เคอร์เนลลินุกซ์เวอร์ชัน 6.6 ปรับสถานะของระบบไฟล์ ReiserFS เป็น "ล้าสมัย" (obsolete) และเตรียมถอดออกในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า
ReiserFS เป็นระบบไฟล์ที่พัฒนาโดย Hans Reiser ออกครั้งแรกในปี 2001 และมีฟีเจอร์ทันสมัย (ในยุคนั้น) เช่น การทำ journaling จนทำให้บางดิสโทรของยุคนั้นอย่าง SUSE Linux Enterprise นำไปใช้งานเป็นระบบไฟล์หลัก (เลิกใช้ในปี 2006)
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1993 Ian A Murdock ประกาศในกลุ่ม comp.os.linux.development ว่าเขากำลังพัฒนา Debian Linux Release ใกล้เสร็จ หลังจากใช้งาน SLS Linux และไม่พอใจหลายอย่าง
ประกาศครั้งนั้นวางแนวทางของ Debian เอาไว้หลายอย่าง เช่น
แนวทางการอัพเดตแพ็กเกจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Debian กลายเป็นดิสโทรพื้นฐานสำหรับดิสโทรยอดนิยมเช่น Ubuntu ขณะที่ในโลก container เอง Debian ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูง
CIQ, Oracle, และ SUSE กลุ่มผู้แจกจ่ายลินุกซ์ดิสโทรที่ใช้ CentOS เป็นฐาน ประกาศก่อตั้ง Open Enterprise Linux Association (OpenELA) เพื่อพัฒนาดิสโทรที่เข้ากันได้กับ RHEL ต่อไป แม้ทาง Red Hat จะไม่เปิดโค้ดของ RHEL ให้แล้วก็ตาม
ภายในปีนี้ OpenELA จะเริ่มปล่อยซอร์สโค้ดสำหรับ EL8 และ EL9 และในอนาคตอาจจะย้อนกลับไปซัพพอร์ต EL7 อีกด้วย
สถิติผู้ใช้งาน Steam ประจำเดือนกรกฎาคม 2023 มีการเปลี่ยนแปลงน่าสนใจคือ สัดส่วนผู้ใช้งานลินุกซ์แซงหน้า macOS ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ผู้ใช้งาน Windows ยังครองส่วนแบ่งสูงถึง 96.21% ลดลงจากเดิมเล็กน้อย, macOS 1.84% และลินุกซ์รวมทุกดิสโทร 1.96%
อัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของลินุกซ์เกิดจากความนิยมของ Steam Deck นั่นเอง โดยระบบปฏิบัติการของ Steam Deck ดัดแปลงมาจาก Arch Linux ซึ่งตอนนี้มีสัดส่วนการใช้งานรวม (นับ Arch Linux ทั้งหมด) ที่ 0.16% ของผู้ใช้ Steam ทั้งหมด ตามมาด้วย Ubuntu 22.04 ที่ 0.14%
โครงการ Debian ประกาศรองรับซีพียูสถาปัตยกรรม RISC-V อย่างเป็นทางการ (riscv64 is now an official Debian architecture) หลังจากมีให้ใช้งานแบบพอร์ต (Debian port) มาระยะหนึ่งแล้ว
ประกาศนี้มาไม่ทัน Debian 12 Bookworm ที่ออกเมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้นเราจะได้ใช้ RISC-V ใน Debian stable เวอร์ชันหน้าคือ Debian 13 Trixie ที่จะออกในปี 2025 แต่ถ้าใครรีบด่วนก็สามารถทดลองใช้จาก Debian Sid ก่อนได้
AlmaLinux โครงการลินุกซ์ที่สร้างขึ้นทดแทน CentOS ประกาศแนวทางว่าจะไม่เอาเรื่องเข้ากันได้กับ RHEL ได้แบบ 100% ทดแทนได้แบบ 1:1 แล้ว แต่จะรักษาความเข้ากันได้ในระดับ Application Binary Interface (ABI) compatible คือแอพที่สร้างมารันบน RHEL จะสามารถรันบน AlmaLinux ได้อย่างไม่มีปัญหา
AlmaLinux บอกว่าผู้ใช้ทั่วไปจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะจะยังได้รับแพตช์ความปลอดภัยในเวลารวดเร็วเช่นเดิม รันแอพที่ออกแบบมาบน RHEL ได้เหมือนเดิม แต่จะไม่เหมือนกับ RHEL เป๊ะๆ ชนิดบั๊กต่อบั๊กอีกแล้ว ข้อดีของแนวทางนี้คือ AlmaLinux อาจแก้บั๊กได้เร็วกว่า RHEL ด้วยซ้ำ และการแก้บั๊กของ AlmaLinux จะเพิ่มคอมเมนต์ในซอร์สโค้ดด้วยว่านำแพตช์มาจากที่ใด ช่วยให้โครงการโปร่งใสมากขึ้น
SUSE บริษัทซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ประกาศพัฒนาลินุกซ์ต่อจาก RHEL ของ Red Hat แม้ว่าจะมี SUSE Linux Enterprise (SLE) เป็นดิสโทรหลักอยู่แล้วก็ตาม โดยโครงการใหม่ที่แยกออกมาจาก RHEL นี้จะดูแลโดยมูลนิธิด้านโอเพนซอร์สภายนอก เพื่อดูแลว่าสามาารถใช้งานซอร์สโค้ดร่วมกันได้ โดยทาง SUSE จะลงทุน 10 ล้านดอลลาร์ในโครงการนี้ภายในระยะเวลาหลายปีข้างหน้า
สำนักข่าว WebProNews ได้รายงานว่า ลินุกซ์เดสท็อปครองส่วนแบ่งตลาดเกิน 3% ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โดยอ้างอิงจากข้อมูล Statcounter ที่รายงานส่วนแบ่งตลาดของระบบปฏิบัติการเดสท็อปทั่วโลก เดือนมิถุนายนปีนี้ ลินุกซ์เดสท็อปครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 3.07% ได้เป็นครั้งแรกในตลอดช่วงเวลากว่า 30 ปีของลินุกซ์
จากสถิติของเดือนมิถุนายน อันดับแรก คือ Windows ครอง 68.23% อันดับสอง MacOS ครอง 21.32% อันดับสาม Chrome OS ครอง 4.13% และอันดับสี่ลินุกซ์ครอง 3.07%
Oracle ประกาศพัฒนา Oracle Linux ต่อแม้จะไม่สามารถใช้โค้ดของ RHEL ได้อีกต่อไป หลังจาก Red Hat ปิดการเข้าถึงซอร์สโค้ด พร้อมกับเชิญดิสโทรอื่นๆ มาใช้โค้ดของ Oracle Linux
ที่ผ่านมา Oracle Linux ก็เป็นหนึ่งในดิสโทรที่ใช้โค้ดจาก RHEL มาคอมไพล์ แต่หลังจากนี้ทาง Oracle ก็จะพัฒนาแยกออกไปเอง แต่ยังสัญญาว่าจะคงความเข้ากันได้ให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากมีจุดไหนไม่เข้ากันทาง Oracle ก็จะถือว่าเป็นบั๊กและพยายามแก้ปัญหาให้
Red Hat Enterprise Linux 7 (RHEL 7) จะสิ้นสุดอายุขัยในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 (RHEL มีระยะซัพพอร์ต 10 ปีเต็มหลังออกครั้งแรก เป็นสุตร 5+5 คือ 5 ปีแรกซัพพอร์ตเต็มรูปแบบ 5 ปีหลังมีเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยและแก้บั๊ก)
เมื่อพ้นระยะ 10 ปีแล้ว ลูกค้าที่ย้ายเวอร์ชันใหญ่ไม่ทัน สามารถเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อซัพพอร์ตแบบพิเศษ Extended Life Cycle Support (ELS) ได้อีก 2 ปี (ถึงกลางปี 2026)
ล่าสุด Red Hat ประกาศยืดอายุซัพพอร์ต RHEL 7 แบบ ELS ให้เป็น 4 ปี (ถึงกลางปี 2028) และขยายการแพตช์ช่องโหว่จากเดิมเฉพาะระดับร้ายแรง (critical) เพิ่มมาเป็นระดับสำคัญ (important) ให้ด้วย โดยการขยายเวลา 4 ปีครั้งนี้ถือเป็นรอบพิเศษมีครั้งเดียว (one-time) ส่วนการซัพพอร์ต ELS ของ RHEL 8 และ 9 จะเพิ่มเป็น 3 ปี
หลังจาก Red Hat ไม่ปล่อยซอร์สโค้ด RHEL ก็ส่งผลกระทบต่อดิสโทรปลายน้ำที่นำโค้ดไปคอมไพล์ต่อ โดยตัวสำคัญสองตัว คือ AlmaLinux และ Rocky Linux ก็ออกมายืนยันว่าจะมีอัพเดตต่อไป
ทางฝั่ง AlmaLinux นั้นระบุว่าจะนำแพตช์มาจากหลายแหล่ง เช่น CentOS Stream และ Oracle Linux (ซึ่งเดิมใช้แพตช์จาก RHEL เหมือนกัน) นอกจากนี้แถลงของ AlmaLinux ยังตอบโต้แถลงของ Red Hat ที่ระบุว่าดิสโทร rebuild ไม่ได้สร้างคุณค่า โดยระบุว่าชุมชน AlmaLinux ช่วยดูแลแพลตฟอร์ม อย่าง Respberry Pi ส่งโค้ดกลับโครงการต้นน้ำหลายโครงกร และดูแลโครงการใน EPEL ที่เป็นแพ็กเกจนอกเหนือจากที่ Red Hat ดูแลอยู่จำนวนมาก
Debian ดิสโทรลินุกซ์ยอดนิยมที่เป็นต้นน้ำของการพัฒนาดิสโทรจำนวนมาก ประกาศออกเวอร์ชั่น 12 ในชื่อ Bookworm ที่เป็นตัวละครใน Toy Story 3 โดยรวมเวอร์ชั่นนี้ใช้เวลาพัฒนา 1 ปี 9 เดือน 28 วัน และจะได้รับซัพพอร์ตไปอีก 5 ปี
ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ตามแพ็กเกจที่ปรับในเวอร์ชั่นนี้ เช่น systemd 252, linux 6.1, nginx 1.22, php 8.2, postgresql 15, vim 9.0 เวอร์ชั่นนี้ยกเลิกซัพพอร์ตชิปในกลุ่ม i586 อย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะรองรับชุดคำสั่ง x86 แบบ 32 บิตอยู่แต่ก็ต้องการตระกูล i686 หรือ Pentium Pro ขึ้นไปเท่านั้น
บริษัท Canonical ประกาศรายละเอียดการทำ Ubuntu Core เวอร์ชันเดสก์ท็อป ที่ใช้แพ็กเกจแบบ Snap ทั้งหมด
Canonical มีดิสโทร Ubuntu Core มาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีแนวคิดว่าแอพถูกอย่างถูกรันในคอนเทนเนอร์ (Docker/LXC) เพื่อเป็น sandbox ที่ปลอดภัย อัพเกรดและย้อนคืนได้ง่าย แต่ช่วงแรกยังจำกัดการใช้งานเฉพาะอุปกรณ์ IoT ที่ต้องใช้วิธีอัพเดตอัตโนมัติ
Canonical เรียกระบบปฏิบัติการที่มีแนวคิดนี้ว่า immutable operating system มีคุณสมบัติทั้งหมด 4 ข้อคือ
Canonical เตรียมออกดิสโทร Ubnutu Desktop ที่ใช้แพ็กเกจแบบ Snap ล้วนๆ ในปีหน้า 2023 โดยแยกเป็นอีกเวอร์ชันจากดิสโทรเดิมที่ใช้ระบบแพ็กเกจแบบ .deb
ข้อมูลนี้มาจาก Oliver Grawert ทีมงานของ Canonical ที่ไปตอบคอมเมนต์ในเว็บ OMG Ubuntu
เมื่อปี 2020 Red Hat ช็อควงการด้วยการหยุดทำ CentOS 8 และตัดจบอายุซัพพอร์ตที่สิ้นปี 2021 บีบให้ผู้ใช้งาน CentOS 8 ต้องย้ายไปใช้ RHEL 8 แบบเสียเงิน หรือดิสโทรทางเลือกอื่นๆ แทน
ปัญหาเรื่อง CentOS 8 ยุติไปแล้ว แต่ยังมีกลุ่มผู้ใช้ CentOS 7 เวอร์ชันก่อนหน้าที่ไม่ถูก Red Hat ตัดจบแบบเดียวกัน ได้อายุซัพพอร์ตนาน 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 เป็นระเบิดเวลาลูกต่อไป
ทางเลือกของผู้ใช้ CentOS 7 ในปัจจุบันไม่สามารถอัพเกรดเป็น CentOS 8 ตรงๆ ได้อีกแล้ว การย้ายระบบให้ทันเส้นตายจึงไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะผู้ใช้งานบนคลาวด์ ที่ต้องปิด VM, ลบ VM ทิ้ง แล้วสร้างใหม่เท่านั้น
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เปิดตัวดิสโทรลินุกซ์ของตัวเอง Azure Linux อย่างเป็นทางการ (general availability) มันจะถูกใช้เป็นโฮสต์ในการรันคอนเทนเนอร์บนบริการ Azure Kubernetes Service (AKS) ทำให้ AKS มีโฮสต์เป็นลินุกซ์ด้วยแล้ว
จริงๆ แล้วโครงการ Azure Linux ไม่ใช่ของใหม่ เพราะทดสอบมาสักพักแล้วในชื่อโค้ดเนม CBL-Mariner หลังจากทดสอบมานาน 2 ปีก็ได้ฤกษ์เปิดให้คนทั่วไปใช้กัน
Ubuntu ออกเวอร์ชัน 23.04 โค้ดเนม Lunar Lobster กุ้งมังกรแห่งดวงจันทร์ มีของใหม่ดังนี้
ที่มา - Ubuntu
Fedora ออกเวอร์ชัน 38 โดยเวอร์ชัน Workstation อัพเกรดมาใช้ GNOME 44 ตามรอบปกติทุก 6 เดือน, รองรับการติดตั้งซอฟต์แวร์จาก repository ภายนอกคือ Flathub, ปรับลดเวลา timeout ของเซอร์วิสตอนสั่งปิดเครื่อง ทำให้ปิดเครื่องเร็วขึ้น
เวอร์ชันแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ใช้งานคือ kernel 6.2, gcc 13, Golang 1.20, LLVM 16, Ruby 3.2, TeXLive2022, PHP 8.2, dnf5
ของใหม่อีกอย่างสำหรับผู้ใช้ชาวไทยคือ Fedora 38 เปลี่ยนมาใช้ฟอนต์ Noto เป็นดีฟอลต์สำหรับภาษาไทยและภาษาเขมรแล้ว
ที่มา - Fedora, Fedora Workstation
ดิสโทรลินุกซ์ยอดนิยมอย่าง Ubuntu เลือกใช้ระบบเดสก์ท็อป GNOME เป็นหลัก แต่คนที่ชอบใช้เดสก์ท็อปแบบอื่นๆ ยังมีทางเลือกเสมอ เพราะ Ubuntu มีระบบ flavours เป็นดิสโทรทางเลือกที่ติดตั้งแพ็กเกจซอฟต์แวร์อื่นๆ แทนแพ็กเกจแบบดีฟอลต์ ตัวอย่าง flavours ที่โด่งดังหน่อยคือ Kubuntu (KDE) หรือ Xubuntu (Xfce)
เดสก์ท็อป GNOME ออกเวอร์ชัน 44 ตามรอบการออกรุ่นทุก 6 เดือน เวอร์ชันนี้ใช้โค้ดเนม Kuala Lumpur ตามสถานที่จัดงาน GNOME.Asia 2022
ของใหม่ใน GNOME 44 ได้แก่
AWS เปิดตัว Amazon Linux 2023 (AL2023) ดิสโทรลินุกซ์เวอร์ชัน Amazon พัฒนาเองสำหรับใช้บนคลาวด์ AWS มาตั้งแต่ปี 2010
เวอร์ชันก่อนหน้านี้ของ Amazon Linux คือ Amazon Linux 2 ในปี 2017 ก่อนเปลี่ยนวิธีเรียกเวอร์ชันเป็นเลขปี เริ่มจากใน Amazon Linux 2022 เมื่อปีที่แล้ว โดยเวอร์ชันแบบใหม่จะซัพพอร์ตระยะยาว 5 ปี (2 ปีแรกอัพเดตทุกไตรมาส + 3 ปีหลังอัพเดตเฉพาะความปลอดภัย)
ไมโครซอฟท์เปิดตัว .NET 8 Preview 1 ตามรอบการออกรุ่นใหม่ทุกปีช่วงเดือนพฤศจิกายน โดย .NET 8 จะเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว 3 ปี (LTS) เหมือนกับ .NET 6
ของใหม่ใน .NET 8 Preview 1 มีดังนี้
Canonical เปิดตัว Ubuntu 22.04 LTS เวอร์ชัน real-time สำหรับอุปกรณ์ฝังตัวภาคอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องมีการตอบสนองทันที
จุดต่างของ Real-time Ubuntu จาก Ubuntu เวอร์ชันปกติคือเปลี่ยนมาใช้เคอร์เนลลินุกซ์ 5.15 แบบเรียลไทม์ (real-time kernel) ที่ใช้แพตช์ PREEMPT_RT มีค่า latency ต่ำ (เริ่มทดสอบ Beta มาตั้งแต่ปีที่แล้ว) และปรับแต่งมาให้เหมาะกับชิปของ NVIDIA, Intel, MediaTek, AMD-Xilinx ที่ใช้กันแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม (รองรับทั้ง Arm และ x86)
ผู้ที่ต้องการใช้ real-time kernel จำเป็นต้องเสียเงินเป็นสมาชิก Ubuntu Pro หรือซื้อผ่าน App Store ของ Ubuntu ได้เช่นกัน
อินเทลหยุดขายซีพียู Itanium สถาปัตยกรรม IA-64 ไปตั้งแต่ปี 2021 และในทางปฏิบัติก็แทบไม่มีคนใช้แล้ว ฝั่งของชุมชนนักพัฒนาเคอร์เนลลินุกซ์จึงเริ่มหารือกันว่าจะถอดสถาปัตยกรรม IA-64 ออกเช่นกัน
Itanium เป็นโครงการร่วมระหว่างอินเทลกับ HP ในทศวรรษ 90s ที่ต้องการสร้างสถาปัตยกรรมซีพียู 64 บิตขึ้นมาใหม่ สินค้าจริงเริ่มวางขายปี 2001 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่สามารถใช้กับโค้ด x86-32 เก่าได้เลย ทำให้ภายหลังอินเทลต้องยอมกลืนเลือด หันไปใช้ x86-64 (หรือชื่อเดิม AMD64) ที่ออกแบบโดย AMD โดยใช้แนวทางส่วนต่อขยายของ x86-32 แทน
Red Hat ออก Red Hat Enterprise Linux (RHEL) เวอร์ชัน 9.1 ทิ้งช่วงห่าง 6 เดือนพอดีจากเวอร์ชัน 9.0 ที่เป็นอัพเกรดใหญ่
นอกจากการอัพเดตแพ็กเกจตามปกติ ของใหม่คือการติดตั้ง Microsoft SQL Server ง่ายขึ้น, Smart Management สำหรับการจัดการระดับสูง, Insights วิเคราะห์ข้อมูลของระบบ
Red Hat ยังออกแพ็กเกจ .NET 7 ให้ลูกค้า RHEL ทั้งบน RHEL 8.7 และ 9.1 โดยซัพพอร์ตเครื่องที่เป็น IBM Power ด้วย