ศาลฎีกาตัดสินคดีเรื่องการโก่งราคาอีบุ๊กของ Apple และยืนยันคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ว่า Apple มีความผิดจริงตามคำฟ้องที่ยื่นร่วมกันโดยกระทรวงยุติธรรมและรัฐต่างๆ อีกกว่า 30 รัฐ ยังผลให้ Apple ต้องจ่ายเงิน 450 ล้านดอลลาร์
ความผิดของ Apple นั้นมาจากการกำหนดเงื่อนไขการตั้งราคาอีบุ๊กใน iBookstore ตั้งแต่ปี 2010 โดยทำข้อตกลงกับสำนักพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา 7 แห่ง ห้ามมิให้สำนักพิมพ์ตั้งราคาอีบุ๊กแพงกว่าแหล่งขายอื่น ส่งผลให้ราคาอีบุ๊กในร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่เคยขายถูกสุดอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 12.99-14.99 ดอลลาร์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการฮั้วกันโก่งราคาขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดทางการค้า
ในจำนวนเงิน 450 ล้านดอลลาร์ที่ Apple จะต้องจ่ายนี้ แบ่งเป็นเงินชดเชยกลุ่มผู้ซื้ออีบุ๊ก 400 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าธรรมเนียมศาล 30 ล้านดอลลาร์ และอีก 20 ล้านดอลลาร์เป็นเงินค่าปรับจ่ายให้แก่รัฐ
คดีนี้เริ่มฟ้องร้องกันตั้งแต่ปี 2012 และแม้ว่าเหล่าสำนักพิมพ์ที่ร่วมทำข้อตกลงกำหนดราคาอีบุ๊กกับ Apple จะยอมรับคำตัดสินและเจรจาจ่ายเงินยอมความไปนานแล้ว แต่ Apple ได้ยืนกรานมาโดยตลอดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด กระนั้นก็ตาม Apple ก็แพ้คดีรวดมาทั้ง 3 ศาล ไล่มาตั้งแต่ตอนศาลชั้นต้นตัดสินคดีเมื่อปี 2013 ตามมาด้วยการตัดสินของศาลอุทธรณ์ในปี 2015 จนมาถึงศาลฎีกาในที่สุด
ที่มา - Bloomberg
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เข้มมาตกใจค่าธรรมเนียม แพงกว่าค่าปรับอีก
ในที่สุดมหากาพย์ไตรภาคเรื่องนี้ก็จบเสียที
แต่ทว่าตอนนี้บรรดาสำนักพิมพ์ใหญ่ก็พากันขึ้นราคาขายปลีกอีบุ๊กของตัวเองกันกระจาย คือแบบไม่สนใจว่าฉบับอีบุ๊กจะขายได้หรือไม่ เพราะหวังจะถล่มตลาดอีบุ๊กเพื่อรักษาฐานหนังสือเล่มไว้ เล่นเอาปีที่แล้วยอดขายอีบุ๊กในอเมริการ่วง ยอดขายหนังสือเล่มในอเมริกากลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง
ก็เล่นตั้งราคาขายอีบุ๊กราคาสูงกว่าหนังสือปกอ่อน เรียกว่าปกแข็งขายโละยังถูกกว่าราคาอีบุ๊กเลย (T^T)
แต่ก็อยากซ้ือ ebook อยู่ หนังสือเล่มซื้อมาไม่มีที่เก็บ นานๆเข้ารื้อมาอีกที ปลวกกินหมด
หลังจากนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหมครับ ราคาจะกลับลงมาได้อีกไหม
ดูท่าราคาจะไม่ลงง่ายๆ แล้วครับ (T^T)
ผมกับอยากให้ซื้อ เล่มจริง แล้ว แถม Ebook นะครับ
เพื่อวันไหนไป ต่างจังหวัด โอนใส่ iPad เอาชิวๆๆไม่ต้องแบกให้หนัก
งงว่าบังคับไม่ให้ขายแพงกว่าที่อื่นแล้วจะไปชดเชยให้ผู้ซื้อที่ซื้อไม่แพงกว่าที่อื่นทำไม
...ส่งผลให้ราคาอีบุ๊กในร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่เคยขายถูกสุดอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 12.99-14.99 ดอลลาร์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการฮั้วกันโก่งราคาขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดทางการค้า
ผมก็มองว่าข้อความนี้อาจจะไม่เคลียร์นะครับ
เท่าที่ตามๆ อ่านเรื่องนี้มา ประเด็นคือ Amazon เคยกำหนดราคาขาย ebook ให้มีราคาถูกมาตลอดโดยสำนักพิมพ์ไม่มีโอกาสต่อรองราคาได้เองมากนักเพราะ amazon kindle ผูกขาดตลาด ebook อยู่ (แต่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่ได้ ebook ราคาถูก)
แต่ Apple ก็เข้ามาในตลาดนี้ และ "ฮั้ว" กับหลายๆ สำนักพิมพ์ ว่าให้กำหนดราคาได้เองตามชอบโดยแอปเปิลแค่หักหัวคิว ซึ่งทำให้สำนักพิมพ์สามารถตั้งราคา ebook ให้แพงขึ้นทัดเทียมหนังสือจริงได้ ไม่ต้องถูกบีบให้ขาย ebook ราคาถูกๆ กับ Amazon อย่างที่เคยเป็น และถ้าจำไม่ผิด Apple ก็ออกกฏว่าห้ามไม่ให้สำนักพิมพ์ปล่อยให้ราคา ebook ที่อื่นขายถูกกว่า iBook store ซึ่งก็เป็นการบีบ Amazon ให้ปรับราคาขึ้นและส่งผลทำให้ราคา ebook ในตลาดปรับสูงขึ้นทันที ซึ่งมันเป็นการฮั้ว และผู้บริโภคเสียประโยชน์ชัดเจน
ถ้าข้อความแบบเคลียร์ๆ น่าจะเป็น "บังคับไม่ให้สำนักพิมพ์ตั้งราคาขาย ebook ที่ร้านอื่นถูกกว่า" หรือเปล่าครับ
+1 เท่าที่ตามข่าว ก็เข้าใจแบบนี้เหมือนกัน
คือ Amazon พยายามกดราคา ebook เพื่อจูงใจผู้บริโภค
แต่ Jobs (และ Cue) มาปลดแอก เพราะบอกว่า การตั้งราคาแบบนี้ มันไปไม่รอดหรอก
ผู้บริโภคชอบใจ แต่ publishers จะรอดมั้ย?
พอ Apple ทำ iBook ก็เลยให้ publisher ตั้งราคากันเอง (ซึ่งก็คือ แพงกว่าราคาเดิมที่ขายใน Kindle)
judge Dennis ก็บอกเองใน เคสนี้ ว่า จริงๆ สิ่งที่ Apple ทำ คือ ทำลายความเป็น monopolist ของ Amazon ด้วยซ้ำ ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดขึ้น แต่มันเป็น cynical misconduct ก็เพราะ มีหลักฐานชัดเจน ว่า Jobs, Cue และ publishers ส่งเมล คุยกันชัดเจนเนี่ยแหละ
ขอตอบดักไว้ก่อน
"เงินแค่นี้ ขนหน้าแข้งไม่ร่วง" รู้ครับว่าสูบเงินสาวกจนรวย แต่ปัญหาอยู่ที่ขี้โกงไง
"ทำแบบนี้ผู้บริโภคเสียผลประโยชน์" ผิดกฏหมายครับ ต่อไปจะเป็นปัญหาในอนาคตได้ ถ้าไม่รีบตัดไฟ
รอให้เจอก่อนก็ได้ครับ จะรีบด่าทำไม
ถึงจะไม่ถูกต้อง แต่เค้าก็ไม่ผิดนะ!
3 ศาล 4 ปีจบ ส่งคนไปดูงานได้ป่ะเนี่ย
ดูงานไม่พอครับ ไปฝึกงานเลยดีกว่า
ไปจ่ายแล้วก็อย่ามาเอาคืนกับลูกค้าล่ะ
ในที่สุด
ผิดที่ฮั้วกันปั่นราคาตลาดนะครับ รับผลกรรมไปซะ แล้วก็ไปหา business model มาใหม่
That is the way things are.
โกง ราคา ipad iphone macbook pro สินตัวของ apple แม่งแพง
พวกนั้นแพงแลกกับอะไรบางอย่างมาครับ
สินค้ามันมีความคุ้มค่าในตัวของมันอยู่แล้วครับ
ลองให้เจ้าอื่นพัฒนาOSเอง แล้วทำมาขายสิ อยากรู้เหมือนกันว่าจะขายกันเท่าไหร่