รวบข่าวเทคโนโลยีจอภาพ 2 ข่าวเป็นข่าวเดียวเช่นกันนะครับ
ข่าวแรก ที่งาน Computex 2010 มีคนเอาจอของบริษัท Pixel Qi (บริษัทของนักวิจัยที่ทำจอให้ OLPC) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการแสดงผลใต้แสงอาทิตย์ ไปเทียบกับจอ iPad ในบริเวณด้านนอกห้องประชุมที่จัดแสดงงาน Computex ผลก็เป็นไปตามคาดว่า Pixel Qi ชนะ iPad หลายช่วงตัว (แอปเปิลน่าจะซื้อไปใช้บ้างนะ) วิดีโอดูด้านใน - Gizmodo
VIA ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์จากไต้หวัน ระบุว่าแท็บเล็ต Android ราคาถูก ซึ่งใช้ซีพียูของ VIA จะออกมาตีตลาด iPad ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
รองประธานของ VIA บอกว่าแท็บเล็ตจะมีด้วยกัน 5 โมเดล ราคาอยู่ระหว่าง 100-150 ดอลลาร์ ผลิตโดยบริษัทฮาร์ดแวร์ของจีน และคาดว่าจะมีทั้งรุ่น ARM กับ x86
ที่มา - Bloomberg
ย้ำก่อนว่าอันนี้คือ Micro SIM ของทาง True Move ที่ออกมาสำหรับผู้ใช้ iPad และอุปกรณ์ใกล้เคียงอื่นๆ (iPhone 4G?) ไม่ใช่ข่าว True Move วางขาย iPad แต่อย่างใดนะครับ
ผมได้เมลจากประชาสัมพันธ์ของบริษัท สรุปสั้นๆ ว่าทาง True Move จะออกซิม 3G พร้อมแพกเกจ True Wi-Fi ที่พิเศษกว่าปกติคือซิมอันนี้เป็น Micro SIM เท่านั้นเอง
รายละเอียดดูได้จากข้อความประชาสัมพันธ์ด้านในครับ
จากรายงานล่าสุดของ RBC Capital Markets บริษัทวิจัยการตลาดนั้น ได้ทำการเพิ่มประมาณยอดขายของ iPad ภายในปีนี้จาก 5 ล้านเครื่องมาเป็น 8 ล้านเครื่อง โดยยอดที่เพิ่มขึ้นมาน่าจะมาจากการขายในตลาดนอกสหรัฐ
ส่วนในสหรัฐเองตอนนี้มีปัญหา iPad มีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว คาดว่าหลังจากการเปิดตัว iPad นอกสหรัฐยอดขายภายในไตรมาสนี้น่าจะอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง โดยทุกวันนี้ในสหรัฐแอปเปิลสามารถขาย iPad ได้สัปดาห์ละ 200,000 เครื่อง ซึ่งมากกว่ายอดขายเครื่องแมคถึงเท่าตัว
ที่มา - MacRumors
หลาย ๆ คนอาจจะทราบดีแล้วว่าเพื่อป้องกันการนำ iPad ไปขายต่อในราคาที่สูงกว่าที่แอปเปิลตั้งไว้ แอปเปิลได้ทำการจำกัดสิทธิไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งซื้อ iPad ได้เกินสองเครื่อง โดยวิธีตรวจสอบนั้น แอปเปิลได้บังคับผู้ซื้อ iPad ทุกรายต้องชำระเงินด้วยบัตรเดบิตหรือเครดิตเท่านั้น
แม้ว่านโยบายนี้จะประสบความสำเร็จดีในเรื่องการป้องกันการขายต่อด้วยราคาที่ไม่ยุติธรรม แต่หลาย ๆ คนเช่นไดแอน คุณป้าที่เก็บเงินมาระยะหนึ่งเพื่อที่จะซื้อ iPad แต่ไม่มีบัตรเดบิตหรือเครดิต ซึ่งได้เดินเข้าร้าน Apple Store เพื่อจะไปซื้อ iPad แต่กลับได้รับรู้ว่าเธอไม่สามารถซื้อ iPad ได้เพราะเธอไม่มีบัตร
เว็บ 9to5mac ได้พบโค้ดภายใน iPhone OS 4.0 เบต้า 4 ว่ามีการอิงถึงกล้องถ่ายรูปและแฟลชสำหรับ iPod touch อย่างแน่นอน สำหรับ iPad ก็อย่าเพิ่งเสียใจที่เมืองไทยยังไม่มีขาย เพราะว่ารุ่นต่อไปก็น่าจะมีกล้องพร้อมแฟลชเหมือนกัน หากข้อมูลจากโค้ดนี้ถูกต้อง
ที่น่าสนใจกว่าก็คือมี String ที่อ้างอิงถึง Mac OS X 10.7 อีกด้วย ใครอยากเห็นหลักฐานคลิกเข้ามาอ่านได้เลยครับ
ที่มา - MacStories
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยว่าขณะนี้ทำงานร่วมกับแอปเปิลเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ไอแพดบางรายมีปัญหากับการเขียนอีเมลใหม่หรือตอบกลับอีเมลบนหน้าเว็บฮอตเมล โดยตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้ redirect ผู้ใช้ฮอตเมลจากไอแพดไปยังหน้าฮอตเมลบนมือถือ http://m.mail.live.com/ ก่อน นอกจากนั้นก็ยังแนะนำให้ตั้งค่า POP3 เพื่อดาวน์โหลดอีเมลเข้าอีเมลไคลเอนท์แทน
ที่มา: Inside Windows Live Blog ผ่าน ZDNet
Fortune รายงานผลการศึกษาค้นคว้าทางการตลาดของ Gene Munster แห่ง Piper Jaffray ว่ายอดขายคอมพิวเตอร์แมคเมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนนี้สูงกว่าเดิมจากปีที่แล้วมาก ในขณะที่ยอดขาย iPod นั้นลดลง โดยจากตัวเลขดังกล่าวนี้สามารถตีความได้ว่า iPad เริ่มกินตลาด iPod (Cannibalization) มากกว่าตลาดแมคอย่างที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก
การกินตลาดสินค้าของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกทางการตลาด แต่ที่น่าแปลกคือ iPad กลับกินตลาด iPod มากกว่าแมค จากรายงานก่อนของ All Things Digital ได้ให้เหตุผลว่าวิธีทำการตลาดให้กับ iPad ของแอปเปิลนั้นจงใจทำออกมาเพื่อแสดงให้เห็นความสามารถที่ต่างกับแมคโดยสิ้นเชิง
เราอาจจะเคยเห็นผลิตภัณฑ์แอปเปิลหลายอย่างที่เคยทำเวอร์ชั่นพิเศษด้วยการใช้ทองและเพชรโดย Stuart Hughes ช่างทำเครื่องประดับชาวสหราชอาณาจักรกันมาบ้างแล้ว และตอนนี้เขากำลังจะทำอย่างเดียวกันกับ iPad
iPad ที่ว่านี้เคลือบด้วยทอง 22 กะรัตหนัก 2,100 กรัม และเพชรอีก 25.5 กะรัต โดยเครื่องที่จะนำมาใช้จะเป็นรุ่น 3G (รุ่น wifi ที่รองรับ 3G) ความจุ 64GB และทำเพียง 10 เครื่องเท่านั้น
สนนราคาไว้ที่เครื่องละ 129,995 ปอนด์ หรือ 189,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 6 ล้านกว่าบาทไทย)
ที่มา - Geeky Gadgets
แอปเปิลเตรียมฉายโฆษณาใหม่ของ iPad ทางโทรทัศน์ ชื่อของโฆษณาชิ้นนี้คือ "What is iPad?" ซึ่งแนะนำการใช้งาน iPad ในชีวิตประจำวัน
เว็บไซต์ MacRumors นำโฆษณานี้มาเผยแพร่ พร้อมเทียบกับโฆษณา "What is Newton?" ของแอปเปิลเมื่อ 20 ปีก่อนว่ามันมาแนวทางเดียวกัน นี่อาจเป็นความจงใจ?
โฆษณาทั้งสองตัวดูได้ด้านในครับ โฆษณาทำสวย ดูเพลินดีทั้งสองอัน
ที่มา - MacRumors
บริษัท TESO ได้โคลนนิ่ง iPad ของแอปเปิลแล้ว มันมีอะไรที่มากกว่า iPhone และ iPad ของแอปเปิล โดยลำโพงที่ใหญ่กว่า และยังมีฝาโครเมี่ยม หลายนักวิจารณ์บอกว่า iPad ของแอปเปิลเป็น iPod Touch ขนาดยักษ์ แต่ iPad TESO เหมือน iPhone ขนาดยักษ์มากกว่า และเป็นสีขาวเหมือน iPhone 3GS มีขนาดเล็กกว่า JooJoo แต่ใหญ่กว่า V780 Mio Moov ซึ่ง Spec ที่หลุดออกมาก็ยั่วยวนเงินในกระเป๋ามาก
ตามดู Spec ได้ข้างในครับ
ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ช่วงหลัง ๆ นี้ดูเหมือนว่าสตีฟ จ็อบส์จะตอบอีเมลบ่อยมาก แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้แน่ว่าเขาเป็นคนตอบอีเมลด้วยตัวเองหรือไม่
ล่าสุด มีผู้ใช้คนหนึ่งส่งอีเมลไปถามว่า "ทำไมไม่สามารถปรินท์งานจาก iPad ได้?" และได้คำตอบจากสตีฟสั้น ๆ ว่า "มันจะมา"
ที่มา - MacRumors
หลังจากที่วางขาย iPad ที่อเมริกาไปแล้วกำหนดการขายจะเริ่มต้นในสิ้นเดือนนี้ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ได้สร้างกระแส iPad มาแล้วระยะหนึ่ง ในนิตยสารคอมเกือบทุกฉบับได้จับกระแสนี้เพื่อนำมาทำเป็น cover story และมีการแนะนำโปรแกรมต่างๆ ก่อนที่ iPad จะถูกออกวางขาย
วันนี้ผมไปร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เก็บภาพการเตรียมตัวการเปิดจอง iPad ที่จะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ครับ
รายละเอียดสถานที่รับจอง
ภาพดูได้ท้ายข่าวครับ
จัดเตรียมสถานที่กันก่อน
หลังจากที่แอปเปิลได้ทำการประกาศวันวางขาย iPad ในบางประเทศในยุโรปและเอเชียแล้ว หลาย ๆ คนได้ส่งอีเมลไปถึงสตีฟ จ็อบส์ถามว่าทำไมราคาของประเทศบางประเทศถึงสูงกว่าปกติมาก
อย่างเช่นในสหราชอาณาจักร ราคาของ iPad รุ่นต่ำสุดอยู่ที่ 429 ปอนด์หรือประมาณ 20,500 บาท เมื่อเทียบกับราคา 499 ดอลลาร์สหรัฐ (16,100 บาท) แล้วมันต่างกันมาก
สตีฟก็ได้ทำการตอบกลับอีเมลว่า "โปรดหาความรู้ใส่ตัว ราคาในอังกฤษนั้นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้ว โดย VAT ของอังกฤษอยู่ที่ประมาณ 18% ราคาของอเมริกาไม่รวมภาษีแต่อย่างใด"
หลังจากเปิดขาย iPad ในวันที่ 3 เมษายน แอปเปิลก็ใช้เวลาเพียง 28 วันในการขาย iPad ให้ครบ 1 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ยังมีสถิติอื่นๆ เช่น ผู้ใช้ iPad ดาวน์โหลดโปรแกรมรวมกันแล้ว 12 ล้านครั้ง และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1.5 ล้านครั้ง
ในกรณีของ iPhone นั้น แอปเปิลใช้เวลา 74 วัน ตรงนี้ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับแอปเปิลด้วยครับ
ที่มา - Apple
หลังจาก iPad 3G วางจำหน่าย ก็เริ่มมีรายงานจากผู้ใช้จำนวนมากว่า โปรแกรมดูวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ตหลายตัวที่เคยใช้ได้ดีบน Wi-Fi กลับมีปัญหาเมื่อต้องใช้บนเครือข่าย 3G เช่น วิดีโอมีคุณภาพต่ำลง หรือบางกรณีคือใช้งานไม่ได้เลย
ในกรณีที่ใช้งานไม่ได้มีโปรแกรมเดียวคือ ABC Player ซึ่งภายหลังมีคนหาคำตอบมาได้ว่า ABC เป็นฝ่ายเลือกที่จะไม่รองรับ 3G เอง ด้วยเหตุผลทางเทคนิคและทางธุรกิจ
ส่วนเรื่องคุณภาพของวิดีโอต่ำลงนั้น มีคนคาดการณ์ว่าเป็นเพราะ AT&T ได้จำกัดการโหลดวิดีโอไม่ให้กินแบนด์วิธมากเกินไป แต่เมื่อทางเว็บไซต์ TechCrunch สอบถามไปยัง AT&T กลับได้รับคำตอบว่า "นี่เป็นเรื่องของแอปเปิล" ก็ต้องรอแอปเปิลมาแถลงไขต่อไปครับ
หลังจาก iPad รุ่น Wi-Fi วางตลาดได้สักพัก ก็ได้เวลา iPad รุ่น Wi-Fi + 3G วางขายในอเมริกาตามที่ประกาศไว้ก่อนนี้ สำหรับเครือข่าย 3G ที่ใช้เป็น AT&T เช่นเดียวกับ iPhone ในอเมริกา
เว็บไซต์ Macworld ได้ทดสอบ iPad 3G ดังนี้
สตีฟ จ็อบส์ ได้เขียนบรรยายเหตุผล 6 ข้อที่เขาคิดว่า Flash นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เหมาะสมกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ของแอปเปิลหลังจากที่เคยกล่าวถึงแล้วครั้งหนึ่ง กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้ครับ (อ่านต่อหลังเบรคครับ เพราะค่อนข้างยาว)
1. Flash นั้นเป็นแพลตฟอร์มปิด โดยที่เทคโนโลยีทุกอย่างนั้นถูกควบคุมโดย Adobe ทั้งหมด ซึ่งสตีฟให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มสำหรับเว็บนั้นควรจะเปิดกว้าง โดยกล่าวเสริมว่าแม้ iPhone OS จะเป็นระบบปิด แต่ก็สนับสนุนแพลตฟอร์มที่ "เปิด" สำหรับเว็บ เช่น HTML5, CSS และจาวาสคริปต์
เมื่อก่อนการใช้ sequencer สำหรับควบคุม MIDI อุปกรณ์ควบคุมมักจะมีแป้นควบคุมในการใช้งานที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะซื้อมาทำงานเป็นล่ำเป็นสันหรือต้องการฟังก์ชันมากกว่านั้นล่ะ ง่ายมากครับ ถ้าใครมี iPad และ Mac อยู่ในมือก็สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับอุปกรณ์ที่สร้างมาโดยเฉพาะเลย เป็น Multi-touch Midi Controller ที่ iPad นั้นเชื่อมต่อเข้าผ่าน WiFi เข้ากับตัวเครื่อง Mac เพียงแค่โปรแกรมเข้ากับ sequencer ของ iPad ว่าจะให้เล่นเสียงอะไร แล้วเวลาที่ใช้งานโปรแกรมที่ติดตั้งบน Mac แล้วจะผสมเสียง MIDI ออกมาให้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นดีเจได้แล้ว ถ้าคิดว่าตัวเดียวไม่พอใช้ก็สามารถเพิ่ม iPad ได้ ส่วนราคาของ midipad ยังไม่ระบุออกมาอย่างเป็นทางการ (ดูตัวอย่างการสาธิตได้หลัง break ครับ)
New York Times ออกมายืนยันแล้วว่าแอปเปิลได้ทำการเข้าซื้อ Intrinsity บริษัทเล็ก ๆ ที่มีความรู้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยี ARM ไปพัฒนาต่อให้มีความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากเมือง Austin ในรัฐเท็กซัสอย่างแน่นอนแล้ว โดยก่อนหน้านี้ที่เราเคยรายงานไปนั้นเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ไม่มีการยืนยัน
โดยการเข้าซื้อในครั้งนี้จะทำให้แอปเปิลมีข้อได้เปรียบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีของ ARM ไปประยุกต์ใช้บนอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ได้ ด้วยความสามารถนี้ และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างซัมซุงกับ Intrinsity ทำให้แอปเปิลมีความสนใจที่จะซื้อบริษัทนี้
Bitdefender ได้แจ้งว่ามีมัลแวร์ที่มีเป้าหมายไปที่เครื่อง iPad ด้วยวิธีการส่งอีเมลปลอมไปที่ผู้ใช้ iPad ว่าให้ดาวน์โหลดอัพเดท iTunes ลงบน PC โดยถ้าคลิกลิงค์ในอีเมล์นี้จะทำให้มัลแวร์สามารถเข้าถึงและขโมยข้อมูลต่างๆ ใน iPad ได้
Bitdefender แจ้งว่าไวรัสดังกล่าวมีชื่อว่า 'Backdoor.Bifrose.AADY' มันจะฝังตัวเข้าไปใน explorer.exe ทันทีที่ดาวน์โหลดตัวอัพเดท iTunes เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูล และเข้าควบคุมระบบของ iPad ได้
ดูเหมือนว่าไวรัสตัวนี้จะออกแบบมาเพื่อใช้กับ iPad ผ่านทาง PC เท่านั้น ผู้ใช้ Mac ยังไม่มีผลกระทบจากถ้าได้รับไวรัสตัวนี้เข้าไปในเครื่อง
ที่มา - Geeky Gadget
เว็บไซต์ Ars Technica ได้รีวิวโปรแกรม iWork เวอร์ชัน iPad ซึ่งเราเห็นโฆษณาของแอปเปิลกันไปแล้วว่า มันจะทำให้การทำงานกับโปรแกรมสำนักงานเปลี่ยนไปจากเดิม
ทั่วไป
ระหว่างที่คุณบิล เกตส์ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ SFGate.com (เว็บหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของ San Francisco Chronicle) ก็ถูกถามว่า
ครั้งหนึ่งคุณเคยบอกว่าคุณสตีฟ จ็อบส์จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แล้วคุณชอบไอแพดไหม? (You once said Steve Jobs could see the next big thing. Do you like the iPad?)
เขาได้ตอบไปว่า
ก็โอเคนะ ถึงแม้รูปแบบการใช้งานจะไม่ค่อยเด่นชัดซักเท่าไร แต่มันก็ดูดีทีเดียว คุณสตีฟ จ็อบส์ทำด้านการออกแบบได้ดี และไอแพดก็เป็นหนึ่งในนั้น (It's okay. The scenarios aren't that clear. But it's good looking. [Steve Jobs] does good design, and [the iPad] is absolutely a good example of that.)
ทาง HP ได้จัด Event ย่อมๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจว่าจะยอมควักเงินกว่า $500 ให้ใครระหว่าง iPad และ HP Slate กันแน่ และอย่างที่พูดกันหนาหูว่า มันกำลังจะฆ่า iPad ให้สำเร็จจงได้?
แอปเปิลขาย iPad รุ่นแรกออกไปได้ไม่ทันไร คราวนี้มีข่าวหลุดออกมายืนยันอีกแล้วสำหรับสายการผลิต iPad รุ่นถัดไปที่ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ OLED แทนของเดิมที่กำลังจำหน่ายอยู่ในขณะนี้พร้อมๆ กับ iPhone 4G ที่จะออกมาในปี 2011 (2010 ยังเป็นจอแบบเดิม) ก็ไม่น่าแปลกใจสำหรับแฟนๆ แอปเปิล เพราะที่ผ่านมา iPod และ Mac นั้นออกสินค้ารุ่นใหม่ทุกปี ส่วนทาง Digitimes ได้วิเคราะห์ไว้ว่าสำหรับจอรุ่นนี้ต้นทุนน่าจะตกอยู่ที่ $60 ถึง $70 ซึ่งหากแอปเปิลวางจำหน่ายจริงก็อาจจะทำให้ราคาสูงขึ้นได้อีก