Tags:
Node Thumbnail

เว็บไซต์ Business Insider รายงานข่าวว่า ไมโครซอฟท์ยกเลิกโครงการแว่น HoloLens 3 ไปตั้งแต่ปี 2021 และเปลี่ยนยุทธศาสตร์มาจับมือกับซัมซุงพัฒนาแว่นแทน (ข่าวของซัมซุงก็ยังเป็นข่าวลือ ไม่เคยยืนยันเป็นทางการ)

เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ยกเลิก HoloLens 3 เป็นเพราะเป้าหมายของบริษัทก็ไม่ชัดเจนว่าต้องการทำอะไรกันแน่ ฝ่ายหนึ่งในบริษัทอยากทำเฉพาะซอฟต์แวร์ ในขณะที่อีกฝ่ายอยากให้ทำฮาร์ดแวร์ด้วย การยกเลิกยังส่งผลให้ทีม HoloLens หลายคนลาออกไปอยู่กับ Meta ที่ยังมุ่งมั่นผลักดันธุรกิจ VR/AR อย่างหนัก

โฆษกของไมโครซอฟท์ให้ความเห็นกับข่าวนี้ว่า บริษัทยืนยันว่าจะทำธุรกิจ HoloLens ต่อไป

ฝั่งซอฟต์แวร์ VR/AR ของไมโครซอฟท์มี Microsoft Mesh ที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2021 เป็นแพลตฟอร์มสร้างโลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ แต่พอปลายปี 2021 ก็ถูกลดสเกลลงมาเป็นระบบอวตารใน Microsoft Teams

No Description

ที่มา - Business Insider, PCWorld

Get latest news from Blognone

Comments

By: Mario on 3 February 2022 - 10:01 #1239498

ฝ่ายหนึ่งในบริษัทอยากทำเฉพาะซอฟต์แวร์ ในขณะที่อีกฝ่ายอยากให้ทำซอฟต์แวร์ด้วย

แบบนี้หรือเปล่าครับ

ฝ่ายหนึ่งในบริษัทอยากทำเฉพาะซอฟต์แวร์ ในขณะที่อีกฝ่ายอยากให้ทำฮาร์ดแวร์ด้วย

By: mk
FounderAndroid
on 3 February 2022 - 10:56 #1239508 Reply to:1239498
mk's picture

แก้ละครับ ขอบคุณครับ

By: Mr.EYE on 3 February 2022 - 10:36 #1239502

ของดีขนาดนี้ก็ งง เด้ งง เด้

By: akira on 3 February 2022 - 11:05 #1239507 Reply to:1239502

เขาคิดดีแล้วแหล่ะครับ Microsoft ได้งานสเกลใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐสำหรับอุปกรณ์ HoloLens การที่บริษัทต้องรับภาระทั้ง SW และ HW ในโครงการด้วยมันมีความเสี่ยงมากเกินไป เฉพาะ HW ในโครงการที่สั่งซื้อก็ระดับหลายสิบล้านชุด (เฉพาะโครงการเริ่มต้นนะครับ ยังไม่รวมถ้ามีการต่อยอดกันอีก) การหา partner มาช่วยแบ่งเบาภาระน่าจะดีกว่า

Microsoft เองก็มีประสบการณ์แย่ๆ มาจากการ handle supplier ไม่ได้จนทำให้เกิดปัญหาใน Surface Pro 4 มาแล้วก็คงรู้ตัวเองดีว่าถ้าทำเองแล้วเกิด issue ที่ควบคุมไม่ได้จ่ายค่าปรับอานแน่ๆ ก็เลยต้องกระจายความเสี่ยงกันไป ซึ่งทาง Samsung ก็น่าจะพร้อมเสี่ยงด้วยอยู่แล้วเพราะมี supplier ในมือที่เป็นบริษัทในเครืออยู่แล้ว win-win ทุกฝ่าย ส่วนที่ย้ายไป meta น่าจะเป็นส่วนที่ดู HW อยู่ เอาจริงๆ นะ งาน AR/VR ในระดับ Ent หลักใหญ่มันอยู่ที่ SW และ Infra เลย ส่วน HW ต่อไปก็คงเปิดเป็น open platform ใครผลิตก็ได้ เพื่อลดต้นทุน และขยายตลาดเป็น consumer ผมคิดว่าอย่างนั้น ลองไปดูประวัติคอมพิวเตอร์ช่วงแรกๆ สิครับ ผมว่ามันกำลังย้อนกลับมาวนลูปอีกรอบนึง เพียงแต่เปลี่ยนจากคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ AR/VR

By: IDCET
Contributor
on 3 February 2022 - 11:03 #1239512

กลับมาเป็นแบบ Microsoft Watch, Windows Phone และ Zune อีกแล้วเหรือเนี่ย น่าเบื่อมาก เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยแบบนี้เสียทีทั้งองค์กรเลย


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: whitebigbird
Contributor
on 3 February 2022 - 11:19 #1239516 Reply to:1239512
whitebigbird's picture

จุดกระแสไม่ติดเพราะผูกติดกับหลายอย่างมากเกินมั้งครับ คงนึกว่าตัวเองเป็นแอปเปิล หรือไม่ก็อยากเป็นแอปเปิลอ่ะนะ

By: pmakblognone on 3 February 2022 - 14:32 #1239571

อยู่ดี ๆ Oculus (2) Quest 2 ที่ Update Version มาที่ละหน่อย ทีละหน่อย จนทำ Function AR (Passthrough) ใน VR ที่มีราคาแค่หมื่นกว่าบาทได้ ถึงแม้ตอนนี้ จะเป็นแค่ โหมดขาวดำก็ตาม แต่ VR ของ Meta รุ่นหน้า Project Crambria ที่กำลังจะออกอย่างช้าปีหน้า มาเป็น AR แบบเต็ม ๆ Color Passthrough ซึ่งราคาน่าจะอยู่ราว ๆ 3-4 หมื่นบาท Halo Lens ตัวละแสนกว่า ก็ต้องถอยซิ่ครับ

By: akira on 3 February 2022 - 16:47 #1239588 Reply to:1239571

พนันกับผมไหมล่ะ ว่าสุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ ผมถือหาง Microsoft กับ Apple นะ

By: pmakblognone on 4 February 2022 - 11:08 #1239655 Reply to:1239588

รับคำท้าครับ บริษัทที่มี Vision ทำมาเกือบ 10 ปี และพอประกาศ Metaverse ปุ๊ป ก็รับคนทำงานเพิ่มอีกเป็นหมื่นคน กับบริษัทที่เพิ่งออกมา 2-3 รุ่น และกับบริษัทที่กำลังจะเริ่มเข้าวงการ พนันกันก็ดี มีข่าวออกมาจะได้ไว้ปลัฟกันสนุก ๆ

By: Lightwave
iPhoneAndroidWindows
on 3 February 2022 - 15:34 #1239580

ต้องรอ apple มาทำก่อนใช่ไหม ถึงจะปัง