อัพเดตข้อมูล 6 ส.ค. กรมทรัพย์สินทางปัญญา แก้ไขข้อมูลประเด็น Embed วิดีโอ อาจไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์
วันนี้มีประเด็นเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ที่เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 4 สิงหาคม 2558 ซึ่งหลักการสำคัญแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับเดิม แต่เพิ่มประเด็นเรื่อง "มาตรการทางเทคโนโลยี" (DRM) และ "ข้อมูลการบริหารสิทธิ" (metadata) เข้ามา (สรุปเนื้อหาจากเว็บไซต์ IPThailand)
อย่างไรก็ตาม ในข้อมูลที่นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ 10 ประเด็นที่ควรรู้ของกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ ที่เผยแพร่ตามสื่อมวลชนหลายราย (มติชน, Manager) มีประเด็นเรื่องการ embed หรือฝังเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น ว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
ถาม การทำบล็อกแล้ว embed โพสต์ของยูทิวบ์มาไว้ที่บล็อกของเรา ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
ตอบ การทำบล็อกแล้ว embed โพสต์ของยูทิวบ์มาไว้ที่บล็อกของเราถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำซ้ำงานลิขสิทธิ์ในบล็อกและถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งสิทธิในการทำซ้ำและสิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์ต่อสาธารณชนเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์
ในกรณีของการแชร์ลิงก์ (link) เพื่อแนะนำและบอกที่มาของเว็บไซต์ ก็อาจไม่เข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์
เรื่องนี้สร้างความสับสนให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะเจ้าของเว็บไซต์ที่มักฝังโค้ด embed จากเว็บไซต์อื่นๆ โดยเฉพาะจาก YouTube ว่าตกลงแล้วทำได้หรือไม่
อย่างแรกเลยต้องบอกว่าประเด็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ลักษณะนี้ไม่ได้มาจากกฎหมายฉบับใหม่ เพราะมีในกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้บังคับใช้งานเข้มงวดมากเท่านั้น ดังนั้นเรื่องการฝังโค้ด embed แล้วผิดหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับกฎหมายฉบับเก่าหรือใหม่
ตรงนี้แนะนำให้อ่านบทความ 12 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของคนไทย โดยคุณอธิป จิตตฤกษ์ ที่เขียนไว้หลายปีแล้วแต่ยังทันสมัยและใช้ได้ทุกข้อครับ
เมื่อเราพ้นประเด็นเรื่องกฎหมายฉบับเก่าหรือใหม่แล้ว ก็กลับมาที่คำถามว่าการ embed โค้ดถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ เนื่องจากการ embed ถือเป็นวิธีการเผยแพร่เนื้อหาที่อยู่ตรงกลาง ระหว่าง
แต่การ embed ที่ตัวไฟล์อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง แล้วนำมาแสดงบนเว็บไซต์อื่น เป็นสิ่งที่ก้ำกึ่งว่าละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเกิดมาคู่กับอินเทอร์เน็ตตั้งแต่สมัยที่เว็บไซต์ต่างๆ เปิดให้ embed โค้ดข้ามโดเมนได้
ข้อมูลเก่าที่ผมหาเจอคือ EFF มูลนิธิด้านสิทธิของผู้ใช้เน็ต เคยมีบทความตั้งคำถามประเด็นการ embed โค้ดจาก YouTube มาตั้งแต่ปี 2007 (YouTube Embedding and Copyright) โดย EFF มองว่า การฝังโค้ดเท่ากับการทำลิงก์ ผู้ฝังโค้ดไม่ได้ทำสำเนาไฟล์วิดีโอมาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ตัวเอง วิดีโอยังอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ YouTube
แต่นั่นก็เป็นแค่ความเห็นของ EFF ในฐานะหน่วยงานภาคเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น
ประเด็นนี้เคยเป็นคดีมาแล้วในยุโรป โดยบริษัทเยอรมนีชื่อ Bestwater ยื่นฟ้องบุคคล 2 รายที่นำวิดีโอไปฝังบนเว็บไซต์ของตัวเอง บุคคลสองรายนี้ทำงานให้บริษัทคู่แข่ง (แต่ไม่ได้มีสภาพเป็นพนักงาน) และนำวิดีโอของ Bestwater ที่เผยแพร่อยู่บน YouTube ไปใช้งาน จึงถูกบริษัท Bestwater ยื่นฟ้องโดยใช้ประเด็นด้านการละเมิดลิขสิทธิ์วิดีโอ
คดีนี้ไปถึงศาลสหภาพยุโรป (EU Court of Justice) ซึ่งศาลเพิ่งตัดสินเมื่อเดือนตุลาคม 2014 ว่าการฝังวิดีโอไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์
เหตุผลของศาลยุโรปคือการฝังโค้ดไม่ได้เป็นการดัดแปลง (altered) กระบวนการสื่อสารตามแนวคิดของกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งมองการละเมิดลิขสิทธิ์ว่าเป็นการสร้างการสื่อสารใหม่ (new communication) นอกเหนือจากการสื่อสารของเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม
ในกรณีของคดีนี้ ศาลยุโรปมองว่าวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บน YouTube อยู่แล้ว ดังนั้นการฝังโค้ดจาก YouTube จึงเป็นการใช้งานช่องทางการสื่อสารเดิม
ศาลมองว่า การฝังโค้ดมีสถานะเท่ากับการทำลิงก์ โดยใช้เทคนิคเฟรม (The embedding in a website of a protected work which is publicly accessible on another website by means of a link using the framing technology) ดังนั้นถือเป็นการสื่อสารผ่านช่องทางเดิม
รายละเอียดของคดีอ่านได้จาก TorrentFreak
ศาลฝั่งสหรัฐอเมริกาเองก็เคยตัดสินประเด็นคล้ายๆ กันหลายครั้ง
ในปี 2012 เคยมีคดีที่บริษัทผลิตหนังสำหรับผู้ใหญ่ Flava Works ฟ้องเว็บไซต์ MyVidster ที่ฝังโค้ดวิดีโอละเมิดลิขสิทธิ์มาจากเว็บไซต์อื่นอีกต่อหนึ่ง ศาลอุทธรณ์สหรัฐตัดสินว่า MyVidster ไม่ผิด เพราะการฝังโค้ดไม่ได้ไปดัดแปลง data stream ของวิดีโอ และถือเป็น "การลิงก์" ไปยังไฟล์วิดีโอที่ถือครองโดยเว็บไซต์อื่น - CNET, Ars Technica
คดีนี้มีความเห็นของกูเกิลด้วย โดยกูเกิลแสดงจุดยืนว่าในกรณีแบบนี้ เว็บไซต์มีสถานะเป็นแค่ตัวกลาง (intermediaries) และไม่ควรมีภาระรับผิดถ้าหากผู้อื่นอัพโหลดไฟล์วิดีโอละเมิดลิขสิทธิ์ (ประเด็นจะคล้ายกับคดีเว็บไซต์ประชาไท ที่ถกเถียงกันว่าตัวกลางควรมีภาระรับผิดหรือไม่)
บทสรุปของคำถามว่าการ embed โค้ดถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ตรงนี้ในกฎหมายลิขสิทธิ์ของไทย (ทั้งเก่าและใหม่) ไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน ถึงแม้ศาลยุโรปหรือสหรัฐเคยตัดสินไว้แล้วว่าไม่ผิด แต่สำหรับการใช้งานในประเทศไทยที่อยู่ใต้อำนาจกฎหมายไทย คนที่จะตัดสินได้จึงมีแต่ศาลไทยเท่านั้น
หรือพูดง่ายๆ คือ "อยากรู้ต้องลองไปฟ้องดู" ครับ
สิ่งที่ผู้ใช้เน็ตทั่วไปสามารถทำได้คงมีแต่การคาดเดาเท่านั้น
มุมมองส่วนตัวของผมคือเนื้อหาที่เปิดให้ embed ย่อมเป็นการอนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ และเจ้าของวิดีโอที่ไม่อยากให้เผยแพร่ต่อก็สามารถปิดตัวเลือกนี้ได้จากหน้าตั้งค่าวิดีโออยู่แล้ว การระบุว่าการฝังโค้ดถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ น่าจะขัดแย้งกับแนวทางของอินเทอร์เน็ตตั้งแต่แรกเริ่มที่ส่งเสริมให้ "สร้างลิงก์" เชื่อมต่อกันไปมาด้วย และมุมมองแบบนี้น่าจะเกิดปัญหาในระยะยาว เพราะขัดแย้งกับมิติเชิงเทคนิคของสถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
ตัวอย่างวิดีโอของ "ครอบครัวข่าว 3" ที่ไม่อนุญาตให้ฝังบนเว็บไซต์อื่น
วิธีการตั้งค่า embed ของวิดีโอบน YouTube จะซับซ้อนหน่อย เพราะซ่อนอยู่ในหมวด Advanced settings ตามภาพ
Comments
4 กรกฎาคม 2558 เป็น 4 สิงหาคม 2558 หรือเปล่าครับ
o_o
ฟ้องกันมั่วไปหมดละทีนี้
รักนะคะคนดีของฉัน
ผมว่า ต้องมองที่เจตนาว่าอนุญาติรึเปล่าครับ ซึ่ง embed น่าจะหมายถึงว่าอนุญาติแล้ว เพราะมันปิดออกได้
แต่ถ้าพูดแค่ว่าเพิ่มช่องทางการสื่อสารจากที่อ้างมาข้างบน การ hotlink รูป อาจจะถือว่าทำได้นะครับ เพราะไม่ได้เกิดการทำซ้ำ หรืออ้างสิทธิอะไรเลย แค่เปลี่ยนช่องทางการสื่อสารเหมือนกัน ต่างกันแค่ว่า อนุญาติรึเปล่า
มันไม่ได้มีประเด็นแค่เรื่องช่องทางการสื่อสารนะครับ ผมเข้าใจว่า กรณี hotlink สามารถอ้างกรณีขัดขวางผลประโยชน์ของเจ้าของงานได้ เพื่อเป็นการแย่งทรัพยากรณ์ครับ
hotlink เจ้าของคอนเทนท์ก็สามารถปิดเองได้เหมือนกันนะครับ
แล้วถ้าเป็นเว็บ https รูป http ไม่ส่ง referer ล่ะครับ?
รอคดีตัวอย่างว่าจะตัดสินออกมาแนวไหนครับ บ้านเรายิ่งชอบตัดสินไม่เหมือนชาวโลกเขาอยู่
คืออย่าง yourtube มันมีการตั้งค่าไว้ว่า สามารถให้ embed ได้มั้ย ซึ้งไม่ปิดอนุญาต แล้วไปฟ้องคนอื่นผมก็ว่าไม่ควรตัดสินว่าผิดนะครับ ถึงคนฟ้องอาจจะไม่รู้ว่ามีสามารถปิด/เปิดได้ ซึ่งมันก็เพราะคนฟ้องไม่ศึกษาเครื่องมือให้ดีก่อนมากกว่า
อีกอย่างถึงแม้ว่าจะ embed ไปที่อื่น ยอดวิวก็ยังเข้าไปที่ youtube อยู่ดี
The Dream hacker..
สงสัยจังว่าเขาเข้าใจคำว่า embed หรือปล่าว
นั่นสิ เมื่อวานดูช่อง thai pbs (ถ้าจำไม่ผิด) พิธีกรถามว่า embed ได้มั้ย คนตอบก็บอกว่าถ้าใส่ลิงค์ไปที่วีดีโอทำได้ แต่ดาวโหลดคลิปมาโพสเองผิด เหมือนเค้ายังไม่เข้าใจจริงๆว่า embed คืออะไร
embed มันก็มีแต่ข้อดีนะ ตกแต่งภาพ thumbnail ให้ดูน่าสนก็สามารถใช้โปรโมทช่องตัวเองไปในตัว
ผมสงสัยว่าการที่เว็บไซต์ดึงเอาภาพ thumbnail ในรูปแบบ URL ยูทูปโดยตรงมาใช้ละ เช่น http://img.youtube.com/vi/FXMJTGna_xA/maxresdefault.jpg ถ้าเอามาใช้ในเว็บจะผิดไหม เพราะมันมี plug-in หรือสคริปต์ที่สามารถดึง URL ดังกล่าวมาทำเป็นภาพ thumbnail ของบทความได้ (ถ้าในบทความนั้นมี embed วิดีโอยูทูปอยู่ด้วยนะ)
ผิดกฏหมายลิขสิทธิ์ แต่ถ้าไม่แจ้งจับจะมีปัีญหาหรือเปล่าครับ ?
เช้นสมมุติว่า embed ผิด แต่ถ้า youtube / เข้าของผลงาน ไม่ฟ้องจะมีปัญหาหรือเปล่าครับ ?
ไม่ฟ้องก็ไม่มีปัญหาครับ แต่มันจะเป็นช่องให้ฟ้องหรือกลั่นแกล้งกันได้ อย่างใน forum เราเอา link youtube ไปใส่ มันก็ embed ให้กดเล่นใน web board ได้เลย (แบบนี้เจ้าของ VDO ฟ้องได้เลย เพราะถือว่าผิด)
12 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของคนไทย ข้อ 4 ครับ
ตอนไปทัศนศึกษาที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ผู้พิพากษาเล่าให้ฟังว่า มีคนเคยไปปรึกษากับกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า กรณีแบบนี้ถือว่าละเมิดหรือไม่ ทางกรมฯให้คำแนะนำไปว่า "ไม่ละเมิด" จึงลงมือทำจริง (ไปขอคำปรึกษาก่อนลงมือทำ) แต่สุดท้ายโดนฟ้องร้อง ผู้พิพากษาตัดสินว่า "ละเมิด"
ดังนั้น ผู้ตัดสินจริงๆ คือ ศาล ครับ
กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ได้แค่ "ความเห็น" เท่านั้น (เหมือนกรณี "กฤษฎีกา" ที่เป็นแค่ผู้ให้ความเห็นแก่หน่วยงานรัฐ ไม่มีผลผูกพันกับศาล)
LinkedIn
เหตุกรณ์สมมติ
ผมมีเว็บ
ผม Hotlink รูป embed วิดิโอ ซึ่ง เว็บต้นทาง มีโฆษณา อยู่
ผมมีเพลง โดยที่ไม่ต้อง มีไฟลเอง แถมไม่เสียแบนหวิด ด้วย
แต่เหนือ Embed ผมก็บอกว่า
ขอบคุณเพลงเพราะจาก Youtube
ขอบรุปสวยๆเคดิต abc.com
เว็บ มี Adsense สองอัน
แบบนี้ละเมิดไหมครับ...
สมมติผมเอา link youtube มาแปะใน facebook ให้ขึ้นเป็น vdo อันนี้ facebook ก็ auto embed ให้นะครับ งี้ใครเอามาลง facebook ก็มีโอกาสโดนฟ้องหมดเลยสิ
เมื่อวานคุณมาลี กรมทรัพย์สินทางปัญญา บอกในรายการคุณสรยุทธว่า "แล้วแต่ว่าเจ้าของผลงานจะเอาเรื่องกับเรา"
บรรทัดฐานเราไปเทียบกะชาวโลกไม่ได้หรอก
เคสเดียวกัน เปลี่ยนคน ก็ตีความแตกต่างละ
ว่าแต่ในเมื่อมีการตั้งค่า embed ของวิดีโอบน YouTube แล้วไม่ตั้งเองก็แสดงว่าอนุญาต
ในเอา วีดีโดนั้นไป แปะได้ จะฟ้องก็ไปฟ้อง youtube ผู้ให้บริการเองเถอะ
facebook เองก็มีปุ่มแชร์ ฉะนั้นน่าจะเทียบเคียงได้(ในมาตรฐานสากลโลก)
Standard YouTube License บังคับอนุญาตให้ Youtube เผยแพร่ได้ การเอ็มเบดก็คือการให้ Youtube เผยแพร่อยู่ดีหรือเปล่าครับ?
ผมเคยโพสหลายครั้งแล้วว่า
กฏหมายบ้านเรา เป็น style กฏหมายแบบ หายใจก็ผิด
ผิดแล้วก็เลือกจับเอาตามสะดวก จะจับก็ได้ ไม่จับก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น speed limit
กำหนดให้วิ่งใน เมือง 80 นอกเมือง 90
คุณไปดูเเถอะ โดนหมดทุกคัน แต่ใช้คำว่า เจ้าหน้าที่เค้าอนุโลม ให้วิ่งได้แปะเอาไว้
ก็คือ จะจับก็ได้ อยากจับก็จับ
ประมาณเนี่ย
DJ การีน่า เปิดเพลงเต้นนี่ ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ไหมครับ เพราะมีการให้คนดูสนับสนุนเงิน ไม่เคยเห็นใครเต้นโดยไม่เปิดเพลง คงวังเวงน่าดู
ซื้อสิทธิการใช้งาน (License) มาเปิดก็ได้นี่ครับ
DJ Sona ของผมดันไปเปิดเพลงให้คนอื่นฟังตั้งเยอะ เตรียมตัวโดนฟ้องแล้วผม = ="
ทำไมเรานึกถึงกฎหมายตัวเก่าที่ว่า แค่ผ่านมาก็ผิดแล้ว...
สำหรับผมรู้สึกว่าการ Embed เนื้อหานี่คล้าย ๆ กรณีเปิดบอลโลกในร้านข้าวเหมือนกันนะครับ
จริงอยู่ว่าช่องทางคือสื่อสาธารณะ ส่งผ่านอากาศ แล้วผู้ที่เปิดก็ไม่ได้ทำซ้ำดัดแปลงอะไรเลย เพียงแค่เปิดทีวีเหมือนที่ทุกคนทำแค่นั้นเอง แต่ก็เก็บค่าลิขสิทธิได้
ไม่เหมือนซะทีเดียวครับ บอลโลกทางทีวีมันดูไม่ค่อยได้อะไรตอบแทนกลับไปเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ embed ยังได้ยอดวิวซึ่งพิจารณาแล้วต้นทางยังได้รับประโยชน์ตอบแทนแบบที่พอจับต้องได้อยู่
จริงๆแล้ว สองอย่างนี้มันตรงกันข้ามเลยนะครับ เพราะเป็นคนละ Business Model กัน
กรณีบอลโลก เจ้าของลิขสิทธิ์ "เสียผลประโยชน์" เพราะทำให้คนซื้อกล่องน้อยลง
ส่วนในกรณี embed เจ้าของไฟล์ "ได้ผลประโยชน์" เพราะทำให้ยอด View ยอดโฆษณาสูงขึ้น
คลิบผมเอง channel ผมเอง
แปะ embed เอง ไม่ได้ยุ่งกับใคร
คงไม่ผิดนะครับ
ในฐานะที่เรียนเรื่องพวกนี้มาโดยตรง
ผมแนะนำว่าอย่านำคำพิพากษาของต่างประเทศมาเทียบโดยตรงจะดีกว่า
เพราะเคสดังกล่าวเป็นลักษณะของ common law เอามาเทียบระบบ Mix & ไม่ Match สุดมั่วของบ้านเราไม่ได้
ก่อนอื่นอยากให้อ่านโดยตีความตามตัวอักษร
หลักของการเผยแพร่ต่อสาธารณะชนจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนเสมอทำเองพลการเมื่อไหร่งานเข้าเมื่อนั้น
การอ้างเรื่อง function embed ในเคสนี้ผมพูดตามตรงอ้างไม่ได้ครับ
เพราะ Youtube เปิดค่า embed เป็น default ไว้ แต่เจ้าของลิขสิทธิ์เขาไม่ได้ประกาศไว้ในเรื่องการนำไปเผยแพร่ต่อบนบล็อคหรือเว็บไซต์อื่นๆ ย่อมไม่อาจอ้างได้ว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ได้อนุญาตโดยปริยายได้
เพราะการ embed เท่าที่ผมเห็นไม่สามารถเลือกระบุเจาะจงว่าจะให้ embed เว็บไหนโดยเฉพาะ
การเปิด embed อาจจะเพื่ออนุญาตให้ผู้ได้รับสิทธิรายอื่นนำไปใช้ได้
เช่น มีข้อตกลงกับบางเว็บให้ embed ไปใช้ได้ในเว็บนั้นๆ
แต่เราเห็นช่องทางว่าก็ embed เลยจับยัดลงเว็บเราโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์
สุดท้ายถูกฟ้องได้ครับแล้วน่าจะแพ้ด้วย
แต่มันก็มีช่องโหว่กรณีที่ลงลิงค์ใน Facebook แล้วมันขึ้นคลิปให้เอง นี่แหละจะเดือดร้อนกันทั้งหมด
ถ้าเราถูกฟ้องมันกลายเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเราได้รับอนุญาตมาจริงๆ
การรับอนุญาตมาโดยปริยายตามคำพิพากษาศาลต่างประเทศใช้กับของไทยไม่ได้ครับ
เมื่อไม่ได้รับอนุญาต ก็ย่อมถูกฟ้องเป็นธรรมดา
ดังนั้นทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาเขาถึงบอกว่าทำไม่ได้ไงครับ
โดยส่วนตัวผมเห็นว่าถ้าเป็นไปได้อย่าเสี่ยง ถูกฟ้องไม่คุ้มแน่ หรือคุณอยากเป็นเคสแรกฎีกาแรกซึ่งต้องใช้เวลา 2 - 3 ปี กว่าจะพิสูจน์ว่าคุณบริสุทธ์ ก็ตามใจ
วิธีปลอดภัยที่สุดคือลงเป็นลิงค์เอาครับยกเว้นกรณี Facebook ที่เสี่ยงไปหน่อยลงลิงค์ปุ๊บสร้าง embed ปั๊บ
อ่านแล้วกระจ่างเลยครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ปล. ถ้า server ของ source ต้นทางอยู่ที่ต่างประเทศ เวลาจะฟ้องนี่ต้องฟ้องที่ประเทศไหนครับ?
http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1438780973
เอาจริงๆ ถ้าไม่น่าเกลียดคงไม่มีใครฟ้องนะครับ ต้องยอมรับว่าคลิปส่วนมากที่ได้รับความนิยมเพราะมีการช่วยกันเผยแพร่
ในกรณีที่เอาไปอัพเองอันนี้ก็เชิญโดนเต็มๆไปเลย
ถ้าเราเลือกตั้งค่าวีดีโอเป็นส่วนตัวหรือไม่สาธารณะ ระบบของยูทูปมันจะสร้าง embed ให้หรือเปล่าครับ
ด้วยความที่ไม่รู้มากของผม ผมมองว่า อยากให้ดูที่ประเด็นหลักๆดีกว่าครับ เช่นพวก ยูคลิป หรือที่ดาวน์โหลดคลิปชาวบ้านเขามาแล้วเอามาอัพต่อในส่วนของช่องตัวเองหรือเฟสตัวเอง เพราะการที่เรา embed วีดีโอมาใส่หน้าเว็ป ของเรา ผมมองว่า ยอดพรีวิวต่างๆของยูทูปมันก็มีการเพิ่มยอดวิวให้อยู่แล้ว นะครับ
พวก reupload ผิด 100% อยู่แล้วครับ
ที่เราถกกันคือพวก embed ซึ่งอยู่ตรงกลางครับ
แต่จริงๆแล้วเราไม่สามารถอ้างว่า embed แล้วรอดได้เลย
เพราะมันมีเงื่อนไขยิบย่อยที่จะทำให้เราชนะคดีอยู่เพียบถ้าเราขาดตกบกพร่องไปถึงขั้นแพ้เลยนะครับ
ขอบคุณสำหรับบทความและตัวอย่างครับ