เป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับการปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของจีน โดยกรณีล่าสุดเป็นกรณีของ Instagram ที่ถูกบล็อคไปเรียบร้อยแล้วบนจีนแผ่นดินใหญ่ โดยสื่อคาดว่าเพื่อปิดกั้นการเข้าถึงภาพและวิดีโอสั้นของการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง

ต้องรอดูกันต่อไปว่าหากการประท้วงสิ้นสุดลง (ไม่ว่าเหรียญจะออกทางไหน) ทางการจีนจะยกเลิกการบล็อค Instagram หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีการปิดกั้นการเข้าถึงครั้งนี้ครอบคลุมแค่พื้นที่บนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ประชาชนในเกาะฮ่องกงยังคงสามารถโพสต์รูปภาพและวิดีโอได้ต่อไป

ที่มา - Reuter (Yahoo! News)

Tyler Kieft ทีมงาน Instagram ออกมาเขียนบล็อกเล่าถึงการออกแบบแอพพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์ที่มีความท้าทาย เพราะ Instagram ต้องรองรับอุปกรณ์จำนวนมากทั่วโลก หน้าจอทั้งหมดรวม 27 แบบ ตั้งแต่ 240x320 ไปจนถึง 1080p ในงาน Scale Conference ทางทีมงานจึงไปนำเสนอเรื่องนี้

หลังจากกรณี

หลังจาก Instagram เปิดตัวแอพถ่ายวิดีโอ Hyperlapse ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่ก็มีอีกคนที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส นั่นคือผู้พัฒนาแอพที่ชื่อซ้ำกันว่า Hyperlapse

เมื่อไม่กี่วันก่อน Instagram ออก Hyperlapse แอพสำหรับถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse จุดเด่นของมันคือการใช้งานง่าย และฟีเจอร์ "กันสั่น" ในระดับซอฟต์แวร์

หลังจากนั้นไม่นาน Instagram ก็ออกมาอธิบายเบื้องหลังการทำงานของอัลกอริทึมตัวนี้ (ที่เรียกกันภายในว่า Cinema) ว่าช่วยให้วิดีโอดูนิ่งได้อย่างไร

กระบวนการทำงานของมันคือ ดึงแค่เซ็นเซอร์ gyroscope กับเฟรมของวิดีโอแต่ละเฟรมมาประมวลผลหาค่าความแกว่ง (orientation) ของกล้องในแต่ละช่วงเวลา การประมวลผลหา orientation จะเกิดขึ้นแบบออฟไลน์

Instagram ออกแอพตัวใหม่ชื่อ Hyperlapse เพื่อช่วยให้กล้องมือถือสามารถถ่ายวิดีโอแบบบีบเวลา (time lapse) ได้ง่ายๆ

Instagram บอกว่าออกแบบ Hyperlapse ให้ใช้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ เปิดแอพมาถ่ายได้เลย กระบวนการคือถ่ายวิดีโอตามปกติก่อน แล้วค่อยเลือกความเร็วของวิดีโอผลลัพธ์ (ตั้งค่าได้เร็วสุด 12 เท่าจากปกติ) จากนั้นจึงบันทึกวิดีโอและแชร์ผ่าน Instagram ในภายหลัง

Hyperlapse มีตัวช่วยกันสั่น (stabilizer) ในตัว ช่วยให้ภาพที่ถ่ายคนละช็อตกัน สามารถต่อกันได้สวยงามขึ้น ซึ่งเป็นฟีเจอร์ระดับเดียวกับกล้องราคาแพงที่ออกแบบมาสำหรับงานแบบนี้

Instagram เปิดตัวเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์ใน Instagram สามารถวิเคราะห์ จัดการ และพัฒนาแบรนด์ได้มากขึ้น มี 3 เครื่องมือด้วยกัน คือ

• Account insights: เครื่องมือวิเคราะห์สถิติต่างๆ เช่น ค่าการเข้าถึง, ค่าการมองเห็น และค่าการมีปฏิสัมพันธ์ของบัญชีแบรนด์
• Ad insights: เครื่องมือวิเคราะห์สถิติโฆษณา แสดงประสิทธิภาพของแคมเปญที่จ่ายเงินด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ค่าการเข้าถึง, ค่าการมองเห็น และความถี่ ของแต่ละโฆษณาที่ส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เจาะจง
• Ad staging: ระบบจัดการโฆษณาที่ให้นักโฆษณาและทีมของตัวเองสามารถดู บันทึก หรือทำงานร่วมกันในแคมเปญที่จะมีในต่อๆ ไป

ที่มา - Instagram

เมื่อช่วงปี 2010 ในสมัยที่เฟซบุ๊กยังไม่เข้ารหัสทั้งหมดเช่นทุกวันนี้แอพพลิเคชั่นหนึ่งที่ดังขึ้นมาคือ Firesheep ที่สามารถดักฟังข้อความของผู้ใช้บน Wi-Fi ที่ไม่เข้ารหัสได้ จนกระทั่งเฟซบุ๊กยอมเข้ารหัสบริการทั้งหมดในปี 2011 ตอนนี้บริษัทลูกของเฟซบุ๊ก คือ Instagram ก็โดนนักวิจัยสร้างแอพพลิเคชั่นแบบเดียวกันแล้ว โดยเตรียมสร้างเป็นแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Instasheep

Instagram เข้ารหัสเป็น HTTPS "เฉพาะ" เมื่อกำลังดูภาพที่ส่งตรงถึงตัวเรา แต่กลับไม่เข้ารหัสเมื่อเราดูไทม์ไลน์ตามปกติ แต่การเข้าถึงภาพที่ส่งตรงกลับใช้ cookie ชุดเดียวกับการดูไทม์ไลน์ที่ไม่เข้ารหัส

หลังจากมีข่าวหลุดแอพตัวใหม่ Bolt จากค่าย Instagram/Facebook วันนี้มันเปิดตัวเป็นทางการแล้ว แต่แค่ในบางประเทศเท่านั้นครับ

Bolt ระบุว่าเป็นแอพถ่ายภาพ/วิดีโอแล้วแชร์ให้เพื่อน (shoot and send) ที่ใช้ง่ายเพียงแค่การแตะครั้งเดียว เป้าหมายของมันจะคล้าย Snapchat คือส่งให้เพื่อนสนิทเท่านั้น หลักการของ Bolt คือเราสามารถเพิ่มรายชื่อเพื่อนได้สูงสุด 20 คน แล้วแลกเปลี่ยนภาพ-วิดีโอระหว่างกัน

เดิมทีนั้น Instagram ใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ Amazon Web Services (EC2) แต่หลังการขายกิจการให้ Facebook ในปี 2012 มาได้สักระยะหนึ่ง ก็ได้เวลาย้ายมาใช้ศูนย์ข้อมูลของ Facebook แทนด้วยเหตุผลด้านค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการ

Instagram เริ่มคิดเรื่องนี้ในเดือนเมษายน 2013 และเพิ่งย้ายระบบเสร็จทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้เอง (เตรียมการย้ายกันนานเป็นปี) ข้อจำกัดของการย้ายระบบครั้งนี้คือข้อมูลของ Instagram มีจำนวนมหาศาล และทีมงานก็ตั้งเป้าว่าจะย้ายระบบทั้งหมดโดยไม่ต้องหยุดให้บริการเลย

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคทำให้ Instagram ไม่สามารถย้ายระบบจาก EC2 ไปยัง Facebook โดยตรงได้ ทำให้ต้องย้ายกันถึง 3 ทอดครับ (ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการย้ายระบบขนาดใหญ่บนกลุ่มเมฆ)

สำหรับมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกคราวนี้ ช่องทางในการติดตามข่าวของทีมโปรดของตัวเองนอกจากจะผ่านทางแอพ FIFA World Cup หรือสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Twitter และ Facebook ยังสามารถอัพเดตข่าวฟุตบอลโลกจากช่องทางอื่นๆ ได้ด้วย เช่น Telegraph, Fourfourtwo, Goal, Skysport, ESPN

Instagram ออกแอพเวอร์ชันใหม่ (นับเป็นเวอร์ชัน 6.0) ทั้งบน iOS/Android โดยเพิ่มเครื่องมือด้านการแต่งภาพเข้ามาอีกมาก (ฟีเจอร์ส่วนใหญ่เหมือนกับแอพแต่งภาพทั่วๆ ไป โดยแอบอยู่ในไอคอนรูปประแจในหน้าแต่งภาพก่อนโพสต์) ของใหม่ได้แก่

• Filter strength
• Adjust
• Brightness
• Contrast
• Warmth
• Saturation
• Highlights
• Shadows
• Vignette
• Sharpen

  

ส่วนฟีเจอร์ด้านการแต่งภาพของเดิมๆ เช่น Straighten, Border, Tilt Shift, Crop, Lux ก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นจากเดิม

ABC News รายงานอ้างอิงจากสำนักข่าว AP ว่าศาลอิหร่านได้มีคำสั่งให้กระทรวงโทรคมนาคม ปิดกั้นประชาชนไม่ให้เข้าถึงบริการของอินสตาแกรม ด้วยเหตุผลของความเป็นส่วนตัว (over privacy concern) ซึ่งเป็นผลการตัดสินจากกรณีการฟ้องร้องกระทรวงโทรคมนาคมต่อศาลในประเด็นดังกล่าว

แอพ Instagram บน iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 5.0.11 โดยมีการเปลี่ยนแปลงคือข้อมูลการ like และ activity ต่างๆ จะไม่ถูกแชร์ใน Facebook อีกต่อไป ส่วนการแชร์รูปภาพและวิดีโอไปยัง Facebook นั้นยังทำได้ตามปกติ

การเปลี่ยนแปลงนี้น่าสนใจว่าทำให้ Instagram มีความเป็นอิสระจาก Facebook มากขึ้น เลยไม่แน่ใจว่าตกลง Facebook ต้องการใช้ยุทธศาสตร์แยกแอพอย่าง Paper หรือรวมแอพเข้ามาให้หมดจากกรณี Facebook Camera กันแน่

เดิมแท็บ explore จะเป็นการแสดงภาพหรือวีดีโอของคนที่เรามักจะไม่รู้จัก แต่ได้รับความนิยม เป็นรูปที่มีคนกดไลค์มากๆ แท็บ explore จึงเป็นแท็บที่แสดงภาพที่คนอื่นชอบมากกว่าภาพที่เราชอบ

การปรับผลการแสดงรูปในแท็บ explore ครั้งนี้ จึงเน้นไปที่ความสนใจของผู้ใช้งานมากขึ้น เป็นการดึงเอาข้อมูลจาก social graph ของผู้ใช้งาน โดยจะดูว่าผู้ใช้ชอบรูปภาพแนวไหน สไตล์ไหน จึงจะแสดงรูปภาพแนวนั้นๆ เช่นหากคุณติดตามศิลปินเยอะๆ แท็บ explore จะแสดงภาพเขียนต่างๆ นอกจากนั้น ยังแสดงรูปภาพและคลิปวิดีโอที่คนที่เราติดตามไปกดไลค์ และสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยม ณ ขณะนั้นอีกด้วย

ที่มา - TechCrunch

ทิศทางของ Instagram ภายใต้ร่มเงาของ Facebook นับวันจะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีผู้ใช้บางรายสังเกตว่า Instagram แอบเปลี่ยนฟีเจอร์แท็กสถานที่ในรูปภาพจาก Foursquare ไปเป็น Facebook Places แล้ว

Facebook Places เป็นบริการเช็คอินที่เกิดมาในยุคแอพเช็คอินอย่าง Foursquare, Yelp และ Gowalla กำลังฮิต ซึ่งก็สู้กับคู่แข่งรายอื่นได้ไม่ดีนัก การที่ Facebook เปลี่ยนให้ Instagram ไปใช้ API ของ Facebook Places จะช่วยให้ Facebook ได้ข้อมูลในส่วนของสถานที่มากขึ้น จากผู้ใช้ Instagram กว่า 200 ล้านราย เพื่อแข่งขันกับ Foursquare ซึ่งเป็นที่นิยมกว่าในขณะนี้

Instagram ออกมาประกาศความสำเร็จที่มีผู้ใช้งานเกิน 200 ล้านคนทั่วโลก โดยผู้ใช้จำนวน 50 ล้านคนเพิ่งสมัครเข้าใช้งานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ Instagram ยังประเมินว่าปัจจุบันน่าจะมีภาพถ่ายอยู่ในระบบทั้งหมดเกิน 20,000 ล้านภาพแล้ว

ที่มา - Instagram Blog

ภายหลังจากที่ Instagram ออกอัพเดตปรับหน้าตาบน iOS ให้แบนรับการมาของ iOS 7 ไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวของ Android ที่จะได้ใช้หน้าตานี้กับคนอื่นเขาบ้างในอัพเดตเวอร์ชั่น 5.1 โดยในอัพเดตครั้งนี้จะทำให้แอพ Instagram บน Android เร็วขึ้นและ responsive มากกว่าแต่ก่อน

เบื้องหลังของการปรับปรุงครั้งนี้เพื่อเพิ่มความเร็วนั้นเกิดจากการปรับลดขนาดของแอพลงเหลือครึ่งนึงเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้

ผู้ใช้งาน Android สามารถอัพเดตแอพ Instagram เวอร์ชั่น 5.1 ได้แล้วที่ Google Play

Instagram ปล่อยอัพเดตใหม่เฉพาะบน iOS ให้ผู้ใช้สามารถปรับโทนสี และคอนทราสต์ของภาพได้เองเมื่อกดใช้ฟีเจอร์ Lux (รูปพระอาทิตย์) ที่แต่เดิมจะปรับภาพอัตโนมัติ

การปรับโทนสี และคอนทราสต์ของภาพทำได้โดยการสไลด์แถบใต้ภาพ ตามรูปท้ายข่าว แม้ว่าจะปรับได้น้อยมาก แต่ก็เป็นสัญญาณว่า Instagram เองก็เริ่มเข้าไปแข่งขันกับบรรดาแอพแต่งภาพทั้งหลายที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันแล้ว

สำหรับคนใช้ iOS อยู่สามารถอัพเดตได้จาก App Store เลย ส่วนบน Android และ Windows Phone คงต้องรอกันไปก่อนครับ

ที่มา - The Next Web

ZocialInc บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กของไทย เปิดเผยสถิติพฤติกรรมการใช้งาน Instagram ของคนไทยในปี 2013 ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ครับ

มีผู้ใช้บางส่วนพบว่าช่วงเที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทยของวันที่ 4 มีนาคม ระบบ Instagram ล่ม และดาวน์โหลดข้อมูลได้ช้ามาก ซึ่งสาเหตุการล่มของ Instagram อาจจะเป็นเพราะการที่ Justin Bieber โพสต์รูป Selena Gomez แฟนเก่าที่ถ่ายรูปที่งานประกาศรางวัลออสการ์ โดย Instagram ก็ออกมาบอกว่ามีผลกระทบต่อผู้ใช้บางส่วนจริง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะสาเหตุจากบีเบอร์หรือไม่

ที่มา - TechCrunch

Instagram ออกอัพเดตแอพ Instagram BETA สำหรับแพลตฟอร์ม Windows Phone ในเวอร์ชั่น 0.2 เพิ่มความสามารถให้ทัดเทียมกับรุ่นบน iOS และ Android อย่างระบบแท็กรูปภาพ (หรือ Photo of Me) และระบบแสดงแผนที่พิกัดของภาพ (Photo Map) รวมไปถึงการแก้บั๊กต่าง ๆ เช่น บั๊กตรงหน้าเลือกภาพในแอพ เป็นต้น

ผู้ใช้งาน Windows Phone สามารถอัพเดตแอพ Instagram BETA ได้แล้วที่ Windows Phone Store

ที่มา: WMPoweruser

หลังจาก Instagram เปิดตัว Direct ฟีเจอร์การส่งรูปภาพระหว่างผู้ใช้ ก็มีคนค้นพบว่า Instagram Direct มีฟีเจอร์ลับ (ที่ไม่ได้ประกาศในตอนแรก) คือผู้ส่งสามารถลบรูปภาพที่เคยส่งให้เพื่อนได้เสมอ โดยผู้รับจะไม่เห็นภาพนั้นในกล่องข้อความของตัวเองอีกเลย (สามารถลบได้แม้กระทั่งขณะที่ผู้รับดูภาพนั้นอยู่พอดี ผู้รับจะเห็นข้อความว่าภาพนั้นถูกลบไปแล้วแทน)

ฟีเจอร์ลักษณะนี้ทำให้ Instagram Direct ถูกมองว่าคล้ายกับแอพ Snapchat มากขึ้น คาดว่าความตั้งใจของ Instagram คือเปิดโอกาสให้ผู้ส่งสามารถลบรูปภาพกรณีส่งผิด หรือเป็นรูปภาพที่สร้างปัญหาระหว่างผู้ส่งและผู้รับได้

เข้าสู่ช่วงจัดอันดับประจำปี โดย Instagram ได้รายงานสถานที่ถ่ายภาพและแชร์ยอดนิยมของโลกประจำปี 2013 ซึ่งประเทศไทยคว้าอันดับ 1 เป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยปีนี้ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเป็นสถานที่ยอดนิยมที่สุดในโลก ส่วนอันดับ 1 ของปีก่อนอย่างท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิตกไปอยู่ในอันดับที่ 9

Instagram ระบุว่าสถานที่ซึ่งมีการแชร์นั้น 60% มาจากนอกพื้นที่อเมริกา และมีการเติบโตสูงมากจากผู้ใช้ในอินโดนีเซีย, รัสเซีย และบราซิล สำหรับอันดับเมืองที่มีผู้ใช้ Instagram มากที่สุด 10 อันดับ กรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 2 เป็นรองจากนิวยอร์กซิตีครับ

อันดับสถานที่และเมืองยอดนิยมทั้งหมดดูได้ท้ายข่าว

ฟีเจอร์ที่หลายๆ คนอาจจะรอคอยมานาน คือความสามารถในการส่งรูปหาเพื่อนได้ "โดยตรง" หลักการทำงานคือเมื่อเราทำการถ่ายภาพหรือวิดีโอและเตรียมจะอัพโหลดขึ้น Instagram นั้น จะมีแท็บให้เลือกว่าจะอัพโหลดให้คนที่ตามเราเห็นภาพ หรือจะส่งตรงหาเพื่อนๆ ของเรา โดยสามารถส่งรูปพร้อมคำบรรยายภาพไปให้เพื่อนทีละหลายๆ คนก็ได้ นอกจากนี้ถ้าเราตามคนคนนั้นอยู่ เราจะได้รับภาพทันที แต่ถ้าเราไม่ได้ตามคนนั้น จะมีการส่ง Direct Request มาเพื่อให้เรากดตอบรับและเขาจะได้ส่งรูปตรงมาหาเราได้