By: sunnywalker 
on 2 November 2018 - 10:30
Tags:
จากข่าว The New York Times ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังการลาออกจาก Google ของ Andy Rubin ว่ามาจากพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกน้องในที่ทำงาน โดยอ้างแหล่งข่าวในบริษัทไม่เปิดเผยชื่อหลายราย ทำให้พนักงาน Google ทั่วโลก ร่วมกันประท้วงหยุดงานไม่พอใจที่บริษัทปกป้อง Andy Rubin มากเกินไป
ขณะนี้การประท้วงหยุดงานเริ่มต้นในหลายสำนักงานทั่วโลกคือ โตเกียว, สิงคโปร์, อิสราเอล, สวิตเซอร์แลนด์, เยอรมัน, อังกฤษ, ไอร์แลนด์, นิวยอร์ค, ซานฟรานซิสโก, ลอสแองเจลิส และที่สำนักงานใหญ่ Mountain View ด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก vvkhxng
ผู้จัดการประท้วงเขียนในจดหมายข่าวว่า "ในฐานะพนักงานของ Google เรารู้สึกขยะแขยง กับรายละเอียดที่ New York Times เปิดเผย ซึ่งเป็นตัวอย่างล่าสุดของวัฒนธรรมแห่งการละทิ้งและการสนับสนุนผู้กระทำความผิดในการล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติและการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสม และเป็นอีกรูปแบบของวัฒนธรรมการเหยียดที่มีมาอย่างยาวนาน"
เว็บไซต์ BuzzFeed รายงานว่า การประท้วงครั้งนี้ได้รับการอนุมัติอย่างไม่เป็นทางการจากตัวซีอีโอ Sundar Pichai เอง โดยการบอกพนักงานผ่านอีเมลว่า "คุณจะได้รับการสนับสนุนเท่าที่คุณต้องการ"
กลุ่มผู้ประท้วงต้องการการเปลี่ยนแปลง 5 อย่างคือ
- ให้สิ้นสุดการบังคับคดีโดยอนุญาโตตุลาการในคดีการล่วงละเมิดและการเลือกปฏิบัติ (คู่กรณีตกลงเสนอข้อพิพาทให้บุคคลหรือคณะบุคคลที่เรียกว่า “อนุญาโตตุลาการ” ทำหน้าที่พิจารณาชี้ขาด และคู่กรณีตกลงที่จะเห็นด้วยตามคำชี้ขาดนั้น)
- ให้บริษัทหยุดการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้กระทำผิด
- เปิดเผยรายงานการคุกคามทางเพศในบริษัท
- ทำช่องทางให้สามารถแจ้งเหตุล่วงละเมิดทางเพศแบบปกปิดตัวตนได้
- ให้ผู้ทำหน้าที่ด้านความหลากหลายในองค์กรต้องรายงานตรงต่อซีอีโอ
Our incredible Googlers in Pittsburgh braved the rainy weather for #GoogleWalkout then hit us with this lovely team photo! pic.twitter.com/0DnN3eb2FS
— Google Walkout For Real Change (@GoogleWalkout) November 2, 2018
Hundreds joined the #GoogleWalkout in Los Angeles this morning. pic.twitter.com/CTo3iMQ9ss
— Google Walkout For Real Change (@GoogleWalkout) November 2, 2018
ผู้ประท้วงมีป้ายกระดาษที่มีข้อความน่าสนใจหลายอย่างเช่น Don't be Evil ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคุณธรรมหลักของ Google เลย และยังมีข้อความเสียดสีระบุว่า Happy to Quit for 90 milion dollars พูดถึง Andy Rubin ที่แม้จะโดนไล่ออกเพราะคุกคามทางเพศแต่ก็ยังได้รับเงินตอบแทน
ที่มา - BuzzFeed
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
เห็นข่าวในทวิตเตอร์ เดิน walkout กันตัวปลิวเลย ?
my blog
ทำไมส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่าความผิดที่เขาต้องได้รับการลงโทษก็เรื่องหนึ่ง เงินที่เขาต้องได้จากการทำงานในอดีตก็เรื่องหนึ่ง
That is the way things are.
นั่นสิครับ ได้เพราะผลงาน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความผิด
คุกคามลูกน้องในองค์กรตัวเองนะครับ ความผิดในหน้าที่นะครับไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ถึงผิดในหน้าที่ ก็สมควรได้ในส่วนที่ต้องได้หรือเปล่าครับ คือแค่ไหนก็รับผิดชอบแค่นั้น ไม่น่าจะริบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เอาดีลบเลว เอาเลวลบดี ถ้าเป็น Page หรือ Brin ทำล่ะ
การให้ของกูเกิลมันแสดงเจตนาว่าลูกน้องตัวเล็กโดนย่ำยียังไงก็ได้แต่คนเก่งขนาดนี้ทำอะไรผิดก็ให้ออกเพราะกฏแต่ก็ให้สิ่งตอบแทนเพื่อผลประโยชน์บริษัท แล้วคิดคนในบิษัทจะมองตัวเองว่าเป็นอะไรละครับอย่างนี้ ลองนึกตามดีๆครับค่โดนกระทำได้อะไรจากบริษัทไหมนอกจากคนทำโดนไล่ออกผมไม่รู้ แต่บริษัทให้เงินแก่คนทำ 90 ล้านหลังจากจำใจต้องไล่เขาออกเพราะกฏบริษัท...
คนละเรื่องกันอย่างชัดเจน
ผลประโยชน์ของโจทก์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผลประโยชน์ของจำเลย
โจทก์ร้องว่าจำเลยมีความผิดก็ต้องลงโทษจำเลยตามความผิด
การได้มาซึ่งผลประโยชน์ของจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดที่โจทก์ร้องเรียน
ดังนั้นจะใช้ความผิดเป็นข้ออ้างในการลดทอนผลประโยชน์ของจำเลยไม่ได้
หากอ้างว่าจำเลยไม่สมควรได้รับประโยชน์นั่นย่อมเป็นความแค้น ความริษยาที่เกิดจากความรังเกียจตัวจำเลย
โจทก์ย่อมมีความรังเกียจได้ตามวิสัยของผู้ถูกกระทำแต่ความรู้สึกของโจทก์ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการริดรอนสิทธิ์ของจำเลย
ของที่อื่นผมไม่ทราบนะครับ แต่ที่ทำงานผม กรณี Harassment (ทั้ง Sexual และการ Harass อื่นๆ) ถ้าโดนแจ้งแล้วเห็นว่ามีมูลก็โดนสอบครับ ต่อให้ชิงลาออกเองถ้าผลสุดท้ายตัดสินว่าผิดจริงก็มีสิทธิถูกริบเงินสมทบ PVD ส่วนของนายจ้าง เงินชดเชยทุกอย่าง รวมถึงสิทธิหลังออกจากงานบางอย่างที่ปกติพึงได้ด้วยครับ เสมือนเปลี่ยนจากลาออกเองเป็นไล่ออกเลย
ผมเข้าใจว่าเงินที่ได้มันไม่ใช่เงินเดือนเงินหรือสัญญาการจ้างงานน่ะสิครับ
90 ล้านนี่ ไม่ใช่ต้องจ่ายตามกฏหมายเลิกจ้างเหลอครับ ?
ถ้าเลิกจ้างเพราะทำครามผิดน่าจะไม่ต้องให้นะครับ
เข้าใจว่าเคสนี้ กูเกิลน่าจะคุยให้ลาออกเองครับ โดยมี benefit
แต่ถ้ามองในแง่พนักงานทั่วไปมันก็ดูไม่แฟร์แหละ เหมือนปกป้องคนทำผิด
ผมคิดว่าเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ
คุกคามทางเพศ ควรได้รับโทษตามกฎหมาย
แต่อยู่ๆจะมาใช้เป็นข้ออ้าง ไม่จ่ายค่าจ้าง หรือ ไม่จ่ายค่าไล่ออก ไม่น่าจะได้ ยกเว้นในสัญญาจ้างระบุไว้
แต่เรื่องมันเร็วมาก จนคิดว่าย้งไม่ผ่านกระบวนการสอบสวนอะไร พอโดนกล่าวหา ก็ให้ออกไว้ก่อน ผลคือยังไงก็ต้องจ่าย เพราะศาลยังไม่ตัดสินว่าผิดจริง
เรื่องเงิน 90 ล้านอาจจะไม่เท่าไหร่ ผมว่าที่ประทุจริงๆ คงเพราะว่ากูเกิลยังให้เงินสนับสนุนบริษัทใหม่ของ Rubin ทั้งๆ ที่ต้องไล่ออกจากบริษัทเพราะพฤติกรรมนี้มากกว่า
คนส่วนใหญ่ในนี้ยังมองไม่พ้น และติดอยู่ที่ประเด็นความผิดของ Rubin เพียงผิวเผิน
แต่ไม่ได้มองให้ลึกถึงประเด็นเรื่องการที่เขาคุกคามทางเพศนั้นมัน มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
ไม่ว่าใคร ทาง Google ก็ไล่ออกทั้งนั้น
ยกเว้นแต่เจ้า Rubin นี่แหละ ที่ทาง Google เจรจาให้ลาออกเอง
โดยการลาออกเอง ผลประโยชน์ต่างๆ จะยังได้อยู่
การที่ Google พูดว่า เขาไม่เคยจ่ายค่าจอบแทนใดๆ ให้กับพนักงานทุกคนที่ถูกไล่ออก
อันนี้ก็ถูกต้องครับ, เพราะ Rubin ไม่ได้ถูกไล่ออก
ในมุมมองของพนักงานเองเขาก็มองว่าทำไม Google ถึงเลือกปฎิบัติในสิ่งที่ไม่สมควรที่จะยอมรับได้ โดยการถือหางให้ Rubin