วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกประกาศถึงสถาบันการเงินทุกแห่งไม่ให้ทำธุรกรรมหรือมีส่วนร่วมสนับสนุนการทำธุรกรรมเงินคริปโต
ประกาศขอความร่วมมือสถาบันการเงินในไม่ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโต 5 กรณี
นอกจากการห้ามเหล่านี้แล้วประกาศยังให้สถาบันการเงินเฝ้าระวังการใช้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโตทั้งเงินฝากและสินเชื่อ
ท่าทีเช่นนี้นับเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวที่สุดของธนาคารแห่งประเทศไทย นับแต่การสั่งระงับการซื้อขายบิตคอยน์เมื่อปี 2013 โดยหลังจากนั้นกลับมาอนุญาตให้ซื้อขายได้
note: เวอร์ชั่นแรกของข่าวนี้ไม่ได้ระบุถึงการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดทางให้ซื้อขายเงินคริปโตได้ในปี 2014 ผมพบว่าบางคนอาจสับสนจึงเพิ่มเข้ามาภายหลัง
Comments
จบข่าว
SCB ที่ร่วมลงทุน XRP ไว้คงโดนเต็มๆ
อันนั้นเข้าใจว่าร่วมลงทุนตัวระบบแลกเปลี่ยนที่ไม่ใช้ XRP นะครับ
ในแง่มูลค่าบริษัท Ripple นี่ XRP ที่ถือไว้อาจจะมีมูลค่าทางบัญชีสูงกว่าระบบแลกเปลี่ยนหลายเท่าตัวเลยนะครับ เลยไม่รู้ว่าผู้ถือหุ้นนี่จะได้ประโยชน์จากอะไร
lewcpe.com, @wasonliw
กรณีนี้ EVX , JFIN จะรอดไหมเนี่ย
แต่ข้อ 4 นี่เห็นด้วยอย่างยิ่งกู้เงินมาดอยล่ะจบกัน หรือถ้าเอาเงินกู้ไปเล่นมาจิ้นนี่ โอกาสได้คืนน้อยมาก การพนันชัดๆ
เชื่อมั่นว่า ธปท น่าจะมีวิสัยทัศน์เรื่องเงิน crypto โดยคงต้องรอกฎหมายเรื่องนี้โดยตรงอีกที
ส่วนการห้ามสถาบันการเงินในครั้งนี้ คงเป็นไปเพื่อปกป้องประชาชนและสถาบันการเงินเอง เพราะหลายๆ อย่างก็ยังไม่ชัดเจน
ด้วยความเคารพ ผมเห็นมีแต่ออกมาเตือนว่าให้ระวังการเกร็งกำไรกับฟอกเงิน ไม่เห็นจะมีวิสัยทัศน์อะไรเลยครับ ประกาศแบบนี้ประเทศไหนก็ทำกันหมดครับ
ถ้าไม่ห้าม มันจะเหมือนเป็นการบอกว่าให้สถาบันการเงินทำได้ ถ้าสถาบันการเงินทำได้ ประชาชนก็จะเข้าใจว่า น่าเชื่อถือ ซึ่งมันจะเกิดเรื่องยุ่งขึ้นมาหลังจากนี้ ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นเช่น การเชิดเงินหนีของคนำ ICO หรือ คนมาชวนลงทุนอะไรแบบนี้ แล้วการตามหาคนผิดมันก็จะยากหน่อย เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ
ใจเย็นครับ ผมไม่ได้บอกว่าห้ามผิด หรือ ไม่ควรห้าม เอาจริงๆแล้วผมเห็นด้วยกับการออกมาเตือน เพราะมันเป็นการเกร็งกำไรแท้ๆเลย แต่ผมคาดหวังที่จะเห็นนโยบายควบคุมที่มากกว่าแค่ออกมาเตือนหรือห้ามๆ เทคโนโลยีเป็นทั้งโทษและโอกาสในเวลาเดียวกัน ผมรออยู่ว่าท่านๆจะทำอย่างไร
ขอความร่วมมือ ยังไม่ได้ห้าม ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ
น่าจะแบบนั้นครับ กระบวนการห้ามน่าจะมีกระบวนการมากกว่านี้ ออกประกาศเป็นทางการ รับฟังความเห็น ฯลฯ อะไรแบบนั้น
lewcpe.com, @wasonliw
ในทางปฏิบัติ การขอความร่วมมือคือการ "ห้ามกลายๆ" ครับ แต่ไม่ได้อ้างกฎหมาย/พรบ. อะไร แปลว่าประกาศนี้ยังไม่ใช่กฎหมายครับ คงรอดูท่าทีอยู่ (หรืออาจจะไม่ข้อไหนให้อ้างได้ เลยต้องเขียนแบบนี้)
จุดมุ่งหมายของประกาศหลักๆ น่าจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้ธนาคารไปมีส่วนร่วมโดยตรง ส่วนในทางอ้อม(เฝ้าระวังบัญชีเว็บเทรด)เปิดช่องไว้ในลักษณะให้ธนาคารดูแลแบบ Best Effort คือถ้ารู้ว่าบัญชีนี้เป็นเว็บเทรดก็ให้ระวังเต็มที่นะ (หรือปิดไปเลย) แต่ถ้าไม่รู้จริงๆ แล้วแบงก์ชาติไปตรวจเจอก็คงไม่ว่าอะไรเพราะมันพิสูจน์ยากถ้าตั้งใจจะหลบ
เอิ่ม
ท่าทีนี้ดูแล้วก็เหมือนจะพ้องกับชาติมหาอำนาจหลายๆ ชาติ การออกแอ็คชั่นในเรื่องนี้ผมว่ามีความจำเป็นครับ เพราะจากเท่าที่ดูสถานการณ์ของ crypto ในตอนนี้ โดยส่วนตัวเรียกได้ว่าเละค่อนข้างจะเต็มปากเต็มคำ
เค้ากลัวจะเอาเงินร้อนอย่างเช่นเงินกู้ เงินบัตรเครติดไปลงทุนคริปโตไง
มันกลัวธนาคารล้มอะดิ....เด่วถ้า Crypto เกิดใช้งานแทนเงินสดได้จริง
พวกมันก็อดสิครับ % ต่างๆ หมดเลย คนไม่ฝากกันจบ
ได้อ่านข่าวเก่าๆ บ้างไหมครับเนี่ย
กะไว้แล้วว่าคุณต้องมาปรากฏตัวในข่าวนี้
+1
เรื่องเพ้อฝันครับ ต่อให้รัฐไม่ห้ามก็ไม่มีวันนำมาแทนเงินจริงได้หรอกครับ เพราะ Crypto มันเกิดจากอากาศธาตุ จะสร้างสกุลเงินใหม่ ๆ เท่าไหร่ก็ได้ และแต่ละสกุลก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก สุดท้ายก็เฟ้อครับ ไร้ราคา ณ ตอนนี้ก็เห็นกันชัดขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ไม่เกี่ยวหรอกว่าสร้างจากอากาศธาตุ ถ้ามันมีคนให้คุณค่า
ที่มันจะใช้แทนเงินไม่ได้น่ะเพราะ
1. ราคาไม่มีเสถียรภาพ
2. โอนช้า
3. ค่าธรรมเนียมแพง
ยังนึกไม่ออกว่ามันมีกรณีไหนที่เราควรใช้ crypto แทนเงินสด โอนเงินหรือบัตรเครดิต นอกจากตั้งใจฟอกเงิน
น่าจะกลัวNPLมากกว่า
ออกประกาศแบบนี้ ผมสงสัยว่ามีอาชญากรข้ามชาติ มาcash out ที่ไทยแหงๆ
หรือที่ช่วงนี้เงินบาทแข็งค่าเพราะ...(อันนี้มโน)
เรื่อง ขอความร่วมมือ...
ลงท้าย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและ "ถือปฎิบัติ"!!!!
หมายเหตุ
ไม่มีการประชุมชี้แจง
นี่มันคำสั่งชัดๆ ธนาคารแห่งประเทศไทย มีอำนาจ ด้วยเหรอ เงินผมๆจะทำอะไรก็ได้ ลงทุน หรือ ทางออก มันเรื่องของ ผมป่ะ
คุณยังซื้อขายคริปโตได้ด้วยตัวเองครับโดยใช้เงินตัวเอง ประกาศฉบับนี้น่าจะครอบคลุมแค่การเซอวิสหรืออำนวยการค้าเงินคริปโต คิดว่าถ้าแค่การโอนเงินเข้าคงไม่มีปัญหาครับแต่ถ้ากู้แล้วนำไปค้าเงินคริปโตคิดว่าคงไม่ได้ครับ แบงก์ชาติมีอำนาจไหมตาม กม. มีอำนาจเต็มในการกำกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศครับแต่ไปควบคุมเงินของประชาชนไม่ได้ คุณยังมีสิทธิ์ในเงินเหมือนเดิมแต่จะขอเซอวิสด้านการเงินจากธนาคารเพื่อจุดประสงค์ในข้อห้ามไม่ได้เท่านั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงินอยู่แล้วหรือเปล่าครับ?
ผมไม่ใช่แฟนบอยเหรียญ crypto แต่ที่คุณว่ามานั้นผมก็สงสัยเช่นกัน
หลังๆมาหน่วยงานราชการหลายๆที่มักออกคำประกาศที่มักจะใช้คำที่อ่านแล้วขัดแย้งในตัวมันเอง ซึ่งจริงๆผมก็อยากแนะนำให้คนเหล่านี้ไปเรียนภาษาไทยใหม่หรือสอบทานหลายๆรอบก่อนออกประกาศนะ
แต่ในย่อหน้าสุดท้ายของคุณ ผมว่ามันก็มีคำถามซ้อนคำถามอยู่นะว่าออกคำสั่งนี้เพราะถือว่าเหรียญ crypto นั้นเป็นเงินสกุลจริงและต้องการควบคุมโดยใช้ "กฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยน" ซึ่งถ้ายอมรับก็จะสามารถควบคุมและ/หรือสั่งบล๊อกได้ แต่ชาว crypto ก็จะมองว่า xxxx ออกมายอมรับแล้ว(เฮโลสาระพาได้) แต่ต้องไม่ลืมว่ากฎหมายเกี่ยวกับเงินตราหลังปี 40 ค่อนข้างเขี้ยวพอสมควร
แต่ถ้าออกกฎหมายหรือออกคำสั่งห้ามฉบับใหม่ไปเลย จบครับ ก็ไปหาช่องเล่นตามสูตร forex เหมือนอย่างเคย
แน่ใจเหรอว่าเงินของเรา เราอยากทำอะไรก็ได้? เราอยู่ในสังคม social contract มีกฎเกณฑ์ กฎหมาย กำกับอยู่
ถ้าเป็นเงินคุณคุณจะเอาไปทำอะไรก็ไม่มีใครห้ามครับ รับผิดชอบเอาเอง แต่ถ้าใช้เงินธนาคารไปใช้แล้วเกิดเจ๊งมาธนาคารก็ซวยอีก เลยต้องมักฏไว้
ป.ลReplyผิดคนครับ
จริงๆ เงินคุณ คุณก็ยังมีสิทธิ์ในการเอาไปใช้จ่ายเหมือนเดิม จะเอาไปทำอะไรก็ได้ครับไม่ว่าจะอยู่ภายใต้หรือเหนือกฎหมาย เพียงแต่ก็ต้องยอมรับถึงผลกระทบที่จะตามมาหลังจากนั้นให้ได้
เค้าไม่ได้ห้ามคุณหนิ ห้ามธนาคาร ซึ่งผมเห็นว่าถูกแล้วนะครับ ถ้าธนาคารไปเสี่ยงกับพวกนี้จะเหลือที่อะไรให้ไม่เสี่ยง เดี๋ยวจะกลายเป็นคนฝากเงินซึ่งไม่ได้ต้องการรับความเสี่ยงไปเสี่ยงกะธนาคารด้วย ใครอยากเสี่ยงก็เสี่ยงไป แต่จะให้เสี่ยงทั้งระบบก็เป็นหน้าที่แบงค์ชาติต้องคอยดูแหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็แค่ห้ามธนาคารทำตัวเป็น Investment Bank แนะนำชักชวนลูกค้า หรือปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าเพื่อลงทุนใน Crypto เท่านั้นส่วนการโอนเงินเข้าออกจากกระดาน Trade ตามบายธนาคารทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วเนื่องจากเป็นความสมัครใจของลูกค้า ในการรับความเสี่ยงเอาเองโดยที่ธนาคารไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วย คือถ้าสั่งห้ามถึงขนาดห้ามโอนเงินเข้าออกกระดาน Crypto คงโดนฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งแน่ๆ
พวกโบรกก็ยังเปิดช่องทางอยู่นะ
อันนั้นน่าจะพื้นที่ของกลต. ที่ยังไม่มีท่าทีอะไรออกมาครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าไม่ไปอ่านเนื้อในประกาศ บางพวกก็เอาใหญ่เลย ตายแน่ เตรียมซ้อน
จริงๆ เขาแต่กลัวธนาคาร มาลงทุนใน crypto เพราะมันเสี่ยง ถ้าธนาคารร่วงตาม
ราคาบิตคอยน์นี่ ฉิบหายเลยแหละ....ไม่มีอะไรมาก ขุดต่อไป...
สรุป ห้ามธนาคารไปเสี่ยงกับ cryptocurrency เท่านั้นเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะถ้าธนาคารเจ๊ง คนฝากเงินและธุรกิจอื่นๆ จะเดือดร้อนกันไปหมด ส่วนลูกค้าธนาคารยังโอนเงินบาทเพื่อไปซื้อขาย cryptocurrency ได้เหมือนเดิม ไม่ได้ห้าม โดยธนาคารอาจตรวจสอบตัวตนและข้อมูลของลูกค้าที่มีกิจกรรมเหล่านี้อย่างละเอียดขึ้น
ผมยังเชื่อว่าแบงค์ชาติของไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก ที่ออกตัวแบบคงคิดมาดีแล้ว ป้องกันความเสี่ยงให้กับประเทศ ประวัติศาสตร์จะได้ไม่ซ้ำรอยต้มยำกุ้ง
มาตราการนี้หลักๆ เค้าห้ามทำธุรกรรม ธนาคารกับลูกค้านิ
และเป็นการเปิดโอกาสทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย
https://ripple.com/solutions/process-payments/
Ripple ไม่มีปัญหาหรอกครับ แบงค์ก็ใช้แค่ Node โอนเฉยๆ แล้ว Node ก็ของ Ripple เองมันคุมค่าธรรมเนียมได้
แต่พวกที่ไปลงทุนกับ ICO ที่วิ่งบน ERC-20 ที่ไม่มีแผนย้าย Node ออกมาทำเองนี่เข้าข่าย Scam ชัดๆ ใช้ๆ ไปเกิด Gas หมดหรือจู่ๆ ขึ้นราคาจนไม่คุ้มเป็นเรื่อง