Tags:

เครือร้านหนังสือใหญ่อันดับสองของอเมริกา Borders ประกาศยุติการดำเนินกิจการแล้ว หลังจากที่บริษัทยื่นขอล้มละลายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และในช่วงดำเนินการแผนฟื้นฟูบริษัทไม่สามารถหาผู้เข้ามาซื้อกิจการต่อได้ บริษัทจึงประกาศยุติการดำเนินการ โดยจะปิดสาขาของร้านที่เหลืออยู่ประมาณ 400 สาขาทั้งหมดลงภายในเดือนกันยายน และปลดพนักงานทั้งหมดราว 11,000 อัตรา

Borders ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายหนังสือมาตั้งแต่ปี 1971 โดยบริษัทเข้าสู่ยุครุ่งเรืองช่วงก่อนถึงปี 2000 ซึ่งบริษัทขยายสาขาไปได้มากกว่า 1,000 สาขา แต่บริษัทเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งมีปัญหาเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงปัจจัยหลักจากความนิยมที่คนซื้อหนังสือออนไลน์มากขึ้น ซึ่งแม้ Borders จะมีร้านค้าออนไลน์เช่นกัน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งตลาดอีบุ๊กก็กำลังมาแรงแต่ Borders เลือกทำการค้าร่วมกับ Kobo แทนที่จะผลิตเครื่องอ่านเองแบบ Amazon หรือ Barnes & Noble ทำให้บริษัทก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกในตลาดอีบุ๊ก

สินทรัพย์ทั้งหมดของ Borders โดยเฉพาะที่ดินและอาคารของร้านสาขาจะถูกนำมาขายทอดตลาดเพื่อหาเงินชำระหนี้ต่อไป

ที่มา: Reuters

Get latest news from Blognone

Comments

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 19 July 2011 - 13:17 #312103
lingjaidee's picture

โหย .. ขนาดอย่าง Borders ยังตายได้ง่ายๆ .. ย้อนเวลาแล้ว ตอนเกิด Amazon ใครจะคิดว่าจะมาฆ่ายักษ์ได้ ~


my blog

By: toandthen
WriterMEconomics
on 19 July 2011 - 13:26 #312111 Reply to:312103
toandthen's picture

ผมเชื่อว่า ebook และ amazon เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ที่ทำให้เขาล้มละลายครับ จริง ๆ แล้วมันอยู่ที่ปัญหาหมุนเงินมากกว่า


@TonsTweetings

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 19 July 2011 - 15:03 #312145 Reply to:312103
put4558350's picture

ใครปรับตัวช้าก็เป็นแบบนั้นแหละ ibm - plam - win mo ล้มมาเร็ว


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 19 July 2011 - 15:06 #312146 Reply to:312103
lingjaidee's picture

แล้วที่น่าสนใจก็คือ มันเป็นธุรกิจที่ไม่มีใครอยากกระโดดลงมาแข่งกับ Amazon แล้วด้วย เพราะตอนนี้ธุรกิจหนังสือมันไม่ได้อยู่ที่หนังสือเพียงอย่างเดียว มันเป็น Ecosystem ไปแล้ว ทั้ง E-book ทั้ง Social ของธุรกิจ มันผูกกันไปหมด จนไม่คุ้มทุนที่จะกระโดดเข้ามาซื้อกิจการ และแม้แต่ Amazon เองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาซื้อธุรกิจของคู่แข่ง .. แบบนี้ในระบบ คงมีพนักงานถูกลอยแพอีกเพียบ >_<


my blog

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 19 July 2011 - 16:58 #312209 Reply to:312146
tekkasit's picture

แต่กว่าอเมซอนจะมาถึงจุดนี้ ทุ่มเทสร้าง ecosystem มานานมาก จนต่อจิ๊กซอว์ครบ ทั้งระบบ Cloud, ระบบหน้าร้าน, ระบบการให้คะแนน, สร้างสังคม, ติดต่อ publisher ผู้ถือสิทธิ์ eBook, ทำ eReader, ติดต่อผู้ใช้บริการมือถือเพื่อให้ลูกค้าใช้ Data Network แบบ Global ได้ทุกหนทุกแห่งทั่วโลก โดยผู้ใช้ไม่ต้องควักเงินเพิ่ม

กว่าจะมาถึงจุดที่มันจะเริ่มลอยตัวได้ นานมากครับ

By: febthor
iPhoneAndroid
on 19 July 2011 - 13:24 #312110
febthor's picture

อึ้ง ...

By: aeke88
iPhoneAndroid
on 19 July 2011 - 15:21 #312155
aeke88's picture

คนตกงานหมื่นคน น่าสงสาร

ตอนนี้ก็ได้แต่กอดขาเก้าอี้เอาไว้อย่างดี กลัวจะได้ตั๋วไปวิจัยฝุ่นเหมือนกัน

เศรษฐกิจหนอ แปรปรวนเหมือนดั่งอารมณ์ของเธอ (เธอไหนไม่รู้นะ)

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 19 July 2011 - 15:21 #312157

นึกถึง Se-ed กับ มารวย

By: netfirms
iPhoneAndroidWindows
on 19 July 2011 - 15:35 #312167
netfirms's picture

ตอนนี้ร้านหนังสือไทยผมก็ไม่ค่อยได้ซื้อแล้วเหมือนกันแฮะ ปกติซื้อแต่ Textbook เสียมากกว่า

By: EThaiZone
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 19 July 2011 - 15:59 #312184
EThaiZone's picture

ใครเคยใช้ Kindle จะทราบดี การซื้อหนังสือมันจะเป็น Step แบบนี้

  • ผูกบัตรเครดิตเข้า Amazon
  • ซื้อเครื่องมา หักจากบัตร เครื่องส่งไปรษณีย์ รับเครื่องมา
  • เอนนอนบนเตียง แล้วใช้ Kindle สั่งหนังสือ มันโหลดลงเครื่องแล้วก็จบ

จากนั้นมันจะวนที่ขั้นตอน 3 ตลอดเลย มันก็แค่เท่านี้


มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB