เว็บไซต์ MailOnline ในเครือของหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ Daily Mail เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดซึ่งไปสอบถามความคิดเห็นของชาวอเมริกันกว่า 2 หมื่นคนระบุว่า ผู้ที่ซื้อ iPad มาครอบครองเป็นเจ้าของ โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นคนที่มีนิสัยใจร้าย ไม่มีความเมตตากรุณาปรานี และไม่ค่อยจะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ผู้ดำเนินการสำรวจความเห็นระบุว่า เจ้าของ iPad โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีฐานะดี มีการศึกษาสูง มีลักษณะนิสัยใฝ่อำนาจ ชอบความสำเร็จ เจนโลก ใจร้าย และไม่คำนึงถึงจิตใจผู้อื่น โดยเขาได้ให้เหตุผลว่า เนื่องด้วยราคาของ iPad ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งมีตั้งแต่ 499-829 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6–2.6 หมื่นบาท) เป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้พวกบรรดาลูกค้ามักจะมีนิสัยแบบนั้น

สถาบัน Royal School of Artillery ในอังกฤษ เริ่มใช้ iPad เป็นเครื่องมือประกอบการเรียนการสอนวิชายิงปืนใหญ่ของนายทหาร จากเดิมที่ผู้เรียนได้แต่ดูสไลด์บนจอ ก็จะได้ฝึกซ้อมการวางเป้าปืนผ่าน app เฉพาะทางบน iPad

Jason Markham นายทหารซึ่งปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน เล่าให้ผู้สื่อข่าว BBC ฟังว่าการเรียนแบบนี้สนุกกว่าดูบนจอเฉยๆ และเป็นการฝึกซ้อมไปในตัว ช่วยให้เขาปฏิบัติการยิงสนับสนุนได้ดีขึ้น

Rich Gill หนึ่งในทีมงานที่พัฒนาโปรแกรมตัวนี้ อธิบายว่าการสอนผ่านโปรแกรมจะช่วยลดระยะเวลาในการฝึกซ้อมลงได้เยอะมาก

ที่มา - BBC

หลังจากแอปเปิลวางขาย iPad ที่สิงคโปร์ (ข่าวเก่า) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของสิงคโปร์ทั้ง 3 ราย ได้แก่ SingTel M1 และ StarHub ก็พร้อมใจเปิดตัวโปรโมชั่นบริการ 3G พร้อม microSIM เพื่อเอาใจผู้ใช้ iPad รุ่น WiFi + 3G โดยแต่ละรายมีโปรโมชั่นแตกต่างกันไป มีทั้งแบบสัญญา 2 ปี และแบบจ่ายล่วงหน้า (หรือ prepaid) และบางรายมีโปรโมชั่นแบบไม่จำกัดขนาดของข้อมูลที่รับส่งในราคาไม่เกิน 900 บาท สำหรับท่านที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดได้ที่แหล่งข่าว

ที่มา - SingTel, M1, และ StarHub

Reuters รายงานว่า LG ไม่สามารถที่จะผลิตจอภาพ IPS สำหรับ iPad ไม่ทันกับคำสั่งซื้อจากแอปเปิล โดยอาจจะส่งผลให้แอปเปิลจำเป็นที่จะต้องชะลอการเปิดตัว iPad ในตลาดอื่น ๆ

นอกจากนี้ LG ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่าบริษัทกำลังจะเดินสายการผลิตสำหรับจอ iPad เพิ่มเติมในอนาคตอย่างแน่นอน แต่คาดว่าจำนวนจอภาพอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการไปจนถึงต้นปีหน้า

ในวันนี้แอปเปิลเองก็ได้เริ่มวางขาย iPad ในประเทศต่าง ๆ รอบโลกเพิ่มเติมอีกเก้าประเทศ และยังกล่าวอีกว่าความต้องการ iPad ยังสูงกว่าจำนวนที่สามารถผลิตออกมาได้ โดยคาดว่า iPad จะสามารถขายได้ประมาณหนึ่งล้านเครื่องต่อเดือน

ข่าวนี้อาจจะช้าไปหน่อย แต่น่าจะช่วยให้ชาวไทยหลายๆ คนที่รอ iPad อยู่พอจะเตรียมเงินล่วงหน้าได้

เจ้าอุปกรณ์สุดฮิตที่หลายคนกำลังรอคอยว่าเมื่อไหร่จะเข้าไทยสักทีอย่าง iPad จะถูกวางขายที่สิงคโปร์ในวันศุกร์นี้หรือวันพรุ่งนี้นั่นล่ะครับ พร้อมๆ กับอีก 8 ประเทศเช่น ออสเตรีย ฮ่องกง เม็กซิโก เป็นต้น โดยสนนราคาจะอยู่ที่

WiFi
16GB : 728 SGD (17,304 บาท)
32GB : 878 SGD (20,870 บาท)
64GB : 1028 SGD (24,435 บาท)

WiFi + 3G
16GB : 928 SGD (22,058 บาท)
32GB : 1078 SGD (25,624 บาท)
64GB : 1228 SGD (29,189 บาท)

Microsoft User Research เปิดรับสมัครผู้ใช้ iPad ผ่านทาง Facebook เพื่อเข้ามาศึกษาเก็บข้อมูลรูปแบบการใช้งานที่เรดมอนด์ระหว่างวันที่ 16 ถึง 21 ก.ค. นี้

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าไมโครซอฟท์คิดจะเก็บข้อมูลไปทำอะไร หวังว่าคงจะเป็น Courier นะ XD

ที่มา: TechCrunch

Yoot Saito นักพัฒนาเกมชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนพัฒนาเกม SimTower เกมสร้างตึกชื่อดังให้กับ Maxis ในสมัยเดียวกับ SimCity 2000 และภายหลังออกเกมภาคต่อของตัวเองชื่อ Yoot Tower หรือ The Tower II ประกาศผ่านบล็อกของเขาว่า เตรียมพบกับ "The Tower" ภาครีเมคลง iPad ในเร็วๆ นี้

รายละเอียดยังมีน้อยมาก ใครอ่านภาษาญี่ปุ่นออกสามารถติดตามได้จากบล็อกของ Yoot ครับ

ที่มา - Touch Arcade

มีผู้ใช้กูเกิลในสหราชอาณาจักร ทำการค้น google.co.uk ด้วยคำว่า "Dell Streak" (ภายหลังพบว่าใช้ "HP Slate" ก็ได้ผลแบบเดียวกัน) และพบโฆษณา iPad ของแอปเปิลในส่วนของ AdWords

การซื้อคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งเพื่อชิงโฆษณาตัดหน้า ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพียงแต่ในความรู้สึกของหลายๆ คน คงคิดถึงแอปเปิลเป็นบริษัทสุดท้ายที่จะโฆษณาแบบนี้ มันเลยเป็นข่าวนั่นเอง

ที่มา - TechCrunch

หมายเหตุ: จริงๆ แล้วนี่อาจไม่ใช่โฆษณาของแอปเปิลเอง แต่มีคนใจบุญซื้อคีย์เวิร์ดแล้วลงโฆษณาให้แอปเปิล ก็เป็นไปได้เช่นกันครับ ใช้วิจารณญาณกันเอาเอง

จากรายงานของ Dr. Jakob Neilsen แห่ง Neilsen Norman Group บริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าได้พบจากการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้รักการอ่านหนังสือ 24 คน สามารถอ่านหนังสือได้บนกระดาษจริงเร็วกว่าอ่านหนังสือจาก Tablet อย่าง iPad และ Kindle 2 โดยพบว่าการอ่านหนังสือบนอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์นั้นช้ากว่าประมาณ 10.7 เปอร์เซ็นต์

แต่ที่น่าสนใจคือจากผลการศึกษานั้น ผู้อ่านกลุ่มตัวอย่างสามารถอ่านหนังสือบน iPad ได้เร็วกว่าบน Kindle 2 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามความต่างนี้เล็กจนไม่สามารถที่จะสรุปอะไรได้ตามหลักสถิติ ผู้ใช้ไม่ควรจะเปลี่ยนใจจากการซื้อ Kindle 2 มาซื้อ iPad ด้วยเหตุผลนี้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากูเกิลได้เปิดตัว Google Docs Viewer สำหรับ Android, iPhone และ iPad ซึ่งสามารถเปิดดูไฟล์นามสกุล PDF, PPT, DOC และ DOCX ได้เลยโดยไม่ต้องดาวน์โหลดมาเก็บในอุปกรณ์ก่อนเปิด นอกจากนั้นยังรองรับฟีเจอร์ pinch-to-zoom ใน iPhone และ iPad อีกด้วย

ที่มา: Google Docs Blog ผ่าน Electronista

Amazon อัพเดตโปรแกรม Kindle App บน iPhone, iPod touch และ iPad โดยรุ่นใหม่รองรับหนังสือมัลติมีเดีย ที่ฝังไฟล์เสียง-วิดีโอไว้ในเล่มได้

ตัวอย่างหนังสือที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้แก่ Rose's Heavenly Cakes หนังสือสอนทำเค้กที่เพิ่มวิดีโอสาธิตตอนลงมือทำไว้ด้วย และ Bird Songs ซึ่งมีไฟล์เสียงเพลงที่กล่าวถึงในหนังสือ

นอกจากนี้ Kindle for iPhone รุ่นใหม่ เพิ่มการรองรับจอ Retina Display ของ iPhone 4 ด้วย

อีกสักพัก Kindle App รุ่นบนพีซีและแมคน่าจะได้ความสามารถนี้เช่นกัน แต่น่าสนใจว่าเครื่อง Kindle ต้นฉบับจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้หรือไม่

ที่มา - Amazon

แอปเปิลได้ทำการปล่อย Press Release ออกมาแล้วว่าบริษัทได้ขาย iPad รวมทั้งหมด 3,000,000 (สามล้าน) เครื่องภายในเวลาเพียงแค่ 80 วัน และ ณ เวลานี้มี App ที่ผลิตสำหรับ iPad โดยเฉพาะให้บริการแล้วกว่า 11,000 Apps ด้วยกัน

ที่มา - MacStories

กูเกิลเอาใจคนใช้ iPad ด้วยการปรับปรุงหน้า Gmail ใหม่ โดยเฉพาะหน้าการเขียนจดหมาย ซึ่งทำการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เกือบเต็มหน้าจอแนวตั้งของ iPad เลยทีเดียว
กูเกิลเรียกการปรับปรุงครั้งนี้ว่า The Iterative Web App ซึ่งน่าจะเป็นยุคหน้าของแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพา ซึ่งเริ่มทดลองที่ iPad ก่อน สามารถทดลองใช้ได้โดยการเปิด gmail.com ในซาฟารีบน iPad แต่ภายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นเอง

ที่มา - Google Mobile

ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็เปิดตัว Windows Live Messenger บน iPhone, iPod Touch และ iPad แล้ว หลังจากเป็นข่าวภาพหลุดไปเมื่อปลายเดือนมษายนที่ผ่านมา

TechCrunch ยังกล่าวด้วยว่าสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมดังกล่าวได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น ใครที่สนใจอยากลองดูว่าดาวน์โหลดได้หรือไม่ก็ลองเข้าไปที่ iTunes ส่วนภาพหน้าจอดูได้จาก TechCrunch หรือข่าวเก่าครับ

Millennial Media บริษัทโฆษณาบนมือถือ ซึ่งอ้างว่าเข้าถึง 82% ของผู้ใช้เว็บบนมือถือในสหรัฐ เปิดเผยส่วนแบ่งตลาดมือถือของสหรัฐ โดยอิงจากข้อมูลที่ตัวเองมี ประเด็นแบบสรุปๆ มีดังนี้

แอปเปิลเปิดให้นักพัฒนาโปรแกรมเข้าไปโหลดวิดีโอและสไลด์ต่างๆ ในงาน WWDC ที่เพิ่งผ่านไปได้ฟรี ซึ่งนอกจาก Keynote ของสตีฟ จ๊อบส์แล้วก็ยังมีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาในสายของแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโปรแกรมบน OSX, ไอโฟน หรือแม้แต่ iPad โดยวิดีโอมีทั้งแบบธรรมดาและ HD ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ใน iTunes U (ต้องใช้ account Apple Developer)

ผู้ใช้ iPad 3G ในสหรัฐ ซึ่งต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย AT&T อาจมีหนาวๆ ร้อนๆ เพราะล่าสุด AT&T เผลอปล่อยข้อมูลอีเมลของลูกค้ากว่า 114,000 รายหลุดออกสู่สาธารณะ โดยสาเหตุเกิดจากช่องโหว่ของระบบ AT&T เอง

ไม่มีใครรู้ว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์ไหนได้ข้อมูลชุดนี้ไปหรือไม่ แต่มันเป็นข่าวเพราะกลุ่มนักวิจัยด้านความปลอดภัยไปพบเข้า และตอนนี้รายชื่ออีเมลยังคงถูกเก็บอยู่ในวงการนักวิจัยด้านความปลอดภัยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่หลุดมีเฉพาะอีเมล แปลว่าอย่างมากก็โดนสแปมเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ในลูกค้า 114,000 รายนี้มี CEO และผู้บริหารของบริษัทชั้นนำทั่วอเมริกา รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว และกองทัพสหรัฐด้วย (แปลว่ามี iPad ใช้กันถ้วนหน้า)

Adobe และ Greystripe ผู้ทำตลาดการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา เปิดเผยว่าเตรียมปล่อยระบบสื่อโฆษณาแบบใหม่ ที่สามารถแปลงโฆษณาประเภท Flash ไปเป็น HTML5 ที่สามารถเปิดบน iPhone และ iPad ได้โดยอัตโนมัติ คาดว่าจะเปิดตัวระบบดังกล่าวได้ช่วงเดียวกับที่ Apple จะเปิดตัว iAd

ที่มา: Electronista, All Things Digital

หลายคนที่สนใจหรือครอบครอง iPad อยู่ คงรู้สึกอยากได้อุปกรณ์เสริมเป็นกล้องเว็บแคม เพื่อทำให้ iPad เป็นอุปกรณ์การเล่นอินเตอร์เน็ตที่สมบูรณ์ขึ้นอีกซักหน่อย

ล่าสุดบริษัท PhotoFast ผู้จำหน่ายสื่อบันทึกที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลช ได้ออกตัวต้นแบบของกล้องเว็บแคมสำหรับ iPad โดยใช้กล้อง Microsoft LifeCam ต่อเข้ากับพอร์ตมาตรฐานของ iPad (Dock Port) แต่ในตัวที่จะออกขายจริงช่วงสิ้นปีนี้น่าจะมีหน้าตาที่ต่างออกไป

ความละเอียดของวิดีโอถูกจำกัดอยู่ที่ 640x480 พิกเซล ซึ่งออกแบบมาสำหรับการแชทหรือประชุมแบบเห็นหน้า (Video Conferencing) โดยจะสามารถใช้ได้กับ IM Apps บางตัว

บิล เกตส์ ให้สัมภาษณ์กับ Larry King ของ CNN (พร้อมกับพ่อของเกตส์คือ William Henry Gates, Sr.) โดยมีประเด็นที่กล่าวถึงสตีฟ จ็อบส์, iPad และ Facebook ด้วย

เกตส์เริ่มจากการชมสตีฟ จ็อบส์ ว่าฉลาด และผลงานดีเยี่ยม เขาบอกว่าสนุกกับการมีคู่แข่งอย่างสตีฟมาก (ต้นฉบับใช้คำว่า sparring หมายถึง "คู่ซ้อม")

แต่สำหรับ iPad เกตส์บอกว่ามันยังไม่ดีพอที่เขาจะนำไปใช้ในห้องประชุม เพราะยังใช้กับปากกาไม่ได้ เขาบอกว่าแท็บเล็ตในอุดมคติต้องใช้ได้ทั้งปากกาและเสียงสั่งการ และตอนนี้มีอุปกรณ์ในแล็บ (คาดว่าหมายถึงแล็บของไมโครซอฟท์) ที่น่าจะทำงานได้จริงแล้ว

งาน D:All Things Digital ครั้งที่ 8 เริ่มขึ้นแล้ว โดยแขกรับเชิญสำหรับเปิดงานคือสตีฟ จ็อบส์ซึ่งนานๆ ที่จะยอมออกมาให้สัมภาษณ์ในที่สาธารณะอย่างนี้ ประเด็นหลักๆ ที่ถูกถามก็จะเป็นประเด็นร้อนตามข่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Flash, ต้นแบบไอโฟนที่หายไป, ความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ให้บริการรายอื่นในสหรัฐ

เนื้อหาการสัมภาษณ์นั้นค่อนข้างยาว (ต้นฉบับ) เลยขอสรุปมาแค่ประเด็นสำคัญดังนี้

สรุปประเด็นหลักจากบทสัมภาษณ์สตีฟ จ็อบส์ในงาน D8

รวบข่าวเทคโนโลยีจอภาพ 2 ข่าวเป็นข่าวเดียวเช่นกันนะครับ

ข่าวแรก ที่งาน Computex 2010 มีคนเอาจอของบริษัท Pixel Qi (บริษัทของนักวิจัยที่ทำจอให้ OLPC) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการแสดงผลใต้แสงอาทิตย์ ไปเทียบกับจอ iPad ในบริเวณด้านนอกห้องประชุมที่จัดแสดงงาน Computex ผลก็เป็นไปตามคาดว่า Pixel Qi ชนะ iPad หลายช่วงตัว (แอปเปิลน่าจะซื้อไปใช้บ้างนะ) วิดีโอดูด้านใน - Gizmodo

VIA ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์จากไต้หวัน ระบุว่าแท็บเล็ต Android ราคาถูก ซึ่งใช้ซีพียูของ VIA จะออกมาตีตลาด iPad ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

รองประธานของ VIA บอกว่าแท็บเล็ตจะมีด้วยกัน 5 โมเดล ราคาอยู่ระหว่าง 100-150 ดอลลาร์ ผลิตโดยบริษัทฮาร์ดแวร์ของจีน และคาดว่าจะมีทั้งรุ่น ARM กับ x86

ที่มา - Bloomberg

ย้ำก่อนว่าอันนี้คือ Micro SIM ของทาง True Move ที่ออกมาสำหรับผู้ใช้ iPad และอุปกรณ์ใกล้เคียงอื่นๆ (iPhone 4G?) ไม่ใช่ข่าว True Move วางขาย iPad แต่อย่างใดนะครับ

ผมได้เมลจากประชาสัมพันธ์ของบริษัท สรุปสั้นๆ ว่าทาง True Move จะออกซิม 3G พร้อมแพกเกจ True Wi-Fi ที่พิเศษกว่าปกติคือซิมอันนี้เป็น Micro SIM เท่านั้นเอง

รายละเอียดดูได้จากข้อความประชาสัมพันธ์ด้านในครับ

จากรายงานล่าสุดของ RBC Capital Markets บริษัทวิจัยการตลาดนั้น ได้ทำการเพิ่มประมาณยอดขายของ iPad ภายในปีนี้จาก 5 ล้านเครื่องมาเป็น 8 ล้านเครื่อง โดยยอดที่เพิ่มขึ้นมาน่าจะมาจากการขายในตลาดนอกสหรัฐ

ส่วนในสหรัฐเองตอนนี้มีปัญหา iPad มีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว คาดว่าหลังจากการเปิดตัว iPad นอกสหรัฐยอดขายภายในไตรมาสนี้น่าจะอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง โดยทุกวันนี้ในสหรัฐแอปเปิลสามารถขาย iPad ได้สัปดาห์ละ 200,000 เครื่อง ซึ่งมากกว่ายอดขายเครื่องแมคถึงเท่าตัว

ที่มา - MacRumors