LineageOS โครงการรอมโมที่สืบทอดมาจากยุค Cyanogen ประกาศออกเวอร์ชัน 17.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันเสถียรตัวแรกที่พัฒนาบน Android 10

ทีมงาน LineageOS บอกว่าตั้งใจใช้เลขเวอร์ชัน 17.1 ไม่ใช่ 17.0 เพราะไม่ได้พัฒนาจาก Android 10 ตัวแรก แต่เป็น Android 10 เวอร์ชันอัพเดตแพตช์รอบเดือนธันวาคม ทำให้ขยับเลขเวอร์ชันมาเป็น 17.1 แทนเพื่อสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้มีอุปกรณ์ที่ได้รอม LineageOS 17.1 อย่างเป็นทางการแล้วหลายตัว สามารถอัพเกรดมาจาก LineageOS 16.0 ได้ตรงๆ เลย เช็ครายชื่อได้จากที่มา

และแล้วก็มีคนสามารถนำ Android ไปรันบน Nintendo Switch ได้สำเร็จ โดยสมาชิกบอร์ด xda ชื่อ langer hans และ bylaws ประสบความสำเร็จในการนำรอม LineageOS 15.1 บูตขึ้นบน Switch แล้ว

เงื่อนไขของการรัน Android บน Switch จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นแรกๆ (วางขายก่อนเดือนกรกฎาคม 2018) ที่ไม่ล็อคเครื่อง และติดตั้งไฟล์ผ่าน SD card เพื่อใช้บูตเข้าระบบ

ข้อดีของ Android บน Switch คือมันรองรับแอพพลิเคชันของเครื่องเกม NVIDIA Shield ด้วย (เพราะใช้ชิป Tegra เหมือนกัน) ทำให้เราสามารถนำเกมบน Shield (เช่น Half-Life) ไปเล่นแบบพกพาบน Switch ได้เลย และหากเรามีบัญชีเกมสตรีมมิ่ง GeForce Now ก็สามารถเล่นบน Switch ได้เช่นกัน

หลังจากพัฒนากันมาหลายเดือน ทีมงาน LineageOS ก็ประกาศออกเวอร์ชัน 15.1 ตัวจริง ที่พัฒนาจากฐานของ Android 8.1 Oreo ตัวล่าสุดในปัจจุบัน

ฟีเจอร์สำคัญของ LineageOS 15.1 (ที่ไม่นับรวมฟีเจอร์ของ Oreo) คือการปรับโค้ดให้รองรับ Project Treble เพื่อให้ง่ายต่อการอัพเกรดเวอร์ชันในอนาคต โละโค้ดเก่าที่ไม่ถูกใช้งานเพื่อให้ระบบปฏิบัติการเรียบง่ายมากขึ้น

ฟีเจอร์อื่นๆ คือ LiveDisplay การปรับโหมดแสดงผลและธีมตามช่วงเวลา (light สำหรับกลางวัน, dark สำหรับกลางคืน), Trebuchet launcher เวอร์ชันใหม่, แอพกล้องรองรับการสแกน QR แล้ว

LineageOS โครงการผู้สืบทอดจิตวิญญาณจาก CyanogenMod มีอายุครบ 1 ปีแล้ว

ทางโครงการสรุปสถิติในหนึ่งปีแรก มีอุปกรณ์ที่รองรับ 180 รุ่นจาก 23 ยี่ห้อ, มีอุปกรณ์ใช้งาน 1.7 ล้านเครื่องในรอบ 90 วันล่าสุด, มีผู้ร่วมพัฒนามากกว่า 700 คน โดย 65% ทำงานด้านแปลภาษา

5 อันดับแรกของอุปกรณ์ยอดนิยมในโลกของ LineageOS ได้แก่ OnePlus One, Galaxy S3, Redmi Note 4, Moto G 2015, Galaxy S5 และประเทศที่มีผู้ใช้งานเยอะที่สุดคือ อินเดีย จีน บราซิล รัสเซีย เยอรมนี

ที่มา - LineageOS

ผ่านไปไม่นานหลังเดือนที่แล้ว Lineage OS มียอดผู้ใช้เกิน 5 แสนเครื่อง ล่าสุดยอดผู้ใช้สูงเกิน 1 ล้านเครื่องแล้ว (ณ เวลาเขียนคือราว 1 ล้านกับอีก 25,000 เครื่อง)

อุปกรณ์ที่มีการใช้งานมากที่สุดยังคงเป็น OnePlus One (Bacon) ที่ราว 67,000 เครื่อง ตามมาด้วย OnePlus 3 ที่ราว 39,229 เครื่อง, Galaxy S3 (i9300) ที่ 39,218, Redmi Note 3 (Kenzo) ที่ราว 38,000 เครื่องและ Galaxy S5 (klte) ที่ราว 31,000 เครื่อง

ที่มา - Lineage OS Stats via Android Police

เรียกว่าค่อยๆ ฟื้นฟูฐานผู้ใช้กลับมาอย่างรวดเร็วกับ Lineage OS ร่างใหม่ของ CyanogenMod ล่าสุดมีเครื่องที่ใช้งานรอมตัวนี้เกิน 5 แสนเครื่องแล้ว (ประมาณ 5.2 แสนเครื่องขณะที่เขียนข่าวนี้ และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ)

ฮาร์ดแวร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้ใช้ Lineage OS คือ OnePlus One (bacon) จำนวน 4 หมื่นเครื่อง ตามด้วย Redmi Note 3 (kenzo) และ OnePlus 3 อย่างละประมาณ 2 หมื่นเครื่อง

ในช่วงที่ CyanogenMod รุ่งเรืองมากๆ เคยมีผู้ใช้งานมากถึง 10 ล้านเครื่อง

ที่มา - Lineage OS Stats, Android Police

LineageOS ผู้สืบทอด CyanogenMod หลังจากเคยปล่อยรอมรุ่นทดสอบไปช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ปล่อยรอมตัวจริงแล้ว

รอมที่ถูกปล่อยออกมาก่อนมีของ Nexus 6P, Nexus 5X, Moto G4 และ G4 Plus, Moto X Pure Edition, Moto E, Nextbit Robin, OnePlus One, Samsung Galaxy S3, Xiaomi Redmi 1S, Mi3W และ Mi4 โดยจะมีรุ่นอื่นๆ ตามมาในภายหลัง

สำหรับเลขเวอร์ชัน LineageOS ยังคงเรียงต่อจากสมัยรอมของ Cyanogen อย่างเวอร์ชันล่าสุดคือ 14.1 สำหรับ Nougat 7.1 และ 13.0 สำหรับ Marshmallow 6.0 ซึ่งรอมที่ปล่อยออกมาก่อนนั้นมี 2 รุ่นคือ Nightly กับ Experimental โดยรุ่น Experimental มีไว้สำหรับแฟลชทับ Cyanogen 13 และ 14.1

ข่าวดีของผู้ใช้ CyanogenMod ที่ถูกปิดเว็บไปแล้ว เพราะฝั่งของโครงการใหม่ Lineage OS เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว

ถึงแม้หน้าเว็บของ Lineage OS ยังไม่เรียบร้อยดี (โลโก้ก็ยังไม่มี มีแต่โลโกชั่วคราวรูปหัว Android) แต่แกนหลักของโครงการคือตัวรอม Lineage OS ก็เริ่มออกรุ่น Nightly Build มาให้ทดลองใช้งานกัน (นับเวอร์ชันเป็น 14.1 ต่อจาก CM) ตัวซอร์สโค้ดอยู่บน GitHub และเริ่มมีนักพัฒนารอม build ไฟล์มาแจกบนฟอรั่มของ XDA บ้างแล้ว

ต่อจากข่าว ปิดตำนาน Cyanogen และ CyanogenMod ทีมงานแยกไปทำโครงการใหม่ Lineage

เดิมที Cyanogen Inc. จะหยุดให้บริการเซิร์ฟเวอร์กับ CyanogenMod ในวันที่ 31 ธันวาคม 2016 แต่หลังข่าวประกาศออกไปวันเดียว เว็บไซต์ CyanogenMod ก็ใช้งานไม่ได้แล้วจากปัญหา DNS ซึ่งคาดว่าทาง Cyanogen Inc. ไม่พอใจและปิดเซิร์ฟเวอร์ก่อนกำหนด (อย่างไรก็ตาม บัญชี Twitter ของ @CyanogenMod ดูจะยังเป็นของทีมงาน CyanogenMod อยู่)

บริษัท Cyanogen Inc. ประกาศหยุดออกรอม Cyanogen OS, ปิดเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้คอมไพล์รอมและให้ดาวน์โหลดรอม, ปิดเซอร์เวอร์ที่ให้บริการออนไลน์อื่นๆ ทั้งหมดในวันที่ 31 ธันวาคม 2016 และขอให้ผู้ใช้ย้ายไปใช้รอมโอเพนซอร์ส CyanogenMod แทน

แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ฝั่งโครงการ CyanogenMod ที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ของบริษัท Cyanogen ก็ประกาศแยกตัว (fork) ไปทำโครงการใหม่ชื่อ Lineage โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการผูกกับแบรนด์ Cyanogen ที่อาจขายต่อให้บริษัทอื่นๆ ในอนาคต ไหนๆ Cyanogen ต้องปิดตัวแล้ว ขอไปเริ่มสร้างแบรนด์ใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยดีกว่า