Verizon Wireless ซึ่งเป็นเครือข่ายในสหรัฐที่ร่วมขายมือถือ KIN ให้กับไมโครซอฟท์ ประกาศปิดเซิร์ฟเวอร์ของ KIN ในวันที่ 31 มกราคม 2011

การปิดเซิร์ฟเวอร์หมายความว่า KIN จะใช้ฟีเจอร์ด้าน social network ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตไม่ได้เลย เหลือเพียงการโทรออกรับสาย, ตอบอีเมลผ่าน Wi-Fi และการฟังเพลงผ่าน Zune Pass (ซึ่งเป็นบริการของไมโครซอฟท์โดยตรง) เท่านั้น

ลูกค้าที่ซื้อ KIN ไปแล้วก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะ Verizon อนุญาตให้นำ KIN ไปแลกเป็นมือถือ 3G ตัวอื่นๆ ได้ฟรีครับ

ที่มา - Windows Phone Central

แม้ว่าไมโครซอฟท์จะมียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีงบประมาณที่ผ่านมา (จบเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน) และประสบความสำเร็จในการวางจำหน่าย Windows 7 และ Office 2010 แต่สตีฟ บัลเมอร์กลับได้รับโบนัสเพียงครึ่งหนึ่งของเพดานโบนัสที่สามารถจ่ายให้เขาได้

เหตุผลเป็นเพราะบัลเมอร์ก็มีด้านที่ล้มเหลว ได้แก่ Kin, เสียส่วนแบ่งตลาดมือถือ, ไม่สามารถตอบสนองตลาดแท็บเล็ตและอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ ได้

สรุปว่าปีที่แล้ว บัลเมอร์ได้รับโบนัส 670,000 ดอลลาร์ (20 ล้านบาท) ซึ่งเท่ากับเงินเดือนที่เขาได้ทั้งปี รวมกันเป็นเงิน 1.34 ล้านดอลลาร์ มากกว่าที่เขาได้ในปีก่อนเล็กน้อย

ในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของไมโครซอฟท์ ได้มีหมายเหตุตัวเล็กๆ ไว้ว่าการหยุดพัฒนา KIN ทำให้รายได้หายไป 240 ล้านดอลลาร์จากที่คาดการณ์เอาไว้

Cost of revenue increased $240 million or 2%, primarily reflecting increased online costs and charges resulting from the discontinuation of the KIN phone, offset in part by decreased Xbox 360 console costs and reductions in other costs due to resource management efforts.

เหตุปัจจัยนี้ทำให้ฝ่าย Entertainment and Devices ขาดทุนทันที 172 ล้านดอลลาร์ แม้ว่า Xbox จะทำกำไรให้ก็ตาม

หลังจากไมโครซอฟท์ปิดโครงการ Kin โดยมีข่าวว่ามาจากการเมืองภายในองค์กร ก็มีข่าวออกมาว่าพนักงานของไมโครซอฟท์เป็นจำนวนมาก รู้สึกล้มเหลวและอับอายกับโครงการนี้

เว็บไซต์ Business Insider อ้างข้อมูลจากพนักงานไมโครซอฟท์คนหนึ่ง ที่บอกว่า "ไมโครซอฟท์จัดปาร์ตี้เปิดตัว Kin ซึ่งค่าจัดน่าจะแพงกว่ารายได้ที่บริษัทได้รับจาก Kin เสียอีก" และเขารู้สึกอับอายในฐานะพนักงานของไมโครซอฟท์

ความพยายามของไมโครซอฟท์ในการบุกตลาดมือถืออาจจะเกิดการสับสนเล็กน้อยหลังจากการเปิดตัว (ที่ต้องปิดตัวในเร็ววัน) อันน่าอับอายของ Kin ที่แสนแพง แต่ Windows Phone 7 อาจจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากความผิดพลาดของ Kin และที่ดีกว่านั้นคือ Windows Phone 7 อาจเปิดตัวเร็วกว่าที่คาดกันไว้จากการมีภาพหลุดเอกสารสินค้าของ AT&T ที่จะถูกส่งในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ระบุว่ามีจำนวนรุ่นที่จะวางจำหน่าย 6 รุ่น

ที่มา: Engadget

Engadget มีเรื่องราวเบื้องหลังว่าความตายของ Kin เกิดจากการเมืองภายในของไมโครซอฟท์เอง

Kin เริ่มต้นในชื่อ "Project Pink" ของ J Allard ผู้สร้าง Xbox และ Zune โดยนำเทคโนโลยีมาจากบริษัท Danger ผู้ผลิต Sidekick ที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมา แต่ตอนนั้น Windows Mobile 6.x ยังห่วยมาก Allard เลยเลี่ยงไปพัฒนา Pink แยกเป็นอิสระไม่เกี่ยวข้องกัน

ภายหลัง Allard กินเกาเหลากับ Andy Lees หัวหน้าทีม Windows Mobile และสุดท้าย Lees ดึง Pink มาอยู่ใต้การดูแลของเขา ช่วงนั้น Windows Phone 7 กำลังถูกพัฒนาขึ้นใหม่จากศูนย์ Lees เลยสั่งให้ Pink ปรับโค้ดมาใช้ฐานเดียวกับ Windows Phone 7 ทำให้โครงการช้าออกไปอีก แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จเพราะโค้ดต่างกันมาก

ไมโครซอฟท์ยืนยันกับทาง C|Net แล้วว่าจะไม่มีการวางจำหน่ายมือถือ KIN ในยุโรปตามแผนที่วางไว้ และจะมุ่งพัฒนา Windows Phone 7 อย่างเดียว นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังได้รวมทีมพัฒนา KIN เข้ากับทีม Windows Phone 7 เพื่อถ่ายโอนแนวคิดและเทคโนโลยีใน KIN ไปยัง Windows Phone ในอนาคต แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังจะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการ Verizon ในสหรัฐฯ ในการขาย KIN รุ่นปัจจุบันต่อไป

จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ผู้ให้บริการ Verizon ขาย KIN ออกไปได้เพียง 500 เครื่องเท่านั้น คงเป็นสาเหตุให้ไมโครซอฟท์ตัดสินใจหยุดพัฒนา KIN ในที่สุด

ที่มา: C|Net

มือถือ Kin จากไมโครซอฟท์ อาจขายไม่ออกจริงๆ ตามข่าว Microsoft Kin ขายได้เพียง 500 เครื่อง ล่าสุดทางเครือข่าย Verizon เตรียมตัดราคาลงครึ่งหนึ่งแล้ว

• Kin One เดิม 50 ดอลลาร์แบบติดสัญญา จะเหลือ 30 ดอลลาร์
• Kin Two เดิม 100 ดอลลาร์แบบติดสัญญา จะเหลือ 50 ดอลลาร์

ในโอกาสเดียวกัน Verizon ยังจะลดราคามือถือรุ่นเก่าๆ อีกหลายตัว เช่น BlackBerry Storm2, Nokia Twist, LG enV Touch ด้วย

ถ้ายังจำกันได้ Kin คือมือถือของ Microsoft ที่ออกมาเพื่อจับตลาดวัยรุ่นที่เน้นการใช้งานเว็บไซต์เครือข่ายสังคม และกล้องถ่ายรูป

จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนเศษที่เจ้ามือถือเครื่องนี้ได้วางจำหน่ายกับโอเปอเรเตอร์ที่มีผู้ใช้งานสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาอย่าง Verizon แต่ทว่ากลับมีข่าวลือจากทาง Business Insider ว่าเจ้ามือถือ Kin ทั้งสองรุ่นนี้ถูกจับจองเป็นเจ้าของเพียงราว 500 เครื่องเท่านั้น

หลังจากเว็บไซต์ SuperSite for Windows ลงรีวิวมือถือ Kin ทาง Engadget และ Gizmodo ก็ได้เครื่องมาลองแล้ว ผลรีวิวทั้งคู่เป็นดังนี้ (เขียนเฉพาะส่วนที่แตกต่างระหว่าง Engadget และ Gizmodo)

ไส้ในเครื่อง

• ใช้ซีพียู Tegra APX2600 เช่นเดียวกับ Zune HD
• ไม่มีช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม
• ขณะทำงานเครื่องไม่ค่อยร้อน
• รายละเอียดที่เหลือดูเพิ่มเติมได้จากข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2

ฮาร์ดแวร์

Engadget

มีภาพหลุดที่อ้างว่ามาจากอีเมลภายในของบริษัทเวอไรซอน ผู้ได้รับสิทธิ์ขายมือถือไมโครซอฟท์ Kin ว่าจะเปิดให้จองทั้ง Kin One และ Kin Two ในวันที่ 6 พ.ค. และจะวางขายอย่างเป็นทางการวันที่ 13 พ.ค. นี้

ที่มา: Slashphone ผ่าน Engadget

คราวที่แล้วไมโครซอฟท์เยอรมันปล่อยข้อมูลมือถือ Kin ผ่านเฟสบุ๊ก มาคราวนี้พนักงานตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการตลาดเพื่อสังคมได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ gdgt (เว็บไซต์นำเสนอข่าวสาร IT ที่ก่อตั้งโดยผู้ก่อตั้ง Engadget, Gizmodo) เกี่ยวกับ Kin One และ Kin Two ดังนี้

ไมโครซอฟท์เยอรมันเผลอปล่อยข้อมูลสเปกของมือถือ Kin บนเฟสบุ๊ก (และถูกลบออกไปแล้ว) รายละเอียดนอกเหนือจากเว็บไซต์ Kin.com มีดังนี้

• Kin One และ Kin Two

คุณ Paul Thurrott เจ้าของเว็บไซต์ SuperSite for Windows ได้ทำรีวิวมือถือ Kin ของไมโครซอฟท์ฉบับย่อ สรุปใจความได้ดังนี้

ฮาร์ดแวร์

• ใช้ชิปเซ็ต NVIDIA Tegra
• ชาร์จไฟและซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ผ่าน micro-USB
• ไม่มีช่องเสียบหน่วยความจำเพิ่มเติม

ซอฟต์แวร์