บริษัทเกมยักษ์ใหญ่หลายราย ประกาศยุติการทำธุรกิจในประเทศรัสเซียและเบลารุส จากสถานการณ์สงครามในยูเครน

รายที่สำคัญคือ CD Projekt ที่ประกาศหยุดการให้บริการขายเกมดิจิทัลบน GOG และหยุดขายเกมของตัวเอง (เช่น Cyberpunk 2077 หรือ The Witcher) กับลูกค้าในรัสเซียและเบลารุส

GOG ยังร่วมมือกับนักพัฒนาเกมหลายราย จัดแคมเปญขายเกมเพื่อนำเงินไปช่วยผู้ประสบภัยสงคราม และ CD Projekt ที่มีสำนักงานใหญ่ในโปแลนด์ (ติดกับยูเครน) ก็มีโครงการช่วยสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ให้ผู้ลี้ภัยจากยูเครนด้วย

pic.twitter.com/n8oD9aazYf

— GOG.COM (@GOGcom) March 3, 2022

We're teaming up with more developers and publishers to support humanitarian aid for victims in Ukraine.Profits of these titles will be donated to the Red Cross ? https://t.co/ANlLsMBrGC pic.twitter.com/Ev2k1UraZI

— GOG.COM (@GOGcom) March 2, 2022

CD PROJEKT teams #StandWithUkraine ??Personal care and hygiene products collected by our employees are on the way to @WioskiSOS and @FundOcalenie to aid refugees from Ukraine.Remember: every bit of help counts, we're #StrongerTogether pic.twitter.com/n3BoWXoCYS

— CD PROJEKT RED (@CDPROJEKTRED) March 4, 2022

บริษัทใหญ่อีกเกมคือ EA ประกาศหยุดขายเกมของตัวเองในรัสเซียและเบลารุส โดยเริ่มจากหน้าร้าน Origin ของตัวเอง, ผ่านแอพ EA, การซื้อขายสินค้าในเกม และ EA บอกว่าจะแจ้งพาร์ทเนอร์ร้านขายเกมอื่นๆ ให้ถอดเกมของ EA ออกจากสโตร์ด้วย

ก่อนหน้านี้ EA เพิ่งประกาศถอดทีมชาติและทีมสโมสรรัสเซีย ออกจากเกมตระกูล FIFA และ NHL

pic.twitter.com/2LgTSPFO7Z

— Electronic Arts (@EA) March 5, 2022

บริษัทเกมรายอื่นๆ ที่ประกาศหยุดทำธุรกิจในรัสเซียแล้วคือ Xbox (ภายใต้ร่มใหญ่ของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งประกาศ), Sony ที่ไม่ขายเกม Gran Turismo 7 ในรัสเซีย, Bloober Team เจ้าของเกมสยองขวัญ The Medium

นอกจากนี้ยังมีนินเทนโดแจ้งลูกค้าในรัสเซียว่า ไม่สามารถขายเกมดิจิทัลผ่าน Nintendo eShop ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน แม้ไม่ได้ประกาศหยุดขายหรือให้บริการเกมในรัสเซียก็ตาม

ที่มา - IGN, EA, GamesIndustry