Tags:
Node Thumbnail

หลังจากที่เปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปี สมาร์ทโฟนระดับเรือธงจากไมโครซอฟท์ Lumia 930 ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Windows Phone 8.1 พร้อม Lumia Cyan ก็ได้วางขายในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้วยความเป็นเรือธงล่าสุดทำให้มีคนสนใจค่อนข้างมาก ผมจะเล่าถึงประสบการณ์การใช้งานจริงในช่วงที่อยู่กับมันมากว่าหนึ่งสัปดาห์ และเนื่องจากตัวผมใช้ Lumia 920 มาก่อนทำให้การเปรียบเทียบในหลายครั้งจะมีคู่เปรียบเทียบเป็น Lumia 920

ภาพส่วนมากถูกย่อไว้ สามารถกดที่ภาพเพื่อดูภาพเต็มได้ครับ

สเปค

แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด แต่สเปคนั้นแทบไม่แตกต่างจากแฟบเล็ต Lumia 1520 เลย โดยระหว่าง Lumia 930 และ Lumia 1520 หลักๆ นอกจากหน้าตาแล้วจะมีจุดต่างดังนี้

  • ขนาดของหน้าจอ Lumia 930 ใช้หน้าจอขนาด ๕ นิ้ว ส่วนหน้าจอขนาด ๖ นิ้วของ Lumia 1520 สำหรับผมแล้วมันใหญ่เกินรับได้และเกินที่จะพกพา แต่ก็เป็นเพียงความชอบส่วนบุคคลเท่านั้น
  • ชนิดของกระจกหน้าจอ Lumia 1520 ใช้ Gorilla Glass 2 ส่วน Lumia 930 ใช้ Gorilla Glass 3
  • ประเภทของหน้าจอ Lumia 1520 ใช้หน้าจอประเภท LCD ส่วน Lumia 930 ใช้ OLED
  • เนื่องจากหน้าจอ OLED ของ Lumia 930 นั้นไม่มีหน่วยความจำในตัว จึงไม่สามารถทำให้ใช้งาน Glance screen โดยใช้พลังงานต่ำได้ ทำให้ทางไมโครซอฟท์ตัดความสามารถนี้ออกไป
  • Lumia 1520 สามารถใส่ micro SD ได้ ขณะที่ Lumia 930 ไม่สามารถใส่ได้
  • ความจุแบตเตอรี่ เนื่องจากขนาดที่แตกต่างทำให้ Lumia 930 ใส่แบตเตอรี่มาได้ ๒,๔๒๐ มิลลิแอมป์-ชั่วโมง ขณะที่ Lumia 1520 ใส่มาถึง ๓,๔๐๐ มิลลิแอมป์-ชั่วโมง

ในส่วนของหน่วยประมวลผล เซ็นเซอร์ แรม พื้นที่เก็บข้อมูล กล้อง การชาร์จไร้สาย และอื่นๆ เกือบทั้งหมดนั้นไม่แตกต่างกัน

เตรียมการ & แกะกล่อง

สิ่งที่ต้องเตรียมการที่ผมพูดถึงคือซิมการ์ดครับ ก่อนหน้าที่ผมจะเปลี่ยนจาก HTC 7 Mozart มา Lumia 920 ผมต้องไปเปลี่ยนซิมการ์ดจาก Mini SIM เป็น Micro SIM มาแล้วครั้งนึง แต่เมื่อผมจะเปลี่ยนมาใช้ Lumia 930 นี้ ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนจาก Micro SIM มาเป็น Nano SIM อีกครั้ง (รู้สึกวุ่นวายยังไงไม่รู้ ตอนนี้เลยใช้ Nano SIM กับตัวแปลงให้เป็นสองขนาดที่เหลือแทน)

No Description No Description

ในส่วนของกล่องนั้นรูปแบบคล้ายคลึงกับกล่องของ Lumia 630 คาดว่าทางไมโครซอฟท์น่าจะเลือกใช้กล่องแบบนี้ไปอีกสักพัก เมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบ Lumia 930 สีสันแสบตาในซีลพลาสติกวางอยู่ นอกเหนือจากโทรศัพท์แล้วยังมีตัวชาร์จไฟบ้าน สายชาร์จ หูฟัง และจุกยางหูฟังขนาดต่างๆ มาให้ด้วย

No Description No Description

No Description No Description

รูปร่างภายนอก

No Description No Description

Lumia 930 ถูกออกแบบมาแตกต่างจาก Lumia รุ่นอื่นๆ โดยเลือกใช้โครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมออกมาถึงขอบของตัวเครื่องเหมือนกับ Lumia 925 แต่มีเหลี่ยมมีมุมค่อนข้างชัดเจน การประกอบแน่นหนาดีจับแล้วไม่มีความรู้สึกยวบแต่อย่างใด ปุ่มต่างๆ ก็แน่นหนาดีไม่มีอาการคลอน ด้วยขนาดหน้าจอ ๕ นิ้วนั้นก็ไม่ได้ใหญ่จนถือด้วยมือเดียวลำบากเหมือนกับ Lumia 1520 โดยมีความกว้างของตัวเครื่องเท่ากับ Lumia 920 (ที่มีขนาดหน้าจอ ๔.๕ นิ้ว) พอดี และยาวกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

No Description No Description

ในส่วนของตำแหน่งกล้องหลัง อยู่ที่ตำแหน่งกึ่งกลางของตัวเครื่องในด้านกว้าง และอยู่ค่อนข้างชิดส่วนบนของเครื่องในด้านยาว ทำให้การถ่ายภาพแนวตั้งด้วยมือเดียวทำได้สะดวกกว่า Lumia 920 ที่ตำแหน่งกล้องอยู่ต่ำกว่าจนเกิดเหตุการณ์นิ้วบังกล้องอยู่บ่อยๆ

ช่องเสียงออกของลำโพงถูกย้ายไปไว้ด้านหลัง แต่เนื่องจากแผ่นหลังมีส่วนโค้งอยู่บ้างทำให้ลำโพงไม่ถูกบังเมื่อวางอยู่กับโต๊ะ (หรือที่วางอื่นๆ ที่ไม่มีผ้านิ่มๆ)

ส่วนอื่นๆ ยังคงเหมือนกับ Lumia 920 คือปุ่มทั้งหมดอยู่ด้านขวาของเครื่อง ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านบน และ Micro USB อยู่ด้านล่าง

หน้าจอ

สิ่งหนึ่งที่น่าเสียดายสำหรับ Lumia 930 นั่นคือ ตัวมันไม่รองรับ Glance screen สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้อาจจะไม่ติดใจอะไร แต่สำหรับคนใช้ประจำเมื่อขาดไปจะรู้สึกแปลกๆ จนต้องปรับตัวอยู่บ้าง จากที่หยิบขึ้นมาดูเวลาและการเตือนได้เลย ก็ต้องเปิดหน้าจอแล้วค่อยปิดก่อนเก็บกลับ

เบื้องหลังของเรื่องนี้ว่ากันว่าเป็นเพราะ Lumia 930 นั้นใช้หน้าจอแบบ OLED ที่ไม่มีหน่วยความจำในตัว ไม่เหมือนกับหน้าจอแบบ LCD ที่ไม่มีปัญหานี้ แต่ก็มีปัญหาถกเถียงกันอีกเล็กน้อยที่รุ่นอื่นอย่าง Lumia 1020 ก็เป็นหน้าจอ OLED เช่นกันแต่กลับใช้งานได้ ผมคิดไปเองว่าสาเหตุหลักๆ แบ่งออกเป็นสองส่วน

  • สาเหตุที่เลือกใช้หน้าจอแบบ OLED เป็นเพราะหน้าจอ OLED นั้นบางกว่าหน้าจอ LCD ค่อนข้างมาก สำหรับ Lumia 930 ที่หน้าจอเล็ก (เล็กกว่า Lumia 1520) นั้นต้องหาพื้นที่ให้แบตเตอรี่ในทางหนาเป็นหลัก การเลือกใช้หน้าจอที่บางกว่าจะช่วยให้เลือกใช้แบตเตอรี่ได้ความจุสูงกว่า
  • สาเหตุที่หน้าจอ OLED ของ Lumia 1020 เลือกใช้แบบมีหน่วยความจำได้ แต่ Lumia 930 เลือกใช้แบบไม่มีหน่วยความจำ คงมาจากต้นทุนเป็นสำคัญ และต้นทุนของหน้าจอ Lumia 930 ที่แพงกว่าเนื่องจากความละเอียดสูงกว่าและขนาดใหญ่กว่าอยู่แล้ว จะยิ่งแพงขึ้นไปอีกหากต้องมีหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า เนื่องจากความละเอียดหน้าจอยิ่งมาก ยิ่งต้องใช้หน่วยความจำขนาดใหญ่เพื่อเก็บข้อมูล ที่เลือกใช้แบบไม่มีหน่วยความจำไปเลยอาจจะเพื่อตัดปัญหาตรงนี้ทิ้งไปแทน

นอกจากนี้ทางไมโครซอฟท์ (อดีตโนเกีย) มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่ช่วยให้การใช้งานโทรศัพท์กลางแดดจ้าดีขึ้น เห็นได้ชัดขึ้น ในส่วนของ Lumia 930 นั้นถือว่าทำได้ดีพอๆ กับ Lumia 920 ซึ่งค่อนข้างดีกว่ามาตรฐานโทรศัพท์ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น OLED หรือ LCD แต่เมื่อเทียบกับ Lumia 1520 นั้นถือว่าห่างชั้น เนื่องจากหน้าจอ OLED ของ Lumia 930 นั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถสู้แสงได้ดีเท่ากับ LCD ทำให้ Lumia 1520 ยังคงครองแชมป์หน้าจอที่ใช้งานกลางแดดจ้าเท่าที่ผมเคยได้จับอยู่ (แม้ว่าแดดแรงกลางทุ่ง หน้าจอของ Lumia 1520 ไม่เคยทำให้ผมต้องเพ่งมอง คมชัดเหมือนอยู่ในร่ม ซึ่งนอกจากหน้าจอของ Lumia 1520, หน้าจอ E Ink แบบใน Amazon Kindle และป้ายโฆษณาที่ใช้หลอด LED แล้วผมไม่เคยเจอหน้าจอที่สู้แสงได้แบบนี้เลย)

สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบเรื่องหน้าจอสู้แสงของ Lumia 1520 นั้น ขอเชิญพักชมโฆษณา Lumia 2520 ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันก่อนครับ

หน้าจอของ Lumia 930 นั้นถือว่าเป็นหน้าจอที่มีความหนาแน่นของพิกเซลสูงที่สุดในบรรดา Lumia ปัจจุบัน โดยมีความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลเท่ากับ Lumia 1520

การที่หน้าจอมีความหนาแน่นของพิกเซลสูงขนาดนี้ทำให้ได้ภาพที่แสดงบนหน้าจอคมมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Lumia 920 แล้ว จะเห็นได้ชัดว่าขอบต่างๆ ไม่ว่าตัวอักษรหรือรูปภาพบนหน้าจอ Lumia 930 นั้นคมกว่ามาก

ในทางกลับกัน ไม่รู้ว่าด้วยเหตุที่ Lumia 930 ใช้หน้าจอ OLED ที่เรียงเม็ดพิกเซลแบบ Pentile หรืออย่างไร ผมรู้สึกว่าหน้าจอมันหยาบมากครับ หยาบยิ่งกว่า Lumia 920 เสียอีก และไม่ใช่รู้สึกเมื่อตั้งใจเพ่งมองระยะประชิดเพื่อจับผิดนะครับ ผมรู้สึกว่าหน้าจอมันหยาบแม้จะมองที่ระยะมากกว่า ๑ ฟุตแล้วก็ตาม

ขออธิบายส่วนของคำว่าคมกับหยาบของผมนิดนึง ในส่วนของคมกับเบลอ ผมใช้การดูที่ขอบของภาพ ส่วนหยาบกับเนียน ผมดูที่ว่าพิกเซลกับพิกเซลมันเชื่อมกันดีแค่ไหน ในกรณีนี้คือผมรู้สึกได้ว่ามันมีช่องว่างระหว่างพิกเซลค่อนข้างกว้างจนรู้สึกได้ และในกรณีของเส้นตรงแนวตั้ง โดยเฉพาะสีขาว (เช่น ตัวเลข 1) มันทำให้เส้นดูไม่ตรง แต่หยักเป็นฟันปลาเลยทีเดียว ซึ่งในส่วนของความหยาบนี้ผมไม่เคยเห็นใครพูดถึง จึงไม่แน่ใจว่ามีผมเป็นคนส่วนน้อยที่มองเห็นมันได้หรือเปล่า

ส่วนของสีหน้าจอ ผมรู้สึกว่ามันออกแดง และมีผู้ใช้งานท่านอื่นรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่ด้วย color profile ที่ปรับได้ทั้ง color temperature, tint และ color saturation นั้นทำให้สามารถปรับให้สีออกมาได้ค่อนข้างตรง (แต่กว่าจะปรับได้ก็เล่นเอาตาลาย)

การใช้งานทั่วไป

การเปลี่ยนจาก Lumia 920 มาใช้ Lumia 930 นั้น ไม่ได้มีผลอะไรต่อการใช้ชีวิตปกติขนาดเปลี่ยนแปลงมากนัก ระยะเวลาที่แบตเตอรี่อยู่ได้ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ความร้อนก็ยังร้อนเช่นเดิม แถมเมื่อโครงของเครื่องเป็นอะลูมิเนียมแล้วยังยื่นออกมาเป็นขอบเครื่องด้วยทำให้การถ่ายเทความร้อนออกมาที่ขอบเครื่องทำได้ค่อนข้างดี จนรู้สึกว่ามันร้อนมากที่ขอบเครื่อง (Lumia 920 ก็ร้อนมาก แต่ไม่ร้อนออกมาที่ขอบเครื่องเนื่องจากเป็นพลาสติกทั้งแท่ง)

สิ่งที่เปลี่ยนไปแบบเห็นได้คือความเร็วในการทำงานเมื่อเจองานหนัก เช่น การถ่ายภาพแบบ HDR หรือการประมวลผลต่อภาพด้วย Photosynth เวลาใช้งานพวกนี้งานจะเสร็จเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว

ประสบการณ์ใช้งานที่ต่างออกไปส่วนมากก็จะเป็นสิ่งที่มากับ Lumia Cyan และฮาร์ดแวร์เฉพาะบางอย่างที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาเช่น การใช้งาน SensorCore (ทำงานคล้ายกับชิป M7 ใน iPhone) หากเราติดตั้งแอพพลิเคชันที่รองรับไว้และพกโทรศัพท์ไปไหนมาไหนทั้งวัน เราก็สามารถดูบันทึกกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำในแต่ละวันได้ เช่น Bing Health & Fitness จะนับก้าวเดินและวิ่งของเราไว้ให้ด้วย

No Description

ผมทดสอบพกโทรศัพท์ที่ไม่ได้เปิดอะไรทิ้งไว้ปั่นจักรยานต่อเนื่อง ๔๐ นาที (หยุดตอนติดไฟแดงบ้าง) แบตเตอรี่ลดจาก ๑๐๐% มาเหลือ ๙๖% ครับ ทดสอบสองครั้งได้ผลเท่ากัน ประเมินคร่าวๆ ว่าใช้พลังงานในแบตเตอรี่ ๑% ต่อระยะเวลา ๑๐ นาที

ส่วนถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ผมเคยวางไว้เฉยๆ ค้างคืน ๘ ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดจาก ๑๐๐% มาเหลือ ๙๔% ครับ

การใช้งานทั่วไป หยิบเล่นบ้างพอสมควรไม่ถึงกับหนักหน่วง รอดวันได้แบบหวาดเสียว เรียกว่าถ้าหาชาร์จระหว่างวันได้จะปลอดภัยกว่า

สำหรับการใช้งานร่วมกับ Treasure Tag (ที่มีโปรโมชันแถมกับโทรศัพท์ในช่วงแรก) เองดูจะไม่ใช้พลังงานอะไรมากมายจนเห็นได้ชัด สามารถเชื่อมต่อทิ้งไว้โดยไม่ต้องกังวลได้

ในส่วนของการนำทางด้วย HERE Drive+ แม่นยำดี จับสัญญาณได้เร็ว โดยไม่มีปัญหาเครื่องร้อนหรือแบตเตอรี่ลดเร็วจนผิดปกติแต่อย่างใด

กล้อง

ในส่วนของกล้องนั้น Lumia 930 ใช้โมดูลกล้องตัวเดียวกับ Lumia 1520 ทำให้ไม่มีอะไรต่างออกไป จะมีต่างบ้างก็ตรงที่ Lumia 930 ได้รับ Lumia Cyan แล้ว ทำให้ได้เปรียบในบางส่วนจากซอฟต์แวร์ไปพลางๆ จนกว่า Lumia 1520 จะได้อัพเดต Lumia Cyan

จุดเด่นที่เพิ่มเข้ามาใน Lumia Cyan ส่วนมากจะทำงานร่วมกับแอพถ่ายภาพ Nokia Camera ครับ เท่าที่ผมลองใช้และเห็นได้ชัดก็มีตามนี้

  • ปรับอุณหภูมิสีได้ดีขึ้น แม่นยำขึ้น แต่สำหรับในที่ร่มก็ยังคงเป็นจุดอ่อนเช่นเคย
  • การโฟกัสต่อเนื่องก่อนถ่ายภาพทำได้ดีขึ้น
  • ปิดจุดอ่อนโฟกัสช้าของตัวเอง ด้วยการใช้การโฟกัสต่อเนื่องก่อนกดชัตเตอร์ และหากการโฟกัสต่อเนื่องนั้นตรงแล้วแล้ว จะไม่มีการโฟกัสใหม่เมื่อกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง ทำให้ถ่ายภาพได้รวดเร็วขึ้นในหลายโอกาส
  • มี Living Image ที่ทำให้ภาพเคลื่อนไหวได้เล็กน้อยก่อนภาพจริง ดูมีชีวิตขึ้นมา ฟีเจอร์นี้ผมชอบมากตั้งแต่เปิดตัว เมื่อได้ใช้งานจริงก็พบว่าดีมาก ประสบการณ์การใช้งานดีจริง แต่มาเสียท่าตรงที่"ไม่สามารถแบ่งปันไปที่อื่นได้" ต้องดูบนโทรศัพท์ตัวเองเท่านั้น ส่งต่อปุ๊บกลายเป็นภาพนิ่ง คิดว่าทางไมโครซอฟท์ควรหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว (เวลาที่ถ่ายแบบ Living Image ในโทรศัพท์จะบันทึกไว้เพื่อแสดงผลสามไฟล์ ๑. ไฟล์ภาพนิ่งความละเอียดต่ำที่เป็นเฟรมแรกของวิดีโอ ๒. ไฟล์วิดีโอ ๓. ไฟล์ภาพหลักความละเอียดสูง)
  • ถ่ายภาพได้เร็วขึ้นมาก ผมลองกดชัตเตอร์ค้างตอนนี้ได้ประมาณ ๑ ภาพต่อ ๑ วินาที ซึ่งไม่เร็วมากนักแต่ดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว

ภาพที่ได้ผมเน้นเก็บแต่ภาพ ๕ ล้านพิกเซลครับ เนื่องจากเก็บรายละเอียดได้ดีสมกับที่ใช้ oversampling ของ PureView หรือถ้าต้องการนำไฟล์ไปปรับแต่งผมก็จะกระโดดไปเลือกเก็บ ๕ ล้านพิกเซลพร้อมไฟล์ raw เลยมากกว่าจะเก็บภาพ jpeg ความละเอียดสูง ในส่วนของ dynamic range กว้างใช้ได้ในระดับหนึ่ง สีสันค่อนข้างโอเค

การถ่ายในที่มืด ด้วยความที่รูรับแสงแคบกว่า Lumia 920 ทำให้ส่วนมากต้องเปิดหน้ากล้องให้นานกว่า Lumia 920 แต่ก็ชดเชยด้วย ISO ที่สามารถดันขึ้นไปได้สูงถึง ๔,๐๐๐ (แน่นอนว่าสัญญาณรบกวนจนภาพแย่มาก แต่ดีกว่าถ่ายไม่ได้ในหลายสถานการณ์ และการทำ oversampling จะทำให้คุณภาพดีขึ้นบ้าง)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายมาครับ หลายๆ ภาพผมถ่ายเพื่อเล่นกับ Living Image ดูในโทรศัพท์ก็ดีๆ อยู่ แต่พอมานิ่งๆ แล้วก็ดูจืดไปเลย

No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description
No Description No Description

ภาพเปรียบเทียบที่ถ่ายจาก Nokia Camera กับ HDR Photo Camera (ตัวหลังถ่าย 3 ภาพ EV +2 0 -2 ก่อนทำ HDR)
No Description No Description

ปัญหาการใช้งาน

ใช้งานทั่วไปผมไม่พบอะไรผิดแปลก นอกจากอาการแบตเตอรี่ลดเร็วตามปกติ แต่เมื่อตรวจสอบดูจริงๆ พบว่าเครื่องที่ได้รับมาไม่สามารถเชื่อมต่อกับ LTE ของ Truemove-H ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อบังคับต่อกับ 4G True นั้นตัวเลือกระดับความเร็วในเครื่องจะลดลงเหลือแค่ 3G, 2G ทันที (ขณะที่เมื่อเลือกเครือข่ายแบบอัตโนมัติจะแสดงผลครบทั้ง 4G, 3G, 2G) ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะเครื่องที่ได้รับ หรือเป็นกันหมดแล้วต้องรออัพเดตซอฟต์แวร์

Gorilla Glass 3

แม้กระจกหน้าจอจะเปลี่ยนจาก Gorilla Glass 2 มาเป็นรุ่นใหม่อย่าง Gorilla Glass 3 แต่หลังจากใช้งานมาไม่ครบสัปดาห์ ผมก็สังเกตเห็นรอยบนหน้าจอ ที่คาดว่าเป็นรอยขูดขีด

ผมเป็นคนใช้โทรศัพท์โดยไม่ติดฟิล์ม ไม่ใส่เคส แล้วถนอมเอาตามสภาพ กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 2 ของ Lumia 920 ที่ใช้อยู่ก็มีรอยขนแมวอยู่บ้าง กับ Lumia 930 นี่ก็ใช้งานแบบเดียวกัน ไม่ได้ระวังหรือหาเรื่องเป็นพิเศษแต่อย่างใน ปรากฏว่ามีรอยที่ลึกกว่ารอยขนแมวโผล่มา ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นรอยร้าว แต่ก็แปลกใจว่ามันไม่น่าหันไปทางเดียวกันจนเป็นแนวแบบนี้ เลยตัดสินใจหอบเครื่องไปให้พนักงานช่วยส่องอีกแรง พนักงานยืนยันว่าเป็นแค่รอยขูด ผมก็เชื่อครับ (ง่ายเนอะ)

ตอนนี้รอยมีทั้งหมดสองแนวครับ แนวแรกอยู่ขอบจอบนพอดี (ช่วงรอยต่อจอแสดงผลกับตัวเครื่อง) อีกแนวหนึ่งอยู่ที่ขอบจอล่าง ในแต่ละแนวประกอบด้วยรอยไม่ยาวมากที่หันไปในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ขอบกระจกฝั่งหนึ่งไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง แต่ด้วยการที่เป็นแนวชัดเจนขนาดนี้อาจเป็นไปได้ว่าไปโดนอะไรมา ซึ่งผมก็ว่าผมไม่ได้ทำอะไรนะ แต่เป็นอันรู้กันว่าอย่าหาเรื่องทดสอบกระจกกันรอย

ภาพถ่ายให้ติดได้ยากพอสมควร เอาเท่าที่พอมองเห็นบางรอยได้ ภาพแรกเป็นภาพรอยที่ขอบหน้าจอบน จะเห็นรอยสะท้อนแสงแฟลชอยู่ทางซ้ายของด้านใต้หูฟัง

No Description

ถัดมาเป็นที่แนวขอบจอล่าง ภาพแรกถ่ายธรรมดา อีกภาพเป็นภาพที่ตัดแสงด้วยฟิลเตอร์ C-PL ไม่แน่ใจว่าภาพไหนจะเห็นง่ายกว่ากัน

No Description No Description

สรุป

ข้อดี

  • กล้องครับ ผมชอบภาพที่ได้มากๆ แม้ภาพที่ได้จะมีความละเอียดเพียง ๕ ล้านพิกเซลก็ตาม (สามารถเลือกเก็บภาพ raw หรือ jpeg ขนาด ๑๖, ๑๙ ล้านพิกเซลได้หากต้องการ แต่ผมชอบภาพ ๕ ล้านพิกเซลครับ)
  • ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
  • ไมโครโฟน HAAC ที่ทำงานได้ดีเสมอมาใน Lumia หลากหลายรุ่น ครั้งนี้มีถึง ๔ ตัวทำให้การบันทึกวิดีโอมีมิติ และได้เสียงที่ดีเยี่ยม
  • หน้าจอ คมมาก (ภาพคมนะครับ ไม่บาดมือนะ)
  • ความเร็วในการทำงาน
  • วัสดุ จับแล้วรู้สึกดี
  • การประกอบที่แน่นหนา
  • หน้าจอไม่ใหญ่เกินไป (สำหรับบางคน)
  • SensorCore เป็นลูกเล่นเล็กน้อยที่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีประโยชน์มาก-น้อยแค่ไหน
  • ช่องใส่ซิมการ์ดแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้เข็มจิ้ม เปิดได้โดยใช้เล็บหรือของบางอย่างงัดออกมา โดยที่ไม่หลุดออกมาง่ายนักแม้ทำหล่น (ไมโครซอฟท์บอกมา ผมไม่กล้าทำ drop test ครับ :p)
  • Windows Phone 8.1 พร้อม Lumia Cyan

ข้อเสีย

  • แบตเตอรี่หมดเร็วหากนั่งเล่นจริงจัง
  • แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนไม่ได้
  • ร้อนมากเวลาที่ใช้งานหนัก แต่หากเคยชินกับความร้อนจาก Lumia 920 แล้วคงไม่มีปัญหา
  • ไม่มี Glance screen
  • หน้าจอเล็กเกินไป (สำหรับบางคน)
  • หน้าจอ คมมาก (รอยร้าว)
  • เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้
  • ไม่กันน้ำกันฝุ่น
  • Windows Phone 8.1 พร้อม Lumia Cyan

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทางไมโครซอฟท์ที่สนับสนุนเครื่องมาให้ทดสอบด้วยครับ

Get latest news from Blognone

Comments

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 10 July 2014 - 19:33 #720799
Be1con's picture

จริง ๆ แชร์ได้นะไอ้ Living Images แต่ต้องแชร์ผ่าน Storyteller ครับ

ป.ล. จอ OLED เฉย ๆ ครับ


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 10 July 2014 - 19:40 #720800 Reply to:720799
hisoft's picture

ผมไปไล่แก้เจ้า OLED อยู่นี่ล่ะครับ :p

แชร์ผ่าน Storyteller ก็ออกเป็นภาพนิ่งครับ ท่าน nrad6949 ยืนยันได้เลย ในงานเปิดตัวนี่เหวอกันเป็นแถบ ต้องสั่งรวมภาพให้มากกว่าหนึ่งภาพเพื่อสร้างวิดีโอของอัลบัมถึงจะแชร์ออกมาเป็นคลิปได้

By: nuntawat
WriterAndroidWindowsIn Love
on 10 July 2014 - 20:40 #720814
nuntawat's picture
  • glance screen -> Glance screen; Sensorcore -> SensorCore
  • เติมคำเชื่อมระหว่าง "Windows Phone 8.1" และ "Lumia Cyan"
  • ตรงหัวข่าว "「รีวิว」" ทำไมใช้ '「' กับ '」' แทน '[' กับ ']'?
By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 10 July 2014 - 21:33 #720837 Reply to:720814
panurat2000's picture

หน้าจอ e-ink แบบใน Amazon Kindle

e-ink => E Ink

กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 2 ของ Lumia 920 ที่ใชอยู่ก็มีรอยขนแมวอยู่บ้าง

ที่ใชอยู่ => ที่ใช้อยู่

ปรากฎว่ามีรอยที่ลึกกว่ารอยขนแมวโผล่มา

ปรากฎ => ปรากฏ

จะเห็นรอยสะท้อนแสงแฟลชอยู่ใต้หูฟังด้านซ้าย

ใต้หูฟังด้านซ้าย ?

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 11 July 2014 - 05:15 #720911 Reply to:720837
hisoft's picture

แก้แล้วครับ ยกเว้นข้อสุดท้ายที่ตอนแรกตั้งใจแบบนั้นจริงๆ (ไม่ได้ผิด) แต่ก็ลองปรับดูใหม่แล้วครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 11 July 2014 - 05:15 #720910 Reply to:720814
hisoft's picture

แก้แล้วครับ

ส่วนเรื่องวงเล็บ เห็นไม่ได้มีข้อกำหนดอะไรผมเลยลองเปลี่ยนดูบ้างครับ - -"

By: sdh on 13 July 2014 - 12:06 #721239 Reply to:720910
By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 July 2014 - 16:06 #721277 Reply to:721239
hisoft's picture

ข่าวผมไม่ใช้เลขไทย จนกว่ามันจะเก่าพอจะหลุดไปหลายๆ หน้าหลายๆ วันครับ

จริงๆ ช่วงหลังนี่แก้เป็นเลขไทยเพราะแก้เล่นๆ แล้วมากกว่าครับ คิดว่าอีกไม่นานผมคงเลิกแก้แล้ว ขอบคุณที่ช่วยเตือนครับ

By: nuntawat
WriterAndroidWindowsIn Love
on 10 July 2014 - 20:39 #720815
nuntawat's picture

ทำไม "Windows Phone 8.1 Lumia Cyan" เป็นข้อเสียหว่า?

By: jaideejung007
ContributorWindows PhoneWindows
on 10 July 2014 - 21:14 #720829 Reply to:720815
jaideejung007's picture

นั่นสิครับ

By: moosaTAE
AndroidWindows
on 11 July 2014 - 00:05 #720880 Reply to:720815
moosaTAE's picture

ผมเก็ตนะ 5555+

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 11 July 2014 - 05:16 #720912 Reply to:720815
hisoft's picture

เป็นข้อเสียจนหลายคนไม่ซื้อเลยนะครับ :p

By: obnetarena
Windows PhoneWindows
on 11 July 2014 - 18:25 #721000 Reply to:720912

ผมว่า Windows Phone 8.1 น่าจะเป็นข้อเสียครับ

ส่วนจะเป็น Lumia Amber/Lumia Black/Lumia Cyan นี่ ไม่น่าจะเป็นประเด็นละครับ

เอาจริง ๆ แค่ Windows Phone ปุ๊บ หลายคนก็บอกว่าเป็นข้อเสียละ

By: Witna
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 July 2014 - 20:52 #720819

ผมถึงไม่ไว้ใจไอ่อะไรก็ตามที่ว่ากันรอย ทนขูดขีด หรืออะไรก็ตามไม่ว่าของเจ้าไหน
คือเป็นรอยขึ้่นมาแล้วจะไม่คุ้ม
พอดีเป็นคนที่รับริ้วรอยไม่ได้ แค่รอยขนแมวขึ้นนี่ก็กุมหัวแระ
ไหนจะราคาตก เวลาปล่อยมือ 2 อีก

By: magnamonkun
WriterAndroidWindows
on 11 July 2014 - 02:32 #720902 Reply to:720819
magnamonkun's picture

คือมันจะไม่น่าตกใจเลยครับ ถ้า Corning ไม่โฆษณาว่า Gorilla Glass 3 มันโคตรทน แต่การใช้งานจริงแทบไม่ต่างจากหน้าจอกระจกทั่วไปเลย กันได้ของใหญ่ๆ เช่นเหรียญ หรือกุญแจเท่านั้นครับ แต่กับพวกฝุ่นทรายนี่ตัวทำรอยชั้นดีเลยล่ะครับ

By: darthvader
Windows PhoneWindows
on 11 July 2014 - 08:55 #720922
darthvader's picture

ตอกย้ำว่า​ควรซื้อ​หรือ​ไม่​ แต่ผมว่าก็สมราคา​ 8000 นะครับ​ ☺ //ขอบคุณ​สำหรับ​รีวิว​นะ​ครับ​

By: inote
iPhone
on 13 July 2014 - 23:49 #721349

Windows Phone คือข้อเสียที่หนักที่สุดครับ ถ้าเป็นแอนดรอยจะขายดีขึ้นอีกสิบเท่า ผมคนนึงละที่จะซื้อแน่ๆ