเอนปิซาในอิตาลีด้วย
• ภาพถ่ายความละเอียดสูงทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทียม ใน 17 เมืองและ 112 ประเทศ (มีประเทศไทยด้วยแต่ไม่บอกว่าตรงไหนบ้าง) ช่วยให้ข้อมูลของ Google Maps ครบถ้วนมากขึ้น

ที่มา - Google Lat Long

ข่าวเรื่องปัญหาแผนที่ของ iOS 6 เริ่มออกไปในทิศทางว่าแอปเปิลดึงข้อมูลมาจากบริษัทแผนที่บางแห่งที่คุณภาพไม่ค่อยดีนัก ที่ชัดเจนเลยคือซีอีโอของ Waze (ซึ่งขายข้อมูลให้แอปเปิลเหมือนกัน) วิจารณ์ว่า TomTom เป็นผู้ให้บริการแผนที่อันดับท้ายๆ ของตลาด

คู่แข่งที่รอซ้ำยามแอปเปิลพลาดไม่ได้มีแค่โนเกีย เพราะโมโตโรลาก็ออกแคมเปญโฆษณาแซวพอเจ็บๆ โดยเปรียบเทียบระบบแผนที่บน Droid RAZR M กับอุปกรณ์ที่ถูกเรียกตามแท็กว่า #iLost ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงรู้กันดีว่าหมายถึงอะไร

ข่าวนี้คงจบสั้นๆ แค่นี้ เพราะจุดสำคัญอยู่ที่ภาพ ไม่ใช่ข้อความ

ที่มา - +Motorola Mobility via Android Central

จากปัญหา แผนที่ใหม่ใน iOS 6 ถูกผู้ใช้วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า "มันห่วยเกินไป" โนเกียในฐานะผู้ให้บริการระบบแผนที่ Nokia Maps จึงใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ทำแผนภาพเปรียบเทียบบริการของตัวเองกับคู่แข่ง ทั้ง iPhone 5 และ Galaxy S III ที่ใช้ Google Maps

จุดเด่นของ Nokia Maps เหนือคู่แข่งอื่นๆ ได้แก่

• เป็นตัวเดียวที่รองรับแผนที่แบบออฟไลน์
• มีบริการ turn-by-turn navigation มากถึง 110 ประเทศ
• แผนที่ภายในอาคาร (venue maps) ใน 38 ประเทศ (กูเกิลมีแค่ 4 ประเทศ)

อย่างอื่นดูกันเองในชาร์ตครับ

จากกรณีแผนที่บน iOS 6 กลายเป็นปัญหาที่มีเสียงบ่นของผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ล่าสุด Trudy Muller โฆษกของแอปเปิลได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว มีใจความดังนี้

หลังจากที่แอปเปิลปล่อยให้คนทั่วโลกได้ดาวน์โหลด iOS 6 ไปเรียบร้อยแล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดูจะ "แย่ลง" ก็คือระบบแผนที่ของแอปเปิลเองที่เอามาแทนที่แผนที่ของกูเกิลเดิมที่มีให้ใช้ตั้งแต่ iOS 5 ลงไป

Google Maps มีภาพถ่ายแบบพานอรามาภายในอาคาร (แบบเดียวกับ Street View แต่อยู่ในตึกแทนนอกตึก) มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว (ข่าวเก่า กูเกิลเริ่มให้บริการ Street View ภายในอาคาร) ปัญหาของมันคือการดูว่าสถานที่ใดบ้างมีภาพถ่ายภายในยังยากอยู่ คนจึงใช้ฟีเจอร์นี้กันไม่เยอะนัก

Amazon ประกาศทำ Maps API ให้แอพมือถือสามารถเรียกใช้งานได้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Amazon Appstore เช่นเดียวกับบริการ GameCircle ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

แอพมือถือที่ต้องการลงแพลตฟอร์ม Kindle Fire และ Kindle Fire HD สามารถเรียกใช้ระบบแผนที่ของ Amazon ได้ง่ายๆ โดย Amazon เตรียมวิธีการย้ายจาก Google Maps API ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

โนเกียและบริษัทชั้นนำรวม 22 แห่ง (ตัวอย่างบริษัทที่ดังๆ เช่น Broadcom, Qualcomm, Samsung, Sony Mobile) ประกาศตั้งกลุ่ม In-Location Alliance เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการค้นหาพิกัดภายในอาคาร (indoor positioning)

เป้าหมายของกลุ่ม In-Location Alliance คือเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง กินพลังงานต่ำ และใช้งานง่าย โดยเบื้องต้นจะอิงอยู่บนเทคโนโลยี 2 อย่างคือ Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันแพร่หลายอยู่แล้ว

โครงการทดลองจะเริ่มต้นในปี 2012 แต่ของจริงจะเริ่มโผล่มาให้เห็นในปี 2013 ครับ

หลังจากให้บริการข้อมูลขนส่งสาธารณะมาตั้งแต่ปี 2005 จนถึงตอนนี้กูเกิลบอกว่ามีข้อมูลจุดขนส่งสาธารณะมากกว่าหนึ่งล้านจุดแล้ว โดยครอบคลุมกว่า 500 เมืองทั่วโลก (ที่ไหนบ้างดูจากหน้านี้)

โอกาสนี้กูเกิลจึงอัพเดตแอพ Google Maps บนแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ในเลขรุ่น 6.10 ที่เพิ่มฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะ

ฟีเจอร์แรกคือปรับปรุง Transit Layer ให้สามารถเลือกเจาะจงประเภทการเดินทางด้วยขนส่งชนิดนั้นๆ เช่นเฉพาะรถบัส หรือรถไฟฟ้า เป็นต้น

อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาคือ เมื่อเข้าไปในหน้าของสถานีผ่าน Google Maps จะแสดงผลข้อมูลมากขึ้น เช่นสายรถที่วิ่งผ่าน ระยะทางไปจนถึงสถานี

กูเกิลซื้อกิจการอีกราย ล่าสุดเป็นบริษัท Frommer's ซึ่งเป็นแบรนด์หนังสือคู่มือนำเที่ยวที่เก่าแก่อีกรายหนึ่ง (ก่อตั้งปี 1957) โดยซื้อจากเจ้าของปัจจุบันคือเครือสำนักพิมพ์ใหญ่ John Wiley & Sons (หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Wiley)

การซื้อครั้งนี้ไม่เปิดเผยมูลค่า แต่ก็มีข้อมูลวงในหลุดออกมาว่าอยู่ราวๆ 23 ล้านดอลลาร์

คนที่ใช้อินเทอร์เน็ตมานานแล้วคงจะรู้ว่าการอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยได้ ต้องไม่โพสต์รูปบัตรเดบิตการ์ดของตัวเอง หรือตำแหน่งบ้านของตัวเอง แต่ล่าสุดเว็บ WeKnowYourHouse ได้เอาตำแหน่งบ้านของผู้ใช้งานทวิตเตอร์มาเปิดเผยแล้ว

WeKnowYourHouse ใช้วิธีแสกนข้อมูลทวีต ที่มีการเอ่ยถึงคำว่า "Home" และผูกข้อมูลดังกล่าวเข้ากับตำแหน่งละติจูดและลองติจูด และนำข้อมูลเหล่านั้นไปแปะบน Google Maps

เมื่อครั้งที่ Foursquare ออกเวอร์ชัน 5.0 ยกเครื่องอินเทอร์เฟซใหม่หมด ฟีเจอร์บางอย่างที่เคยมีในเวอร์ชันก่อนๆ ถูกตัดออกไปในเวอร์ชันนี้ ซึ่งฟีเจอร์สำคัญอันหนึ่งที่ถูกตัดไปคือ Nearby Friends หรือการบอกพิกัดว่ามีเพื่อนของเราอยู่ในบริเวณเดียวกันหรือไม่

ฟีเจอร์นี้กลายเป็นสิ่งที่ผู้ใช้เรียกร้องให้นำกลับมา ซึ่งล่าสุด Foursquare ก็พร้อมนำมันกลับมาแล้วบนแอพเวอร์ชัน iOS/BlackBerry (Android ต้องรอกันอีกหน่อย) รูปแบบการใช้งานก็เหมือนเดิม โดยมันจะแทรกเข้ามาในหน้า All Activity เป็นอีกแท็บหนึ่งให้เลือก

ภาพประกอบดูกันเองตามลิงก์ครับ

จากที่กูเกิลบอกว่าจะอัพเกรด Google Maps ให้ความละเอียดสูงขึ้น และสวยงามขึ้นตามที่บอกไว้ในงาน New Dimension of Google Maps วันนี้ก็ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

ตัวภาพที่เพิ่มเข้ามาแบ่งเป็นสามชุดคือ ภาพจากดาวเทียมความละเอียดสูงครอบคลุมหลายประเทศทั่วโลก (แต่ไม่มีไทย) อีกชุดคือภาพจากอากาศยานที่ยังมีอยู่แค่ในสหรัฐฯ และบางประเทศในยุโรปเท่านั้น

ไฮไลท์ของอัพเกรดคราวนี้คือภาพมุมสูง 45 องศาสำหรับ 21 เมืองในสหรัฐฯ และ 7 ประเทศในยุโรป

ผมลองเข้าไปค้นหาสถานที่ตามตัวอย่างจากที่มาแล้วพบว่าเมนู 45° ยังใช้ไม่ได้ ใครอยากดูภาพ Google Maps แบบใหม่ลองดูจากที่มาแทนก่อนครับ

Nokia Drive ระบบนำทางแบบ turn-by-turn หนึ่งในจุดขายของสมาร์ทโฟน Lumia (ในขณะนี้) ออกอัพเดตเวอร์ชัน 3.0 แล้ว โดยมีฟีเจอร์ใหม่ ดังนี้

ให้หลังหนึ่งเดือนตั้งแต่ Bing Maps เพิ่มข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมขนาด 165TB วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มภาพถ่ายมุมสูง (Bird's Eye) เข้าใน Bing Maps อีกขนาด 215TB ภาพส่วนใหญ่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ และสถานที่สำคัญของยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงโตเกียว กินพื้นที่ถึง 230,004 ตารางกิโลเมตร

จากการเพิ่มข้อมูลครั้งนี้ทำให้ภาพถ่ายมุมสูงของ Bing Maps เพิ่มขึ้นเป็น 1,388,593 ตารางกิโลเมตร และมีขนาดรวมกันมากถึง 302TB

สถานที่สำคัญของแต่ละประเทศได้แก่ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ รัฐสภาในเมืองสต็อกโฮล์มของสวีเดน ผมลองเข้าไปดูพบว่าความละเอียดสูงพอตัว (ลองกดลิงก์นี้) หรือจะดูได้จากภาพตัวอย่างในที่มาได้เลยครับ

ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมให้กับ Bing Maps ครั้งใหญ่ที่สุด โดยใส่เข้ามาทีเดียวถึง 165TB ครอบคลุมพื้นที่ทุกทวีปในโลก คิดเป็นพื้นที่ 38 ล้านตารางกิโลเมตร

หลังจากที่กูเกิลปรับให้บริการที่ใช้ Google Map API ของ Google Maps ต้องจ่ายค่าบริการถ้าหากว่าใช้เกินกำหนด ซึ่งตั้งไว้เพียง 25,000 ครั้งต่อวัน หรือ 2,500 ครั้งถ้าหากว่าปรับสไตล์ของแผนที่ด้วย ค่าบริการส่วนเกินอยู่ที่ 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1,000 ครั้ง ทำให้ผู้ใช้บริการรายใหญ่อย่าง Foursquare หรือ Wikipedia เปลี่ยนไปใช้บริการแผนที่รายอื่นในเวลาถัดมา (อาจจะรวมถึงแอปเปิลด้วย ?)

หลังจากถูกกดดันมากเข้า กูเกิลจึงประกาศลดราคาค่าใช้จ่ายส่วนเกินลงเหลือ 50 เซนต์ต่อ 1,000 ครั้ง พร้อมทั้งปรับให้ผู้ใช้งานแผนที่ปรับแต่งสไตล์จากเดิมที่ใช้ฟรีได้ 2,500 ครั้ง กลายเป็น 25,000 ครั้งเท่ากับแบบปกติ

มันคือ Google Latitude เวอร์ชันองค์กรนั่นเองครับ เพียงแต่ทำอะไรได้มากกว่า Latitude มาก เพราะนอกจากการแชร์พิกัดของพนักงานในองค์กรแล้ว ยังสามารถแชร์พิกัดของ "ไซต์งาน" บนแผนที่ได้ด้วย ช่วยให้ผู้จัดการสามารถจัดสรรพนักงานไปทำงานนอกสถานที่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กูเกิลเองบอกว่า Google Maps Coordinate ออกแบบมาสำหรับองค์กรที่พนักงานต้องทำงานนอกสถานที่ (mobile worker) นอกจากนี้ยังมีระบบเก็บข้อมูลย้อนหลังทั้งหมด เพื่อให้องค์กรสามารถวิเคราะห์การทำงานของตัวเองให้ดีขึ้นได้

ฟีเจอร์นี้ไม่ฟรี เบื้องต้นคิดค่าบริการ 15 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน (โปรโมชันถึง 1 ก.ย. 2012) มือถือที่รองรับต้องเป็น Android 2.3 ขึ้นไปเท่านั้น ส่วนฝั่งผู้จัดการก็ควบคุมงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ทั่วไป

Facebook ออกมาเผยสถิติภาพรวมของการ "เช็คอิน" ตามสถานที่ต่างๆ โดยเป็นข้อมูลเฉพาะเมืองใหญ่ 25 แห่งทั่วโลก (ไม่มีไทยนะครับ ใกล้สุดคือสิงคโปร์)

จากสถานที่ที่คนเช็คอินมากที่สุดใน 25 เมือง

• 7 เมือง คนนิยมเช็คอินสนามกีฬา
• 6 เมือง เป็นจัตุรัสกลางเมืองหรือสวนสาธารณะ
• 2 เมือง เป็นสวนสนุก
• 2 เมือง เป็นที่แสดงคอนเสิร์ต
• 2 เมือง เป็นห้างสรรพสินค้า

ห้างสรรพสินค้าและแหล่งช็อปปิ้งต่างๆ ติดอันดับท็อป 10 ใน 19 เมือง ส่วนเมืองที่อากาศอบอุ่น คนนิยมเช็คอินในสถานที่กลางแจ้งมากกว่า ในขณะที่เมืองหนาวคนมักเช็คอินในร่ม เช่น ที่มอสโก 6 ใน 10 อันดับแรกเป็นบาร์และคลับต่างๆ

บริษัท Garmin เปิดตัวแอพนำทาง Garmin StreetPilot Onboard บนไอโฟน ซึ่งใช้แผนที่จากบริษัท NAVTEQ และรวมข้อมูลแผนที่ของอุปกรณ์นำทางตระกูล Garmin nuvi เข้ามาด้วย แน่นอนว่ามีข้อมูลแผนที่กับสถานที่ของประเทศไทย และมีเมนูภาษาไทยมาให้ในตัว

จุดเด่นอีกอย่างของ Street Pilot คือโหลดข้อมูลแผนที่ทั้งหมดไว้ในเครื่อง สามารถทำงานได้โดยไม่มีอินเทอร์เน็ต ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็เรียกได้ว่ายกมาจาก nuvi เลย เช่น การคำนวณความเร็วพาหนะ โมเดลอาคาร 3 มิติ ฯลฯ (ที่เหลือดูจากคลิปกันเองนะครับ)

ราคาแอพ 29.99 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้มีโปรโมชัน 19.99 ดอลลาร์ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม รายละเอียดดูที่ Garmin Thailand

คำว่า "ศัตรูของศัตรูคือมิตร" อาจใช้ได้กับข่าวนี้ เพราะบริการรีวิวสถานที่ Yelp ซึ่งเคยมีเรื่องก

หลังจาก แอปเปิลเปลี่ยนระบบแผนที่ใน iOS 6 จากเดิมที่ใช้ฐานข้อมูลของ Google Maps มาเป็นระบบแผนที่ของตัวเอง ก็มีหลายคนสงสัยว่าแอปเปิลดึงข้อมูลมาจากไหนบ้าง

งานนี้มีคนไปขุดหาข้อมูลมาจากหลายๆ แหล่ง โดยรวบรวมรายชื่อมาได้ดังนี้ครับ Getchee, Localeze, Urban Mapping, DMTI, MapData Sciences, TomTom, Waze

บริษัทบางรายที่ทำแอพมือถือด้วย (เช่น Waze) อาจเสียลูกค้าไปเพราะลูกค้าใช้แอพ Maps ของแอปเปิลแทน แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือรายได้จากแอปเปิลนั่นเอง

ที่มา - TechCrunch

foursquare ได้อัพเดทแอพสู่รุ่น 5.0 โดยในรุ่นนี้อินเตอร์เฟสทั้งหมดได้ถูกดีไซน์ใหม่ให้ดูเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน และเช็คอินได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย ในหน้าแรกจะแสดงความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ ในรูปแบบ Timeline คล้ายเดิม แต่เราสามารถกด Like และคอมเม้นต์การเช็คอินของเพื่อน หรือสถานที่ใดๆ ได้ด้วย

ส่วนหลักที่ถูกปรับปรุงไปมากอีกอย่างคือ "Explore" ที่จะสามารถค้นหาสถานที่ที่น่าสนใจรอบๆ ตำแหน่งปัจจุบันของเรา สามารถเลือกให้แบ่งตามหมวดหมู่, สถานที่ที่เป็นที่นิยม (Top Pick) หรือสถานที่แสดงสถานที่ที่มีการเช็คอินอยู่จำนวนมาก (Trending) โดยเมื่อเรา Explore ในเวลาต่างๆ ข้อมูลที่ถูกแสดงก็จะต่างกันไปด้วย เช่นช่วงเที่ยงจะแสดงร้านอาหารที่น่าสนใจ ช่วงดึกจะแสดงบาร์ หรือสถานที่เที่ยวกลางคืน

กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Google+ แล้วคือ Google+ Local ซึ่งถือเป็นการย้ายบริการ Google Places เดิมมาใส่ไว้ใน Google+ ก็ว่าได้

Google+ Local จะปรากฎเป็นแท็บใหม่ด้านซ้ายมือของ Google+ โดยจะแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจรอบตัวเราในขณะนั้น เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ และข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลชุดเดียวกับบน Google Maps หรือ Google Search ด้วย

ผู้ใช้งาน Google+ Local สามารถรีวิวสถานที่หรือเขียนคอมเมนต์ได้ ถ่ายภาพสถานที่นั้นๆ แล้วอัพโหลดได้ และข้อมูลเหล่านี้จะแสดงให้เพื่อนของเราใน Google+ เห็นเช่นกัน (โดยสรุปแล้วฟีเจอร์ไม่ต่างอะไรจาก Google Places ของเดิมมาก แต่กลืนเข้ากับ Google+ มากขึ้น)