เอชทีซียืนยันกับเว็บไซต์ The Verge ว่า One X และ One X+ จะสิ้นสุดแค่ Android 4.2.2 กับ Sense 5 เท่านั้น ไม่ได้รับอัพเกรดเป็น Android และ Sense รุ่นใหม่อีกต่อไป

ขอแสดงความเสียใจกับเจ้าของ One X และ One X+ ทุกท่าน โดยเฉพาะเจ้าของ One X+ ที่บริษัทหยุดการอัพเดตหลังจากผ่านการเปิดตัวมือถือรุ่นดังกล่าวมาเพียง 14 เดือนเท่านั้น

ที่มา: @htc_uk ผ่าน The Verge

กูเกิลประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Nest Labs ผู้ผลิตอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ และเครื่องตรวจจับควันอัจฉริยะด้วยมูลค่าถึง 3,200 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นทิศทางกูเกิลว่าสนใจจะลงมาเล่นตลาดอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน หรือบรรดา Internet of Things สำหรับดีลนี้กลายเป็นดีลขนาดใหญ่อันดับ 2 ของกูเกิลรองจาก

หนึ่งในอุปกรณ์ยืนยันตัวบุคคลที่น่าสนใจในงาน CES 2014 คือ Myris ซึ่งเป็นเครื่องสแกนม่านตาขนาดเล็กที่ใช้งานโดยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางสาย USB รวมอยู่ด้วย

ผู้ผลิต Myris คือบริษัทที่ชื่อ EyeLock ซึ่งใช้เวลาพัฒนาซอฟต์แวร์ตรวจสอบรูม่านตาของมนุษย์อยู่นานถึง 7 ปี จึงเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย โดยแรกเริ่มจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผู้ใช้องค์กร ก่อนจะถือโอกาสเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ทั่วไปออกมาเป็นชิ้นแรกในงาน CES 2014 นี้ ซึ่งก็คือ Myris นี่เอง

ในบล็อกของ Snapchat ได้ออกมากล่าวขอโทษเกี่ยวกับสแปมที่เพิ่มมากขึ้นในระบบ และได้บอกว่ากำลังเร่งที่จะพัฒนาระบบเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่หลุดไปเพราะฟีเจอร์ Find Friends ด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ผ่านมานั่นเอง

Snapchat ได้พยายามที่จะลดปริมาณสแปมลง อันที่เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัท และผู้ใช้งานสามารถที่จะลดสแปมลงได้ด้วยตัวเอง โดยตั้งค่าใน Snapchat ว่าผู้ใดสามารถส่งสแนปเข้าหาเราได้โดยเข้าไปตั้งค่าดังนี้ Settings > Who can Send Me Snaps > My Friends ครับ

Branch และ Potluck ที่เป็นกิจการในเครือเดียวกัน ถูก Facebook ซื้อด้วยมูลค่า 15 ล้านเหรียญ โดยทั้งสองบริการนั้นเกี่ยวข้องกับการเก็บสถิติและความเชื่อมโยงของผู้คนในเครือข่ายสังคมผ่านการแชร์ลิงก์คล้ายๆ กัน โดยการซื้อขายครั้งนี้ก็ทำไปเพื่อเสริมทัพให้กับ Facebook ในการเลือกข่าวหรือเรื่องราวที่ผู้ใช้น่าจะสนใจให้ขึ้นมาใน News Feed ได้แม่นยำมากขึ้นนั่นเอง

ที่มา - The Verge

Tegra K1 เปิดตัวอย่างอลังการกลางงาน CES ด้วยชิปสำหรับอุปกรณ์พกพาตัวแรกที่ใช้ชิปจีพียูมากถึง 192 คอร์ที่พ่วงมากับซีพียู ARM Cortex-A15 จนทำให้หลายคนสงสัยว่าประสิทธิภาพของชิปตัวนี้จะแรงแค่ไหน ตอนนี้มีผลทดสอบชุดแรกออกมาแล้ว

ผลทดสอบครั้งนี้ออกมาจากเว็บไซต์ Tom's Hardware โดยอ้างอิงชิป Tegra K1 บนจอมอนิเตอร์รันแอนดรอยด์ได้อย่าง Lenovo Thinkvison 28 ผลปรากฏว่า K1 นั้นทำผลงานได้เหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาดไม่ว่าจะเป็น Apple A7 และ Snapdragon 800 อย่างน้อย 25% โดยที่ชิป K1 รุ่นนี้ยังเป็นตัวที่ไม่ใช่ 64 บิตอีกด้วย คงต้องรอดูว่าซีพียูรหัส Denver จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน

หลังจากเปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว SimCity ก็โดนเสียงบ่นจากผู้เล่นจำนวนมาก เนื่องจากตัวเกมไม่สามารถเล่นแบบออฟไลน์ได้ ซึ่งนอกจากจะต้องต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาที่เล่นแล้ว เซิร์ฟเวอร์ก็ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับผู้เล่นจำนวนมากจนล่มไปหลายครั้ง กว่าจะเริ่มเสถียรก็ผ่านไปหลายเดือนหลังเกมออกจำหน่าย

@seamissu เผยภาพต้นแบบทางวิศวกรรม (engineering prototype) ของโนเกีย Normandy ที่อยู่ในกรอบสีดำเข้ม ดูภาพได้ที่ท้ายข่าว - @seamissu

นอกจากนั้น บัญชี Weibo ของเว็บไซต์รวมข่าวด้านวินโดวส์โฟนภาษาจีน winp.cn ยังเผยภาพหน้าตัวเรียกแอพ (app launcher) ของโนเกีย Normandy ด้วย

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีการรายงานจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทรูจำนวนหนึ่ง (1, 2, 3, 4, 5) ถึงปัญหาการถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์แปลกๆ รวมถึงการมีป๊อปอัพโฆษณาแสดงแบบผิดปกติเป็นระยะๆ ซึ่งได้มีการตรวจสอบโดยผู้ใช้จำนวนหนึ่ง จนในที่สุดก็ได้มีรายงานออกมาถึงปัญหาดังกล่าวโดย @_jacobfish แล้

คนที่ตามข่าวมือถือในไทยคงคุ้นชื่อดีกับ WellcoM ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รายแรกๆ ของไทยที่ได้รับความนิยมในปี 2010 จากรุ่น WellcoM A88 ก่อนจะไปล้มไม่เป็นท่าในรุ่นถัดมาอย่าง A99 จนนำไปสู่การเข้าซื้อของ Si2i แห่งเครือ Spice Global จากอินเดีย เปลี่ยนแบรนด์ใหม่เป็น S Wellcom พร้อมกับหันไปเน้นตลาดฟีเจอร์โฟนแทน ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

หลังจากเงียบหายไปเป็นปี ตอนนี้ S Wellcom กลับมาลงตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้งแล้ว ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่สามรุ่นรวดอย่าง Stellar Power, Stellar Virtuoso Pro+ และ Stellar Horizon Pro+ ซึ่งมีมาให้ลองจับจริงๆ เพียงรุ่นเดียว รุ่นสูงสุดอย่าง Stellar Pro (Mi-516) ที่เปิดราคามา 4,990 บาทครับ

หลังจากได้ดีกับธุรกิจขายชิปราคาถูกสำหรับสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตแล้ว MediaTek ก็เผยโฉมฮาร์ดแวร์ตัวต่อไปของบริษัท นั่นก็คือโมดูลชาร์จไร้สายที่สามารถใช้ได้ทั้งแบบเหนี่ยวนำ และกระจายสัญญาณนั่นเอง

ด้วยการที่รวมวิธีการชาร์จไร้สายทั้งสองแบบเข้ามาไว้ในโมดูลตัวเดียว MediaTek บอกว่าข้อดีคือทำให้ในคอยล์เดียวสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกันหลายเครื่อง และยังชาร์จได้แม้ว่าตัวเครื่องจะอยู่ห่างจากแท่นชาร์จ แถมยังใช้งานได้แม้จะถูกบังโดยกำแพงอีกด้วย

QNX บริษัทลูกของ BlackBerry จริงๆ แล้วทำระบบปฏิบัติการแบบเรียลไทม์สำหรับงาน embedded อยู่ก่อน ล่าสุดบริษัทเปิดตัวแพลตฟอร์ม QNX Car สำหรับระบบความบันเทิงภายในรถยนต์ และรถยนต์รุ่นต้นแบบที่ใช้ Mercedes-Benz CLA45 AMG เป็นฐาน

QNX ดัดแปลงรถยนต์คันนี้โดยใส่ระบบ infotainment ของตัวเองเข้าไป หน้าจอของระบบออกแบบใหม่หมด มีฟีเจอร์อย่างการแสดงวิดีโอจากกล้องด้านหน้า-หลังของตัวรถ, ระบบนำทางแบบเรียลไทม์, การแจ้งเตือนสายเข้าและข้อความใหม่ รับสายหรือฟังข้อความโดยกดปุ่มเฉพาะที่พวงมาลัยรถยนต์, สั่งงานด้วยเสียงได้แม้เปิดเพลงอยู่, เช็คข้อมูลสถานะของตัวรถ

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ และบริษัทไอทีอย่างกูเกิลเริ่มพูดถึงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งบางเจ้าได้เริ่มทดลองวิ่งไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเจ้าใหญ่รายไหนทำท่าจะขายจริงได้ในเร็ววันซักราย

ล่าสุดเป็น Induct Technology บริษัทผู้พัฒนาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ และยานพาหนะ สัญชาติฝรั่งเศส ได้เปิดตัว Navia รถยนต์ไร้คนขับที่มีวางขายจริงเป็นรายแรกของโลกแล้ว

ตัว Navia นั้นไม่ได้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลอย่างที่ผู้ผลิตรายอื่นกำลังพัฒนากัน แต่เป็นส่วนผสมระหว่างรถกอล์ฟกับมินิบัสที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ ทำความเร็วได้มากกว่า 12 ไมล์ต่อชั่วโมง บรรทุกได้ครั้งละ 8 คน และสามารถชาร์จไฟแบบไร้สาย โดยใช้การเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

เว็บค้นหาทางเลือก DuckDuckGo สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องความเป็นส่วนตัว ออกมาเปิดเผยสถิติของปี 2013 ว่าทราฟฟิกเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัว โดยตลอดทั้งปี 2013 มีผู้ใช้งาน DuckDuckGo เกินกว่า 1 พันล้านครั้ง (นับตามจำนวนครั้งที่ค้นหา - ดูกราฟประกอบ สองช่องฝั่งขวาสุดตั้งแต่ตัว I เป็นต้นไป)

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญคือข่าว Edward Snowden ที่เปิดเผยเรื่องการสอดแนมของ NSA ในช่วงกลางปี ซึ่งหลังจากนั้นคนที่ตื่นตัวเรื่องความเป็นส่วนตัวก็หันมาใช้ DuckDuckGo กันเยอะขึ้นมาก และล่าสุด DuckDuckGo เพิ่งสร้างสถิติใหม่ มีคำค้นมากเป็นประวัติการณ์ 4.4 ล้านครั้งในวันที่ 7 มกราคม 2014

หลังจากมีข่าวว่าเอเซอร์จะควบรวมกิจการกับเอชทีซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานบริษัทเอเซอร์ Stan Shih ให้สัมภาษณ์กับสื่อไต้หวันว่าไม่มีแผนการดังกล่าวและไม่เคยมีความมุ่งหมายที่จะควบรวมกับเอชทีซี

Shih ยังกล่าวว่าในอนาคตบริษัทจะเน้นแพลตฟอร์ม BYOD ของตน และ Jason Chen ซีอีโอคนใหม่จะเปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินการใหม่ในสัปดาห์นี้

หากใครจำกันได้ เคยมีข่าวลือว่าเอเซอร์จะควบรวมกิจการกับเอซุสเพื่อความอยู่รอดของทั้งสองบริษัท

ที่มา: DigiTimes

Steve Wozniak ผู้ก่อตั้งแอปเปิลไปเยี่ยมชมบริษัท Xiaomi ที่ประเทศจีนหลังจากได้รับคำเชิญจากบริษัท โดยเขาขึ้นพูดต่อหน้าสื่อมวลชนที่มาทำข่าวว่าผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi ยอดเยี่ยม และสามารถบุกตลาดอเมริกาได้แล้ว บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่ดี และสินค้าต่างๆ ที่บริษัททำออกมาขายก็เป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับอนาคตข้างหน้า

เขายังบอกว่าตอนนี้เป็นเจ้าของมือถือตัวล่าสุด Xiaomi Mi3 แม้จะเพิ่งเริ่มใช้งานแต่เขาก็ประทับใจมันมาก

ส่วน Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ก็บอกว่าเขาชื่นชม Wozniak มานานแล้ว และเชิญเขามาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานของบริษัท

ที่มา - PC World

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือช่วงเย็นของวันที่ 10 ม.ค. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา (บ้านเราก็ตรงกับวันเสาร์ 11 ม.ค.) Dropbox มีปัญหาเข้าใช้งานไม่ได้ ซึ่งบริษัทอธิบายว่าเกิดจากปัญหาระหว่างการซ่อมบำรุงตามแผนงานปกติ (routine internal maintenance) และรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยมีผู้ใช้บางส่วนกลับมาใช้งานได้ และผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่งที่ยังพบปัญหา

ระบบกลับมาเป็นปกติเกือบทั้งหมด (99%) ในวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค. ช่วงเย็นตามเวลาสหรัฐ โดย Dropbox เลือกปิดฟีเจอร์แสดงผลภาพบน dropbox.com ออกไปก่อน (แต่ยังดูได้เป็นไฟล์ปกติ) สำหรับสถานะล่าสุดของ Dropbox สามารถดูได้จากลิงก์ที่มา

ที่มา - Dropbox Blog

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าบริษัทเตรียมกลับไปเน้นขายมือถือมีคีย์บอร์ดมากกว่าเดิม

เขาบอกว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาชอบคีย์บอร์ด และในอนาคตมือถือ "ส่วนใหญ่" ของบริษัทก็จะมีคีย์บอร์ด แทนที่จะเน้นจอสัมผัสเหมือนมือถือ BB10 ในปัจจุบัน (แนวทางการใช้มือถือมีคีย์บอร์ดอาจเหมาะสมสำหรับเป้าหมายของ BlackBerry ที่จะกลับไปเน้นลูกค้าภาคองค์กรและภาครัฐบาล)

เขายังพูดถึงข้อตกลงกับ Foxconn ว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสต๊อกสินค้าและการกระจายสินค้าในหลายๆ ประเทศให้ BlackBerry

ที่มา - Bloomberg

The Register ยังคงเกาะติดความเห็นของผู้บริหารบริษัทต่างๆ ในประเด็นการใช้เซิร์ฟเวอร์ ARM ตอนนี้เป็นการสัมภาษณ์ Mike Neil ผู้จัดการ Windows Azure

Neil ระบุว่าแม้เซิร์ฟเวอร์ ARM จะเป็นเทคโนโลยีใหม่แต่ยังหาความแตกต่างไม่ได้ และ
งานที่เหมาะจะรันบน ARM เป็นความท้าทายใหญ่ของเซิร์ฟเวอร์ ARM เอง ขณะที่คุณค่าสำคัญของธุรกิจคือความต่อเนื่อง การทำฮาร์ดแวร์เฉพาะทางเพื่องานเฉพาะทางบางอย่าง (แบบที่ผู้บริหารของ Calxeda แนะนำ) เมื่อนำเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เข้าสู่กองกลางของทรัพยากรแล้วจะไม่สามารถรับงานประเภทอื่นๆ ได้ ขณะที่ผู้ให้บริการส่วนมากมักพยายามสร้างกองกลางทรัพยากรขนาดใหญ่

ในงาน CES 2014 นั้นนอกจากจะมีสินค้าที่เปิดตัวเพื่อวางจำหน่ายจริงแล้ว ยังมีสินค้าที่เปิดตัวเพื่อประกาศระดมทุน อย่างเช่นตัวที่จะพูดถึงต่อไปนี้ นั่นคือสายชาร์จ JUMP จาก Native Union นั่นเอง

สายชาร์จ JUMP นั้นไม่ได้เป็นแค่สายชาร์จธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่ในตัว JUMP นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 800 mAh ที่สามารถชาร์จ iPhone ได้ประมาณ 30% ของความจุของเครื่องทั้งหมด ความเจ๋งของมันอยู่ที่เทคโนโลยี AutoCharge ซึ่งหลักการของมันคือ เมื่อโทรศัพท์ของเราชาร์จจนเต็มแล้ว ไฟฟ้าบางส่วนจะย้ายจากเข้าเครื่องโทรศัพท์มาชาร์จตัวแบตเตอรี่

ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับบริการ Beats Music มานานพอสมควรแล้ว แต่กลับยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดให้บริการในวันไหน และมีข่าวลือว่ากูเกิลอาจจะตัดหน้าด้วยการเปิดบริการ YouTube Music

Cube เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกได้ว่ามันคือหลอดดูดสีในโลกแห่งความจริง ทุกสีที่อยู่รอบตัวจะถูกจับมาสู่คอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ตลาดแท็บเล็ตขนาดหน้าจอแถวๆ 8 นิ้ว ในปี 2013 นั้น ถือว่ารบกันได้ดุเดือดพอสมควรในฝั่ง iOS และ Android แต่สำหรับฝั่ง Windows นั้น ก่อนการเปิดตัว Windows 8.1 ยังถือว่ายากเพราะตัว Windows 8 เองยังไม่พร้อมสำหรับอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก แต่ทว่าในตอนนั้นก็มี Acer ที่กล้าตัดสินใจนำ Windows 8 มาอัดลงจอขนาด 8 นิ้ว เปิดตัวลงตลาดนี้เป็นรายแรกในชื่อ Iconia W3 ซึ่ง W3 ก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ดตัวหนึ่งที่ประสบความสำเร็จพอสมควร และพิสูจน์ความเป็นไปได้ของแท็บเล็ตสาย Windows และสถาปัตยกรรม x86 ในหน้าจอเล็กๆ ได้ในหลายๆ ทาง

กลับมาที่เดือนตุลาคม เดือนที่ทุกอย่างน่าจะพร้อมแล้วสำหรับทุกอย่าง หลังการเปิดตัว Windows 8.1 และ Intel Atom ผู้ผลิต 4 ยี่ห้อก็พร้อมใจกันเปิดตัวแท็บเล็ตชุดแรกส่งท้ายปีออกมา

กูเกิลเผยสถิติของผู้ใช้ Android จนถึงวันที่ 8 มกราคม (รวมช่วงเทศกาลวันหยุดยาวรับปีใหม่ไปแล้ว) โดยในสถิติดังกล่าวสรุปได้คร่าว ๆ ว่า Android 4.1 ถึง 4.3 Jelly Bean มีส่วนแบ่งไปแล้ว 59.1% ซึ่งสูงขึ้นจากรอบที่แล้ว 13.4%

ถ้าเจาะเข้าไปในตระกูล Jelly Bean นั้น มีผู้ใช้ Android 4.1 มากที่สุดที่ 35.9% รองลงมาเป็น Android 4.2 และ 4.3 ที่ 15.4% และ 7.8% ตามลำดับ สำหรับรายละเอียดของส่วนแบ่งของผู้ใช้ Android แบบเรียงตามลำดับยอดผู้ใช้ มีดังต่อไปนี้

Stephen Wolfram แห่ง Wolfram Alpha ประกาศโครงการใหม่ชื่อ Wolfram Connected Devices Project ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลที่เก็บรายละเอียดของอุปกรณ์ใดๆ ในโลกที่ต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ นาฬิกา อุปกรณ์ด้านการแพทย์หรือกีฬา ฯลฯ

เป้าหมายของโครงการนี้คือต้องการให้อุปกรณ์ทุกประเภทสามารถสื่อสารกับภาษาโปรแกรม Wolfram Language ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้บรรยาย-พรรณนาข้อมูล แต่จุดเริ่มต้นก็ต้องทราบก่อนว่าอุปกรณ์ที่จะคุยกันมีข้อมูลทางเทคนิคอย่างไรบ้าง