Tags:
Node Thumbnail

สถานการณ์ยังไม่ผ่านพ้นสำหรับ Facebook ที่ต้องรับแรงวิจารณ์เรื่องข่าวปลอมที่ Facebook ปล่อยให้มีที่ยืนบนหน้าฟีด นำมาสู่ชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์

แม้ Mark Zuckerberg ออกมายืนยันว่าพื้นที่เนื้อหาข่าวบนฟีด 99% เป็นเนื้อหาจริง-ข่าวจริง ส่วนข่าวปลอมนั้นมี ไม่ปฏิเสธ แต่ไม่มีพลังพอที่จะพลิกโผการเลือกตั้ง

ล่าสุดมีข่าวว่าบรรดาพนักงานใน Facebook ตั้งทีมทำงานต่อต้านข่าวปลอมอย่างลับๆ รวมถึงทบทวนบทบาทหน้าที่ของ Facebook เองว่าควรทำอย่างไร และ Facebook มีเครื่องมือกำจัดข่าวปลอมที่เพียงพอจริงหรือไม่

ท่าทีนี้สวนทางกับคำพูดของ Mark Zuckerberg ที่เคยพูดในที่ประชุมภายในองค์กรว่า ข้อกล่าวหา Facebook ช่วยให้ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมาแล้ว

No Description
ภาพจาก Facebook Mark Zuckerberg

เว็บไซต์ Buzzfeed รายงานว่ามีพนักงาน 5 คนที่ไม่ประสงค์ออกนาม ให้สัมภาษณ์ว่ากำลังฟอร์มทีมทำงานตรงนี้ และไม่ได้มีแค่เพียง 5 คนนี้ แต่ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกมาก พนักงานคนหนึ่งกล่าวว่า มีพนักงานอีกเป็นร้อยที่ไม่พอใจบทบาทของ Facebook ที่ปล่อยให้ข่าวปลอมมีที่ยืนบนแพลตฟอร์ม และพวกเขาต้องการจะเปลี่ยนแปลงมัน

ฺก่อนหน้านี้ Buzzfeed เคยรายงานว่าหน้าฟีดมีข่าวจากฝ่ายใดบ้าง เช่น ซ้ายและขวา พบว่าข่าวจากแหล่งข่าวหลัก 3 แหล่งฝั่งซ้าย เป็นข่าวข้อมูลผิดถึง 20% ส่วนฝั่งขวา จาก 3 แหล่งข่าวเช่นกัน เป็นข่าวที่ให้ข้อมูลผิดๆ ถึง 38% ในรายงานยังสรุปทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า วิธีดีที่สุดในการดึงดูดความสนใจของชาวโซเชียลให้สนใจการเมืองคือ หลีกเลี่ยงการนำเสนอความจริง แต่ต้องนำเสนอในสิ่งที่พวกเขาอยากได้ยิน

"ในขณะที่เรามีเครื่องมืออัตโนมัติ ที่คอยปักธงว่ามีคนโพสต์เนื้อหารุนแรง โป๊เปลือย แล้วการที่คนแชรเรื่องฮิลลารีว่าจ้างแรงงานผิดกฎหมายที่เป็นผู้อพยพ แล้วเชื่อในสิ่งที่เขาแชร์นั้น ไม่น่ากลัวกว่าหรือ" พนักงานคนหนึ่งบอก Buzzfeed

อีกประเด็นหนึ่งที่ Facebook โดนเพ่งเล็งคือ เหตุผลที่ไม่จัดการกับข่าวปลอมอย่างจริงจัง เพราะต้องการประนีประนอมกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม เรื่องนี้คาดกันว่าเป็นผลมาจากข่าวเก่าที่ว่า Facebook มีคนคอยคัดกรองเนื้อหา ทำให้เนื้อหาฝ่ายขวาไม่มีที่ยืนบน Facebook ซึ่งเป็นประเด็นร้อนถึงซีอีโอออกมาย้ำว่าเราเปิดกว้างทางการเมือง หลังจากนั้นมีการไล่พนักงานคัดกรองออก เปลี่ยนมาใช้อัลกอริทึมแทน และนั่นเป็นจุดที่ทำให้ข่าวปลอมเข้ามามีพื้นที่มากขึ้นบน แพลตฟอร์มที่มีชาวอเมริกันใช้งาน 150 ล้านคน

No Description
ภาพจาก StockSnap.io

ที่มา - Bussfeed, Slate

Get latest news from Blognone

Comments

By: Adios2nd
iPhoneWindows PhoneWindows
on 16 November 2016 - 23:27 #954215
Adios2nd's picture

ที่ออกมาเต้น เพราะฝั่งที่ตัวเองเชียร์ แพ้ป่ะครับ?

อันนี้เห็นชัดว่า การเมืองเข้ามากดดันบริษัท

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 17 November 2016 - 00:34 #954218

Buzzfeed น่าจะแก้ปัญหาการเอียงและบิดเบือนเนื้อหาของตัวเองก่อนจะดีกว่า

By: cero5558
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 17 November 2016 - 06:59 #954226
cero5558's picture

facebook จะพิสูจน์ได้อย่างไร ว่าข่าวไหนจริงหรือเท็จ กว่าจะพิจารณาได้แต่ละข่าวก็คงต้องใช้เวลาน่ะ

By: ch.krich
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 17 November 2016 - 15:18 #954342 Reply to:954226
ch.krich's picture

เวลามีข่าวออกมา ก็มักจะมีคนออกมาพิสูจน์อยู่แล้วครับ พวกสำนักข่าวฝ่ายตรงข้ามก็มี สิ่งสำคัญคือจะทำให้ยังไงให้ข่าวที่แก้ข่าวปลอมได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางเพียงพอที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจอย่างถูกต้องได้ ในไทยก็มีหลายตัวอย่างที่คนโดนกระแสสังคมจนแทบอยากตาย แต่เวลาข่าวพลิกกลับไม่สามารถแก้ข่าวได้ทั่วถึงครับ

By: alph501
iPhoneWindowsIn Love
on 17 November 2016 - 09:48 #954243
alph501's picture

แต่เอาจริงๆ ไอ้ข่าวที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ใต้โพส บางครั้งก็ช่วยได้เหมือนกันนะ

By: langisser
In Love
on 17 November 2016 - 09:54 #954245 Reply to:954243

ก็พอได้ครับ ถ้าข่าวนั้นเกิดขึ้นมาสักพักแล้ว
เพราะถ้าเป็นวันแรกๆ ข่าวแทบจะเหมือนกันหมดเพราะต้องรีบเขียนมั้ง

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 17 November 2016 - 11:57 #954280

แต่พวก ClickBait มันหาเงินได้เยอะจริงๆ นะครับ เยอะกว่าเว็บข่าวอีก เฟสบุ๊คเองก็คงไม่อยากจะเอาส่วนแบ่งการตลาดตรงนี้ทิ้งหรอกมั้งครับ

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 17 November 2016 - 14:54 #954334
panurat2000's picture

การที่คนแชรเรื่องฮิลลารี

แชร => แชร์