By: arjin 
on 12 December 2023 - 12:28
Tags:
คณะลูกขุนในคดีที่ Epic Games ฟ้องกูเกิลในข้อหาผูกขาดแอปสโตร์ ออกคำตัดสินแบบเป็นเอกฉันท์ว่ากูเกิลมีพฤติกรรมผูกขาดบน Android และทำให้ Epic ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ
Wilson White ตัวแทนของกูเกิลออกแถลงการณ์ ว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินในคดีนี้ โดยยืนยันว่า Android และ Google Play เป็นแพลตฟอร์มเปิดและให้ทางเลือกมากกว่า และบอกว่าข้อมูลจากการไต่สวนแสดงให้เห็นว่ากูเกิลอยู่ในการแข่งขัน ทั้งกับ App Store ของแอปเปิล และสโตร์อื่นบน Android
Epic Games ก็ออกแถลงการณ์เช่นกันว่านี่เป็นชัยชนะของนักพัฒนาแอปและลูกค้าทั่วโลก คำตัดสินนี้พิสูจน์ว่ากูเกิลพยายามผูกขาดธุรกิจ และลดการแข่งขันในตลาด เช่น การจ่ายเงินให้นักพัฒนารวมหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อไม่ให้นำแอปไปลงสโตร์อื่นนอกจาก Play Store ไปจนถึงการจ่ายเงินให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เพื่อรับประกันว่า Play Store จะยังมีอยู่บนอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้น
ทั้งนี้มติของลูกขุนเป็นการระบุว่ากูเกิลมีความผิด แต่ผู้พิพากษายังไม่ได้กำหนดบทลงโทษว่าจะเป็นอย่างไร เพราะ Epic Games ก็ไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย แต่ต้องการให้กูเกิลเปิดอิสระให้กับนักพัฒนาในการเผยแพร่แอปผ่านสโตร์ต่าง ๆ
ที่มา: The Verge
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ก็สมควรโดนเปิดอิสระก็จริง แต่ย้ำตอนจะติดหลายชั้นเกินไป ย้ำอยู่นั่นแหละว่าระวังนั่น ระวังนี่ ระวังโน่น ใส่มา 2-3 ชั้นข้อความเตือน ใส่ข้อมูลให้ผู้ใช้งานรู้สึกแบบลังเลว่าจะติดตั้งดีไหม อย่าชักจูงให้คนแพนิคเกินไป เปิดอิสระแต่ยัดเยียดความกลัวให้คนที่จะติดตั้ง
ไปคนละเรื่องแล้วพ่อ
ก็ไม่เชิงคนละเรื่องซะทีเดียวนะครับ เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ Epic ฟ้อง Google ด้วยเช่นกัน (คือถึงแม้จะเปิดแต่ก็พยายามกีดกัน ด้วยการใส่คำเตือนต่างๆนานาเข้าไปในระบบ)
เพียงแต่เรื่องจ่ายเงินมันก็เพียงพอที่จะถูกตัดสินให้ฟ้องว่าผูกขาดได้แล้ว เพราะงั้นเรื่องกีดกันที่ว่าก็เลยไม่ได้ถูกกล่าวถึงเท่านั้นเอง (แต่ผมก็ไม่ได้เข้าไปอ่านในรายละเอียดนะ)
อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณทั้งสองท่่านครับ
ถ้าตามดีๆ Epic ก็ใส่เรื่องนี้ไปตอนฟ้องด้วยว่า ทำให้คนกลัวว่าติดตั้งแล้วจะเจออะไรแปลกๆ เหมือนเตะตัดขากัน ไม่ควรมีใส่ให้ผู้ใช้งานคิดมาก อะไรทำนองนี้
เอ๊ะ คุ้น ๆ แฮะ คล้าย ๆ Exxx Store ที่ขายเกมบน PC เลย
Market share ยังน้อยเลยรอดครับ โตเมื่อไหร่ก็โดนเหมือนกัน
ควรมีโหมด Sandbox ได้แล้วนะ Work Profile ก็มีอยู่แล้ว เอามาปรับใช้สิ หลาย ๆ แอปโดยเฉพาะเกมก็น่าจะยินดีที่จะอยู่ใน Sandbox อยู่แล้ว
ตรงนึ้แหละครับที่ Google ทำ คือเค้าจะให้มองว่ามันไม่ปลอดภัย
ถ้าทำขึ้นมามัรก็คือปลอดภัยที่จะรันในนั้น แล้ว store อื่นๆเค้าก็เกิดได้ง่ายๆครับ
ไม่ใช่ไม่ทำ แต่ทำแล้วไม่ได้อะไร แถมคู่แข่งก็โตง่าย
เลยเป็นเหตุนึงของการกีดกันทางอ้อมได้เหมือนกัน
ปล.คิดเองเออเองตามเนื้อข่าว
พออ่านรายละเอียดแล้ว ส่วนตัวผมเข้าใจในแง่ของหลักการนะว่าทำไม Apple รอดแต่ Google โดน
แต่ในมองในมุมผู้บริโภคปลายทางที่ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายหรือโครงสร้างธุรกิจอะไรแล้ว... ก็คงจะงงๆหน่อยว่าทำไมผลถึงออกมาต่างกันทั้งที่สิ่งที่ตัวเองได้รับมันก็เหมือนๆกัน
ถ้าเอาไปจั่วหัวทำนองว่า Google ที่เปิดให้ลงแอปได้(แต่ใช้ลูกเล่น)โดนฟ้องผูกขาด แต่ Apple ที่ปิดไม่ได้ลงได้เลยกลับรอด หรืออะไรแบบนี้คงเรียกยอดได้พอสมควรเลยมั้ง 55+
เอาแบบ เข้าใจง่ายๆ คือ ปัญหาระบบปิด
กับระบบเปิดแต่ดันไม่มีใครอยากออกไปเปิด (เพราะโดนยัดเงิน)